"ไทยนิยมยั่งยืน" ปู๊นปู๊นๆ ขบวนที่ม.4 วัดหลวง พนัสนิคม ชลบุรี ผ่านชานชาลา1-2มาแล้วกำลังจะถึง3 และสุดปลายทางที่4

กระทู้สนทนา


ครั้งแรกผมกับแม่ไปสายหน่อย น่าจะประมาณ 9โมงกว่า แต่ก็ดี เพราะพูดถึงเนื้อหา ของโครงการไทยนิยมยั่งยืน ตามไฟล์PDF ที่มีในเวป
ตัวแทนเจ้าหน้าที่มากันเยอะ ยกตัวอย่างที่จำได้ มี ตัวแทน ทหาร ตำรวจ สาธารณสุข มหาดไทย อบต. กำนัน และอีกคนมาจากไหนผมจำไม่ได้ แรกๆ ก็ยังงงกันอยู่ ว่าจะเสนออะไร เพราะครั้งแรกยังไม่รู้ว่า มีข้อห้ามอะไรในโครงการกันบ้าง
บรรยากาศเป็นอย่างชื่นมื่นและเป็นประชาธิปไตย เพราะเซ็นเตอร์จะอยู่ที่ ตัวแทนเจ้าหน้าที่มหาดไทย มีการถามผู้เข้าร่วมประชุมว่า ใครอยากเสนอโครงการอะไร และมีการเรียงลำดับความสำคัญของโครงการ มีการขอฉันทานุมัติจากผู้เข้าร่วมประชุม ทั้งตอนเสนอโครงการว่า มีใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้บ้าง ยกมือ และการจัดลำดับความสำคัญของโครงการว่า จะเอาโครงการไหนขึ้น อันดับแรก สอง สาม ก็มีการโหวตกันด้วยการยกมือ สรุปโครงการที่หมู่4 เสนอครั้งแรกมี 4 โครงการ
1. โครงการปรับปรุงระบบน้ำประปาหมู่บ้าน
2. โครงการจัดซื้อกล้องวงจรปิด
3. โครงการซ่อมแซมหลังคาโรงสีชุมชน
4. โครงการพืชผักส่วนครัวรั้วกินได้
กว่างานจะเลิกเวลาก็ล่วงเลยไปเที่ยงกว่าแล้ว

เยี่ยมความรู้สึกหลังได้เข้าร่วมประชุม รู้สึกสนุก ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ กล้าเสนอความคิดเห็น มีการพูดคุยถกเถียงกันด้วยเหตุผล มีการโหวต บรรยากาศเหมือนฟ้าหลังฝน ที่มีแสงสว่างส่องทะลุก้อนเมฆ


ครั้งที่สอง เนื่องจากติดใจจากการไปครั้งแรก รีบไปตั้งแต่เช้า งานเริ่ม 8:30น. ไปก่อนเวลา8โมง ปรากฎยังไม่มีใครมา555 กลับมารอที่บ้านไปใหม่เวลา 8:25น. เริ่มมีคนมากันแล้ว ครั้งที่สองรูปแบบการจัดเก้าอี้นั่งของผู้ร่วมประชุมจะเปลี่ยนไป ให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ใกล้ชิดตัวแทนเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นอีก แต่ครั้งนี้ ตัวแทนเจ้าหน้าที่มาน้อยลง ไม่มีตัวแทนเจ้าหน้าที่มหาดไทยมาแล้ว(เศร้า) มีแค่ตัวแทนจากฝ่าย ทหาร ตำรวจ สาธารณสุข กำนัน กศน. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อบต.)

ครั้งที่สอง เซ็นเตอร์จะไปอยู่ที่ ตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คล้ายเป็นผู้ดำเนินรายการ ผู้เข้าร่วมประชุมนั่งรับฟัง การประกาศจากตัวแทนหน่วยงานราชการมีอะไรจะบอกกล่าวบ้าง จนครบทุกคน ก็เริ่มเข้าหา ตามจุดประสงค์ในวันนี้ คือ การเสนอโครงการให้เข้าหลักเกณฑ์ตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน โครงการที่เสนอ 4 โครงการครั้งแรก ไม่ผ่านทั้งหมดเลย ตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่าอย่างนั้นนะ ต้องเสนอใหม่ เริ่มจาก ตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็จะบอกเลยว่า มีโครงการอะไรที่ห้ามบ้าง และมีโครงการอะไรที่ทำได้บ้าง แบบบอกเป็นชื่อโครงการเลย เช่น
ที่ห้าม
ตู้กรองน้ำพลังแสงอาทิตย์ และ... บลา บลา

ที่ทำได้
ซ่อมแซมถนน ขุดลอกคลอง และ... บลา บลา

โดยที่แทบจะไม่ได้บอกเป็นไกด์ไลน์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ใช้ความคิดเลยว่า อะไรที่ทำได้เพราะอะไร ทำไม่ได้เพราะอะไร มีแตะข้อห้ามตามโครงการ อยู่ข้อ2ข้อ ผมฟังดู เหมือนมีความพยายาม "ชี้นำและจำกัดความคิด" เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุม เลือกโครงการที่ทำได้ ตามที่ ตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อ่านให้ที่ประชุมฟัง แต่ก็จบด้วยคำว่า "ใครอยากเสนอโครงการอะไร" แต่ไม่ลงไปในรายละเอียดว่า ข้อห้ามมีอะไร และช่องทางที่ทำได้มีอะไร ผมเลยทนไม่ไหว ยกมือเสนอโครงการแต่เจตนาแฝง คือ จะลุกขึ้นเพื่อไปบอกกล่าว อธิบายให้ผู้เข้าร่วมประชุมรับฟังว่า "ข้อห้ามมีอะไร อะไรที่ทำได้" เพราะ ฝ่ายตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกำนัน พยายามจำกัดความคิดของผู้เข้าร่วมประชุมว่า "เงินจากไทยนิยมยั่งยืนให้มา เพื่อปรับปรุงสาธารณูปโภคฐานราก " เช่น ถนน คลอง ประปาหมู่บ้าน เป็นต้น ซึ่งผมเห็นว่า มันไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ผมจึงพยายามอธิบายเพิ่มว่า ทุกอย่างมันมีช่อง ถ้าเราเข้าช่องถูก เราก็ได้เงิน และเงินจากไทยนิยมยั่งยืน ไม่ได้จำกัดแค่สาธารณูปโภคฐานราก ยังสามารถใช้ทำอย่างอื่นได้อีกเช่น

ข้อห้ามที่3. ห้ามแจกจ่ายเงินเป็นเงินหรือสิ่งของ ให้กับประชาชน หรือครัวเรือนในหมู่บ้าน ชุมชน
ช่องที่ทำได้ คือ การจ้างแรงงานในชุมชน

ข้อห้ามที่11. ห้ามจัดซื้อครุภัณฑ์ยานพาหนะประเภทใช้เครื่องยนต์หรือเครื่องไฟฟ้า รถยนต์ รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์สื่อสาร เช่น วิทยุสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น กล้องวงจรปิด แผงโซลาร์เซลล์ (พลังงานแสงอาทิตย์) วัสดุครุภัณฑ์ที่ผ่านการใช้แล้ว และเครื่องออกกำลังกายที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
ช่องที่ทำได้ คือ การเช่ายืม

เป็นต้น

ในระหว่างกำลังอธิบาย โดนเบรกจากผู้ใหญ่ที่พูดอะไรแล้วน่าเชื่อถือ ที่รวมเข้าประชุมในวันนี้ด้วย โดยพูดว่า "ไม่ต้องอธิบาย เสนอโครงการเลย" ผมก็หยุดครุ่นคิดสักพัก เราก็พูดมาจนเกือบจะครบแล้วและอาจเป็นการไปเอาเปรียบผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นที่อยากเสนออะไรอีกได้ ผมก็เลยตัดบท เสนอโครงการไบโอดีเซลชุมชน หลังจากนั้น ผู้ใหญ่คนนี้ ก็เสนอโครงการบ้าง คือ โครงการขุดลอกคลอง ซึ่งผมก็เห็นสอดคล้องด้วย แต่อาจต่างจากวิธีปฎิบัติ คือ ผู้ใหญ่คนนี้ เสนอให้ "จัดซื้อจัดจ้าง" คือ ไปจ้างผู้รับเหมามาขุดลอกคลองเลย ผมก็เลยทักท้วงไปว่า แต่ต้องเป็นการจ้างแรงงานในชุมชนหรือใกล้เคียง ห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวนะ ผมยังเสริมอีกว่า ผมอยากให้การขุดลอกคลองเป็นการจ้างแรงงานในชุมชน เช่น การเก็บผักตบชวา ก็ใช้แรงงานในชุมชน รถขุด ก็อาจไปเช่า หรือไปยืมจากคนในชุมชน จ้างเป็นค่าแรงและค่าน้ำมันไป เป็นต้น
ผู้ใหญ่คนนี้ ก็บอกว่า มีแต่ผู้สูงอายุใครจะไปทำไหว ผมก็บอกว่า ก็ผู้สูงอายุบางคน มีลูกหลาน ที่ยังว่างงานอยู่ ก็จ้างมาเป็นแรงงานในการขุดลอกคูคลองก็ได้ ดีกว่า เอาเงิน "ไทยนิยมยั่งยืน" ไปให้ผู้รับเหมาแต่เพียงฝ่ายเดียว มีตำแทนฝ่ายกำนันเสนอว่า เราอาจไปตกลงกับผู้รับเหมาให้เขาจ้างแรงงานในชุมชน ก็ไปตกลงกันเอง เป็นต้น สรุป โครงการแรกผ่านฉลุยโดยไม่มีการโหวต เพราะไม่มีใครถามผู้เข้าร่วมประชุมว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับโครงการขุดลอกคลอง ต่อมา ผู้ใหญ่คนนี้ ก็ยังมีความพยายามเสนอโครงการที่ 2 คือ การถมดินในพื้นที่ที่ยกให้ใช้สาธารณประโยชน์ แต่ยังไม่ได้มีการโอนกัน ก็มีความพยายามจะให้ผู้เข้าร่วมประชุมคนหนึ่ง ที่เป็นเจ้าของที่ เซ็นมอบอำนาจ เพื่อจะได้เข้าโครงการไทยนิยมยั่งยืนนี้ได้ ผมก็ทักท้วงไปว่า ทำไม่ได้นะ ติดข้อห้ามที่9 "ห้ามดำเนินโครงการในที่สาธารณประโยชน์ ยกเว้น ซ่อมแซมที่มีอยู่แล้ว หรือโครงการที่เป็นการดูแลป้องกันที่สาธารณประโยชน์" ผลสรุป ตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็เลยบอกไม่ทำ หลังจากนั้น ผู้ใหญ่ที่ทั้งตำบลต่างต้องนับถือทั้งจากตัวบุคคลและโดยตำแหน่งราชการ เสนอโครงการเรียงหิน เพื่อป้องกันตลิ่งพัง ตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็พูดขึ้นมาว่า เป็นงบของอบต. ผู้ใหญ่คนนั้นก็บอกว่า ยังไม่ได้ตั้งงบ ผมเลยถามซ้ำอีกครั้งว่า โครงการเรียงหินเป็นโครงการของอบต. ใช่หรือไม่ ผู้ใหญ่คนนั้นก็บอกซ้ำอีกว่า ยังไม่ได้ตั้งงบ ผมก็เลยไม่เข้าใจความหมายของคำว่า "ไม่ได้ตั้งงบ" คืออะไร แต่สรุปโครงการเรียงหินก็เลยผ่านฉลุย และอีกเช่นเคย ไม่มีใครถามผู้เข้าร่วมประชุมว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับโครงการเรียงหิน หลังจากนั้น ตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็พยายามพูดว่า ตกลงได้ครบแล้วนะ 2โครงการ คือ โครงการขุดลอกคูคลองกับโครงการเรียงหิน อย่างเร่งรีบ ผมจึงโต้แย้งไปว่า ในหนึ่งโครงการเราจะมีกลายกิจกรรมก็ได้ เช่น โครงการขุดลอกคูคลองกับโครงการเรียงหิน รวมเป็นโครงการซ่อมแซมสาธารณูปโภค โครงการเดียวกันได้ เราจะได้หาอีกโครงการ1 เพื่อพยายามนำเงินกระจายลงคนในชุมชน เช่น การฝึกอาชีพในชุมชน เป็นต้น ตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็บอกว่า เป็นโครงการซ้ำกับกศน. และจะเร่งรีบไปต่อ เพื่อคัดเลือกผู้รับผิดชอบโครงการ 3 คณะ ผมก็ไม่เข้าใจ นอกจากไม่มีการโหวตแล้ว ยังมีความพยายามเร่งรีบตัดจบ เหมือนไม่อยากให้ผู้เข้าร่วมประชุมเสนอโครงการอื่นอีก ผมทนไม่ไหว เลยบอก ผมคัดค้าน เพราะผมเห็นว่า เงินจาก2โครงการนี้ จะตกไปแต่ผู้รับเหมา หมู่เราน่าจะมีโครงการจ้างแรงงานในชุมชน เพื่อให้คนในชุมชนมีรายได้ ผมก็ขึ้นพูดยกตัวอย่าง ขอความเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุม ทุกคนต่างนิ่ง นั่งทือเป็นหุ่นยนตร์ ปราศจากความคิดความเห็น ซึ่งบรรยากาศความเป็นประชาธิปไตยแตกต่างจากการประชุมไทยนิยมยั่งยืนครั้งแรก

สรุปการประชุมโครงการไทยนิยมยั่งยืนครั้งที่2
-คนสรุปการประชุม ดันเป็นผู้เข้าร่วมประชุม ที่เป็นผู้ใหญ่ที่พูดอะไรแล้วน่าเชื่อถือและผู้ใหญ่คนนี้ ยังได้รับการคัดเลือกเป็นผู้รับผิดชอบโครงการในคณะเหรัญญิกอีกด้วย
-โครงการแรก คือ ขุดลอกคูคลอง ผมเห็นสอดคล้อง แต่สงสัยในวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง และการจ้างแรงงานในชุมชมด้วยหรือไม่?
-โครงการที่สอง คือ เรียงหิน ผมเห็นสอดคล้อง แต่สงสัย ผู้ใหญ่ที่ทั้งตำบลต่างต้องนับถือทั้งจากตัวบุคคลและโดยตำแหน่งราชการ เสนอโครงการได้ด้วยหรือ และเป็นโครงการที่ซ้ำซ้อนกับแผนงานของอบต. หรือไม่?
งานเลิกก่อนเที่ยง ประมาณ 11โมงกว่า ก็กินเส้นใหญ่ผัดซีอิ้วกันแล้ว

แย่ความรู้สึกหลังได้เข้าร่วมประชุม ไม่สนุก ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ ไม่เสนอความคิดเห็น ผู้ดำเนินรายการชี้นำ จำกัดความคิด เร่งรีบ การมีส่วนร่วมแบบประชาธิปไตยด้วยการโหวต มีน้อยมาก เพราะจะถูกตัดบทโดยผู้ดำเนินรายการ ให้ความสำคัญกับการโหวตเรื่องเดียว คือให้ยกมือเห็นด้วยกับ ผู้รับผิดชอบโครงการที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามา ถึงขนาด รีบถ่ายรูปไว้เพื่อเป็นหลักฐาน  บรรยากาศท้องฟ้ามืดครึ้ม มีเสียงฟ้าร้อง ทุกคนต่างเร่งรีบ เก็บผ้าที่ตากเอาไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่