สวัสดีค่ะ
พอดีมีโอกาสได้ไปใช้บริการไปรษณีย์กลางของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือที่คนใต้เรียกว่า ม.อ. (มอ-ออ) ขอออกตัวก่อนว่า เป็นคนส่งของโดยใช้บริการไปรษณีย์ไทยไม่บ่อยค่ะ
ครั้งนี้เราไปส่งคสอชิ้นเล็กๆ โดยทางเราก็เลยไปสอบถาม ขอซื้อซองกันกระแทก โดยเป็นตัวซองติดราคาว่า 12 บาท แต่ทางพี่พนงผชบอกว่าราคา 15 บาท ตอนนั้นก็คิดสองอย่างคือ ฟังมาผิด กับ พนงจำราคาของผิด
เราเขียนหน้าซองเสร็จก็ไปจุดส่งของเพื่อส่งของแบบ EMS ค่ะ
พนงผญก็คิดราคาค่าส่ง 37 บาท ค่าซอง 15 บาท
ทางเราก็เลยสอบถามกลับว่า พอดีบนซองมันพิมราคาติดมาว่า 12 บาทอะค่ะ
พี่พนงบอกว่า ที่นี่คิด 15 บาท เราก็เลยถามว่า คิด 15 บาทไม่เป็นอะไรหรอคะ พี่ผญก็ถามไปทางพี่ผชเหมือนให้เป็นคนตอบว่า ทำไมที่นี่คิด 15 บาท แต่ก็ไม่มีใครตอบมา เพียงแต่บอกให้เราจ่ายตังค์เป็นเงินทั้งหมด 49 บาท ซึ่งก็เป็นค่าส่ง 37 บาท รวมกับค่าซองกันกระแทก 12 บาท ไม่ใช่ 15 บาทเหมือนที่คิดตอนแรก
เราเลยสงสัยว่า
1. ทำไมตอนแรกถึงคิด 15 บาท ถ้าไม่มีคนท้วงก็จะโดนคิด 15 บาทเหมือนกันรึเปล่า หรือมันมีกฎของทางไปรษณีย์ไทย ที่ให้ตั้งราคาเกินได้ สงสัยจริงๆ ค่ะ
2. เรารู้ว่าความต่างของเงิน 3 บาท มันไม่ได้เยอะเลย แต่ถ้าหลายๆ ซองรวมกันก็เป็นเงินหลายบาท และผลต่างราคาตรงนี้ตกอยู่ในกระเป๋าใคร
เราพึ่งได้มาตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก เนื่องจากสงสัยจริงๆ เราเคยไปใช้บริการอยู่ 2-3 ครั้ง แต่ครั้งก่อนๆ ได้ซื้อซองสีน้ำตาลและพลาสติกกันกระแทก ซึ่งไม่ทราบว่าได้มีการบวกราคาเพิ่มด้วยรึเปล่า เนื่องจากไม่มีราคาพิมติดตัวสินค้าไว้ และไปรษณีย์นี้ก็ตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางมหาวิทยาลัย ซึ่งมีนักศึกษาและบุคลากรทั่วไป ใช้ส่งของกันเยอะมาก นับเป็นการเอาเปรียบนักศึกษาที่ยังต้องใช้เงินพ่อแม่อยู่รึเปล่า เพราะถ้าไปส่ง 10 ครั้ง ก็นับเป็นเงิน 30 บาทแล้ว เทียบได้กับข้าว 1 จาน ซึ่งสำหรับบางคนอย่างดิฉัน ก็นับว่าเป็นเงินที่หามาอย่างยากลำบาก
จึงได้มาตั้งกระทู้สอบถาม เพื่อคลายข้อสงสัย รบกวนเพื่อนๆ พันทิปด้วยนะคะ
ไปรษณีย์ไทยทำแบบนี้ได้หรอ ?
พอดีมีโอกาสได้ไปใช้บริการไปรษณีย์กลางของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือที่คนใต้เรียกว่า ม.อ. (มอ-ออ) ขอออกตัวก่อนว่า เป็นคนส่งของโดยใช้บริการไปรษณีย์ไทยไม่บ่อยค่ะ
ครั้งนี้เราไปส่งคสอชิ้นเล็กๆ โดยทางเราก็เลยไปสอบถาม ขอซื้อซองกันกระแทก โดยเป็นตัวซองติดราคาว่า 12 บาท แต่ทางพี่พนงผชบอกว่าราคา 15 บาท ตอนนั้นก็คิดสองอย่างคือ ฟังมาผิด กับ พนงจำราคาของผิด
เราเขียนหน้าซองเสร็จก็ไปจุดส่งของเพื่อส่งของแบบ EMS ค่ะ
พนงผญก็คิดราคาค่าส่ง 37 บาท ค่าซอง 15 บาท
ทางเราก็เลยสอบถามกลับว่า พอดีบนซองมันพิมราคาติดมาว่า 12 บาทอะค่ะ
พี่พนงบอกว่า ที่นี่คิด 15 บาท เราก็เลยถามว่า คิด 15 บาทไม่เป็นอะไรหรอคะ พี่ผญก็ถามไปทางพี่ผชเหมือนให้เป็นคนตอบว่า ทำไมที่นี่คิด 15 บาท แต่ก็ไม่มีใครตอบมา เพียงแต่บอกให้เราจ่ายตังค์เป็นเงินทั้งหมด 49 บาท ซึ่งก็เป็นค่าส่ง 37 บาท รวมกับค่าซองกันกระแทก 12 บาท ไม่ใช่ 15 บาทเหมือนที่คิดตอนแรก
เราเลยสงสัยว่า
1. ทำไมตอนแรกถึงคิด 15 บาท ถ้าไม่มีคนท้วงก็จะโดนคิด 15 บาทเหมือนกันรึเปล่า หรือมันมีกฎของทางไปรษณีย์ไทย ที่ให้ตั้งราคาเกินได้ สงสัยจริงๆ ค่ะ
2. เรารู้ว่าความต่างของเงิน 3 บาท มันไม่ได้เยอะเลย แต่ถ้าหลายๆ ซองรวมกันก็เป็นเงินหลายบาท และผลต่างราคาตรงนี้ตกอยู่ในกระเป๋าใคร
เราพึ่งได้มาตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก เนื่องจากสงสัยจริงๆ เราเคยไปใช้บริการอยู่ 2-3 ครั้ง แต่ครั้งก่อนๆ ได้ซื้อซองสีน้ำตาลและพลาสติกกันกระแทก ซึ่งไม่ทราบว่าได้มีการบวกราคาเพิ่มด้วยรึเปล่า เนื่องจากไม่มีราคาพิมติดตัวสินค้าไว้ และไปรษณีย์นี้ก็ตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางมหาวิทยาลัย ซึ่งมีนักศึกษาและบุคลากรทั่วไป ใช้ส่งของกันเยอะมาก นับเป็นการเอาเปรียบนักศึกษาที่ยังต้องใช้เงินพ่อแม่อยู่รึเปล่า เพราะถ้าไปส่ง 10 ครั้ง ก็นับเป็นเงิน 30 บาทแล้ว เทียบได้กับข้าว 1 จาน ซึ่งสำหรับบางคนอย่างดิฉัน ก็นับว่าเป็นเงินที่หามาอย่างยากลำบาก
จึงได้มาตั้งกระทู้สอบถาม เพื่อคลายข้อสงสัย รบกวนเพื่อนๆ พันทิปด้วยนะคะ