https://pantip.com/topic/37524929/comment3
ที่ลุงโอลด์ เม้นท์ช่วงหนึ่งว่า
ผมก็เคยส่งสัญญาณเตือนไปหลายครั้งแล้วครับ
ว่า รู้นะ ว่ามีการใช้หลายเครื่อง เพราะหลักฐานบอกชัดเจน
และบางครั้ง คาดว่าคนที่โพสต์ไม่ใช่เจ้าตัว แต่คือคนที่ "คุณก็รู้ว่าคือใคร" นั่นแหละ
ทำไมถึงได้ไปนั่งโพสต์ด้วยกัน อันนี้ไม่ขอสาธยาย
แต่ไม่ยอมรู้สึกตัว กลับมีการตั้งกระทู้ท้าทายเยาะหยามผม
ถึงขนาดเอาบุญบังหน้า จะลงขันกันไปบริจาค
เรื่องนี้ บอกตามตรงครับ รู้ว่าคือใคร รู้ว่าชื่ออะไร แม้จะไม่มีชื่อในสารบบ
แต่ไม่ใช่เรื่องยากครับ
ตอนนี้ เหลือเพียงสองขั้นตอน ช้าหน่อย เพราะเป็นไปตามระบบราชการ ตามขั้นตอนของกฎหมาย
คือผู้เชี่ยวชาญไอทีหน่วยงานรัฐยืนยัน กับ หน่วยงานรัฐยืนยันที่ตั้ง ซึ่งสองหน่วยงานนี้เพิ่งเริ่มดำเนินการเมื่อปลายเดือนนี้เองครับ
ก็ต้องใช้เวลาสักระยะ อาจปลายเดือนนี้ เพราะวันหยุดเยอะ หรืออย่างช้าก็ไม่น่าเกิน พ.ค. หรือช้าสุดก็ มิ.ย.
ยืนยันเรียบร้อยเมื่อไร ก็แปลว่า หลักฐานสมบูรณ์
ไม่มีชื่อในสารบบ แต่รู้ตัว ราบได้ทันทีครับ ไม่ต้องมีหมายเรียก ออกหมายจับเลย
ใครเกี่ยวข้อง ใครร่วมทำผิด ใครสนับสนุน ใครร่วมมือ
โดนถ้วนหน้าครับ
โดยเฉพาะการแอบอ้างรัฐาธิปัตย์ ผิดทั้ง พรบ. คอมพ์ ผิดทั้งกฎหมายความมั่นคง
โทษไม่ต่ำกว่า 20 ปีครับ
เผาเครื่องทิ้ง ใช้เครื่องใหม่ ย้ายที่อยู่ ก็ไม่มีผลแล้วครับ
เพราะหมายเลขเครื่องมันยืนยันแล้วว่าคือใคร ที่อยู่ก็รู้ว่าคือใคร เหลือแค่รอความสมบูรณ์ของหลักฐานเท่านั้น
ผมถึงเคยโพสต์สะกิดเตือนไปแล้วว่า อาจไม่ได้อยู่ในประเทศไทยต่อไป
เรื่องความมั่นคงหนักหน่อยครับ เพราะใครก็สามารถแจ้งความได้
ที่เบาลงมาก็เรื่องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา อัตราโทษ 2 ปี
แต่เมื่อกระทำผิดหลายกรรมหลายวาระ ก็ท่องสูตรคูณแม่สองได้เลยครับ สอง ๆ สี่ สองสี่ แปด .....
ผมเองก็รอเคลียร์การงานส่วนตัวอีกนิด เข้าที่เข้าทางก่อน ถึงจะโดดเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเหมือนคนอื่น
คนอื่นเขาเงียบไป เพราะเขาเข้าสู่กระบวนการแล้ว เหลือผมนี่แหละที่โหวกเหวกอยู่ เพราะยังไม่ได้เข้า
แต่ที่รวบรวมหลักฐานไว้ เยอะพอสมควรครับ ทั้งบุคคล ทั้งกรรมที่กระทำผิด
ล่าสุดก็เรื่องคำว่า หลอก
ที่ให้นักกฎหมายดูแล้ว ยืนยันว่า ครบองค์ประกอบความผิดสมบูรณ์
เพราะเจ้าตัวทั้งยืนยันว่ารู้ใครเป็นใคร รู้เรื่องดี ทั้งอ้างว่าตัวเองเสนอตัวเป็นพยานซะด้วย
เมื่อมีการบอกว่า หลอก ก็ย่อมทำให้ผมเสียหายเต็ม ๆ
ก็เป็นไปตามครรลองครับ
ที่ผมเคยบอก คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
คือการพยายามเตือนสติ ไม่ใช่ให้เลิกคบหา แต่มีการตีความเลยเถิดเพื่อเถียงเอาชนะว่าผมต้องการให้เลิกคบหา
ซึ่งก็แปลกดี คือด้วยหลักคิดง่ายแสนง่าย ใครจะคบกับใคร เกี่ยวอะไรกับผม ผมจะไปห้ามใครได้ ผมมีอำนาจอะไรไปห้าม
แต่ก็มีการตีความไปอย่างนั้น ด้วยชุดความคิดอันเริ่มมาจากบทอ้อนของคนพาลที่ว่า เขาไม่อยากให้ใครคบหาผม นั่นแหละ
แล้วก็พากันเคลิ้มคล้อยตามไปหมด
คนเรานะครับ เมื่อเกิดปัญหา ควรออกมาประกาศเลย ว่าแน่จริง อย่าไปยุ่งคนอื่น ขอเถอะ
ขอให้เล่นผมคนเดียว คนอื่นขอ อย่าไปทำอะไรน้องนุ่งเขาเลย ขอจริง ๆ อยากทำไร ทำกับผม
ปกป้อง ป้องกันเพื่อน น้อง ไม่ให้เดือดร้อนกับเรื่องที่ตัวเองเป็นผู้ก่อ
ไม่ใช่เรื่องของตัว แต่ลากพวกเข้ามานัวเนียไปหมด
มีการโม้ กร่าง อวดโอ่ ว่าไม่ต้องกลัว พี่มีเส้น กว้างขวาง มีบารมี ใครทำอะไรไม่ได้
ก็เลยพลอยหลงทางไปด้วยกันหมด ไม่คิดหน้าคิดหลัง
ตามด้วยการทำเนียนว่า พี่จะดูแลทุกคน
ซึ่งก็คือ เป้าหมายการดึงพวกไว้ให้อยู่กับตัวเองเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนที่คนอื่นจะได้รับผลไปด้วย
และถึงวันนี้ ผมรับรองเลยครับ เดือดร้อนกันถ้วนหน้าแน่
เฮ้อออ...
ความเดือดร้อน แม้จะช้า เพราะระบบของเราเป็นแบบนี้
แต่ยิ่งช้ายิ่งทรมานครับ เพราะเหมือนมีอะไรเป็นบ่วงร้อยรัด และที่สำคัญกว่านั้น
คือผลที่จะออกมา เป็นลบแน่ ๆ ไม่มีทางพลิกเป็นบวก เพราะหลักฐานมัดแน่นเหลือเกิน
เหมือนรอวันรับโทษเท่านั้นครับ
หนักกว่านั้น คือหากมีการพิสูจน์ในชั้นศาล จนปรากฎหลักฐานว่า
ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความเผอเรอ ผิดพลาด แต่คือการจงใจเจตนา มีการร่วมกลุ่มกันกระทำผิดมาเป็นขั้นเป็นตอน
เรื่องรอลงอาญาก็ไม่ต้องคิดถึงแล้วครับ แม้จะเป็นการทำผิดครั้งแรกก็ตาม แม้จะไม่เคยรับโทษมาก่อนก็ตาม
และทางแพ่งก็จะตามมาอีก เสียเงินหลายหมื่นหลานแสนเล่นนี่ ไม่ใช่ของดีแน่นอนครับ
ดีไม่ดี เกิดผู้เสียหายฟ้องแพ่งหลักล้าน แล้วศาลท่านเห็นด้วย สุดซวยเลยนะครับ
แล้วสายไหมที่จะแก้ไข
ผมยืนยันว่าไม่สายครับ ยังไม่สาย หากแค่ยอมรับ เจรจา ไกล่เกลี่ย ขอโทษ
อาจไม่หมด แต่จะทำให้หนักเป็นเบาได้ อาจเหลือแค่ไม่กี่คดี
ที่สำคัญ อาจทำให้เพื่อน น้อง หลุดออกจากบ่วงเดือดร้อนนี้ หากพี่กล้าเชิดหน้าออกมารับเองคนเดียว
กล้าทำ ก็กล้ารับ กล้าแก้ไข
เท่านั้นเองครับ
ลุงโอลด์ ครับ เรื่องนี้ ผมก็ได้พยายามส่งสัญญาณเตือนไปแล้วหลายครั้งครับ ..................... โดย ตระกองขวัญ
ที่ลุงโอลด์ เม้นท์ช่วงหนึ่งว่า
ผมก็เคยส่งสัญญาณเตือนไปหลายครั้งแล้วครับ
ว่า รู้นะ ว่ามีการใช้หลายเครื่อง เพราะหลักฐานบอกชัดเจน
และบางครั้ง คาดว่าคนที่โพสต์ไม่ใช่เจ้าตัว แต่คือคนที่ "คุณก็รู้ว่าคือใคร" นั่นแหละ
ทำไมถึงได้ไปนั่งโพสต์ด้วยกัน อันนี้ไม่ขอสาธยาย
แต่ไม่ยอมรู้สึกตัว กลับมีการตั้งกระทู้ท้าทายเยาะหยามผม
ถึงขนาดเอาบุญบังหน้า จะลงขันกันไปบริจาค
เรื่องนี้ บอกตามตรงครับ รู้ว่าคือใคร รู้ว่าชื่ออะไร แม้จะไม่มีชื่อในสารบบ
แต่ไม่ใช่เรื่องยากครับ
ตอนนี้ เหลือเพียงสองขั้นตอน ช้าหน่อย เพราะเป็นไปตามระบบราชการ ตามขั้นตอนของกฎหมาย
คือผู้เชี่ยวชาญไอทีหน่วยงานรัฐยืนยัน กับ หน่วยงานรัฐยืนยันที่ตั้ง ซึ่งสองหน่วยงานนี้เพิ่งเริ่มดำเนินการเมื่อปลายเดือนนี้เองครับ
ก็ต้องใช้เวลาสักระยะ อาจปลายเดือนนี้ เพราะวันหยุดเยอะ หรืออย่างช้าก็ไม่น่าเกิน พ.ค. หรือช้าสุดก็ มิ.ย.
ยืนยันเรียบร้อยเมื่อไร ก็แปลว่า หลักฐานสมบูรณ์
ไม่มีชื่อในสารบบ แต่รู้ตัว ราบได้ทันทีครับ ไม่ต้องมีหมายเรียก ออกหมายจับเลย
ใครเกี่ยวข้อง ใครร่วมทำผิด ใครสนับสนุน ใครร่วมมือ
โดนถ้วนหน้าครับ
โดยเฉพาะการแอบอ้างรัฐาธิปัตย์ ผิดทั้ง พรบ. คอมพ์ ผิดทั้งกฎหมายความมั่นคง
โทษไม่ต่ำกว่า 20 ปีครับ
เผาเครื่องทิ้ง ใช้เครื่องใหม่ ย้ายที่อยู่ ก็ไม่มีผลแล้วครับ
เพราะหมายเลขเครื่องมันยืนยันแล้วว่าคือใคร ที่อยู่ก็รู้ว่าคือใคร เหลือแค่รอความสมบูรณ์ของหลักฐานเท่านั้น
ผมถึงเคยโพสต์สะกิดเตือนไปแล้วว่า อาจไม่ได้อยู่ในประเทศไทยต่อไป
เรื่องความมั่นคงหนักหน่อยครับ เพราะใครก็สามารถแจ้งความได้
ที่เบาลงมาก็เรื่องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา อัตราโทษ 2 ปี
แต่เมื่อกระทำผิดหลายกรรมหลายวาระ ก็ท่องสูตรคูณแม่สองได้เลยครับ สอง ๆ สี่ สองสี่ แปด .....
ผมเองก็รอเคลียร์การงานส่วนตัวอีกนิด เข้าที่เข้าทางก่อน ถึงจะโดดเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเหมือนคนอื่น
คนอื่นเขาเงียบไป เพราะเขาเข้าสู่กระบวนการแล้ว เหลือผมนี่แหละที่โหวกเหวกอยู่ เพราะยังไม่ได้เข้า
แต่ที่รวบรวมหลักฐานไว้ เยอะพอสมควรครับ ทั้งบุคคล ทั้งกรรมที่กระทำผิด
ล่าสุดก็เรื่องคำว่า หลอก
ที่ให้นักกฎหมายดูแล้ว ยืนยันว่า ครบองค์ประกอบความผิดสมบูรณ์
เพราะเจ้าตัวทั้งยืนยันว่ารู้ใครเป็นใคร รู้เรื่องดี ทั้งอ้างว่าตัวเองเสนอตัวเป็นพยานซะด้วย
เมื่อมีการบอกว่า หลอก ก็ย่อมทำให้ผมเสียหายเต็ม ๆ
ก็เป็นไปตามครรลองครับ
ที่ผมเคยบอก คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
คือการพยายามเตือนสติ ไม่ใช่ให้เลิกคบหา แต่มีการตีความเลยเถิดเพื่อเถียงเอาชนะว่าผมต้องการให้เลิกคบหา
ซึ่งก็แปลกดี คือด้วยหลักคิดง่ายแสนง่าย ใครจะคบกับใคร เกี่ยวอะไรกับผม ผมจะไปห้ามใครได้ ผมมีอำนาจอะไรไปห้าม
แต่ก็มีการตีความไปอย่างนั้น ด้วยชุดความคิดอันเริ่มมาจากบทอ้อนของคนพาลที่ว่า เขาไม่อยากให้ใครคบหาผม นั่นแหละ
แล้วก็พากันเคลิ้มคล้อยตามไปหมด
คนเรานะครับ เมื่อเกิดปัญหา ควรออกมาประกาศเลย ว่าแน่จริง อย่าไปยุ่งคนอื่น ขอเถอะ
ขอให้เล่นผมคนเดียว คนอื่นขอ อย่าไปทำอะไรน้องนุ่งเขาเลย ขอจริง ๆ อยากทำไร ทำกับผม
ปกป้อง ป้องกันเพื่อน น้อง ไม่ให้เดือดร้อนกับเรื่องที่ตัวเองเป็นผู้ก่อ
ไม่ใช่เรื่องของตัว แต่ลากพวกเข้ามานัวเนียไปหมด
มีการโม้ กร่าง อวดโอ่ ว่าไม่ต้องกลัว พี่มีเส้น กว้างขวาง มีบารมี ใครทำอะไรไม่ได้
ก็เลยพลอยหลงทางไปด้วยกันหมด ไม่คิดหน้าคิดหลัง
ตามด้วยการทำเนียนว่า พี่จะดูแลทุกคน
ซึ่งก็คือ เป้าหมายการดึงพวกไว้ให้อยู่กับตัวเองเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนที่คนอื่นจะได้รับผลไปด้วย
และถึงวันนี้ ผมรับรองเลยครับ เดือดร้อนกันถ้วนหน้าแน่
เฮ้อออ...
ความเดือดร้อน แม้จะช้า เพราะระบบของเราเป็นแบบนี้
แต่ยิ่งช้ายิ่งทรมานครับ เพราะเหมือนมีอะไรเป็นบ่วงร้อยรัด และที่สำคัญกว่านั้น
คือผลที่จะออกมา เป็นลบแน่ ๆ ไม่มีทางพลิกเป็นบวก เพราะหลักฐานมัดแน่นเหลือเกิน
เหมือนรอวันรับโทษเท่านั้นครับ
หนักกว่านั้น คือหากมีการพิสูจน์ในชั้นศาล จนปรากฎหลักฐานว่า
ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความเผอเรอ ผิดพลาด แต่คือการจงใจเจตนา มีการร่วมกลุ่มกันกระทำผิดมาเป็นขั้นเป็นตอน
เรื่องรอลงอาญาก็ไม่ต้องคิดถึงแล้วครับ แม้จะเป็นการทำผิดครั้งแรกก็ตาม แม้จะไม่เคยรับโทษมาก่อนก็ตาม
และทางแพ่งก็จะตามมาอีก เสียเงินหลายหมื่นหลานแสนเล่นนี่ ไม่ใช่ของดีแน่นอนครับ
ดีไม่ดี เกิดผู้เสียหายฟ้องแพ่งหลักล้าน แล้วศาลท่านเห็นด้วย สุดซวยเลยนะครับ
แล้วสายไหมที่จะแก้ไข
ผมยืนยันว่าไม่สายครับ ยังไม่สาย หากแค่ยอมรับ เจรจา ไกล่เกลี่ย ขอโทษ
อาจไม่หมด แต่จะทำให้หนักเป็นเบาได้ อาจเหลือแค่ไม่กี่คดี
ที่สำคัญ อาจทำให้เพื่อน น้อง หลุดออกจากบ่วงเดือดร้อนนี้ หากพี่กล้าเชิดหน้าออกมารับเองคนเดียว
กล้าทำ ก็กล้ารับ กล้าแก้ไข
เท่านั้นเองครับ