ก่อนจะไปเที่ยวได้ต้องเตรียมอะไรก่อน....เมื่อใจอย่างเดียวคือไม่พอเด้อบอกเลย
เริ่มที่แผนการเดินทางเราก่อนค่ะว่าไปไหนบ้าง ทริปนี้ประเทศที่มิวไปคือเวียดนาม จีน มองโกเลีย รัสเซีย รายละเอียดมิวแยกตามลำดับขั้นที่มิวทำแล้วกันนะคะ เป็นไอเดียให้คนที่หาข้อมูล
1.เริ่มจากเช็คสภาพอากาศที่ที่เราต้องไป มิวใช้ app weather จากมือถือเลยค่ะ ง่ายและไม่ยุ่งยาก
2.ข้อแรกทำไปเพื่อเตรียมตัวจัดกระเป๋า จะเห็นได้ว่าอากาศเราเจอทั้งแดด ฝน หนาว และหนาวมากเวอร์ สิ่งที่ต้องไม่ลืมเอาไปด้วยนั่นคือเสื้อกันฝน หรือร่ม สภาพที่ยากหน่อยคือหนาว....เรื่องนี้จะเริ่มยาวละเพราะจะอธิบายให้ฟัง ใครรู้อยู่แล้วซึ่งหลายคนไปเที่ยวเมืองหนาวบ่อยน่าจะเชียวชาญกว่ามิวเยอะ อันนี้แชร์กันเนอะ ส่วนตัวเป็นคนขี้หนาวประเภทแอร์ 24 องศาคือถือว่าหนาวแล้ว....เสื้อผ้าที่ใส่แต่ละวันรายละเอียดต่างกันไปนิดหน่อยค่ะ
ในวันที่อากาศ 0-10 องศา มิวจะใส่ Uniqlo Heattech หรือ M&S + Heattech fleece + เสื้อดาวน์ของ Uniqlo ตามรูปค่ะ อันนี้ถือว่าเอาอยู่นะคะ ยิ่งวันที่ต้องเดินเป็นระยะเวลานานคือสบายมาก เพราะร่างกายมันจะสร้างความอบอุ่นขึ้นเอง
ส่วนวันที่อุณหภูมิต่ำกว่า 0 จนถึง – 15 องศา ใส่ Uniqlo Heattech Ultra Warm หรือ M&S + Heattech fleece + เสื้อดาวน์ของ Uniqlo
และวันที่พีคในพีคคือช่วงมองโกเลียที่เจออุณหภูมิ – 36 องศา อันนี้คือใส่ Baselayer เพิ่มอีกชั้นนึง แต่อย่าให้มันหนาไปหมดเนื่องจากมันจะเป็นลมนะคะพูดเลย เสื้อผ้าที่หลายชั้นจนเกินไปอาจทำให้เราหน้ามืดวิงเวียนได้ค่ะ มิวลองมาแล้ว
ส่วนท่อนล่างถ้า 10 จนถึง – 10 องศา Uniqlo Heattech Ultra Warm หรือ M&S + กางเกงยีนส์ (แต่ถ้าที่ไหนลมแรงหน่อยมิวจะใส่ Baselayer เพิ่มชั้นนึงนะคะ) ถ้าต่ำกว่า -10 องศามิวจะใส่ Baselayer 2-3 ชั้นแล้วแต่วัน คือขึ้นอยู่กิจกรรมวันนั้นๆด้วย ถ้าเดินเยอะจะใส่น้อยชั้นหน่อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ของที่ขาดไม่ได้คือหมวกไหมพรม ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้า(ถ้ามีงบหน่อยซื้อที่เป็น Marino Wool ก็ได้ค่ะ คู่ละประมาณ 600 – 1200 บาทเท่าที่เห็นมานะคะ) ถ้าไม่ไหวให้ใส่ถุงเท้า 2 ชั้นแล้วใช้แผ่นแปะให้ความร้อนใส่ในรองเท้าได้ค่ะ มิวใช้ถุงเท้า Marino wool สลับกับ Uniqlo Heattech ถือว่ารอดตายมาได้
ส่วนถุงมือก็จำเป็นเช่นกันพวกเป็นไหมพรมใช้ได้เต็มที่ 5 องศาก็พอไหว แต่อุณหภูมิต่ำกว่านั้นต้องถุงมือที่มันกันลมได้ด้วย ถ้าวันไหนเจอหิมะเอาให้มันกันน้ำด้วยก็ดีค่ะ มิวใช้ The North Face รุ่นที่เป็น Very Cool ใครไม่อยากซื้อลองดูพวก Decathlon ก็น่าจะใช้ได้และประหยัดงบด้วยค่ะ
รองเท้ามิวเอาไป 3 คู่คือผ้าใบ , Boots ที่กันน้ำได้เป็น Goretex ก็จะดีค่ะ และรองเท้าแตะ>>>>สุดท้ายชุดชั้นใน สำคัญเพราะคุณต้องซักผ้าในโฮสเทลมันควรแห้งเร็ว น้ำหนักเบาไม่ถ่วงน้ำหนักเวลาสะพายเป้ (หลายคนคิดว่าโอ๊ยยยย....ตัวนึงมันจะหนักกี่ขีด??? รวมกันหลายตัวก็มีน้ำหนักค่ะ คิดให้รอบทาง) แนะนำบราพวกไม่มีโครงจะม้วนไปทางไหนก็ได้ค่ะ อันนี้จริงจังนะ555
3.กระเป๋าเหมือนจะไม่สำคัญ....เอาเข้าจริงทริปนี้มันค่อนไปทาง Backpack มันจึงสำคัญเพราะบางครั้งมิวแบกกระเป๋าเดินเป็นกิโล เป้ที่ใช้จึงสมควรเหมาะกับสรีระเรา ถ้าเป็นสาวๆ มิวแนะนำประมาณ 40 + 10L ถือว่าโอเคนะคะ เลือกรุ่นที่เป็นสลิมเข้าไว้ เดินขึ้นลงสะดวก...บอกเลยว่า Hostel ที่เวียดนามไม่มีลิฟท์นะจ๊ะแถมถ้าต้องไปต่อสู้กับประตูรถไฟนี่ ทรงแคบไว้หน่อยดีกว่า มิวใช้ Deuter Aircontact SL 40+10 L และมี Daypack อีกใบขนาด 18L กว่าจะตัดสินใจซื้อตัวนี้มาก็หาข้อมูลเยอะมาก จริงๆยี่ห้ออะไรก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามี rain cover มาด้วยจะดีมาก...ได้ใช้แน่นอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำคัญไปกว่านั้นคือกระเป๋าจัดระเบียบ....เอาตรงๆมันจำเป็นจริงๆ เวลาเจอตม.ตอนอยู่บนรถไฟ ถ้าเค้าให้เปิดกระเป๋าคือคุณต้องแล้วหยิบของออกมาให้เค้าดูนะคะ จะมาเล่นชะแว๊บจะเอ๋ดูผ่านๆไม่ได้ มีไว้ของก็จะไม่กระจัดกระจาย ขาดไม่ได้คือ Money Belt เอาเอกสารสำคัญใส่ไว้ค่ะ มิวกลายเป็นคนมี money belt เป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ไม่ได้ให้ระแวงจนเป็นบ้า แต่เราแค่ระวังไว้ก่อนพกติดตัวไว้อุ่นใจ
4.ของยังชีพภาคบังคับ มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเตรียมไปให้เรียบร้อย จำพวก ยารักษาโรค (ใครมีโรคประจำตัวให้พกยาพร้อมใบสั่งแพทย์ไปให้เรียบร้อยจะดีที่สุด) ยาที่ควรมีคือแก้ปวดหัว ปวดท้อง แก้แพ้อากาศ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ อุปกรณ์ทำแผล ขาดไม่ได้คือแก้เมารถเมาเรือเนื่องจากเราเดินทางด้วยรถโดยสารบ่อย ติดไว้ดีกว่าค่ะ
นอกจากนี้ภาคไม่บังคับคืออาหารแห้ง ถ้าเป็นคนกินยากควรติดไปจะดีมาก มิวไม่ได้เป็นคนกินยากเย็นอะไร....ถึงขั้นเดินไปเจอร้านข้างทางตรงไหนก็กินได้ ไม่มีท้องเสียเลยไม่มีปัญหา แต่ก็ติดมาม่า โจ๊กซอง และของกินนิดหน่อยไปด้วย เพราเป็นคนชอบกินอาหารไทยสุดๆ
5.อุปกรณ์ไอทีทั้งหลายเตรียมแบตเตอรี่สำรองและที่ชาร์จไปให้ดีนะคะ ส่วนของมือถือนั้นส่วนใหญ่มิวใช้ดูแผนที่และโพสต์รูปใน FB,IG
App ที่ควรมีคือพวกแผนที่ทั้งหลาย มิวใช้ Sygic ,Here WeGo โหมดออฟไลน์มีประโยชน์มากในกรณีไม่มี internet และแบตจะหมด นอกนั้นที่ใช้ได้คือพวก Metro (จีนมิวใช้ Metroman ที่รัสซียใช้ Metropolitan แต่เอาจริงเป็นคนค่อนไปทางโบร่ำหน่อย เลยชอบใช้แผนที่กระดาษมากกว่า555
และขาดไม่ได้คือพวก Currency App ทั้งหลายไว้ดูอัตราแลกเปลี่ยนเงิน ใครใช้ไอโฟนก็สไลด์หน้าจอมาด้านซ้ายสุดแล้วพิมพ์ในช่องบนมันจะแปลงค่าเงินให้เลยค่ะ แต่บอกก่อนว่าบางสกุลก็ไม่มี
ใครเอากล้องไป สิ่งที่ต้องทำตัวให้ชินคือถ่ายรูปหรือเช็คเสร็จก็ปิดทันที เพราะยิ่งอากาศหนาวมากเท่าไหร่แบตจะหมดเร็วหน่อย แต่เวลาหนาวมากๆเราไม่สามารถยืนเฉยๆเพื่อถ่ายรูปกลางแจ้งได้เกิน 5-10 นาทีหรอกค่ะ ไม่งั้นหน้ามันจะชา เราเกิดเมืองร้อนร่างกายมันเตรียมตัวช็อคตลอดเวลาที่เจออากาศหนาวมากๆ
6.ประกันการเดินทาง จำเป็นมากแค่ไหน??? เราไม่ได้ใช้มันหรอกค่ะถ้าของไม่หาย ไม่ป่วย ไม่เกิดอุบัติเหตุ.....แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันล่ะ555 พูดเหมือนคนขายประกัน ถ้าเลือกความคุ้มครองให้ดีมันจะครอบคลุมทุกอย่างในราคาที่ไม่แพง มิวใช้ของทิพยประกันภัย ส่วนค่าเบี้ยนั้นมิวแบ่งออกเป็น 2 กรมธรรม์ เนื่องจากเค้าให้เลือกได้สูงสุด 3 ประเทศค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันแรกเวียดนาม,มองโกเลีย,จีน ระยะเวลาประกันภัย 24 วันค่าเบี้ย 748 บาท....อีกอันเป็นรัสเซีย ระยะเวลาประกันภัย 10 วัน ค่าเบี้ย 399 บาท มิวว่าลองไปเลือกกันดูนะคะ ทุกวันนี้มีหลายเจ้าน่าสนใจ จะลองเปรียบเทียบดูความคุ้มครองก่อนก็ได้ค่ะ เพื่อความสบายใจ
7.Visa เนื่องจากประเทศที่ไปจำเป็นต้องขอแค่ที่จีนเท่านั้น ซึ่งราคาตอนที่มิวขอคือ 1,500 บาท เอกสารที่ต้องเตรียมรายละเอียดเข้าไปอ่านกระทู้นี้ได้นะคะ (มิวก็ตามนี้ไปขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆเช่นกันค่ะที่นำทางสว่าง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://pantip.com/topic/36244353
วีซ่าจีนขอไม่ยากค่ะ แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่เน้นย้ำให้มีคือการจองที่พักคืนแรกหลังเหยียบแผ่นดินจีนนะคะ คืนแรกแม้มิวจะนอนบนรถไฟ แต่ก็ต้องมีเอกสารจองที่พักของคืนต่อมาค่ะ แต่ที่รัสเซียก็ควรเตรียมเอกสารนี้ไปนะคะ print แล้วเอาติดตัวไว้เลยค่ะ เจ้าหน้าที่บางคนก็ไม่รู้ว่าเราไม่ต้องขอวีซ่าเข้ารัสเซีย จะได้เอาให้เค้าดูได้ตาม link นี้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ http://www.thaiembassymoscow.com/download/pdf/th-ru_visaexempt_ru.pdf
8.นอนไหนดี?? ที่พักมิวนอน Hostel เป็นหลักนะคะ สลับกับโรงแรมบ้างเป็นบางที ส่วนใหญ่จองจาก Expedia และ Hostelworld.com โดยตัดสินใจเลือกจากรีวิวและคะแนนในเว็บนั่นแหละค่ะ ส่วนรายละเอียดดูที่หัวข้อค่าใช้จ่ายนะคะ
9.เงิน เงิน เงิน ให้ดีไปแลกที่ Superrich สาขาใหญ่ค่ะ เพราะไปสาขาย่อยไปมีสกุลเงินที่เราต้องการไม่ครบมิวแลกเงินสกุล RUB , VND , CNY , USD ไปจากไทยนะคะ และนี่เป็นคนไม่ใช้บัตรเครดิตจึงติดบัตรเดบิตไปด้วย 3 ธนาคาร...เอาเข้าจริงที่รัสเซียคือ SCB กดไม่ได้เลย KBank กดสบาย ที่มองโกเลียใช้ SCB ได้อย่างเดียววุ่นวายมาก555
ส่วนเงินสกุล MNT ของมองโกเลียเอาเป็น USD ไปแลกที่สถานีรถไฟได้นะคะ หรือจะไปกดเอทีเอ็มที่นั่นก็ได้ สะดวกสุดๆ
10.การจองตั๋วเครื่องบิน รถไฟ รถทัวร์
***ราคาตั๋วทั้งหมดจะไปอยู่ในตารางค่าใช้จ่ายนะคะ
ในส่วนของเครื่องบินมิวจองแค่ขาไปจากดอนเมือง – ดานัง และขากลับจากรัสเซียสนามบิน DMK – สุวรรณภูมิ (ไปต่อเครื่องที่อาบูดาบี) ผ่านทาง Expedia ค่ะ
ส่วนตั๋วรถไฟจองไปล่วงหน้าตามรายละเอียดนี้เลยจ้า
- รถไฟจาก Hanoi (Gia Lam Railway Station) – Nanning ,China จองผ่าน www.baolau.com จะได้ E-Ticket มาทางเมล์ให้ print ออกมาแล้วไปรอที่สถานีรถไฟได้เลยค่ะ เจ้านี้จะมีเจ้าหน้าที่มาที่สถานีรอเราอยู่แล้วนะคะ เค้าจะพาเราไปขึ้นรถไฟเอง
- รถไฟจาก Nanning – Jishou (K748) จองจาก www.china-diy-travel.com ซึ่งเรื่องบริการถือว่าใช้ได้แต่ไม่ได้ปลาบปลื้มเท่าอีกเจ้าค่ะ แต่ข้อดีคือเอเจนซี่รายนี้จะมีรายละเอียดการรับตั๋วค่อนข้างละเอียด ถึงขั้นทำเป็นคลิปส่งมาให้ เข้าใจง่ายดี
- รถไฟจาก Jishou – Beijing (K474) และ Beijing – Ulaanbaatar (K3) จองจาก www.travelchinaguide.com ซึ่งเจ้านี้ดีที่ตอบเมล์เร็วกว่าเจ้ายอดนิยม ติดตรงไหนในส่วนของเอกสารและบริการจะแจ้งเมล์เราไวมาก แถมยังมีข้อมูลเจ้าหน้าที่ของเอเจนซี่ไว้ให้ติดต่อด้วย อุ่นใจดีค่ะ555 ข้อมูลในการกรอกจองตั๋วง่าย ไม่สับสนคนจำพวกอาศัยการเขียนมือแทบทุกอย่างแบบมิวยังทำได้สบายมาก
- รถไฟจาก Ulaanbaatar – Irkutsh ซื้อที่สถานีได้เลยค่ะ ราคาไม่แพง (แต่จองจากเอเจนซี่ราคาโหดกว่ามาก) แค่คุณไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหรือแลกเงินเป็นสกุล MNT ที่สถานีได้เลย มิวใช้วิธีกดเงินเอาค่ะ
- รถไฟจาก Irkutsh – Moscow ใช้ตั๋วจาก www.russianrailways.com จองง่ายค่ะ อารมณ์ก็คือต้อง print E-Ticket ออกมาแล้วเอามาโชว์ให้เจ้าหน้าที่ดูพร้อมพาสปอร์ตได้เลยค่ะ แล้วเค้าจะออกตั๋วตัวจริงให้เรา เวลาของรถไฟอิง Moscow Time zone เท่านั้นค่ะ
ข้อมูลรถไฟส่วนใหญ่มิวได้มาจาก www.seat61.com นะคะ ถือว่าละเอียดและเชื่อถือได้เลย มีรายละเอียดรถไฟในยุโรปด้วยเผื่อใครสนใจ
และตั๋วรถทัวร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นในเวียดนาม มิวก็ดุ่มไปซื้อที่ตัวแทนเลยค่ะ ไม่ได้มีการจองไปล่วงหน้าแค่ดูตารางไปคร่าวๆ ในเวียดนามมิวใช้ TheSinh Tourist ไม่ต้องกลัวหาไม่เจอนะคะ พิมพ์ชื่อนี้ใน google map ขึ้นมาแน่นอน...เดินไปซื้อได้ที่ออฟฟิศเค้าเลยค่ะ
11.ค่าใช้จ่ายทั้งหมด มิวทำออกมาจาก excel ตามสไตล์ความ low tech ของตัวเองแล้วทำเป็นรูปมาแปะให้ดูตามนี้นะคะ
สุดท้ายนี้ตรงไหนที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมก็หลังไมค์มาได้ค่ะ ยินดีตอบให้เสมอ ถ้าไม่ทันใจ inbox ใน facebook page ได้ที่
https://www.facebook.com/musicsjourney/ ซึ่งมิวทำขึ้นมาสนุกๆ ทำมานานแล้วถ้าคิดว่าไม่อยากกดไลค์ให้มันรกฟีดไม่เป็นไรค่ะ แต่ที่ให้ inbox มาถามทางเพจเพราะมันเร็วกว่าเท่านั้นเอง ส่วนใครอยากตามอ่านก็ย้อนหลังดูในนั้นได้เช่นกัน.....ขอเวลารวบรวมรูปแปปจะมาต่อกระทู้เริ่มเที่ยวให้นะคะ ขอบคุณที่มาอยู่เป็นเพื่อนกันนะฮะ
[CR] ในวันที่การเดินทางของฉันมาถึง #2 (มาเตรียมตัวแบกเป้ 32 วันกัน)
1.เริ่มจากเช็คสภาพอากาศที่ที่เราต้องไป มิวใช้ app weather จากมือถือเลยค่ะ ง่ายและไม่ยุ่งยาก
2.ข้อแรกทำไปเพื่อเตรียมตัวจัดกระเป๋า จะเห็นได้ว่าอากาศเราเจอทั้งแดด ฝน หนาว และหนาวมากเวอร์ สิ่งที่ต้องไม่ลืมเอาไปด้วยนั่นคือเสื้อกันฝน หรือร่ม สภาพที่ยากหน่อยคือหนาว....เรื่องนี้จะเริ่มยาวละเพราะจะอธิบายให้ฟัง ใครรู้อยู่แล้วซึ่งหลายคนไปเที่ยวเมืองหนาวบ่อยน่าจะเชียวชาญกว่ามิวเยอะ อันนี้แชร์กันเนอะ ส่วนตัวเป็นคนขี้หนาวประเภทแอร์ 24 องศาคือถือว่าหนาวแล้ว....เสื้อผ้าที่ใส่แต่ละวันรายละเอียดต่างกันไปนิดหน่อยค่ะ
ในวันที่อากาศ 0-10 องศา มิวจะใส่ Uniqlo Heattech หรือ M&S + Heattech fleece + เสื้อดาวน์ของ Uniqlo ตามรูปค่ะ อันนี้ถือว่าเอาอยู่นะคะ ยิ่งวันที่ต้องเดินเป็นระยะเวลานานคือสบายมาก เพราะร่างกายมันจะสร้างความอบอุ่นขึ้นเอง
ส่วนวันที่อุณหภูมิต่ำกว่า 0 จนถึง – 15 องศา ใส่ Uniqlo Heattech Ultra Warm หรือ M&S + Heattech fleece + เสื้อดาวน์ของ Uniqlo
และวันที่พีคในพีคคือช่วงมองโกเลียที่เจออุณหภูมิ – 36 องศา อันนี้คือใส่ Baselayer เพิ่มอีกชั้นนึง แต่อย่าให้มันหนาไปหมดเนื่องจากมันจะเป็นลมนะคะพูดเลย เสื้อผ้าที่หลายชั้นจนเกินไปอาจทำให้เราหน้ามืดวิงเวียนได้ค่ะ มิวลองมาแล้ว
ส่วนท่อนล่างถ้า 10 จนถึง – 10 องศา Uniqlo Heattech Ultra Warm หรือ M&S + กางเกงยีนส์ (แต่ถ้าที่ไหนลมแรงหน่อยมิวจะใส่ Baselayer เพิ่มชั้นนึงนะคะ) ถ้าต่ำกว่า -10 องศามิวจะใส่ Baselayer 2-3 ชั้นแล้วแต่วัน คือขึ้นอยู่กิจกรรมวันนั้นๆด้วย ถ้าเดินเยอะจะใส่น้อยชั้นหน่อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนถุงมือก็จำเป็นเช่นกันพวกเป็นไหมพรมใช้ได้เต็มที่ 5 องศาก็พอไหว แต่อุณหภูมิต่ำกว่านั้นต้องถุงมือที่มันกันลมได้ด้วย ถ้าวันไหนเจอหิมะเอาให้มันกันน้ำด้วยก็ดีค่ะ มิวใช้ The North Face รุ่นที่เป็น Very Cool ใครไม่อยากซื้อลองดูพวก Decathlon ก็น่าจะใช้ได้และประหยัดงบด้วยค่ะ
รองเท้ามิวเอาไป 3 คู่คือผ้าใบ , Boots ที่กันน้ำได้เป็น Goretex ก็จะดีค่ะ และรองเท้าแตะ>>>>สุดท้ายชุดชั้นใน สำคัญเพราะคุณต้องซักผ้าในโฮสเทลมันควรแห้งเร็ว น้ำหนักเบาไม่ถ่วงน้ำหนักเวลาสะพายเป้ (หลายคนคิดว่าโอ๊ยยยย....ตัวนึงมันจะหนักกี่ขีด??? รวมกันหลายตัวก็มีน้ำหนักค่ะ คิดให้รอบทาง) แนะนำบราพวกไม่มีโครงจะม้วนไปทางไหนก็ได้ค่ะ อันนี้จริงจังนะ555
3.กระเป๋าเหมือนจะไม่สำคัญ....เอาเข้าจริงทริปนี้มันค่อนไปทาง Backpack มันจึงสำคัญเพราะบางครั้งมิวแบกกระเป๋าเดินเป็นกิโล เป้ที่ใช้จึงสมควรเหมาะกับสรีระเรา ถ้าเป็นสาวๆ มิวแนะนำประมาณ 40 + 10L ถือว่าโอเคนะคะ เลือกรุ่นที่เป็นสลิมเข้าไว้ เดินขึ้นลงสะดวก...บอกเลยว่า Hostel ที่เวียดนามไม่มีลิฟท์นะจ๊ะแถมถ้าต้องไปต่อสู้กับประตูรถไฟนี่ ทรงแคบไว้หน่อยดีกว่า มิวใช้ Deuter Aircontact SL 40+10 L และมี Daypack อีกใบขนาด 18L กว่าจะตัดสินใจซื้อตัวนี้มาก็หาข้อมูลเยอะมาก จริงๆยี่ห้ออะไรก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามี rain cover มาด้วยจะดีมาก...ได้ใช้แน่นอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4.ของยังชีพภาคบังคับ มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเตรียมไปให้เรียบร้อย จำพวก ยารักษาโรค (ใครมีโรคประจำตัวให้พกยาพร้อมใบสั่งแพทย์ไปให้เรียบร้อยจะดีที่สุด) ยาที่ควรมีคือแก้ปวดหัว ปวดท้อง แก้แพ้อากาศ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ อุปกรณ์ทำแผล ขาดไม่ได้คือแก้เมารถเมาเรือเนื่องจากเราเดินทางด้วยรถโดยสารบ่อย ติดไว้ดีกว่าค่ะ
นอกจากนี้ภาคไม่บังคับคืออาหารแห้ง ถ้าเป็นคนกินยากควรติดไปจะดีมาก มิวไม่ได้เป็นคนกินยากเย็นอะไร....ถึงขั้นเดินไปเจอร้านข้างทางตรงไหนก็กินได้ ไม่มีท้องเสียเลยไม่มีปัญหา แต่ก็ติดมาม่า โจ๊กซอง และของกินนิดหน่อยไปด้วย เพราเป็นคนชอบกินอาหารไทยสุดๆ
5.อุปกรณ์ไอทีทั้งหลายเตรียมแบตเตอรี่สำรองและที่ชาร์จไปให้ดีนะคะ ส่วนของมือถือนั้นส่วนใหญ่มิวใช้ดูแผนที่และโพสต์รูปใน FB,IG
App ที่ควรมีคือพวกแผนที่ทั้งหลาย มิวใช้ Sygic ,Here WeGo โหมดออฟไลน์มีประโยชน์มากในกรณีไม่มี internet และแบตจะหมด นอกนั้นที่ใช้ได้คือพวก Metro (จีนมิวใช้ Metroman ที่รัสซียใช้ Metropolitan แต่เอาจริงเป็นคนค่อนไปทางโบร่ำหน่อย เลยชอบใช้แผนที่กระดาษมากกว่า555
และขาดไม่ได้คือพวก Currency App ทั้งหลายไว้ดูอัตราแลกเปลี่ยนเงิน ใครใช้ไอโฟนก็สไลด์หน้าจอมาด้านซ้ายสุดแล้วพิมพ์ในช่องบนมันจะแปลงค่าเงินให้เลยค่ะ แต่บอกก่อนว่าบางสกุลก็ไม่มี
ใครเอากล้องไป สิ่งที่ต้องทำตัวให้ชินคือถ่ายรูปหรือเช็คเสร็จก็ปิดทันที เพราะยิ่งอากาศหนาวมากเท่าไหร่แบตจะหมดเร็วหน่อย แต่เวลาหนาวมากๆเราไม่สามารถยืนเฉยๆเพื่อถ่ายรูปกลางแจ้งได้เกิน 5-10 นาทีหรอกค่ะ ไม่งั้นหน้ามันจะชา เราเกิดเมืองร้อนร่างกายมันเตรียมตัวช็อคตลอดเวลาที่เจออากาศหนาวมากๆ
6.ประกันการเดินทาง จำเป็นมากแค่ไหน??? เราไม่ได้ใช้มันหรอกค่ะถ้าของไม่หาย ไม่ป่วย ไม่เกิดอุบัติเหตุ.....แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันล่ะ555 พูดเหมือนคนขายประกัน ถ้าเลือกความคุ้มครองให้ดีมันจะครอบคลุมทุกอย่างในราคาที่ไม่แพง มิวใช้ของทิพยประกันภัย ส่วนค่าเบี้ยนั้นมิวแบ่งออกเป็น 2 กรมธรรม์ เนื่องจากเค้าให้เลือกได้สูงสุด 3 ประเทศค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ มิวว่าลองไปเลือกกันดูนะคะ ทุกวันนี้มีหลายเจ้าน่าสนใจ จะลองเปรียบเทียบดูความคุ้มครองก่อนก็ได้ค่ะ เพื่อความสบายใจ
7.Visa เนื่องจากประเทศที่ไปจำเป็นต้องขอแค่ที่จีนเท่านั้น ซึ่งราคาตอนที่มิวขอคือ 1,500 บาท เอกสารที่ต้องเตรียมรายละเอียดเข้าไปอ่านกระทู้นี้ได้นะคะ (มิวก็ตามนี้ไปขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆเช่นกันค่ะที่นำทางสว่าง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วีซ่าจีนขอไม่ยากค่ะ แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่เน้นย้ำให้มีคือการจองที่พักคืนแรกหลังเหยียบแผ่นดินจีนนะคะ คืนแรกแม้มิวจะนอนบนรถไฟ แต่ก็ต้องมีเอกสารจองที่พักของคืนต่อมาค่ะ แต่ที่รัสเซียก็ควรเตรียมเอกสารนี้ไปนะคะ print แล้วเอาติดตัวไว้เลยค่ะ เจ้าหน้าที่บางคนก็ไม่รู้ว่าเราไม่ต้องขอวีซ่าเข้ารัสเซีย จะได้เอาให้เค้าดูได้ตาม link นี้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
8.นอนไหนดี?? ที่พักมิวนอน Hostel เป็นหลักนะคะ สลับกับโรงแรมบ้างเป็นบางที ส่วนใหญ่จองจาก Expedia และ Hostelworld.com โดยตัดสินใจเลือกจากรีวิวและคะแนนในเว็บนั่นแหละค่ะ ส่วนรายละเอียดดูที่หัวข้อค่าใช้จ่ายนะคะ
9.เงิน เงิน เงิน ให้ดีไปแลกที่ Superrich สาขาใหญ่ค่ะ เพราะไปสาขาย่อยไปมีสกุลเงินที่เราต้องการไม่ครบมิวแลกเงินสกุล RUB , VND , CNY , USD ไปจากไทยนะคะ และนี่เป็นคนไม่ใช้บัตรเครดิตจึงติดบัตรเดบิตไปด้วย 3 ธนาคาร...เอาเข้าจริงที่รัสเซียคือ SCB กดไม่ได้เลย KBank กดสบาย ที่มองโกเลียใช้ SCB ได้อย่างเดียววุ่นวายมาก555
ส่วนเงินสกุล MNT ของมองโกเลียเอาเป็น USD ไปแลกที่สถานีรถไฟได้นะคะ หรือจะไปกดเอทีเอ็มที่นั่นก็ได้ สะดวกสุดๆ
10.การจองตั๋วเครื่องบิน รถไฟ รถทัวร์
***ราคาตั๋วทั้งหมดจะไปอยู่ในตารางค่าใช้จ่ายนะคะ
ในส่วนของเครื่องบินมิวจองแค่ขาไปจากดอนเมือง – ดานัง และขากลับจากรัสเซียสนามบิน DMK – สุวรรณภูมิ (ไปต่อเครื่องที่อาบูดาบี) ผ่านทาง Expedia ค่ะ
ส่วนตั๋วรถไฟจองไปล่วงหน้าตามรายละเอียดนี้เลยจ้า
- รถไฟจาก Hanoi (Gia Lam Railway Station) – Nanning ,China จองผ่าน www.baolau.com จะได้ E-Ticket มาทางเมล์ให้ print ออกมาแล้วไปรอที่สถานีรถไฟได้เลยค่ะ เจ้านี้จะมีเจ้าหน้าที่มาที่สถานีรอเราอยู่แล้วนะคะ เค้าจะพาเราไปขึ้นรถไฟเอง
- รถไฟจาก Nanning – Jishou (K748) จองจาก www.china-diy-travel.com ซึ่งเรื่องบริการถือว่าใช้ได้แต่ไม่ได้ปลาบปลื้มเท่าอีกเจ้าค่ะ แต่ข้อดีคือเอเจนซี่รายนี้จะมีรายละเอียดการรับตั๋วค่อนข้างละเอียด ถึงขั้นทำเป็นคลิปส่งมาให้ เข้าใจง่ายดี
- รถไฟจาก Jishou – Beijing (K474) และ Beijing – Ulaanbaatar (K3) จองจาก www.travelchinaguide.com ซึ่งเจ้านี้ดีที่ตอบเมล์เร็วกว่าเจ้ายอดนิยม ติดตรงไหนในส่วนของเอกสารและบริการจะแจ้งเมล์เราไวมาก แถมยังมีข้อมูลเจ้าหน้าที่ของเอเจนซี่ไว้ให้ติดต่อด้วย อุ่นใจดีค่ะ555 ข้อมูลในการกรอกจองตั๋วง่าย ไม่สับสนคนจำพวกอาศัยการเขียนมือแทบทุกอย่างแบบมิวยังทำได้สบายมาก
- รถไฟจาก Ulaanbaatar – Irkutsh ซื้อที่สถานีได้เลยค่ะ ราคาไม่แพง (แต่จองจากเอเจนซี่ราคาโหดกว่ามาก) แค่คุณไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหรือแลกเงินเป็นสกุล MNT ที่สถานีได้เลย มิวใช้วิธีกดเงินเอาค่ะ
- รถไฟจาก Irkutsh – Moscow ใช้ตั๋วจาก www.russianrailways.com จองง่ายค่ะ อารมณ์ก็คือต้อง print E-Ticket ออกมาแล้วเอามาโชว์ให้เจ้าหน้าที่ดูพร้อมพาสปอร์ตได้เลยค่ะ แล้วเค้าจะออกตั๋วตัวจริงให้เรา เวลาของรถไฟอิง Moscow Time zone เท่านั้นค่ะ
ข้อมูลรถไฟส่วนใหญ่มิวได้มาจาก www.seat61.com นะคะ ถือว่าละเอียดและเชื่อถือได้เลย มีรายละเอียดรถไฟในยุโรปด้วยเผื่อใครสนใจ
และตั๋วรถทัวร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นในเวียดนาม มิวก็ดุ่มไปซื้อที่ตัวแทนเลยค่ะ ไม่ได้มีการจองไปล่วงหน้าแค่ดูตารางไปคร่าวๆ ในเวียดนามมิวใช้ TheSinh Tourist ไม่ต้องกลัวหาไม่เจอนะคะ พิมพ์ชื่อนี้ใน google map ขึ้นมาแน่นอน...เดินไปซื้อได้ที่ออฟฟิศเค้าเลยค่ะ
11.ค่าใช้จ่ายทั้งหมด มิวทำออกมาจาก excel ตามสไตล์ความ low tech ของตัวเองแล้วทำเป็นรูปมาแปะให้ดูตามนี้นะคะ
สุดท้ายนี้ตรงไหนที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมก็หลังไมค์มาได้ค่ะ ยินดีตอบให้เสมอ ถ้าไม่ทันใจ inbox ใน facebook page ได้ที่ https://www.facebook.com/musicsjourney/ ซึ่งมิวทำขึ้นมาสนุกๆ ทำมานานแล้วถ้าคิดว่าไม่อยากกดไลค์ให้มันรกฟีดไม่เป็นไรค่ะ แต่ที่ให้ inbox มาถามทางเพจเพราะมันเร็วกว่าเท่านั้นเอง ส่วนใครอยากตามอ่านก็ย้อนหลังดูในนั้นได้เช่นกัน.....ขอเวลารวบรวมรูปแปปจะมาต่อกระทู้เริ่มเที่ยวให้นะคะ ขอบคุณที่มาอยู่เป็นเพื่อนกันนะฮะ