ล้างบางแก๊งปั่นหุ้น / สุนันท์ ศรีจันทรา
หลังจากมีความพยายามใช้สื่อ แขวะและทำลายความน่าเชื่อถือของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มาพักหนึ่ง ท่ามกลางกระแสข่าว การที่สื่อบางค่าย หันมาเล่นงานผู้บริหาร ก.ล.ต. นั้น เนื่องจากจะมีการกล่าวโทษเครือข่ายแก๊งปั่นหุ้นใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้ประกาศดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการปั่นหุ้น 25 รายตามที่มีข่าวก่อนหน้า โดยทั้งหมดร่วมกันปั่นหุ้น 6 บริษัท ประกอบด้วยบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS เจ้าของทีวีดิจิตอล สปริงนิวส์ เจ้าของหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
และเพิ่งเข้าครอบงำกิจการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG โดยปัจจุบันส่งตัวแทนเข้าไปบริหารเครือเนชั่น ฯ แทนกลุ่มนายสุทธิชัย หยุ่น
บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL บริษัท โพลารีส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR ซึ่งอยู่ระหว่างฟื้นฟูฐานะการดำเนินงาน บริษัท เนชั่น บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE และสร้างราคาใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะจองซื้อหุ้นหรือวอแรนต์ NINE
การฟ้องร้องทางแพ่ง แก๊งปั่นหุ้นทั้ง 25 คน เป็นข่าวใหญ่ที่สื่อมวลชนทุกค่ายให้ความสำคัญ แต่สื่อในเครือข่ายขาใหญ่ ไม่เว้นแต่สื่อที่นำเสนอข่าวหุ้นโดยตรง กลับไม่ให้ความสนใจ ลงข่าวในลักษณะเสียมิได้ หรือไม่นำเสนอข่าวเลยก็มี
และสื่อประเภทนี้ อย่าอวดอ้างคุยโตความเป็นนักข่าวมืออาชีพให้ชาวบ้านเหม็นขี้ปากดีกว่า
ก.ล.ต.ระบุว่า การปั่นหุ้นแก๊งนี้ทำกันอย่างเป็นขบวนการ สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางการเงิน และ ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลกลุ่มนี้ รวมทั้งวิธีส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะผลักดันราคา และพยุงราคาอย่างต่อเนื่อง ในหลายช่วงเวลาต่างกัน จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฯ หลายมาตรา
สำหรับความผิดที่ร่วมกันก่อขึ้น คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) ของ ก.ล.ต. ได้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ โดยปรับผู้กระทำความผิด แต่ผู้กระทำผิดทั้ง 25 รายไม่ยินยอม ก.ล.ต.จึงทำหนังสือขอให้พนักงานอัยการ ดำเนินการฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้ชำระค่าปรับตามอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด จำนวน 890.78 ล้านบาท
นอกจากนั้นผู้กระทำผิดทั้งหมด จะเป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน
และ ก.ล.ต. ยังรายงานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เกี่ยวกับการดำเนินการกับขบวนการปั่นหุ้นแก๊งนี้ เนื่องจากความผิดเกี่ยวกับการนกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น เป็นมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ความผิดในการสร้างราคาหุ้นหรือปั่นหุ้น เป็นความผิดทางอาญา ซึ่งกลุ่มปั่นหุ้นหลายแก๊ง มักยอมรับความผิด โดยเสียค่าปรับเพื่อยุติคดี
แต่กลุ่มปั่นหุ้นแก๊งใหญ่ที่ ก.ล.ต.เพิ่งเชือด ไม่ยอมรับผิด ไม่ยอมจ่ายค่าปรับ และไม่กลัวการถูกกล่าวโทษ โดยอาจลำพองใจ เพราะคดีที่ ก.ล.ต.ประกาศร้องทุกข์กล่าวโทษทางอาญานับสิบ ๆ คดี ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตัดตอน โดยสั่งไม่ฟ้อง และไม่เคยแถลงให้สาธารณชนรับทราบถึงเหตุผลการใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้อง
กลุ่มปั่นหุ้นแก๊งใหญ่จึงอาจเล็งผลเลิศที่จะหลุดคดีในขั้นตอนของดีเอสไอ โดยลืมไปว่า ก.ล.ต. ยังมีไม้เด็ด โดยการดึง ป.ป.ง.เข้ามาร่วมสอบสวน โดยแกะรอยเส้นทางการเงิน ซึ่งจะลากเข้าสู่คดีอาญาในที่สุด
ก.ล.ต.อาจมีบทเรียนแล้ว จากคดีปั่นหุ้นนับสิบ ๆ คดี เพราะแม้จะมีหลักฐานแน่นหนา ทำสำนวนรัดกุมอย่างไรก็ตาม แต่เมื่อส่งไปถึงมือดีเอสไอ มักมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
เมื่อไม่ฟ้อง ทุกอย่างที่ ก.ล.ต. ทำไป กลายเป็นการเหนื่อยเปล่า โดยนักปั่นหุ้นที่สร้างความเสียหายให้นักลงทุนนับหมื่นนับแสนคน ลอยนวล และเป็นอาชญากรตลาดหุ้นที่ก่อคดีต่อเนื่อง
คดีปั่นหุ้นที่ถูกตัดตอนในชั้น ดีเอสไอ ทำให้ ก.ล.ต. ต้องหันมาใช้การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่ง โดยส่งเรื่องตรงถึงอัยการ และดึง ป.ป.ง. เข้ามาแกะรอยเส้นทางการเงิน เพื่อมัดความผิดทางอาญาอีกชั้น และการแกะรอยเส้นทางการเงิน จะนำไปสู้ต้นตอนของขบวนการปั่นหุ้นแก๊งนี้
เพราะเชื่อกันว่า ผู้ถูกกล่าวหาปั่นหุ้น 6 ตัวทั้ง 25 คน เป็นเพียง “นอมินี” หรือตัวแทนเท่านั้น โดยมีผู้บงการใหญ่อยู่เบื้องหลัง และโยงใยกับเงินค้ามนุษย์ที่นำมาฟอกในตลาดหุ้น คดีวิคตอเรีย ซีเครท ของนายกำพล วีระเทพสุภรณ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ AQUA
การกล่าวโทษดำเนินคดีทางแพ่งกับขบวนการปั่นหุ้นแก๊งใหญ่ 25 คน เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการเชือดแก๊งปั่นหุ้นแก๊งใหญ่ที่สุดเท่านั้น
หลังจากนี้ ป.ป.ง. จะรับหน้าที่แกะรอยแหล่งต้นตอเงินที่ใช้ในการปั่นหุ้น และผู้บงการใหญ่
การอายัดทรัพย์ และ การดำเนินคดีอาญาจะตามมาอีกชุดใหญ่ และอาจนำไปสู่การขุดรากถอนโคนแก๊งปั่นหุ้น ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นยุคปัจจุบันก็ได้
ล้างบางแก๊งปั่นหุ้น / สุนันท์ ศรีจันทรา
ล้างบางแก๊งปั่นหุ้น / สุนันท์ ศรีจันทรา
หลังจากมีความพยายามใช้สื่อ แขวะและทำลายความน่าเชื่อถือของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มาพักหนึ่ง ท่ามกลางกระแสข่าว การที่สื่อบางค่าย หันมาเล่นงานผู้บริหาร ก.ล.ต. นั้น เนื่องจากจะมีการกล่าวโทษเครือข่ายแก๊งปั่นหุ้นใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้ประกาศดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการปั่นหุ้น 25 รายตามที่มีข่าวก่อนหน้า โดยทั้งหมดร่วมกันปั่นหุ้น 6 บริษัท ประกอบด้วยบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS เจ้าของทีวีดิจิตอล สปริงนิวส์ เจ้าของหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
และเพิ่งเข้าครอบงำกิจการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG โดยปัจจุบันส่งตัวแทนเข้าไปบริหารเครือเนชั่น ฯ แทนกลุ่มนายสุทธิชัย หยุ่น
บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL บริษัท โพลารีส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR ซึ่งอยู่ระหว่างฟื้นฟูฐานะการดำเนินงาน บริษัท เนชั่น บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE และสร้างราคาใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะจองซื้อหุ้นหรือวอแรนต์ NINE
การฟ้องร้องทางแพ่ง แก๊งปั่นหุ้นทั้ง 25 คน เป็นข่าวใหญ่ที่สื่อมวลชนทุกค่ายให้ความสำคัญ แต่สื่อในเครือข่ายขาใหญ่ ไม่เว้นแต่สื่อที่นำเสนอข่าวหุ้นโดยตรง กลับไม่ให้ความสนใจ ลงข่าวในลักษณะเสียมิได้ หรือไม่นำเสนอข่าวเลยก็มี
และสื่อประเภทนี้ อย่าอวดอ้างคุยโตความเป็นนักข่าวมืออาชีพให้ชาวบ้านเหม็นขี้ปากดีกว่า
ก.ล.ต.ระบุว่า การปั่นหุ้นแก๊งนี้ทำกันอย่างเป็นขบวนการ สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางการเงิน และ ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลกลุ่มนี้ รวมทั้งวิธีส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะผลักดันราคา และพยุงราคาอย่างต่อเนื่อง ในหลายช่วงเวลาต่างกัน จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฯ หลายมาตรา
สำหรับความผิดที่ร่วมกันก่อขึ้น คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) ของ ก.ล.ต. ได้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ โดยปรับผู้กระทำความผิด แต่ผู้กระทำผิดทั้ง 25 รายไม่ยินยอม ก.ล.ต.จึงทำหนังสือขอให้พนักงานอัยการ ดำเนินการฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้ชำระค่าปรับตามอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด จำนวน 890.78 ล้านบาท
นอกจากนั้นผู้กระทำผิดทั้งหมด จะเป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน
และ ก.ล.ต. ยังรายงานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เกี่ยวกับการดำเนินการกับขบวนการปั่นหุ้นแก๊งนี้ เนื่องจากความผิดเกี่ยวกับการนกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น เป็นมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ความผิดในการสร้างราคาหุ้นหรือปั่นหุ้น เป็นความผิดทางอาญา ซึ่งกลุ่มปั่นหุ้นหลายแก๊ง มักยอมรับความผิด โดยเสียค่าปรับเพื่อยุติคดี
แต่กลุ่มปั่นหุ้นแก๊งใหญ่ที่ ก.ล.ต.เพิ่งเชือด ไม่ยอมรับผิด ไม่ยอมจ่ายค่าปรับ และไม่กลัวการถูกกล่าวโทษ โดยอาจลำพองใจ เพราะคดีที่ ก.ล.ต.ประกาศร้องทุกข์กล่าวโทษทางอาญานับสิบ ๆ คดี ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตัดตอน โดยสั่งไม่ฟ้อง และไม่เคยแถลงให้สาธารณชนรับทราบถึงเหตุผลการใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้อง
กลุ่มปั่นหุ้นแก๊งใหญ่จึงอาจเล็งผลเลิศที่จะหลุดคดีในขั้นตอนของดีเอสไอ โดยลืมไปว่า ก.ล.ต. ยังมีไม้เด็ด โดยการดึง ป.ป.ง.เข้ามาร่วมสอบสวน โดยแกะรอยเส้นทางการเงิน ซึ่งจะลากเข้าสู่คดีอาญาในที่สุด
ก.ล.ต.อาจมีบทเรียนแล้ว จากคดีปั่นหุ้นนับสิบ ๆ คดี เพราะแม้จะมีหลักฐานแน่นหนา ทำสำนวนรัดกุมอย่างไรก็ตาม แต่เมื่อส่งไปถึงมือดีเอสไอ มักมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
เมื่อไม่ฟ้อง ทุกอย่างที่ ก.ล.ต. ทำไป กลายเป็นการเหนื่อยเปล่า โดยนักปั่นหุ้นที่สร้างความเสียหายให้นักลงทุนนับหมื่นนับแสนคน ลอยนวล และเป็นอาชญากรตลาดหุ้นที่ก่อคดีต่อเนื่อง
คดีปั่นหุ้นที่ถูกตัดตอนในชั้น ดีเอสไอ ทำให้ ก.ล.ต. ต้องหันมาใช้การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่ง โดยส่งเรื่องตรงถึงอัยการ และดึง ป.ป.ง. เข้ามาแกะรอยเส้นทางการเงิน เพื่อมัดความผิดทางอาญาอีกชั้น และการแกะรอยเส้นทางการเงิน จะนำไปสู้ต้นตอนของขบวนการปั่นหุ้นแก๊งนี้
เพราะเชื่อกันว่า ผู้ถูกกล่าวหาปั่นหุ้น 6 ตัวทั้ง 25 คน เป็นเพียง “นอมินี” หรือตัวแทนเท่านั้น โดยมีผู้บงการใหญ่อยู่เบื้องหลัง และโยงใยกับเงินค้ามนุษย์ที่นำมาฟอกในตลาดหุ้น คดีวิคตอเรีย ซีเครท ของนายกำพล วีระเทพสุภรณ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ AQUA
การกล่าวโทษดำเนินคดีทางแพ่งกับขบวนการปั่นหุ้นแก๊งใหญ่ 25 คน เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการเชือดแก๊งปั่นหุ้นแก๊งใหญ่ที่สุดเท่านั้น
หลังจากนี้ ป.ป.ง. จะรับหน้าที่แกะรอยแหล่งต้นตอเงินที่ใช้ในการปั่นหุ้น และผู้บงการใหญ่
การอายัดทรัพย์ และ การดำเนินคดีอาญาจะตามมาอีกชุดใหญ่ และอาจนำไปสู่การขุดรากถอนโคนแก๊งปั่นหุ้น ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นยุคปัจจุบันก็ได้