โดยภาพแล้ว ไม่ว่าทีมชาติไทยเราจะเปลี่ยนไปยังโค้ชมายุคไหน แต่ปัญหาใหญ่ของทีมชาติไทยเรานั้นคือ ระบบโครงสร้างแนวทางพื้นฐานการสร้างทีมฟุตบอลไทยยังล้าหลัง การฝึกซ้อมที่ไม่ถูกวิธี ขาดความเข้าใจระบบการเล่นเป็นทีม และการเอาใจใส่จริงจังในทุกรายละเอียด การก่อร่างสร้างทีมอย่างเป็นระบบแบบมีมาตรฐาน
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าทีมชาติไทยกี่ยุค ก็ยังมีปัญหาเรื่องเกมรับรั่วซ้ำซากอยู่ร่ำไป รวมไปถึงเราไม่มีสูตรการเข้าทำที่ฝึกซ้อมและนำมาใช้ในสถานการณ์รูปเกมการบุกต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ทั้งสองลูกที่เรานั้นไม่ได้มาจากกันเซตโอเพ่นเพลขึ้นไป แต่กลับกัน การบุกทำเกมของทีมชาติสโลวาเกีย มีระบบแบบแผน สูตรการเข้าทำที่แน่นอน ซึ่งมันต้องมีการฝึกซ้อมกันมาเป็นอย่างดีนั่นเอง
ในส่วนของเกมรับนั้น จุดอ่อนบอลไทยที่เห็นได้ชัดคือ การอ่านทางบอลและประกบมาร์คคนไม่มีบอล เราไม่ได้ถูกสอนมาอย่างเป็นระบบเหมือนมาตรฐานในแบบฉบับที่ถูกต้อง
1 คนเข้า Tackle 1 คนประกบตัววิ่ง ซึ่งบอลไทยส่วนใหญ่มักจะมองแต่คนมีบอลกันหมด แต่ลืมมองตัววิ่งเติมเกม พอบอลออกจากเท้าคู่แข่งก็มักจะเข้าถึงตัวไม่ทัน
และแดนกลางชะลอเกมบุกของทีมชาติไทยเราโดนประจำปล่อยให้คู่แข่งเล่นง่าย ไม่มีตัวซ้อนตำแหน่ง รวมไปถึงการโรเตชั่นสลับตำแหน่งในการคุมโซนในแนวป้องกัน การร่นถอยตั้งรับที่ค่อนข้างไม่เป็นระบบ ทำให้เราหลุดตำแหน่งง่าย เปิดพื้นที่ให้คู่แข่ง ลงมาซ้อนรองรับตำแหน่งกันไม่ทัน เวลาโดนบุกแบบสายฟ้าแล่บมักจะทำให้เกมรับหลุดลุ่ยเข้าไปยิงได้ง่ายๆ
ซึ่งรวมไปถึงการเคลื่อนตัวเข้าเล่นตามโมเมนตั้มของการเดินทางของบอล นักเตะไทยโดยรวมขยับตัวกันน้อย และชอบไปอยู่ด้านหลังคู่แข่งทำให้เพื่อนร่วมทีมออกบอลได้ยาก รวมถึงเคลื่อนตัวหาพื้นที่ว่างเข้ารับบอล ซึ่งต่างจากการเล่นมาตรฐานยุโรป มีตัวช่วยขยับเข้ามารับบอลทำให้ออกบอลได้ง่าย
ส่วนทีมชาติไทยเราพอไม่เจอใครเข้ามารับบอล พอโดนกดดันมาร์คตัวประกบเต็ม ก็ต้องโยนวัดดวงกันไปในที่สุดนั่นเอง
3 ลูกที่โดนลงโทษมาจากลูกสูตรของ สโลวาเกีย ทั้งสิ้น ซึ่งระบบทีมชาติไทยไม่มีให้เห็น



จะเห็นได้ว่ามีบางช่วงที่ทีมชาติไทยกดดันได้ดี แต่การตั้งรับอย่างเป็นระบบของสโลวาเกีย ทำให้ไทยไม่สามารถทำอะไรได้ถนัด พอไทยเสียก็สามารถพลิกจากรับเป็นรุกมาโต้กลับแบบสายฟ้าแล่บได้ทันที จากแดนหลังที่ไปตั้งรับในแดนตัวเองกันหมด ทุกตำแหน่งรู้หน้าที่ทันทีเมื่อทีมตัวเองได้บอลมาเล่น ทั้งตัวมีบอลและไม่มีบอล รู้ว่าจะวิ่งเติมกันยังไง วิ่งอย่างไรให้ได้เปรียบในการเล่นบอล จะเห็นได้ว่าสโลวาเกียโต้กลับไม่มากจังหวะก็ถึงหน้าประตูระยะทำการอย่างรวดเร็ว นักเตะตัวรุกมาจากไหนไม่รู้มากันพรึ่บยกแผง เข้าทำเกมกันเร็วมากและแม่นยำ ซึ่งตรงนี้นี่เองที่เราต้องทำการบ้านฝึกซ้อมทีมเกมบุกให้เกิดความชำนาญอย่างเป็นประจำให้ใกล้เคียงกับมาตรฐานยุโรปให้มากที่สุด ถ้าเราต้องการขึ้นแท่นไปอยู่ในระดับที่สูงกว่าอาเซียน
มาดูกันว่า สโลวาเกียเขาขยับเคลื่อนตัวและสลับโลเตชั่นตำแหน่งอย่างเป็นระบบอย่างไร ทั้งเกมรับและเกมรุก มีรูปแบบที่หลากหลาย

ต้องเร่งแก้ไขแล้ว ไม่อย่างนั้น เอเชียนคัพใกล้จะถึงนี้อาจลำบากแน่ๆ
เป็นกรณีศึกษาอย่างบูราณาการไม่วิจารณ์ส่งเดช กำจัดจุดอ่อนที่ตัวเองมีให้หมดไป แต่แล้วไซร้ ไม่ยอมรับความจริง เราก็ก้าวข้ามไม่ได้นั่นเอง
กรณีศึกษา: เกมรับทีมชาติไทยจุดอ่อนเพียบ! ไร้สูตรการเข้าทำ! และ 3 ลูกที่โดนลงโทษมาจากลูกสูตรของ สโลวาเกีย ทั้งสิ้น
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าทีมชาติไทยกี่ยุค ก็ยังมีปัญหาเรื่องเกมรับรั่วซ้ำซากอยู่ร่ำไป รวมไปถึงเราไม่มีสูตรการเข้าทำที่ฝึกซ้อมและนำมาใช้ในสถานการณ์รูปเกมการบุกต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ทั้งสองลูกที่เรานั้นไม่ได้มาจากกันเซตโอเพ่นเพลขึ้นไป แต่กลับกัน การบุกทำเกมของทีมชาติสโลวาเกีย มีระบบแบบแผน สูตรการเข้าทำที่แน่นอน ซึ่งมันต้องมีการฝึกซ้อมกันมาเป็นอย่างดีนั่นเอง
ในส่วนของเกมรับนั้น จุดอ่อนบอลไทยที่เห็นได้ชัดคือ การอ่านทางบอลและประกบมาร์คคนไม่มีบอล เราไม่ได้ถูกสอนมาอย่างเป็นระบบเหมือนมาตรฐานในแบบฉบับที่ถูกต้อง
1 คนเข้า Tackle 1 คนประกบตัววิ่ง ซึ่งบอลไทยส่วนใหญ่มักจะมองแต่คนมีบอลกันหมด แต่ลืมมองตัววิ่งเติมเกม พอบอลออกจากเท้าคู่แข่งก็มักจะเข้าถึงตัวไม่ทัน
และแดนกลางชะลอเกมบุกของทีมชาติไทยเราโดนประจำปล่อยให้คู่แข่งเล่นง่าย ไม่มีตัวซ้อนตำแหน่ง รวมไปถึงการโรเตชั่นสลับตำแหน่งในการคุมโซนในแนวป้องกัน การร่นถอยตั้งรับที่ค่อนข้างไม่เป็นระบบ ทำให้เราหลุดตำแหน่งง่าย เปิดพื้นที่ให้คู่แข่ง ลงมาซ้อนรองรับตำแหน่งกันไม่ทัน เวลาโดนบุกแบบสายฟ้าแล่บมักจะทำให้เกมรับหลุดลุ่ยเข้าไปยิงได้ง่ายๆ
ซึ่งรวมไปถึงการเคลื่อนตัวเข้าเล่นตามโมเมนตั้มของการเดินทางของบอล นักเตะไทยโดยรวมขยับตัวกันน้อย และชอบไปอยู่ด้านหลังคู่แข่งทำให้เพื่อนร่วมทีมออกบอลได้ยาก รวมถึงเคลื่อนตัวหาพื้นที่ว่างเข้ารับบอล ซึ่งต่างจากการเล่นมาตรฐานยุโรป มีตัวช่วยขยับเข้ามารับบอลทำให้ออกบอลได้ง่าย
ส่วนทีมชาติไทยเราพอไม่เจอใครเข้ามารับบอล พอโดนกดดันมาร์คตัวประกบเต็ม ก็ต้องโยนวัดดวงกันไปในที่สุดนั่นเอง
3 ลูกที่โดนลงโทษมาจากลูกสูตรของ สโลวาเกีย ทั้งสิ้น ซึ่งระบบทีมชาติไทยไม่มีให้เห็น
จะเห็นได้ว่ามีบางช่วงที่ทีมชาติไทยกดดันได้ดี แต่การตั้งรับอย่างเป็นระบบของสโลวาเกีย ทำให้ไทยไม่สามารถทำอะไรได้ถนัด พอไทยเสียก็สามารถพลิกจากรับเป็นรุกมาโต้กลับแบบสายฟ้าแล่บได้ทันที จากแดนหลังที่ไปตั้งรับในแดนตัวเองกันหมด ทุกตำแหน่งรู้หน้าที่ทันทีเมื่อทีมตัวเองได้บอลมาเล่น ทั้งตัวมีบอลและไม่มีบอล รู้ว่าจะวิ่งเติมกันยังไง วิ่งอย่างไรให้ได้เปรียบในการเล่นบอล จะเห็นได้ว่าสโลวาเกียโต้กลับไม่มากจังหวะก็ถึงหน้าประตูระยะทำการอย่างรวดเร็ว นักเตะตัวรุกมาจากไหนไม่รู้มากันพรึ่บยกแผง เข้าทำเกมกันเร็วมากและแม่นยำ ซึ่งตรงนี้นี่เองที่เราต้องทำการบ้านฝึกซ้อมทีมเกมบุกให้เกิดความชำนาญอย่างเป็นประจำให้ใกล้เคียงกับมาตรฐานยุโรปให้มากที่สุด ถ้าเราต้องการขึ้นแท่นไปอยู่ในระดับที่สูงกว่าอาเซียน
มาดูกันว่า สโลวาเกียเขาขยับเคลื่อนตัวและสลับโลเตชั่นตำแหน่งอย่างเป็นระบบอย่างไร ทั้งเกมรับและเกมรุก มีรูปแบบที่หลากหลาย
ต้องเร่งแก้ไขแล้ว ไม่อย่างนั้น เอเชียนคัพใกล้จะถึงนี้อาจลำบากแน่ๆ
เป็นกรณีศึกษาอย่างบูราณาการไม่วิจารณ์ส่งเดช กำจัดจุดอ่อนที่ตัวเองมีให้หมดไป แต่แล้วไซร้ ไม่ยอมรับความจริง เราก็ก้าวข้ามไม่ได้นั่นเอง