กระสวยอวกาศ กับเครื่องบิน Single-Stage-To-Orbit ต่างกันยังไงครับ

ผมจะบอกอะไรบางอย่างให้นะครับ คือผมอยากรู้ถึงความแตกต่างระหว่างกระสวยอวกาศที่นาซ่ายุติไปตั้งแต่ปี 2011 (และนาซ่าคงไม่มีทางปลุกผียานพวกนี้คืนชีพแน่ ขืนทำแบบนั้นจะไม่ไหว) กับสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่าเครื่องบินอวกาศแบบ Single-Stage-To-Orbit (SSTO) แบบ X-33/VentureStar ของ Lockheed Martin ที่เป็นคอนเซ็ปต์ที่โดนพับเก็บเพราะปัญหางบประมาณ หรือของอังกฤษแบบ Skylon ของบริษัท Reaction Engine ที่กำลังพัฒนาอยู่และคาดว่าต้องใช้เวลาเป็นหลายสิบปีกว่าจะสำเร็จ

สองสิ่งนี้ แตกต่างจากกระสวยอวกาศยังไงครับ ผมอยากรู้จริง ๆ ครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
SSTO ข้อดีคือถ้ากลับมาลงจอดแล้วมาใช้ใหม่ได้ก็อาจทำให้ราคาลดต่ำลงได้ แต่มักจะมีปัญหาทางด้านเทคโนโลยี มี stage เดียวแต่ต้องขนมวลทั้งหมด ทำให้มีขนาดใหญ่ ต้องมีเครื่องยนต์ที่ประหยัด วัสดุที่เบาเพื่อที่จะทำให้มวลน้อยลง ซึ่งอาจเกิดปัญหาตามมาเช่น VentureStar มีปัญหาเรื่องถังเชื้อเพลิง

Space Shuttle ต่างกันมากตรงที่มันไม่ได้มี stage เดียว มีการทิ้งสิ่งที่ไม่ได้ใช้ เช่น solid rocket booster (SRB) และ external tank (ET) ทำให้ประสิทธิภาพดีกว่ามาก เพราะไม่ต้องขนมวลทั้งหมดตลอด

เทียบ Saturn V กับ Space Launch System (SLS) จะต่างกันมาก เรื่องแรกเลยคือ first stage ซึ่ง S-IC ของ Saturn V จะทำหน้าที่คล้ายๆ กับ SRB ของ SLS คือยกจรวดขึ้นไปถึงความสูงและความเร็วระดับหนึ่งแล้วปล่อยให้ stage อื่นได้ทำงานต่อ แต่ SLS จะต่างตรงที่จะมีส่วนที่เรียกว่า core stage จุดพร้อมๆ กันกับ SRB ซึ่งจะต่างจาก S-IC ตรงที่หลักๆ ไม่ได้ผลิตแรงที่ยกจรวดขึ้นโดยส่วนใหญ่ แต่จะทำงานของ S-II (second stage ของ Saturn V) ควบไปด้วย ง่ายๆ คือจุดที่ core stage ปิดเครื่องยนต์ก็ใกล้จะมีความเร็วที่อยู่ในวงโคจรแล้ว หมายความว่า core stage จะประหยัดกว่า (specific impulse สูงกว่า)

เรื่องประหยัดไม่ประหยัดจะมีหลายปัจจัยมาก ยกตัวอย่าง Space Shuttle ซึ่งแม้จะขนตัว orbiter มาได้ ก็ยังแพงอยู่ดี เพราะความซับซ้อนของระบบ เช่นเครื่องยนต์ และ SRB ที่กู้ได้ก็ไม่ได้จะทำให้ถูกมากเท่าไหร่ ทำให้ Falcon 9 ซึ่งซับซ้อนน้อยกว่า มีกระบวนการผลิตสมัยใหม่ จะนำมาใช้ใหม่ได้ดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่