สวัสดีค่า แม่สาวชาวติ่ง ฝรั่งทุกคน หรือแม้แต่ ติ่งเกาหลี ติงชาวต่างชาติทั้งหลายนะ
คือเรื่องมันเป็นอย่างงี้แกร์.....คือเราอะเป็นคนที่ ติ่งผู้ชายฝรั่งมากกกกกกกกกกกกกกกก!!!!! คือเราชอบมาตั้งแต่เด็ก คือจำความได้เราก็ชอบฝรั่งแล้ว!
ไม่รู้ทำไม ตอนเด็ก4 -5 ขวบเราเจอฝรั่งเมื่อไหร่เราทักตลอด ทักเป็นอยู่ดำเดีย " เห่โล่ " 555+ แต่พอเราโตมา ป.2 เราเรียนภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องเลย เราตามเพื่อนไม่ทัน ทำงานผิด! ถูกครูตี ถูกครูว่า ถูกทำหน้ายักษ์ใส่มาตลอดชีวิตเด็กน้อย ประถมศึกษา
หลังจากนั้นเราทิ้งภาษาอังกฤษไว้ข้างหลังชีวิตของเรา เรากลัวภาษาอังกฤษ เราเกลียด เราไม่ชอบ อ่านไม่ออก พูดไม่ได้ เขียนไม่ได้ มาตลอดชีวิต
และได้แต่อิจฉาเพื่อน ว่าทำไมแกอ่านได้แปลออกวะ อิจฉาที่ทำไมแกพูดได้ อิจฉาคนอื่นว่าทำไมฟังฝรั่งคนคุยกันรู้เรื่อง ฟังออกได้ไง ต้องทำยังไงหรอ
มันต้องยากมากแน่เลย แกทำไมเก่งจัง เก่งกว่าเรา ( พอมานึกถึงตัวเอง เราทำไม่ได้หรอก มันสายไปแล้ว มันยากเกิน เรากลัวภาษา)
พอเราโตขึ้น ม.1 เราเริ่มเล่นเกม ติดเกมทุกเกมบนโลกนี้ และเราชอบฟังเพลงฝรั่งมากๆๆๆ ตั้งแต่จำความได้
วันนึง นั่งเล่นเกมกับพี่ชาย และพี่ชายถาม ทำไมเราอ่านไม่ออกหรอ มันสะกดง่ายมากเลยนะ เราก็รู้สึกอายและไม่กล้าตอบ เรากลัวโดนว่า
จากนั้นพี่ชายเราก็บอกว่า ไม่เห็นยากเลย เราแค่จำตัวสะกดของอักษรก็พอ แล้วพี่ชายเราก็สอนว่า นี่นะ a = อา u = สระ อู หรือ -ั i = สระ ไอ
** ประมาณนั้น หลังจากที่พี่เราสอนแค่การจำแค่ว่า อะไรคือตัวสระ ไออะไรไว้สะกด คือเราก็ได้เริ่มพยายามอ่านทุกอย่าอีกครั้ง เราเริ่มอ่านทุกอย่างได้
แค่เพราะพี่เราสอนแค่นี้.........แล้วที่กูเรียนมาทั้งหมดคืออัลราย....คืออัลราย ที่กูหนี ที่กูกลัว คือไรวะ?? แต่พอพี่ชายมาสอน เบาๆ ง่ายๆ กูได้เฉย
จากนั้นเราก็อ่านมันออกแล้วโว้ยยย ดีใจ ฉันไม่กากแล้วนะแกร์ ฉันไม่อายเพื่อนแล้ว.....ทุกวันนี้คือขอบคุณพี่ชายมากๆ จำได้เเค่คนเดียวเลย พี่ชายเราคือครูสอนภาษาอังกฤษ ที่ดีที่สุดเท่าที่เจอมา เหมือนพระเจ้ามาโปรด............(เฮ้ยยย พูดอะไรยืดยาววะ?)
*********************
เอ้าๆ มาๆ กลัวทุกคนจะไม่เข้าใจไง แต่พออ่านได้แต่แปลไม่ได้ แล้วกูจะทำไงวะ
!
เอาแล้ว! ทีนี้แหละ วันนึง ณ ห้องนอนอันเปล่าเปรี่ยวเดียวดาย ของสาวน้อยผู้ทำงานหนักอย่างตัดต่อ และแทบจะนอนดึกดืนตื่นสาย ก็ดันรู้สึกว่า
แกร์......ชั้นเหงา ชั้นไม่มีเพื่อนเม้ามอยเลยอะ เห้ยแก แต่ชั้นก็อยากมีเพื่อนที่อินเตอร์หน่อยปะ จากนั้นก็หน้ามืดตามัว กดเข้าแอพหาเพื่อนต่างชาติคุย
เริ่มแรก ไปแชทสุ่มคุย วีดีโอคอล เปิดมาปุ้บ "ฮั่ลโล่ว์....." แล้วก็ ^*&%^%$^(*&+_)@^%&^( (ณ จังหวะนั้น อิเห้....ผมนี่เอ๋อแดร็ก ไปเลย)
เห้ยแกร์.......ทำไงดี ชั้นคุยกะเค้า ม่าย รู้ เรื่อง..............!!! จากนั้นก็ ลบแอพแมร่ง!! 555 คุยไม่รู้เรื่อง!! กุยอมแพ้!!!
จากนั้นผ่านไปเดือนนึง ความรู้สึกเปรี่ยวๆก็มาครอบงำอีกและ ช่วงนั้นดูหนัง ดูซีรี่ย์ แล้วมันอินมาก.....เกาหลีงานดีเนาะ โอ้ยฝรั่งก็งานดี้ดีย์ แซบเหลือเกินแม่จ๋า...... จากนั้นด้วยความอยาก (ลองคุยกับผู้ชาย) คือจังหวะนั้น ความฟินในละครมันบังตา ทำให้เรารู้สึกอยากมีโมเม้นนั้น แต่เราก็อยากได้สเป็กที่เราชอบที่สุด คือฝรั่งตาสีฟ้า ผิวขาวราวกับหิมะ ผมทองดั่งใยไหม หล่อคมบาดใจน้อง อะไรทำนองนั้น
เราก็เริ่มเริ่มทำการโหลดแอพนึงมาใช้อีกรอบ แอพนี้มันจะให้เราเลือกได้ว่าอยากคุยกับคนประเทศอะไร ดูโปรไฟล์หน้าตาได้ แต่ละคนเค้าก็จะเเนะนำตัวเองไปต่างๆนานา ใครอยากทำอะไร ต้องการอะไรเค้ากจะเขียนชัดเจน ถ้าเราเจอคนที่คลิปที่โปรไฟล์ตรงใจก็ แอดทักไปคุยได้เลย แต่ก็ต้องลุ้นว่าจะมีใครตอบกลับมาไหม........ซึ่งเราก็คิดและ ** โอเค เอาวะ เป็นไงเป็นกัน! อย่างน้องเราพูดไม่ได้ อ่านไม่ออก เราก็ยังมีพี่กูเกิ้ลทานสเลทช่วยชีวิตได้ ** หลังจากนั้นเราก็ลุยเลย หาคนที่โปรไฟล์ดีดี ไม่หลอกลวง มีรูปจริงๆ เขียนแนะนำตัวเองชัดเจนว่าต้องการอะไร เราก็ปัดพวกเปิดกล้อง พวกลาม้กทิ้งไปให้หมด คัดแต่คนที่ อยากได้เพื่อน อยากได้แฟน หรือแค่แนะนำตัวว่าตัวเองทำไรเป็นยังไงอะไรงี้
เราก็แอดไปทั้งคนเกาหลี และฝรั่งเลยนะ แอดเกาหลีไป 20 กว่าคน แมร่งไม่ตอบกรูเลยจ้าา......อิผี เห็นชั้นไม่สวย ไม่แซบ สินะ!!! อิพวกใจเลวทราม! 555555 คือรูปโปรไฟล์เราก็ ผญ ผมสั้น ซอยๆประมาณติ่งหู ออกห้าวหาญนิดหน่อย ที่นี้เราก็แอดฝรั่งไป ประมาณ 10 คน มีตอบกลับมา 5 คน และสุดท้ายเราก็ได้ผู้เข้าแข่งขัน 2 คนสุดท้าย...................(โอ้ย......พูดเหมือนตัวเองสวยเลือกได้ อิบร้า)
** คนแรก นางอายุ 23 เป็นครูสอนภาษาอยู่ที่เกาหลี จบใหม่ไฟแรง ไม่เรียกว่าหล่อสำหรับเรา แต่นางมีเสน่ห์ ใส่แว่น ตาสีฟ้าสวยมากๆๆๆๆๆ
ผมสีบลอน์ ขาวววววววมาก ผอมมาก หนักแค่ 50 (นี่คือหนูอุ้มพี่ลอยเลยนะ) สูงประมาณ 167 แต่งตัวเป็นนะแกร์ แนวสแวก สายเกาสายแฟชั่นก็มา (โหยคนนี้เราปลื้มมาก เพราะนางคือคนแรกที่เราได้คุย)
** คนที่สอง นางอายุ 21 เป็น นศ อยู่บ้านที่อเมริกา กับพ่อแม่พี่น้องนั่นแหละ คนนี้อายุเท่าเราเลยเว้ยแกร์........นางไม่หล่อนะ ถ้าเทียบรูปหน้า แล้วคนแรกดูดีกว่า คนแรกแซบกว่านิดนิง คือนางคนนี้ เด็กๆอะ วัยรุ่นวัยมันส์มาก แบบพวกแบ็คแพ็คอะไรทำนองนั้นเลย ตาสีน้ำเงินเข้ม แต่เราดูแล้วไม่แน่ใจ เราเห็นเหมือนสีดำ หรือไม่ก็ สีน้ำตาลอ่า....แต่นางบากว่านางตาสีน้ำเงิน ผมบลอน์เข้มออกน้ำตาลนิดๆ ผิวขาววว สูง 170 ไม่ผอมเท่าไหร่นะ เป็นคนดูมีกล้ามเนื้อ น่าจะแข็งแรง แต่นางไม่แฟชั่น ไม่แต่งตัวหวือหวา แต่งธรรมดาพอดูได้ 55555
*** ส่วนเรา (จะบอกทำมาย) อายุ 21 ทั้งเรียน ทั้งทำงาน ทำโปรดักชั่น สูง 154 หนัก 43 กล้ามเนื้อแข็งแรงดี ยกผู้ชายได้ ก่อนหน้านี้เป็นนักเต้น ตัดผมเหมือนผู้ชาย เพราะเต้นเพลงผู้ชาย ตัดทรงจัสตินบีเบอร์ตอนเด็กอะนะ เราชอบไว้ผมสั้นมันสบาย ไม่ต้องหวีอะไรมากมาย ตื่นมา อาบน้ำแต่งตัว ทาครีมนิดหน่อย สะบัดหัวออกจากบ้านได้! นี่คือชีวิตเราตอนนั้น เรานี่ชอบแต่งตัวมาก แฟชั่นจ๋า รักสวยรักงามที่สุด! แต่แต่!!! คือชีวิตประจำวันของเรานี่แทบจะไม่แต่งหน้า รึแต่งตัวเหมือนผู้หญิงเลย คือทอม! อะว่าง่ายๆ ผู้เห็นก็เดินหนี แต่ชะนีแย่งกัน 555555 (แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป เราทำงาน ก็ไม่มีเวลาออกไปไหน วันๆอยู่แต่ในสตูตัดต่อ)
ผมเรามันก็ยาวประมาณนึง เลยติ่งหูมานิดนึง แต่ก็ยังคงทรงจัสติดตอนเด็กไว้นะ แค่มันยาวขึ้น มันก็ทำให้เราดูสาวขึ้นมาบ้างเด้อ.....
ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกันคนแรกนางมาคุยกับเราก่อนประมาณอาทิตย์นึง จากนั้นคนที่2 ถึงเข้ามา
พอเราได้คุยได้ทำความรู้จักกับทั้ง2คนแล้วเนี่ย เราก็จะโอนเอนไปทางคนแรก เพราะนางมาก่อน รู้จักก่อน และที่สำคัญนางถูกสเป็กเรามากกว่า
นางสุภาพเหลือเกินแกร้เอ้ย...........คนดี อบอุ่น พูดดี จนเราหลงนางมาก คือตอนนั้นอะ ด้วยความว่า เฮ้ย! เราไม่เคยได้คุยกับฝรั่งเลยอะแกร์ มันดีใจโว้ยที่ได้คุยและเค้าก็คุยกับเรา และจะบอกว่างานนี้ ถ้าไม่มีพี่กูเกิ้ลแปลภาษา หนูตายค่ะ เอาจริงๆเราได้ภาษาจากคนแรกมากๆเลยนะ ต้องขอบคุณเค้ามากๆเลย เเละเค้าก็ไม่รังเกียจที่เราไม่เก่ง เค้าโอเคมาก พอเราไม่เข้าใจเค้าก็พยยามอธิบายจนเข้าใจ เราคุยกับเค้าก็ก็บอกเค้าทุกเรื่องด้วยความจริงใจนะ ว่าเราอยากเก่งภาษา เราไม่เก่งภาษาอังกฤษเลย อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ แต่ที่คุยกับยูได้เพราะไอ มีกูเกิ้ลนะ นางก็ขำใหญ่เลยเว้ย...555 เราคุยกับทั้ง2คนแบบนี้ บอกให้เค้าเข้าใจ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยเนี่ย เราจะติดชอบหัวเราะใช่มะ แล้วจะชอบพิมพ์ (55555) เราก็บอกนางทั้งคู่ว่า 5555 ที่ไอพิมอะ มันแปลว่า หัวเราะนะ มันอ่านว่า hahahaha คนไทยอ่านเลข 5 แบบนั้น และนางทั้ง2 ก็เข้าใจมันด้วยดี และก็คุยกับเราโดยใช้ 5555 กับเรา
/// ***** /// ทีนี้พอทำความรู้จักกันในเวลาใกล้เคียงกัน เราก็เริ่มคุยกับคนแรกบ่อยกว่า คนที่สองนานๆจะคุยที แต่คนที่2 นางจะติดตามเราใน IG ตลอด คอยกดถูกใจตลอด คนแรกจะนานๆครั้ง เพราะนางไม่ค่อยเล่น แต่พอนางมาถูกใจมีนึงนี่บับ!! ชั้นอยากจะไปนอนชักๆๆ ดิ้นๆๆ เหมือนคนบ้าอะ
เราก็เลยตัดสินใจจะมุ่งหน้าติ่งอิตะคนแรกนี่แหละวะ ยังไงฉันก็จะไม่มีวันปล่อยคุณไปเฉยๆแน่ๆ ได้คุยกันถึงขนาดนี้แล้วอะ แล้วแถมเธอช่างน่าหลงไหล น่าค้นหา (หรอ) เราก็เลยมุ่งติ่ง พี่เร็นแบบเต็มกำลัง (เราเรียกเขาว่า เร็น) ส่วนคนที่สอง เราเรียกนางว่า แบร์ น้องหมีๆ 555 เราเลยจัดการความรู้สึกและแยกว่า เร็น คือคนที่เราปลื้มแล้วนะตอนนี้ ส่วนแบร์ คนเพื่อนที่ดี ที่สุภาพของเรา ต้องบอกก่อนว่า 2 คนนี้นาง สุภาพ ให้เกียรติในการคุยกันมาก ไม่ล่วงเกิน ไม่ทะลึ่ง ไม่อะไรทั้งนั้น ความสัมพันพัฒนาไปตามกาลเวลาเลย
/// ในโมเม้นที่เราคุยกะพี่เร็น มันเป็นอะไรที่ดีงามมากอะแกร์ คือเหมือนเราได้คุยกับคนที่ชอบ มันก็จะฟินๆหน่อย
เราก็คุยถามสารทุกข์ สุขดิบกันตลอดทุกวี่วัน เราคุยกับเค้าก็รู้มาว่า นางชอบกินเบียร์ แบบพวกเบียร์แบบแก้วๆในร้านนั่งชิวในเกาหลีนะ นางไปกินทุกอาทิตย์ในวันหยุด คือนางติดมาก แล้วส่วนตัวเรา เราไม่กินเหล้าไม่กินเบียร์ ไม่กินห่าไรเลยค่ะคุณ 5555 เพราะเรากินแล้วมันรู้สึกไม่ดี เราก็บอกนางว่าเราไม่กิน มันไม่อร่อย นางก็เลยเริ่มคุยกับเราว่า
เร็น :: ยู ไม่เคยกินเลยหรอ
เรา :: ไอ เคยลองชิมดู แล้วรู้สึกว่ามันไม่อร่อย ไอเลยไม่กิน ไอเคยกินเครื่องดื่มที่เรียกว่า ฟลูมูล มันมีรสชาติเหมือนน้ำผลไม้ไอเลยลองกิน
ไอกินได้เเค่ครึ่งขวด ไอรู้สึกมึนหัวแล้ว โอ้มันแย่มาก!
เร็น :: โอ้....นั่นมันไม่ดีเลย ยูคออ่อนมาก นั่นดีแล้วที่ยูไม่ชอบกิน มันอันตราย
เรา :: ไอเคยกินที่เรียกว่า สาโท (ข้าวหมักจนเป็นเหล้า) มันอร่อยมาก มันหวานเปรี้ยว แต่ไอกินได้1เเก้ว ไอก็คึกจนไปไล่กัดคอเพื่อนๆ ไล่หอมแก้มเพื่อนซะแบบนั้น
เร็น :: โอ้มายก้อด! 5555 ยูกัดคอพวกเขาได้อย่างไร
เรา :: ไอไม่ได้กัดแรง ไอกัดแบบงับเฉยๆ ตอนนั้นไอไม่รู้ว่าทำไมไอหมั่นเขียว
เร็น :: นั่นมันน่ารักมาก มันเป็นการกระทำที่เซ็กซี่สุดๆ แต่ยูอย่าไปดื่มคนเดียวนะรู้ไหน มันไม่ดีถ้ายูไปกัดคนอื่น
เรา :: (คิดในใจ อิบ้า ตรูไม่ชอบกินแล้วตรูจะกินทำม้ายย) แล้วถ้าไอกัดยูล่ะ ยูจะเฮทช็อตไอไหม? 5555
เร็น :: 5555 ไอจะกัดยูกลับ!
เรา :: ........................ @___@ (( อิเห้.....ผมนี่สตั้น ผมนี่เอ๋อแดรก สติแตกไปเลย..........)) (คิดในใจ อุ้ย!! ทำไมอยากเมาจังเลย...5555 )
หลังจากนั้นเราก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยถามนู่นนี่นั่นไปเรื่อย เราก็ได้รู้ว่า เวลาเร็นเมาแบบ กำลังอยู่ในช่วงที่บัทเตอร์เบียร์ออกฤทธ์ นางจะอ่อนหวานมากก อ่อนโยนมาก นางจะอารมณ์ดี จะต่างจากตอนธรรมดา นางจะขี้อายเล็กน้อยไม่ค่อยกล้า แต่พอเมา เมาแบบมีสตินะคะ นางไม่เคยเมาหัวทิ่ม นางจะกล้าพูดในสิ่งที่นางคิด ซึ้งเราก็ว่ามันดีนะ แต่อีกแง่นึงคือมันก็ไม่ดีต่อสุขภาพเอาซะเลย เราชอบคนรักตัวเองเนาะเราก็ห่วงเค้า เค้าผอมมาก แถมกินเบียร์ตลอด
ส่วนตัวเราไม่ค่อยสันทัดเรื่องเหล้าเบียร์ หรือสถานบันเทิงเท่าไหร่ นางไปทุกอาทิตย์ไปร้านนั่งชิลนั่นแหละ นางบอกว่า นางไม่ชอบเข้าผลับเท่าไหร่ นางเต้นไม่เป็นและมันเสียงมันดังนางคุยไม่รู้เรื่อง ชอบนั่งชิลๆมากกว่าได้เรื่อยๆ
*****หลังจากนั้นเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ เหมือนๆเดิมทุกวัน คำถามเดิมตลอด เพราะเราเองก็ไม่รู้จะเริ่มคุยกับเค้ายังไง แต่เค้าก็สุภาพเหลือเกิน ตอบเราตลอดแหละ เราก็กลัวนะว่าเค้าอาจจะเบื่อรึป่าว เพราะเราเป็นคนเข้าหาเค้า ชวนเค้าคุยตลอดค่ะ เราจะชอบทักเค้าไปทุกเช้าเลย เราจะเป็นคนเรื่มคุยก่อน
เราทำแบบนั้นทุกวัน และชีวิตของเค้าจากที่เราพูดคุยมันก็วนไปแบบนั้นในทุกวัน สอนเสร็จกลับมาก็นอน เสาร์อาทิตย์ก็ไปแรดกะเพื่อน 555
ไม่คิดว่า "ฝรั่งจะชอบเรากลับ" (เริ่มคุยกับเค้าก่อน) จากผู้หญิงห้าวและหล่อกว่าผู้ชาย!
คือเรื่องมันเป็นอย่างงี้แกร์.....คือเราอะเป็นคนที่ ติ่งผู้ชายฝรั่งมากกกกกกกกกกกกกกกก!!!!! คือเราชอบมาตั้งแต่เด็ก คือจำความได้เราก็ชอบฝรั่งแล้ว!
ไม่รู้ทำไม ตอนเด็ก4 -5 ขวบเราเจอฝรั่งเมื่อไหร่เราทักตลอด ทักเป็นอยู่ดำเดีย " เห่โล่ " 555+ แต่พอเราโตมา ป.2 เราเรียนภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องเลย เราตามเพื่อนไม่ทัน ทำงานผิด! ถูกครูตี ถูกครูว่า ถูกทำหน้ายักษ์ใส่มาตลอดชีวิตเด็กน้อย ประถมศึกษา
หลังจากนั้นเราทิ้งภาษาอังกฤษไว้ข้างหลังชีวิตของเรา เรากลัวภาษาอังกฤษ เราเกลียด เราไม่ชอบ อ่านไม่ออก พูดไม่ได้ เขียนไม่ได้ มาตลอดชีวิต
และได้แต่อิจฉาเพื่อน ว่าทำไมแกอ่านได้แปลออกวะ อิจฉาที่ทำไมแกพูดได้ อิจฉาคนอื่นว่าทำไมฟังฝรั่งคนคุยกันรู้เรื่อง ฟังออกได้ไง ต้องทำยังไงหรอ
มันต้องยากมากแน่เลย แกทำไมเก่งจัง เก่งกว่าเรา ( พอมานึกถึงตัวเอง เราทำไม่ได้หรอก มันสายไปแล้ว มันยากเกิน เรากลัวภาษา)
พอเราโตขึ้น ม.1 เราเริ่มเล่นเกม ติดเกมทุกเกมบนโลกนี้ และเราชอบฟังเพลงฝรั่งมากๆๆๆ ตั้งแต่จำความได้
วันนึง นั่งเล่นเกมกับพี่ชาย และพี่ชายถาม ทำไมเราอ่านไม่ออกหรอ มันสะกดง่ายมากเลยนะ เราก็รู้สึกอายและไม่กล้าตอบ เรากลัวโดนว่า
จากนั้นพี่ชายเราก็บอกว่า ไม่เห็นยากเลย เราแค่จำตัวสะกดของอักษรก็พอ แล้วพี่ชายเราก็สอนว่า นี่นะ a = อา u = สระ อู หรือ -ั i = สระ ไอ
** ประมาณนั้น หลังจากที่พี่เราสอนแค่การจำแค่ว่า อะไรคือตัวสระ ไออะไรไว้สะกด คือเราก็ได้เริ่มพยายามอ่านทุกอย่าอีกครั้ง เราเริ่มอ่านทุกอย่างได้
แค่เพราะพี่เราสอนแค่นี้.........แล้วที่กูเรียนมาทั้งหมดคืออัลราย....คืออัลราย ที่กูหนี ที่กูกลัว คือไรวะ?? แต่พอพี่ชายมาสอน เบาๆ ง่ายๆ กูได้เฉย
จากนั้นเราก็อ่านมันออกแล้วโว้ยยย ดีใจ ฉันไม่กากแล้วนะแกร์ ฉันไม่อายเพื่อนแล้ว.....ทุกวันนี้คือขอบคุณพี่ชายมากๆ จำได้เเค่คนเดียวเลย พี่ชายเราคือครูสอนภาษาอังกฤษ ที่ดีที่สุดเท่าที่เจอมา เหมือนพระเจ้ามาโปรด............(เฮ้ยยย พูดอะไรยืดยาววะ?)
*********************เอ้าๆ มาๆ กลัวทุกคนจะไม่เข้าใจไง แต่พออ่านได้แต่แปลไม่ได้ แล้วกูจะทำไงวะ
เอาแล้ว! ทีนี้แหละ วันนึง ณ ห้องนอนอันเปล่าเปรี่ยวเดียวดาย ของสาวน้อยผู้ทำงานหนักอย่างตัดต่อ และแทบจะนอนดึกดืนตื่นสาย ก็ดันรู้สึกว่า
แกร์......ชั้นเหงา ชั้นไม่มีเพื่อนเม้ามอยเลยอะ เห้ยแก แต่ชั้นก็อยากมีเพื่อนที่อินเตอร์หน่อยปะ จากนั้นก็หน้ามืดตามัว กดเข้าแอพหาเพื่อนต่างชาติคุย
เริ่มแรก ไปแชทสุ่มคุย วีดีโอคอล เปิดมาปุ้บ "ฮั่ลโล่ว์....." แล้วก็ ^*&%^%$^(*&+_)@^%&^( (ณ จังหวะนั้น อิเห้....ผมนี่เอ๋อแดร็ก ไปเลย)
เห้ยแกร์.......ทำไงดี ชั้นคุยกะเค้า ม่าย รู้ เรื่อง..............!!! จากนั้นก็ ลบแอพแมร่ง!! 555 คุยไม่รู้เรื่อง!! กุยอมแพ้!!!
จากนั้นผ่านไปเดือนนึง ความรู้สึกเปรี่ยวๆก็มาครอบงำอีกและ ช่วงนั้นดูหนัง ดูซีรี่ย์ แล้วมันอินมาก.....เกาหลีงานดีเนาะ โอ้ยฝรั่งก็งานดี้ดีย์ แซบเหลือเกินแม่จ๋า...... จากนั้นด้วยความอยาก (ลองคุยกับผู้ชาย) คือจังหวะนั้น ความฟินในละครมันบังตา ทำให้เรารู้สึกอยากมีโมเม้นนั้น แต่เราก็อยากได้สเป็กที่เราชอบที่สุด คือฝรั่งตาสีฟ้า ผิวขาวราวกับหิมะ ผมทองดั่งใยไหม หล่อคมบาดใจน้อง อะไรทำนองนั้น
เราก็เริ่มเริ่มทำการโหลดแอพนึงมาใช้อีกรอบ แอพนี้มันจะให้เราเลือกได้ว่าอยากคุยกับคนประเทศอะไร ดูโปรไฟล์หน้าตาได้ แต่ละคนเค้าก็จะเเนะนำตัวเองไปต่างๆนานา ใครอยากทำอะไร ต้องการอะไรเค้ากจะเขียนชัดเจน ถ้าเราเจอคนที่คลิปที่โปรไฟล์ตรงใจก็ แอดทักไปคุยได้เลย แต่ก็ต้องลุ้นว่าจะมีใครตอบกลับมาไหม........ซึ่งเราก็คิดและ ** โอเค เอาวะ เป็นไงเป็นกัน! อย่างน้องเราพูดไม่ได้ อ่านไม่ออก เราก็ยังมีพี่กูเกิ้ลทานสเลทช่วยชีวิตได้ ** หลังจากนั้นเราก็ลุยเลย หาคนที่โปรไฟล์ดีดี ไม่หลอกลวง มีรูปจริงๆ เขียนแนะนำตัวเองชัดเจนว่าต้องการอะไร เราก็ปัดพวกเปิดกล้อง พวกลาม้กทิ้งไปให้หมด คัดแต่คนที่ อยากได้เพื่อน อยากได้แฟน หรือแค่แนะนำตัวว่าตัวเองทำไรเป็นยังไงอะไรงี้
เราก็แอดไปทั้งคนเกาหลี และฝรั่งเลยนะ แอดเกาหลีไป 20 กว่าคน แมร่งไม่ตอบกรูเลยจ้าา......อิผี เห็นชั้นไม่สวย ไม่แซบ สินะ!!! อิพวกใจเลวทราม! 555555 คือรูปโปรไฟล์เราก็ ผญ ผมสั้น ซอยๆประมาณติ่งหู ออกห้าวหาญนิดหน่อย ที่นี้เราก็แอดฝรั่งไป ประมาณ 10 คน มีตอบกลับมา 5 คน และสุดท้ายเราก็ได้ผู้เข้าแข่งขัน 2 คนสุดท้าย...................(โอ้ย......พูดเหมือนตัวเองสวยเลือกได้ อิบร้า)
** คนแรก นางอายุ 23 เป็นครูสอนภาษาอยู่ที่เกาหลี จบใหม่ไฟแรง ไม่เรียกว่าหล่อสำหรับเรา แต่นางมีเสน่ห์ ใส่แว่น ตาสีฟ้าสวยมากๆๆๆๆๆ
ผมสีบลอน์ ขาวววววววมาก ผอมมาก หนักแค่ 50 (นี่คือหนูอุ้มพี่ลอยเลยนะ) สูงประมาณ 167 แต่งตัวเป็นนะแกร์ แนวสแวก สายเกาสายแฟชั่นก็มา (โหยคนนี้เราปลื้มมาก เพราะนางคือคนแรกที่เราได้คุย)
** คนที่สอง นางอายุ 21 เป็น นศ อยู่บ้านที่อเมริกา กับพ่อแม่พี่น้องนั่นแหละ คนนี้อายุเท่าเราเลยเว้ยแกร์........นางไม่หล่อนะ ถ้าเทียบรูปหน้า แล้วคนแรกดูดีกว่า คนแรกแซบกว่านิดนิง คือนางคนนี้ เด็กๆอะ วัยรุ่นวัยมันส์มาก แบบพวกแบ็คแพ็คอะไรทำนองนั้นเลย ตาสีน้ำเงินเข้ม แต่เราดูแล้วไม่แน่ใจ เราเห็นเหมือนสีดำ หรือไม่ก็ สีน้ำตาลอ่า....แต่นางบากว่านางตาสีน้ำเงิน ผมบลอน์เข้มออกน้ำตาลนิดๆ ผิวขาววว สูง 170 ไม่ผอมเท่าไหร่นะ เป็นคนดูมีกล้ามเนื้อ น่าจะแข็งแรง แต่นางไม่แฟชั่น ไม่แต่งตัวหวือหวา แต่งธรรมดาพอดูได้ 55555
*** ส่วนเรา (จะบอกทำมาย) อายุ 21 ทั้งเรียน ทั้งทำงาน ทำโปรดักชั่น สูง 154 หนัก 43 กล้ามเนื้อแข็งแรงดี ยกผู้ชายได้ ก่อนหน้านี้เป็นนักเต้น ตัดผมเหมือนผู้ชาย เพราะเต้นเพลงผู้ชาย ตัดทรงจัสตินบีเบอร์ตอนเด็กอะนะ เราชอบไว้ผมสั้นมันสบาย ไม่ต้องหวีอะไรมากมาย ตื่นมา อาบน้ำแต่งตัว ทาครีมนิดหน่อย สะบัดหัวออกจากบ้านได้! นี่คือชีวิตเราตอนนั้น เรานี่ชอบแต่งตัวมาก แฟชั่นจ๋า รักสวยรักงามที่สุด! แต่แต่!!! คือชีวิตประจำวันของเรานี่แทบจะไม่แต่งหน้า รึแต่งตัวเหมือนผู้หญิงเลย คือทอม! อะว่าง่ายๆ ผู้เห็นก็เดินหนี แต่ชะนีแย่งกัน 555555 (แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป เราทำงาน ก็ไม่มีเวลาออกไปไหน วันๆอยู่แต่ในสตูตัดต่อ)
ผมเรามันก็ยาวประมาณนึง เลยติ่งหูมานิดนึง แต่ก็ยังคงทรงจัสติดตอนเด็กไว้นะ แค่มันยาวขึ้น มันก็ทำให้เราดูสาวขึ้นมาบ้างเด้อ.....
ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกันคนแรกนางมาคุยกับเราก่อนประมาณอาทิตย์นึง จากนั้นคนที่2 ถึงเข้ามา
พอเราได้คุยได้ทำความรู้จักกับทั้ง2คนแล้วเนี่ย เราก็จะโอนเอนไปทางคนแรก เพราะนางมาก่อน รู้จักก่อน และที่สำคัญนางถูกสเป็กเรามากกว่า
นางสุภาพเหลือเกินแกร้เอ้ย...........คนดี อบอุ่น พูดดี จนเราหลงนางมาก คือตอนนั้นอะ ด้วยความว่า เฮ้ย! เราไม่เคยได้คุยกับฝรั่งเลยอะแกร์ มันดีใจโว้ยที่ได้คุยและเค้าก็คุยกับเรา และจะบอกว่างานนี้ ถ้าไม่มีพี่กูเกิ้ลแปลภาษา หนูตายค่ะ เอาจริงๆเราได้ภาษาจากคนแรกมากๆเลยนะ ต้องขอบคุณเค้ามากๆเลย เเละเค้าก็ไม่รังเกียจที่เราไม่เก่ง เค้าโอเคมาก พอเราไม่เข้าใจเค้าก็พยยามอธิบายจนเข้าใจ เราคุยกับเค้าก็ก็บอกเค้าทุกเรื่องด้วยความจริงใจนะ ว่าเราอยากเก่งภาษา เราไม่เก่งภาษาอังกฤษเลย อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ แต่ที่คุยกับยูได้เพราะไอ มีกูเกิ้ลนะ นางก็ขำใหญ่เลยเว้ย...555 เราคุยกับทั้ง2คนแบบนี้ บอกให้เค้าเข้าใจ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยเนี่ย เราจะติดชอบหัวเราะใช่มะ แล้วจะชอบพิมพ์ (55555) เราก็บอกนางทั้งคู่ว่า 5555 ที่ไอพิมอะ มันแปลว่า หัวเราะนะ มันอ่านว่า hahahaha คนไทยอ่านเลข 5 แบบนั้น และนางทั้ง2 ก็เข้าใจมันด้วยดี และก็คุยกับเราโดยใช้ 5555 กับเรา
/// ***** /// ทีนี้พอทำความรู้จักกันในเวลาใกล้เคียงกัน เราก็เริ่มคุยกับคนแรกบ่อยกว่า คนที่สองนานๆจะคุยที แต่คนที่2 นางจะติดตามเราใน IG ตลอด คอยกดถูกใจตลอด คนแรกจะนานๆครั้ง เพราะนางไม่ค่อยเล่น แต่พอนางมาถูกใจมีนึงนี่บับ!! ชั้นอยากจะไปนอนชักๆๆ ดิ้นๆๆ เหมือนคนบ้าอะ
เราก็เลยตัดสินใจจะมุ่งหน้าติ่งอิตะคนแรกนี่แหละวะ ยังไงฉันก็จะไม่มีวันปล่อยคุณไปเฉยๆแน่ๆ ได้คุยกันถึงขนาดนี้แล้วอะ แล้วแถมเธอช่างน่าหลงไหล น่าค้นหา (หรอ) เราก็เลยมุ่งติ่ง พี่เร็นแบบเต็มกำลัง (เราเรียกเขาว่า เร็น) ส่วนคนที่สอง เราเรียกนางว่า แบร์ น้องหมีๆ 555 เราเลยจัดการความรู้สึกและแยกว่า เร็น คือคนที่เราปลื้มแล้วนะตอนนี้ ส่วนแบร์ คนเพื่อนที่ดี ที่สุภาพของเรา ต้องบอกก่อนว่า 2 คนนี้นาง สุภาพ ให้เกียรติในการคุยกันมาก ไม่ล่วงเกิน ไม่ทะลึ่ง ไม่อะไรทั้งนั้น ความสัมพันพัฒนาไปตามกาลเวลาเลย
/// ในโมเม้นที่เราคุยกะพี่เร็น มันเป็นอะไรที่ดีงามมากอะแกร์ คือเหมือนเราได้คุยกับคนที่ชอบ มันก็จะฟินๆหน่อย
เราก็คุยถามสารทุกข์ สุขดิบกันตลอดทุกวี่วัน เราคุยกับเค้าก็รู้มาว่า นางชอบกินเบียร์ แบบพวกเบียร์แบบแก้วๆในร้านนั่งชิวในเกาหลีนะ นางไปกินทุกอาทิตย์ในวันหยุด คือนางติดมาก แล้วส่วนตัวเรา เราไม่กินเหล้าไม่กินเบียร์ ไม่กินห่าไรเลยค่ะคุณ 5555 เพราะเรากินแล้วมันรู้สึกไม่ดี เราก็บอกนางว่าเราไม่กิน มันไม่อร่อย นางก็เลยเริ่มคุยกับเราว่า
เร็น :: ยู ไม่เคยกินเลยหรอ
เรา :: ไอ เคยลองชิมดู แล้วรู้สึกว่ามันไม่อร่อย ไอเลยไม่กิน ไอเคยกินเครื่องดื่มที่เรียกว่า ฟลูมูล มันมีรสชาติเหมือนน้ำผลไม้ไอเลยลองกิน
ไอกินได้เเค่ครึ่งขวด ไอรู้สึกมึนหัวแล้ว โอ้มันแย่มาก!
เร็น :: โอ้....นั่นมันไม่ดีเลย ยูคออ่อนมาก นั่นดีแล้วที่ยูไม่ชอบกิน มันอันตราย
เรา :: ไอเคยกินที่เรียกว่า สาโท (ข้าวหมักจนเป็นเหล้า) มันอร่อยมาก มันหวานเปรี้ยว แต่ไอกินได้1เเก้ว ไอก็คึกจนไปไล่กัดคอเพื่อนๆ ไล่หอมแก้มเพื่อนซะแบบนั้น
เร็น :: โอ้มายก้อด! 5555 ยูกัดคอพวกเขาได้อย่างไร
เรา :: ไอไม่ได้กัดแรง ไอกัดแบบงับเฉยๆ ตอนนั้นไอไม่รู้ว่าทำไมไอหมั่นเขียว
เร็น :: นั่นมันน่ารักมาก มันเป็นการกระทำที่เซ็กซี่สุดๆ แต่ยูอย่าไปดื่มคนเดียวนะรู้ไหน มันไม่ดีถ้ายูไปกัดคนอื่น
เรา :: (คิดในใจ อิบ้า ตรูไม่ชอบกินแล้วตรูจะกินทำม้ายย) แล้วถ้าไอกัดยูล่ะ ยูจะเฮทช็อตไอไหม? 5555
เร็น :: 5555 ไอจะกัดยูกลับ!
เรา :: ........................ @___@ (( อิเห้.....ผมนี่สตั้น ผมนี่เอ๋อแดรก สติแตกไปเลย..........)) (คิดในใจ อุ้ย!! ทำไมอยากเมาจังเลย...5555 )
หลังจากนั้นเราก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยถามนู่นนี่นั่นไปเรื่อย เราก็ได้รู้ว่า เวลาเร็นเมาแบบ กำลังอยู่ในช่วงที่บัทเตอร์เบียร์ออกฤทธ์ นางจะอ่อนหวานมากก อ่อนโยนมาก นางจะอารมณ์ดี จะต่างจากตอนธรรมดา นางจะขี้อายเล็กน้อยไม่ค่อยกล้า แต่พอเมา เมาแบบมีสตินะคะ นางไม่เคยเมาหัวทิ่ม นางจะกล้าพูดในสิ่งที่นางคิด ซึ้งเราก็ว่ามันดีนะ แต่อีกแง่นึงคือมันก็ไม่ดีต่อสุขภาพเอาซะเลย เราชอบคนรักตัวเองเนาะเราก็ห่วงเค้า เค้าผอมมาก แถมกินเบียร์ตลอด
ส่วนตัวเราไม่ค่อยสันทัดเรื่องเหล้าเบียร์ หรือสถานบันเทิงเท่าไหร่ นางไปทุกอาทิตย์ไปร้านนั่งชิลนั่นแหละ นางบอกว่า นางไม่ชอบเข้าผลับเท่าไหร่ นางเต้นไม่เป็นและมันเสียงมันดังนางคุยไม่รู้เรื่อง ชอบนั่งชิลๆมากกว่าได้เรื่อยๆ
*****หลังจากนั้นเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ เหมือนๆเดิมทุกวัน คำถามเดิมตลอด เพราะเราเองก็ไม่รู้จะเริ่มคุยกับเค้ายังไง แต่เค้าก็สุภาพเหลือเกิน ตอบเราตลอดแหละ เราก็กลัวนะว่าเค้าอาจจะเบื่อรึป่าว เพราะเราเป็นคนเข้าหาเค้า ชวนเค้าคุยตลอดค่ะ เราจะชอบทักเค้าไปทุกเช้าเลย เราจะเป็นคนเรื่มคุยก่อน
เราทำแบบนั้นทุกวัน และชีวิตของเค้าจากที่เราพูดคุยมันก็วนไปแบบนั้นในทุกวัน สอนเสร็จกลับมาก็นอน เสาร์อาทิตย์ก็ไปแรดกะเพื่อน 555