สวัสดีคะ กระทู้แรกเลยคะ ตั้งใจจะตอบแทนข้อมูลที่ได้จาก pantip ด้วยการส่งต่อความรู้และประสบการณ์ให้ทุกคนที่สนใจนะคะ
ขอให้กระทู้นี้เปรียบเสมือนทำบุญใหญ่สำหรับที่อยู่ใหม่ของเจ้าของกระทู้คะ สาาาาธุ๊
ส่วนที่ 1: ชวนคิดก่อนซื้อ (เน้นซื้อเพื่ออยู่หรืออาจจะขาย ไม่ใช่เพื่อธุรกิจนะคะ)
ส่วนที่ 2: สัญญาจะซื้อจะขาย จะได้อะไรบ้าง และ สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนโอนทั้งเอกสารและเงิน
ส่วนที่ 3 : โอนกรรมสิทธิ์ ทะเบียนบ้าน และน้ำไฟ
———————————————————————————————————————
ส่วนที่ 1: ชวนคิดก่อนซื้อ
อันดับ 1 เลยสำหรับจขก.คือทำเลคะ มาก่อนความเป็นมือหนึ่ง มือสองคะ
>> ทำเล
เค้าฮิตติดรถไฟฟ้ากันใช่มั้ยคะ ส่วนตัวที่เลือกคอนโดเลือกที่ตัวเองคิดว่าจะไปทำงานสะดวกที่สุดคะก็คิดเผื่อเรื่องขายต่อไว้บ้าง แต่ประเด็นที่ติดใจคือ คอนโดติดรถไฟฟ้ามันเยอะมากๆๆๆๆ เลยคะ สมัยนี้ เลยไม่รู้ว่าจะขายแข่งคนซื้อไว้ขายเหมือนกันด้วยข้อเด่นอะไร เพราะผู้ซื้อมีตัวเลือกมากเหลือเกิน
วิธีคิดของจขก.สำหรับที่จะเลือกคอนโดติดสถานีรถไฟฟ้า
รถไฟฟ้าห่างจากที่ทำงานกี่สถานี ? ใช้เงินเท่าไหร่ต่อวันในการเดินทาง? เทียบกับนั่งรถมอเตอร์ไซค์ สองแถว หรือ ขนส่งสาธารณะอื่นๆ แล้วเดินออกจากคอนโดขึ้นรถไฟฟ้านี่เร็วกว่าวิธีอื่นๆ มั้ย? (ไม่ใช่สรุปซื้อใกล้มากแต่ก็ต้องเดินทาง 30 นาที - 1 ชั่วโมงอยู่ดี เพราะต้องเปลี่ยนสถานี เปลี่ยนสายรถไฟฟ้า)
>> ห้องไหนดี?
ส่วนตัวไม่ได้เคร่งกับฮวงจุ้ยมาก แต่อ่านเยอะๆ แล้วคิดตามหลักฮวงจุ้ยก็มีเหตุผลจริง เช่น ประตูไม่ควรตรงกัน ทิศที่ควรอยู่ ตำแหน่งห้องน้ำ เป็นต้น
ปัจจัยที่ควรดู
• หน้าต่างอยู่ทิศไหน เนื่องจากเป็น source ของความร้อนที่จะเข้าห้อง และลมที่จะ flow ให้ห้องเย็น ที่ฮิตกันก็ทิศใต้ (ลม 6 เดือน, เหนือ ลม 4 เดือน แดดไม่ส่อง) แต่ถ้าอยากได้ทิศนั้นจริงๆ เช่น ตะวันออกแต่ไม่ชอบแดดเช้า ก็มี film ติด สะท้อนแดด มีม่านดำปี๋ แก้กันได้
• วิวถนน วิวเข้ากลางตึก วิวถนนก็เห็นบรรยากาศรอบๆ แต่ก็ต้องคิดเรื่องโอกาสมีอีกตึกสร้างขึ้นมาในอนาคต จ๊ะเอ๋ ห้องตรงกันพอดี ไม่ได้วิวอย่างที่หวังไว้ ร้อนอีกต่างหากถ้าลมไม่พัด แต่คงจะร่ม วิวเข้ากลางตึก เช่น สระน้ำ ส่วนกลาง ก็ต้องคิดด้วยว่าคนมาเดินเล่นส่วนกลางมองขึ้นแล้วจะเห็นเราได้อย่างไรบ้าง เช่น เห็นกกน.เราที่ตากนะ เห็นเงาเราเวลากลางคืน รวมทั้งหันเข้าตรงกลางก็คืออีกด้านหันหาเราเช่นกัน เราก็จะมีเพื่อนบ้านแนวหน้าต่างด้วย
• วัสดุที่สร้าง ข้อดีอีกอย่างของมือสองคือถ้ามีห้องขายหลายๆ ห้อง เราก็เดินดูแล้วสัมผัสอากาศ บรรยากาศในห้องแต่ละทิศได้เลย เคยดูที่เป็น pre-cast ทิศตะวันตก ตอนบ่าย ร้อนนนนนนนนนนนนนมากกก เลยตัดสินใจไม่เลือกทิศนั้นแน่นอน
• ชั้นไหน อ่านมาเค้าว่าให้เลือกอย่างน้อยชั้นที่ 5 เพราะเสียงจากถนนจะดังลดลงเรื่อยๆ แต่ก็จะแลกกับราคาที่แพงขึ้น เช่น add ราคาเพิ่ม 20,000-40,000 ต่อชั้น ส่วนประกอบเรื่องเสียงคือ ห้องหันทิศเข้าถนนหรือชุมชนที่เสียงดังมั้ย ด้านที่หันเข้ายังไงก็ดังกว่า
• การแบ่งส่วนของห้อง ทรงห้องและเสามีผลมาก บางโครงการฉลาดทำเอาส่วนเป็นเสาจัดเป็นขอบอะไรซักอย่าง เช่นหลืบให้เครื่องซักผ้าวางได้, ตู้เสื้อผ้า, ตู้เย็น >> ห้องโชว์รูมไม่มีเสาโชว์หรอกคะ ห้องตัวอย่างในโครงการก็จะไม่มีเช่นกัน (มารู้วันที่รับห้องนั่นแล) บางโครงการกั้นครัวปิดกระจกให้เลย (เหมาะกับคนชอบทำกับข้าว) บางโครงการเหลือที่นั่งเล่นแคบๆ (ก็น่าคิดว่าอยู่ไปนานๆ จะอึดอัดมั้ย) ปล.ที่น่าคิดมากๆ สำหรับคนชอบทำกับข้าว นอกจากกั้นห้องให้มั้ย คือ ครัวแถมอะไรบิ้วอินแบบไหน ถ้าไม่มีเตาไฟฟ้าที่ดูดควันให้เราจะติดเองยังไง จะวางจานตรงไหน ตู้เย็นมีที่วางพอมั้ย ไมโครเวฟจะหนักไปสำหรับวัสดุตู้บิ้วท์อินรึเปล่า และคนที่อยากเอาเครื่องซักผ้ามาวางก็ควรดูท่อน้ำ ว่ามีท่อระดับพื้นกับก๊อกสำหรับเครื่องซักผ้าอยู่ที่ตำแหน่งไหน เช่นระเบียง หรือ ห้องครัว (ห้องครัวถ้าใช้ท่อน้ำทิ้งร่วมกับอ่างล้างจาน คุณก็จะใช้ได้แต่เครื่องซักผ้าฝาหน้า)
• ห้องขยะ มีกี่ห้อง/ชั้น ห้องเราติดห้องขยะหรือไม่
• บันไดหนีไฟและลิฟท์ขนของ ลำพังบันไดหนีไฟก็ไม่เท่าไหร่ ถ้าอยู่ชั้นที่คนไม่เปิดเดินเข้าออก แต่ลิฟท์ขนของนี่สำคัญ คือ คนมาเก็บขยะวันละหลายๆ ครั้งเค้าก็จะลากผ่านหน้าห้องที่ใกล้ๆ ลิฟท์ แต่ๆ คุณอาจจะได้ประโยชน์เช่นกัน คือ ติดปล่องลิฟท์ก็ไม่ต้องระวังเรื่องเสียงดังไปห้องข้างๆ หรือห้องข้างๆ จะเสียงดังใส่
• ที่จอดรถและถนนโครงการ ทำเลที่โครงการตั้งส่วนใหญ่อยู่ในเมือง ก็น่าสนใจว่าถนนหน้าโครงการมีกี่เลน ถ้ามีคนอยู่เพิ่ม โครงการเรา + ข้างๆ + โครงการในอนาคต ถนนสายนี้จะรับการมีคนเยอะๆ แบบนั้นได้ไหม ที่จอดรถในโครงการพอมั้ย เดินจากที่จอดรถไกลแค่ไหนถึงจะกลับห้องได้ ต้องวนที่จอดรถเยอะแค่ไหนถ้าคนอยู่เต็มความจุ ตอนเช้าถ้าออกพร้อมกันรถเราจะติดในที่จอดรถมั้ย เคยดูโครงการหนึ่งจะขึ้น 3 ตึก รวมกันเป็นหมื่นๆ ยูนิต เดินเกือบ 800 เมตรกว่าจะถึงลิฟท์ขึ้นห้อง มีที่จอดรถอยู่ลึกๆ ลองคิดดูว่าทุกคนออก 7.30 น.พร้อมกัน 1,000 คัน ก็...ละ
• ส่วนกลาง ห้องใกล้ส่วนกลางไม่ดีแน่นอน ไม่ว่าจะอยู่ชั้นเดียวกัน ชั้นบน ชั้นล่าง เพราะเสียงมาแน่นอน และคนจะเดินผ่าน บางทีก็ต้องคิดไปถึง flow การเดินของคนที่จะมาใช้ส่วนกลาง ว่าจะผ่านหน้าห้องเรามั้ย เยอะแค่ไหน
ปล. ซื้อมือสองอย่าลืมสำรวจปลวก
>> มือหนึ่ง vs มือสอง
ก่อนจะซื้อนี่ไม่รู้ความแตกต่างในเรื่องความลำบากลำบนในการซื้อมือสองเลยคะ คิดแต่ว่าเออซื้อมือสองก็ดีนะ เราเห็นของเลยว่ามันเป็นยังไง ย้ายเข้าได้เลยด้วยไม่ต้องมารอ
มือหนึ่ง
ข้อดี
ดีในเรื่องราคาคะ ซื้อจากโครงการตั้งแต่ลงเสาก็จะถูกกว่าคนที่ซื้อทีหลังเพราะมีอัตราที่ต้องขึ้นราคาทุกปีของโครงการ อันนี้รู้เพราะเซลล์โครงการพยายามขายเลยอธิบายให้ฟัง และจริงที่มีคนเคยบอกว่าซื้อตอนใกล้สิ้นปีที่เค้าปิดงบจะลดได้เยอะพิเศษ เพราะเค้าอยากได้ยอด (นี่ก็ไปต่อเค้ามาได้เยอะเลย แต่ลงเอยซื้อมือสอง) และอีกกรณีที่จะถูกมากๆๆๆ คือ ขายจะหมดแล้ว เหลือไม่กี่ยูนิต เค้าอยากขายให้จบๆ เพราะจะปิดโครงการ เพื่อนจขก.ได้ราคาถูกกว่าปกติเป็นหลักล้านบาทเลยคะ เรื่องของใหม่ ห้องสดๆ ไม่แต่ง ไม่ช้ำก็เป็นอีกข้อดีคะ กู้เงินจากธนาคารก็ง่ายคะ ปัจจัยเดียวของเพดานกู้คือ background เราคะ
ข้อเสีย
ไม่รู้จักเพื่อนบ้าน ไม่รู้ว่าเค้าจะเสียงดัง สูบบุหรี่ มีสัตว์เลี้ยง หรือไม่ ไม่รู้ว่าห้องที่ได้จะมีปัญหาหรือไม่ มีโครงการหนึ่งที่เล็งไว้ (มือสอง) มีคนเล่าให้ฟังว่ามีหลายคนเจอปัญหาหลังรับห้อง ต้องรื้อพื้นใหม่หมดเพราะน้ำรั่ว หลายห้องมากๆ ไม่รู้สภาพห้องที่แท้จริง ตอนขายเค้าก็ไม่ได้บอกคุณหรอกคะ ว่าห้องที่เลือกมีเสามั้ย เสากลางห้องเลยรึเปล่า นี่ก็พึ่งรู้มาว่าโครงการที่ตกลงซื้อมีเสาทุกห้องกินที่มากน้อยต่างกัน ยกเว้นห้องติดบันไดหนีไฟ
มือสอง
ข้อดี
เห็นสภาพแวดล้อมจริง ทั้งสภาพห้องที่จะซื้อ เพื่อนบ้าน สังคม การจัดการของนิติ ปัญหาในโครงการ และสภาพแวดล้อมรอบๆ รวมทั้งจากคนที่อาศัยอยู่ก็ทำให้เราได้ไอเดียว่าหากเราอยากขายต่อ จะมีคนซื้อมั้ย
ข้อเสีย
ยาวไปคะ เหอะๆ เราจะต้องรบกับคนขายคะ คนขายที่ดีก็มี ไม่ดีก็... เชิญชวนติดตามชมนะคะ คิดว่าจขก.เจอปัญหาแทบจะทุกจุดที่เป็นไปได้ (พูดแล้วก็เศร้า)
เงินกู้ ธนาคารจะปล่อยกู้คอนโดมือสองให้ราคาไม่สูงเท่าเราอยากได้คะ ส่วนใหญ่ให้ 80% ราคาประเมิน ซึ่ง! แปลว่า 1. เราเสียค่าประเมิน (2,000-4,000 บาทยกเว้นมีโปร) 2. ราคาประเมินไม่ได้เยอะเท่าความรู้สึกเรานะคะ นี่ที่ได้มาก็ต่ำกว่าราคาขายเกือบ 400,000
ความวุ่นวายที่ต้องดำเนินการเอง หลังโอนกรรมสิทธิ์ ถ้าจะย้ายชื่อเข้าคอนโดเป็นเจ้าบ้านก็ต้องไปทำเองคะ น้ำไฟก็เป็นชื่อเจ้าของเดิมถ้าจะเปลี่ยนก็มีขั้นตอนอีกคะ (โปรดติดตามชม) ถ้าเป็นมือหนึ่งโครงการก็เตรียมให้เราหมดเสียตังอย่างเดียวคะ
อันนี้เล็กน้อยนะคะ ถ้ามีผู้เคยอยู่เดิม เค้าย้ายไปแต่ไม่จัดการเรื่องจดหมาย ก็จะเยอะท่วมตู้เลยคะ แต่จัดการได้คะ
ปล. สำคัญมากๆๆๆๆๆๆ นะคะ สำหรับคนซื้อมือสอง ตรวจห้องให้ดีก่อนตกลงใจนะคะ ตรงที่มักจะลืมดูกันคือขอบหน้าต่างคะ จขก.ก็มาโป๊ะแตกเจอทีหลังคะว่าขอบหน้าต่างด่านล่างรั่ว กำแพงด้านในลอก ต้องให้เค้ามายาแนวซ่อมหน้าต่างจากด้านนอกก่อน ด้านในก็ยังไม่ได้ซ่อมตอนซื้อ ด้านนอกนี่จริงๆ สัญญารับประกันตัวตึกของคนขายเค้าหมดแล้วนะคะ ที่โครงการสัญญาคือ 3 ปีหลังโอนมือหนึ่ง แปลว่าจริงๆ เค้าต้องจ่ายค่าซ่อมช่างโรยตัวเอง (ต้องโรยตัวเพื่อซ่อมจากด้านนอกตึก) แต่เค้าไปบันดาลมาจนเค้าไม่เสียตัง ด้านในห้องตอนนี้ยังพองอยู่เลยคะ แต่นิติบอกว่ามีประกันซ่อมได้เราไม่เสียตัง ตอนนี้ยุ่งๆ จขก.ก็ยังไม่ได้ลองเคลมคะว่าได้จริงมั้ย แต่ซ่อมข้างนอกแล้ว
ซื้อคอนโดมือสองทุกขั้นตอน ทำเล ธนาคาร สัญญา โอน ทะเบียนบ้าน น้ำไฟ และข้อควรระวังจากประสบการณ์เจ็บปวด
ขอให้กระทู้นี้เปรียบเสมือนทำบุญใหญ่สำหรับที่อยู่ใหม่ของเจ้าของกระทู้คะ สาาาาธุ๊
ส่วนที่ 1: ชวนคิดก่อนซื้อ (เน้นซื้อเพื่ออยู่หรืออาจจะขาย ไม่ใช่เพื่อธุรกิจนะคะ)
ส่วนที่ 2: สัญญาจะซื้อจะขาย จะได้อะไรบ้าง และ สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนโอนทั้งเอกสารและเงิน
ส่วนที่ 3 : โอนกรรมสิทธิ์ ทะเบียนบ้าน และน้ำไฟ
———————————————————————————————————————
ส่วนที่ 1: ชวนคิดก่อนซื้อ
อันดับ 1 เลยสำหรับจขก.คือทำเลคะ มาก่อนความเป็นมือหนึ่ง มือสองคะ
>> ทำเล
เค้าฮิตติดรถไฟฟ้ากันใช่มั้ยคะ ส่วนตัวที่เลือกคอนโดเลือกที่ตัวเองคิดว่าจะไปทำงานสะดวกที่สุดคะก็คิดเผื่อเรื่องขายต่อไว้บ้าง แต่ประเด็นที่ติดใจคือ คอนโดติดรถไฟฟ้ามันเยอะมากๆๆๆๆ เลยคะ สมัยนี้ เลยไม่รู้ว่าจะขายแข่งคนซื้อไว้ขายเหมือนกันด้วยข้อเด่นอะไร เพราะผู้ซื้อมีตัวเลือกมากเหลือเกิน
วิธีคิดของจขก.สำหรับที่จะเลือกคอนโดติดสถานีรถไฟฟ้า
รถไฟฟ้าห่างจากที่ทำงานกี่สถานี ? ใช้เงินเท่าไหร่ต่อวันในการเดินทาง? เทียบกับนั่งรถมอเตอร์ไซค์ สองแถว หรือ ขนส่งสาธารณะอื่นๆ แล้วเดินออกจากคอนโดขึ้นรถไฟฟ้านี่เร็วกว่าวิธีอื่นๆ มั้ย? (ไม่ใช่สรุปซื้อใกล้มากแต่ก็ต้องเดินทาง 30 นาที - 1 ชั่วโมงอยู่ดี เพราะต้องเปลี่ยนสถานี เปลี่ยนสายรถไฟฟ้า)
>> ห้องไหนดี?
ส่วนตัวไม่ได้เคร่งกับฮวงจุ้ยมาก แต่อ่านเยอะๆ แล้วคิดตามหลักฮวงจุ้ยก็มีเหตุผลจริง เช่น ประตูไม่ควรตรงกัน ทิศที่ควรอยู่ ตำแหน่งห้องน้ำ เป็นต้น
ปัจจัยที่ควรดู
• หน้าต่างอยู่ทิศไหน เนื่องจากเป็น source ของความร้อนที่จะเข้าห้อง และลมที่จะ flow ให้ห้องเย็น ที่ฮิตกันก็ทิศใต้ (ลม 6 เดือน, เหนือ ลม 4 เดือน แดดไม่ส่อง) แต่ถ้าอยากได้ทิศนั้นจริงๆ เช่น ตะวันออกแต่ไม่ชอบแดดเช้า ก็มี film ติด สะท้อนแดด มีม่านดำปี๋ แก้กันได้
• วิวถนน วิวเข้ากลางตึก วิวถนนก็เห็นบรรยากาศรอบๆ แต่ก็ต้องคิดเรื่องโอกาสมีอีกตึกสร้างขึ้นมาในอนาคต จ๊ะเอ๋ ห้องตรงกันพอดี ไม่ได้วิวอย่างที่หวังไว้ ร้อนอีกต่างหากถ้าลมไม่พัด แต่คงจะร่ม วิวเข้ากลางตึก เช่น สระน้ำ ส่วนกลาง ก็ต้องคิดด้วยว่าคนมาเดินเล่นส่วนกลางมองขึ้นแล้วจะเห็นเราได้อย่างไรบ้าง เช่น เห็นกกน.เราที่ตากนะ เห็นเงาเราเวลากลางคืน รวมทั้งหันเข้าตรงกลางก็คืออีกด้านหันหาเราเช่นกัน เราก็จะมีเพื่อนบ้านแนวหน้าต่างด้วย
• วัสดุที่สร้าง ข้อดีอีกอย่างของมือสองคือถ้ามีห้องขายหลายๆ ห้อง เราก็เดินดูแล้วสัมผัสอากาศ บรรยากาศในห้องแต่ละทิศได้เลย เคยดูที่เป็น pre-cast ทิศตะวันตก ตอนบ่าย ร้อนนนนนนนนนนนนนมากกก เลยตัดสินใจไม่เลือกทิศนั้นแน่นอน
• ชั้นไหน อ่านมาเค้าว่าให้เลือกอย่างน้อยชั้นที่ 5 เพราะเสียงจากถนนจะดังลดลงเรื่อยๆ แต่ก็จะแลกกับราคาที่แพงขึ้น เช่น add ราคาเพิ่ม 20,000-40,000 ต่อชั้น ส่วนประกอบเรื่องเสียงคือ ห้องหันทิศเข้าถนนหรือชุมชนที่เสียงดังมั้ย ด้านที่หันเข้ายังไงก็ดังกว่า
• การแบ่งส่วนของห้อง ทรงห้องและเสามีผลมาก บางโครงการฉลาดทำเอาส่วนเป็นเสาจัดเป็นขอบอะไรซักอย่าง เช่นหลืบให้เครื่องซักผ้าวางได้, ตู้เสื้อผ้า, ตู้เย็น >> ห้องโชว์รูมไม่มีเสาโชว์หรอกคะ ห้องตัวอย่างในโครงการก็จะไม่มีเช่นกัน (มารู้วันที่รับห้องนั่นแล) บางโครงการกั้นครัวปิดกระจกให้เลย (เหมาะกับคนชอบทำกับข้าว) บางโครงการเหลือที่นั่งเล่นแคบๆ (ก็น่าคิดว่าอยู่ไปนานๆ จะอึดอัดมั้ย) ปล.ที่น่าคิดมากๆ สำหรับคนชอบทำกับข้าว นอกจากกั้นห้องให้มั้ย คือ ครัวแถมอะไรบิ้วอินแบบไหน ถ้าไม่มีเตาไฟฟ้าที่ดูดควันให้เราจะติดเองยังไง จะวางจานตรงไหน ตู้เย็นมีที่วางพอมั้ย ไมโครเวฟจะหนักไปสำหรับวัสดุตู้บิ้วท์อินรึเปล่า และคนที่อยากเอาเครื่องซักผ้ามาวางก็ควรดูท่อน้ำ ว่ามีท่อระดับพื้นกับก๊อกสำหรับเครื่องซักผ้าอยู่ที่ตำแหน่งไหน เช่นระเบียง หรือ ห้องครัว (ห้องครัวถ้าใช้ท่อน้ำทิ้งร่วมกับอ่างล้างจาน คุณก็จะใช้ได้แต่เครื่องซักผ้าฝาหน้า)
• ห้องขยะ มีกี่ห้อง/ชั้น ห้องเราติดห้องขยะหรือไม่
• บันไดหนีไฟและลิฟท์ขนของ ลำพังบันไดหนีไฟก็ไม่เท่าไหร่ ถ้าอยู่ชั้นที่คนไม่เปิดเดินเข้าออก แต่ลิฟท์ขนของนี่สำคัญ คือ คนมาเก็บขยะวันละหลายๆ ครั้งเค้าก็จะลากผ่านหน้าห้องที่ใกล้ๆ ลิฟท์ แต่ๆ คุณอาจจะได้ประโยชน์เช่นกัน คือ ติดปล่องลิฟท์ก็ไม่ต้องระวังเรื่องเสียงดังไปห้องข้างๆ หรือห้องข้างๆ จะเสียงดังใส่
• ที่จอดรถและถนนโครงการ ทำเลที่โครงการตั้งส่วนใหญ่อยู่ในเมือง ก็น่าสนใจว่าถนนหน้าโครงการมีกี่เลน ถ้ามีคนอยู่เพิ่ม โครงการเรา + ข้างๆ + โครงการในอนาคต ถนนสายนี้จะรับการมีคนเยอะๆ แบบนั้นได้ไหม ที่จอดรถในโครงการพอมั้ย เดินจากที่จอดรถไกลแค่ไหนถึงจะกลับห้องได้ ต้องวนที่จอดรถเยอะแค่ไหนถ้าคนอยู่เต็มความจุ ตอนเช้าถ้าออกพร้อมกันรถเราจะติดในที่จอดรถมั้ย เคยดูโครงการหนึ่งจะขึ้น 3 ตึก รวมกันเป็นหมื่นๆ ยูนิต เดินเกือบ 800 เมตรกว่าจะถึงลิฟท์ขึ้นห้อง มีที่จอดรถอยู่ลึกๆ ลองคิดดูว่าทุกคนออก 7.30 น.พร้อมกัน 1,000 คัน ก็...ละ
• ส่วนกลาง ห้องใกล้ส่วนกลางไม่ดีแน่นอน ไม่ว่าจะอยู่ชั้นเดียวกัน ชั้นบน ชั้นล่าง เพราะเสียงมาแน่นอน และคนจะเดินผ่าน บางทีก็ต้องคิดไปถึง flow การเดินของคนที่จะมาใช้ส่วนกลาง ว่าจะผ่านหน้าห้องเรามั้ย เยอะแค่ไหน
ปล. ซื้อมือสองอย่าลืมสำรวจปลวก
>> มือหนึ่ง vs มือสอง
ก่อนจะซื้อนี่ไม่รู้ความแตกต่างในเรื่องความลำบากลำบนในการซื้อมือสองเลยคะ คิดแต่ว่าเออซื้อมือสองก็ดีนะ เราเห็นของเลยว่ามันเป็นยังไง ย้ายเข้าได้เลยด้วยไม่ต้องมารอ
มือหนึ่ง
ข้อดี
ดีในเรื่องราคาคะ ซื้อจากโครงการตั้งแต่ลงเสาก็จะถูกกว่าคนที่ซื้อทีหลังเพราะมีอัตราที่ต้องขึ้นราคาทุกปีของโครงการ อันนี้รู้เพราะเซลล์โครงการพยายามขายเลยอธิบายให้ฟัง และจริงที่มีคนเคยบอกว่าซื้อตอนใกล้สิ้นปีที่เค้าปิดงบจะลดได้เยอะพิเศษ เพราะเค้าอยากได้ยอด (นี่ก็ไปต่อเค้ามาได้เยอะเลย แต่ลงเอยซื้อมือสอง) และอีกกรณีที่จะถูกมากๆๆๆ คือ ขายจะหมดแล้ว เหลือไม่กี่ยูนิต เค้าอยากขายให้จบๆ เพราะจะปิดโครงการ เพื่อนจขก.ได้ราคาถูกกว่าปกติเป็นหลักล้านบาทเลยคะ เรื่องของใหม่ ห้องสดๆ ไม่แต่ง ไม่ช้ำก็เป็นอีกข้อดีคะ กู้เงินจากธนาคารก็ง่ายคะ ปัจจัยเดียวของเพดานกู้คือ background เราคะ
ข้อเสีย
ไม่รู้จักเพื่อนบ้าน ไม่รู้ว่าเค้าจะเสียงดัง สูบบุหรี่ มีสัตว์เลี้ยง หรือไม่ ไม่รู้ว่าห้องที่ได้จะมีปัญหาหรือไม่ มีโครงการหนึ่งที่เล็งไว้ (มือสอง) มีคนเล่าให้ฟังว่ามีหลายคนเจอปัญหาหลังรับห้อง ต้องรื้อพื้นใหม่หมดเพราะน้ำรั่ว หลายห้องมากๆ ไม่รู้สภาพห้องที่แท้จริง ตอนขายเค้าก็ไม่ได้บอกคุณหรอกคะ ว่าห้องที่เลือกมีเสามั้ย เสากลางห้องเลยรึเปล่า นี่ก็พึ่งรู้มาว่าโครงการที่ตกลงซื้อมีเสาทุกห้องกินที่มากน้อยต่างกัน ยกเว้นห้องติดบันไดหนีไฟ
มือสอง
ข้อดี
เห็นสภาพแวดล้อมจริง ทั้งสภาพห้องที่จะซื้อ เพื่อนบ้าน สังคม การจัดการของนิติ ปัญหาในโครงการ และสภาพแวดล้อมรอบๆ รวมทั้งจากคนที่อาศัยอยู่ก็ทำให้เราได้ไอเดียว่าหากเราอยากขายต่อ จะมีคนซื้อมั้ย
ข้อเสีย
ยาวไปคะ เหอะๆ เราจะต้องรบกับคนขายคะ คนขายที่ดีก็มี ไม่ดีก็... เชิญชวนติดตามชมนะคะ คิดว่าจขก.เจอปัญหาแทบจะทุกจุดที่เป็นไปได้ (พูดแล้วก็เศร้า)
เงินกู้ ธนาคารจะปล่อยกู้คอนโดมือสองให้ราคาไม่สูงเท่าเราอยากได้คะ ส่วนใหญ่ให้ 80% ราคาประเมิน ซึ่ง! แปลว่า 1. เราเสียค่าประเมิน (2,000-4,000 บาทยกเว้นมีโปร) 2. ราคาประเมินไม่ได้เยอะเท่าความรู้สึกเรานะคะ นี่ที่ได้มาก็ต่ำกว่าราคาขายเกือบ 400,000
ความวุ่นวายที่ต้องดำเนินการเอง หลังโอนกรรมสิทธิ์ ถ้าจะย้ายชื่อเข้าคอนโดเป็นเจ้าบ้านก็ต้องไปทำเองคะ น้ำไฟก็เป็นชื่อเจ้าของเดิมถ้าจะเปลี่ยนก็มีขั้นตอนอีกคะ (โปรดติดตามชม) ถ้าเป็นมือหนึ่งโครงการก็เตรียมให้เราหมดเสียตังอย่างเดียวคะ
อันนี้เล็กน้อยนะคะ ถ้ามีผู้เคยอยู่เดิม เค้าย้ายไปแต่ไม่จัดการเรื่องจดหมาย ก็จะเยอะท่วมตู้เลยคะ แต่จัดการได้คะ
ปล. สำคัญมากๆๆๆๆๆๆ นะคะ สำหรับคนซื้อมือสอง ตรวจห้องให้ดีก่อนตกลงใจนะคะ ตรงที่มักจะลืมดูกันคือขอบหน้าต่างคะ จขก.ก็มาโป๊ะแตกเจอทีหลังคะว่าขอบหน้าต่างด่านล่างรั่ว กำแพงด้านในลอก ต้องให้เค้ามายาแนวซ่อมหน้าต่างจากด้านนอกก่อน ด้านในก็ยังไม่ได้ซ่อมตอนซื้อ ด้านนอกนี่จริงๆ สัญญารับประกันตัวตึกของคนขายเค้าหมดแล้วนะคะ ที่โครงการสัญญาคือ 3 ปีหลังโอนมือหนึ่ง แปลว่าจริงๆ เค้าต้องจ่ายค่าซ่อมช่างโรยตัวเอง (ต้องโรยตัวเพื่อซ่อมจากด้านนอกตึก) แต่เค้าไปบันดาลมาจนเค้าไม่เสียตัง ด้านในห้องตอนนี้ยังพองอยู่เลยคะ แต่นิติบอกว่ามีประกันซ่อมได้เราไม่เสียตัง ตอนนี้ยุ่งๆ จขก.ก็ยังไม่ได้ลองเคลมคะว่าได้จริงมั้ย แต่ซ่อมข้างนอกแล้ว