คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ปริยัติ คือ การศึกษาเล่าเรียนภาคทฤษฏี ความรู้ภาคทฤษฎี การพูด/เขียน/อ่าน ภาคทฤษฎี
ผิด ปริยัติคือพระพุทธพจน
การเล่าเรียน ไม่ใช่ปริยัติ
คนที่อยากเรียนแบบงูพิษ ถือว่ารู้ปริยัติหรือไม่
ปริยัติมี 3แบบ ก็เรียนแบบไหน ผิดแล้ว
รู้ปริยัติไม่ใช่รู้แบบงูพิษ
ต้องการรู้ปริยัติ แบบงูพิษ
หรือต้องการรู้ปริยัติแบบเถรใบลานเปล่า
หรือต้องการรู้ปริยัติแบบหนอนตำรา
รู้ปริยัติตัวจริง
ผิด ปริยัติคือพระพุทธพจน
การเล่าเรียน ไม่ใช่ปริยัติ
คนที่อยากเรียนแบบงูพิษ ถือว่ารู้ปริยัติหรือไม่
ปริยัติมี 3แบบ ก็เรียนแบบไหน ผิดแล้ว
รู้ปริยัติไม่ใช่รู้แบบงูพิษ
ต้องการรู้ปริยัติ แบบงูพิษ
หรือต้องการรู้ปริยัติแบบเถรใบลานเปล่า
หรือต้องการรู้ปริยัติแบบหนอนตำรา
รู้ปริยัติตัวจริง
แสดงความคิดเห็น
ปริยัติ ที่แท้จริง ต้องตรวจสอบได้
ทำให้เกิดสัจจญาณ กิจญาณ กตญาณ
แล้วมาบอกว่าอ่านตำราจบแล้ว
เรียนจบมหาฯแล้วเกิดปริยัติแล้ว
พวกนี้หลงทั้งนั้น
ปริยัติจะเกิดได้ ก็ต่อเมื่อสิ่งที่เราอ่านเราเรียนมา
เอามาปฏิบัติ แล้วเกิดปฏิเวธ จึงเรียกว่าปริยัติ
เพราะตรวจสอบได้ว่าตำราเขียนมาถูกต้อง
ยืนยันได้ด้วยการ ปฏิบัติ ที่ได้ ปฏิเวธ
อ่านตำราจบแล้ว เรียนจบมหาฯแล้ว
ไม่ใช่มีปริยัติ แต่เป็นความรู้ความจำ ทางโลก
แค่รู้ธรรมะ ไม่ใช่ปริยัติ ทางธรรม
การอ่าน ก เอ๋ย กอ ไก่ ของเด็กอนุบาล
ก็บอกว่าเป็นปริยัติ ได้หมด
การสวดมนต์ของเด็ก ก็บอกปริยัติ
ก็ไม่ต้องไปปฏิบัติ ให้เกิดปฏิเวธแล้ว
การอ่านตำราได้ การรู้พระไตรปิฏกไม่ใช่ปริยัติ
ถ้าเป็นปริยัติต้องปฏิบัติได้ ตามที่ตนรู้มา
แล้วเกิดปฏิเวธ เป็นการยืนยันตนเอง
ปริยัติแค่ปฏิบัติได้แต่ไม่เกิดปฏิเวธ ก็ไม่ใช่ปริยัติ
เพราะไม่รู้ว่าการปฏิบัติของตน จะถูกหรือผิด
ตรงตามพระไตรปิฏกหรือเปล่า
หรือคนเขียนตำราเขียนผิด
ต้องปฏิบัติเกิดปฏิเวธ จึงจะยืนยันได้ว่าตำราเขียนถูก
จึงจะยืนยันได้ว่าตนรู้ปริยัติจริง