คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
จากที่อ่าน ยังไม่เข้าใจประเด็นที่ จขกท.จะนำเสนอ ลองอธิบายประเด็นให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ
จากที่อ่าน เหมือนไปเน้นประเด็นทวงหนี้ ซึ่งก็ไม่ควรติดกรอบ บัตรเครดิต
เพราะตามกฏหมายใหม่ เป็นหนี้ได้แค่ 3 เจ้า และการทวงหนี้ก็ถูกจำกัดตามกฏหมาย
มันจะไม่ได้ภาพความเข้มข้นในการทวง ต่างจากหนี้นอกระบบ ที่ทวงแบบผิดกฏหมาย
ถ้าจะเล่นประเด็นบัตรเครดิตจริง ควรเน้น เรื่องพฤติกรรมการใช้ที่ผิดเป็นอย่างไร ทำให้เป็นหนี้จนไม่สามารถชำระได้
แต่ถ้าต้องการให้ได้ประเด็นใหม่ๆ และเกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต (ผมยังไม่เคยเห็นใครทำนะ)
คือเห็นร้านค้าหลายที่ เริ่มเปลี่ยนป้ายราคา จากที่ราคาเต็มจะตัวใหญ่ ราคาผ่อนจะตัวเล็ก
เป็นราคาผ่อนตัวใหญ่ ราคาเต็มตัวเล็กจนแถบหาไม่เจอ (ดูตัวอย่างที่ร้านสินค้า IT ยี่ห้อผลไม้)
สามารถเอามาเล่นประเด็น ซ้ำเติมปัญหาการใช้จ่ายเกินตัว จนไม่สามารถชำระไหว
จากที่อ่าน เหมือนไปเน้นประเด็นทวงหนี้ ซึ่งก็ไม่ควรติดกรอบ บัตรเครดิต
เพราะตามกฏหมายใหม่ เป็นหนี้ได้แค่ 3 เจ้า และการทวงหนี้ก็ถูกจำกัดตามกฏหมาย
มันจะไม่ได้ภาพความเข้มข้นในการทวง ต่างจากหนี้นอกระบบ ที่ทวงแบบผิดกฏหมาย
ถ้าจะเล่นประเด็นบัตรเครดิตจริง ควรเน้น เรื่องพฤติกรรมการใช้ที่ผิดเป็นอย่างไร ทำให้เป็นหนี้จนไม่สามารถชำระได้
แต่ถ้าต้องการให้ได้ประเด็นใหม่ๆ และเกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต (ผมยังไม่เคยเห็นใครทำนะ)
คือเห็นร้านค้าหลายที่ เริ่มเปลี่ยนป้ายราคา จากที่ราคาเต็มจะตัวใหญ่ ราคาผ่อนจะตัวเล็ก
เป็นราคาผ่อนตัวใหญ่ ราคาเต็มตัวเล็กจนแถบหาไม่เจอ (ดูตัวอย่างที่ร้านสินค้า IT ยี่ห้อผลไม้)
สามารถเอามาเล่นประเด็น ซ้ำเติมปัญหาการใช้จ่ายเกินตัว จนไม่สามารถชำระไหว
แสดงความคิดเห็น
มาช่วยกันคิด หนังสั่นสะท้อนสังคมเกี่ยวกับหนี้บัตรเครดิต
เอกเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง เขาเพิ่งเรียนจบและเริ่มทำงานได้ประมาณ 6 เดือน เอกเป็นคนที่มักจะอยากได้นู้นอยากได้นี่ตลอดเวลา เขาได้เริ่มทำบัตรเครดิต และหลังจากนั้นเขาก็ใช้จ่ายอย่าฟุ้มเฟือย เงินเดือนแร่ละเดือนของเขามักจะหมดไปกับการผ่อนจากหนี้จากบัตรเครดิต และสุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถหาเงินมาผ่อนหนี้จากบัตรเครดิตของเขาได้ทัน ทางบริษัทได้ส่งจดหมาย และโทรมาแจ้งกับเอกต้องหาเงินมาจ่ายยอดที่เขาค้างชำระอยู่ ไม่อย่างนั้นทางบริษัทจะทำการอายัดเงินและดำเนินคดีตามกฎหมาย เอกรู้สึกกลัวและกังวลมาก เขาจึงไม่กล้ารับโทรศัพท์จากเบอร์แปลกที่โทรเข้ามา จนทางบริษัทได้โทรเข้าไปยังที่ทำงานของเอก แต่วันนั้นเอกไม่อยู่ทางบริษัทจึงแจ้งเรื่องหนี้วินของเอกแก่เพื่อนร่วมงานของเขา เมื่อเพื่อนของเอกได้บอกกับเอกว่า ถ้าเอกไม่ไปชำระหนี้บัตรเครดิตที่ค้างไว้ทางบริษัทจะส่งพนีกงานบังคับคดีมาอายัดเงินเดือนของเขา หลังจากเลิกงานเอกกำลังเดินทางกลับบ้านตามปกติ เอกสังเหตได้ถึงสิ่งผิดปกติเอกรู้สึกว่าเหมือนมีคนกำลังเดินตามเขาอยู่ ด้วยความที่เอกกลัวว่าจะพวกที่มาตามทางหนี้ เอกจึงวิ่งหนีไป แต่เอกก็ต้องหยุดเมื่องเขาพบกับทางตัน เอกหันหลังกลับมาพบว่ามีคนตามเขามาจริงๆ เอกรู้สึกกลัวว่าจะเอกจึงยกมือไหว้ ชายคนที่วิ่งตามเอกมาจึงยื่นของให้กับเอก เอกรู้สึกโล่งใจ และรับเอากระเป๋าเงินจากชายคนนั้น และเอกก็เดินกลับบ้าน ระหว่างทางที่เอกเดินกละบเขาได้ไปพบกับกระดาษสีขาวที่แปะอยู่ข้างเสาไป ข้อความได้ระบุว่า "เงินด่วนทันใจ" เอกยืนจ้อฝกระดาษแผ่นนั้นอยู่สักพัก แล้วเอกก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์