อายุ16ปี มาเรียนฟิลิปปินส์ คิดถึงบ้าน ทรมานมาก หาคนคอยแนะนำเรื่องการใช้ชีวิตในประเทศนี้ครับ

พอดีพ่อแม่ส่งมาเรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์3เดือนครับ(เพราะค่าเครื่องบิน/เรียน ถูกมาก) ปกติอยู่ไทยก้อชอบออกไปเที่ยวกับเพื่อนแต่ก้อมีนิสัยติดบ้านมากกก มาอยู่ที่นี่วันนี้ก้อวันที่ 5 มาแล้วรู้สึกคิดถึงทุกอย่างที่ไทย เพราะที่นี่ล้าหลังมาก อินเทอร์เน็ตไม่ดีหรือไม่มีเลยดีกว่า มานี่ผมก็เที่ยวไปบ้างแล้วก้อเริ่มเบื่อเที่ยว เพราะไปไหนไกลไม่ได้โฮสสั่ง บางวันว่างทั้งวันไม่มีไรทำเลย ออกไปเที่ยวก็เบื่อ พยายามหาอะไรทำก็แล้ว จะร้องไห้ตลอด แล้วประเด็นคือไปการเรียนครั้งนี้ผมเรียนที่มหาวิทยาลัยในบาเกียว เป็นคอร์สภาษาอังกฤษนานาชาติขนาดย่อม ตารางแต่ละวันเรียนแค่  2-3 ชม เองนอกนั้นว่าง แต่ยังไม่เริ่มเรียนนะ อิกอย่างคนที่มาเรียน ผมเดาว่าจะเป็นคนต่างชาติที่เป็นผู้ใหญ่ เลยกลัวว่าจะไม่มีเพื่อนครับถ้าไปเรียนในโรงเรียนงี้ยังรู้สึกโล่งหน่อยเพราะตัวเองก้อค่อนข้างเฟรนลี่ ผมทรมานมากเลย เอาจริงๆแล้วสภาพแบบผมก้อพูดได้ตรงๆว่า แม่ส่งมาดัดสันดาน เพราะอยุ่ไทยค่อนข้างจะเป็นลูกคุณหนู(แต่ทำงานบ้านงานครัวเป็นนะ!) คือผมตั้งกระทู้นี้มาก้อเผื่อมีคนแนะนำวิธีทำให้ไม่คิดถึงบ้าน เผื่อมีคนไทยที่อยุ่ฟิลิปปินส์คอยแนะนำเรื่องการใช้ชีวิตในฟิลิปปินส์ครับ และก้อเปนที่ระบายครับ ช่วยหน่อยนะครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
1. ทุกสิ่งอย่างขึ้นอยู่กับตัวน้องครับ ว่าเปิดใจรับมันได้ไหม? เท่าที่อ่านกระทู้ของน้อง คือ น้องอคติ ตั้งแต่คุณพ่อคุณแม่น้องส่งมาเรียนที่นี้แล้วครับ เพราะน้องไม่อยากมา ไม่อยากห่างเพื่อน ห่างบ้านที่แสนสุข แสนสบาย ในส่วนนี้ ต้องปรับตัวที่น้องก่อนนะครับ แนะนำ ติดต่อลุงตู่ ปรับทัศนคติตัวเองก่อน
2. นี้อาจจะเป็นครั้งแรก ที่น้องได้เผชิญกับสิ่งใหม่ ๆ ในรูปแบบของคำว่าล้าหลัง (ตามที่น้องคิด)  เลยทำให้รู้สึกไม่พอใจ แต่ถ้าย้อนคิดไปว่า เมื่อ 20-30 ปีก่อนนั้น คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่ของเรา ยังผ่านจุดที่ไม่มีมือถือ เวลาติดต่อกันไกล ๆ ก็ผ่านตัวหนังสือบนแผ่นกระดาษ ที่เรียกว่า จดหมาย ขนาดพวกท่านยังผ่านมาได้ เรื่องแค่นี้ เราก็ต้องผ่านไปได้เช่นกัน
3. ไม่มีพ่อแม่คนไหน อยากให้ลูกลำบากหรอกครับ ถ้าพวกท่านอยากให้เราลำบากจริง ก็คงตัดงบการเงิน หรือไม่ให้เงินน้องเวลาที่น้องยังแบมือขอพวกท่าน ที่พี่เข้าใจ คือ กำลังส่งที่มากสุดที่พวกท่านทำได้ เชื่อว่า ถ้ามีเงินมากกว่านี้ ก็อยากส่งให้น้องไป อเมริกา ยุโรป หรือ ที่ไหน ๆ ก็ตามแต่ ที่น้องอยากไป
4. พอมาพูดถึงตรงนี้ พี่มองว่า น้องก็ไม่ได้ "เลว" หรือ "ชั่ว" ถึงขนาดพ่อแม่จะไม่รักนะครับ อย่างน้อยใจกับสิ่งที่พวกท่านทำเลยครับ ให้ลองคิดในแง่บวกสิครับ คิดว่า ท่านอยากให้เราเก่งภาษาขึ้น  รู้จักเรียนรู้โลกมากขึ้น
5. คราวนี้ กลับมาพูดเรื่อง การเรียนของน้อง ในเมื่อชั่วโมงของการเรียนห้องมันน้อย เราก็ต้องหัดเปิดโอกาสให้ตัวเอง เป็นคนเริ่มก่อน พูดคุยกับเพื่อน หรือคนที่เราเห็นหน้าคาดตาประจำ จะช่วยให้เราเก่งภาษามากขึ้น คนเราจะเก่งขึ้นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราว่าจะปรับตัวอย่างไง
6. ในเมื่อเราสายเที่ยว ก็ควรที่จะไปเที่ยว แต่ก็ต้องมีลิมิตในตัวเองด้วย เขาใจว่า อยู่ไทย มีเพื่อนเที่ยว ไปไหนไปกัน แต่อยู่บาเกียว แล้วต้องอยู่คนเดี่ยว งั้น เราก็ใช่ช่วงเวลานี้ เรียนรู้การเที่ยวแบบคนเดี่ยวสิครับ ถ้าเราชอบเที่ยวต่างถิ่น ก็เริ่มจาก กำหนดเป้าหมายที่จะเที่ยวก่อน จากนั้น วางแผนการท่องเที่ยวดี ๆแล้วก็เริ่มเดินทางท่องเที่ยวเลย สนุกนะครับ พี่เคยเที่ยวคนเดี่ยวบ่อย ๆ หลงทางบ้าง เหงาบ้าง แต่มันก็ทำให้เรา กล้า ที่จะออกจากบ้าน แต่ถ้าเราชอบเที่ยวแบบกลางคืน ลองเปิดใจกับคนที่จะไปเจอในผับบาร์ ก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป (แต่น้องเพิ่ง 16 "ควร"ละเรื่องนี้ไว้ก่อนนะครับ) และถ้าน้องชอบเที่ยว มอล หรือห้าง ส่วนนี้อาจจะเหงา ๆ ไปบ้าง แต่ข้อดีก็มี เวลาเราจะแช่ หรือจะเดินไปไหน ก็ไม่มีใครบ่นเรา
7. เรื่องสนุก ๆ กำลังรอเราอยู่หลังจากนี้ เปิดใจให้มากกว่าเดิม แล้วอะไร ๆ ก็จะดีขึ้นครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่