ผมเป็นวัยรุ่นวัยย่าง 20 ปีที่ยากจนคนนึง ในอำเภอเล็กๆ ของจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศนี้ เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้คือเรื่องจริงทั้งหมดซึ่งมันเป็นรากข่มขืนในใจของผมมาตลอด 5 ปี (นับตั้งแต่ปี ค.ศ.2014) เรื่องของเรื่องคือ ผมได้สมัครเรียน ม.4 ณ โรงเรียนประจำอำเภอแห่งหนึ่ง จำนวน 3 ครั้ง หรือ 3 ปี แต่เรียนได้ไม่ถึงครึ่งเทอมก็ต้องลาออก เพราะ เกิดความหมาดหมางระหว่าง ครูกับผม เรื่องมันมีอยู่ว่าในปีแรกที่ผมลงสมัคร ม.4 ไว้นั้นมีเรื่องขัดแย้งกันทางด้านศาสนา ผมนับถือคริสต์ ส่วนโรงเรียนผมเป็นวิถีพุทธ มีอยู่เหตุการณ์นึงที่ทางโรงเรียนจัดกิจกรรมเข้าค่ายธรรมะ ณ วัดแห่งนึง เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน มีสตาฟหรือนักเรียนรุ่นพี่ที่คุณครูจัดให้ดูแลรุ่นน้องมาถามไถ่ผมตลอดเวลา ซึ่งเป็นการรบกวนในการปฎิบัติธรรมของผมเป็นอย่างมาก มีอยู่วันนึงผมทนไม่ไหวออกจากลานฟังธรรมไปร้องไห้ในห้องน้ำ ร้องไห้เสียงดังมากๆครับ ครูจึงพาผมกลับบ้านกระทันหัน ในรถครูก็พยายามถามผมประมาณว่า พระเจ้าช่วยอะไรเธอเหรอ? ทำไมเธอถึงเชื่อจนไม่ลืมหูลืมตาขนาดนี้? แถมเขกหัวผมด้วย! หลังจากเหตุการณ์วันนั้นก็เกิดเรื่องราวต่างๆนาๆเหมือนมีการ เซตอัพ กันขึ้นมาเพื่อให้ผมมีความรู้สึกแย่มากๆ เช่น ใส่ร้ายว่าผมเอาบัตรคูปองแลกอาหารไปแลกเป็นเงินที่ร้านค้าในโรงเรียนบ้างหละ ฯลฯ จนผมทนไม่ไหวลาออกจากโรงเรียน ที่ผมสมัครโรงเรียนเดิมที่เกิดเรื่องหมาดหมางกัน ถึง 3 ปี ไม่สมัครโรงเรียนอื่นเหตุเพราะฐานะบ้านผมยากจนไม่สามารถสมัครโรงเรียนอื่นซึ่งมีค่าใช้จ่ายอื่นๆตามมาได้ ตอนที่ผมสมัครปีที่ 2 (ค.ศ. 2015) ผมลาออกเนื่องจากมีเพื่อนคนนึงที่เคยเรียนปีเดียวกันมาถามผมว่าผมไปพูดใส่ร้ายเขากับครูวิชาชีวะเหรอ? จากนั้นผมก็ไปถามคุณครูที่สอนวิชาชีวะ ครูที่สอนวิชาชีวะก็ตะคอกใส่ผมว่าให้ไปถามมันเองสิ! ครูไม่รู้ไม่เห็นไม่เกี่ยวอะไรทั้งนั้น!! ผมถึงกับช็อกเข้า รพ.จิตเวช ที่ผมรักษาตัวอยู่ ได้นอนรักษาตัวใน รพ.จิตเวช เป็นเวลาประมาณ 10 กว่าวัน ผมก็ออกมาจาก รพ. จิตเวช เพื่อมาเซ็นลาออกจากโรงเรียนเป็นครั้งที่ 2 และปีล่าสุดที่ผมสมัครโรงเรียนนี้คือปี ค.ศ.2017 ล่าสุดผมขอร้องให้คุณแม่ไปเรียนที่ไหนก็ได้ได้ที่ไม่ใช่โรงเรียนนี้ แต่แม่ก็พยายามเล่าให้ผมฟังนะ ว่า ครอบครัวเรามีเงินเท่านี้ ถ้าไปโรงเรียนอื่นค่าใช้จ่ายมันแพง แต่พอผมไปสมัคร ก้าวแรกที่ผมไปสมัครผมก็ได้รับคำตักเตือนจากเหล่าคุณครูอย่างรุนแรงแต่ผมก็พูดจาอยากเข้าโรงเรียนเพื่อคุณแม่ เพราะ ผมอยากเรียนจบ ม.6 อยากเรียนในระบบเพราะผมอยากมีเพื่อนในรั้วโรงเรียน อยากได้ความรู้จากคุณครูที่ดี การที่เรียน กศน. อย่างที่ผมเรียนอยู่ในทุกวันนี้ผมต้องหาความรู้เอง ครูก็สอนน้อยมากๆ ไม่เคร่งครัดเหมือนในโรงเรียน การสอบเข้ามหา'ลัยดีๆ ที่มีชื่อเสียงในประเทศนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยิ่งสำหรับเด็ก กศน. แล้ว เป็นเรื่องยากกว่าเด็กที่เรียนในระบบอีก พอคุณครูอนุญาติให้ผมสมัครเรียนได้ ไม่เกิน 3 อาทิตย์ ผมก็ลาออก เพราะ มีคนเอารองเท้าผมไป ตอนนั้นผมอารมณ์ชั่ววู่วามพาแม่ผมไปลาออกที่โรงเรียน ผมพูดให้คุณครูฟังว่าผมไม่อยากเรียนโรงเรียนนี้เลย ที่ผมเดินมาสมัครเพราะแม่ล้วนๆ จากนั้นครูก็บอกให้ผมเซ็นใบลาออกเป็นครั้งที่ 3 ปัจจุบันผมได้เป็นนักเรียน ม.ปลาย ที่ กศน. อำเภอแห่งหนึ่ง ทั้งๆที่ตอนนี้เพื่อนๆผมได้ศึกษาในระดับชั้น ม'หาลัย กันแล้ว ความฝันผมแตกสลาย ทุกๆเหตุการณ์ที่ผมสังหรณ์ใจไว้แล้วมันเกิดขึ้นให้เห็นกับตา มันจดจำทำให้เป็นทุกข์อยู่จนทุกวันนี้ ฝันร้ายทุกๆคืนด้วยครับ เท่าที่ผมเล่ามายังมีเหตุการณ์อีกมากมายที่ผมยังไม่ได้เล่า ต่อจากนี้ผมควรใช้ชีวิตอย่างไรดี เรียน กศน. แล้วจะต่อ ม'หาลัย ได้ไหม? ครับ ตอนนี้ผมเสียดายอนาคตมากๆ ถ้าผมไม่ผิดกับครูเพราะเรื่องงี่เง่าแบบนี้ ผมคงได้เหยียบ ม'หาลัย แล้ว
เรื่องราวแสนสุดจะน่าเสียดายอนาคตที่ผมวาดฝันไว้