ตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้ตั้งหลายวันแล้ว แต่ช่วงนี้มีหลายอย่างที่ต้องทำ
เพิ่งจะว่างวันนี้ เลยอยากถ่ายทอดประสบการณ์นี้ เผื่อบางคนที่ยังไม่รู้จะได้รู้ว่า
มันน่ากลัวขนาดไหน 

จขกท
มีตำราโหราศาสตร์ของจีนโบราณ เคยศึกษาต่อเนื่องหลายปีแล้วไม่ได้ศึกษาต่อ
มาปีสองปีนี้รู้สึกดวงตัวเองไม่ค่อยดี จึงนำมาทำนายคร่าวๆ ปรากฏว่าแม่นยำพอสมควร
เลยมาลองทำนายให้เพื่อนฝูงที่สนิทๆไม่กี่คน เพื่อนเหล่านั้นก็ยอมรับความแม่นยำ
ตารางข้างล่างนี้ ใครเกิดปีอะไร (ค.ศ) ให้จำตัวอักษรจีนที่อยู่ข้างบนที่อยู่บนปีเกิด
นั่นแหละคือวัฏจักรราศรีของท่าน
ปีนี้เป็นปี ค.ศ 2018 หมอดูทั่วไปมักจะบอกว่า ปีมะโรง ดวงจะแย่ที่สุด
แต่จริงๆแล้วไม่ใช่
นักษัตรที่แย่ที่สุดจากตำราเล่มนี้คือ ปีฉลู
จขกท เกิดในปีฉลู จึงต้องเตรียมการสะเดาะเคราะห์หนี
มนต์กฤษณะกาลี 

เพื่อผ่อนหนักเป็นเบา
ข้ามมาถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เวลา 2 ทุ่ม จขกท มีนัดที่ ส.น พลับพลาไชย 1
(เห็นภายหลังมีการอวยกันถึงขนาดเป็นวีรบุรุษ เป็นเจ้าแม่กวนอิม โอ้โห..เป็นไปได้ 

รายละเอียดไว้เล่าที่เม้นท์ย่อย กระทู้จะได้ไม่ยาวไป)
หลังจากโดนหมายจับ
(น่าจะเป็นคนแรกในประเทศไทยหรือเปล่า ที่โดนหมายจับในคดีหมิ่นประมาท )
ตำรวจ สน พลับพลาไชย ก็ต้องประสาน ตำรวจ สน พญาไท เพื่อมารับตัวตามกฏหมาย
ซึ่ง ตำรวจทั้งสองโรงพัก ก็ปฏิบัติกับ จขกท เป็นอย่างดี
เมื่อไปถึงที่โรงพักเป็นเวลาประมาณ 22.30 น. จขกท ก็ยื่นเรื่องขอประกันตัวเองตามปกติ
ซึ่งหมายจับแบบนี้สามารถประกันตัวได้
แต่ร้อยเวรเจ้าของคดีไม่อยู่ ไม่สามารถติดต่อได้
การทำเรื่องขอประกันจึงเริ่มมีปัญหา และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนยังติดต่อไม่ได้
ตำรวจจึงไม่มีทางเลือกต้อง
ส่ง จขกท เข้าห้องขัง
วินาทีแรกที่เดินเข้าห้องขัง สูญเสียอิสรภาพ ตอนนั้นยอมรับว่าโกรธที่ถูกลบหลู่
แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ก็เริ่มปรับสภาพ เพื่อต้องอยู่กับมัน
ลักษณะห้องขัง
จากภายนอก จะเดินไปถึงข้างในได้ต้องผ่านประตูเหล็ก 2 ชั้น
และเมื่อเข้าไปถึงชั้นใน จะซอยแยกห้องเป็นห้องเยาวชน และห้องขังหญิง นอกนั้นเป็นห้องขังรวมชาย
บรรยากาศในห้องขัง
คืนนั้น จขกท นับจำนวนผู้ต้องขังเป็นชายล้วนมีทั้งหมด 11 คน ซึ่งนับว่าไม่แออัด
แต่
อากาศไม่ถ่ายเท กลิ่นอับชื้นรบกวนจิตใจพอสมควร จขกท ก็เริ่มหาทำเลที่ดีที่สุด
เพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นในคืนนั้น มองไปมองมาเลือกทำเลที่ใกล้ประตู หน้าห้องขังเยาวชน เป็นทำเลที่เหมาะที่สุด
เมื่อได้ทำเลแล้ว ปัญหาต่อไปคือ คืนนี้จะนอนหลับได้ยังไง ? เพราะในห้องขังมีแต่พื้นล้วนๆ
ไม่มีเตียงหรือแม้แต่หมอน เหลือบไปเห็นผู้ต้องขังคนอื่นก็นอนทั้งอย่างนั้น
แต่มีอยู่คน แกใช้ขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตรหนุนหัว ในใจตอนนั้นก็คิดว่า
"จะนอนได้หรือว่ะ ?"
ตอนนั้น เพื่อนหลายคนมาเยี่ยมพร้อมกับของใช้และอาหาร จขกท ก็เลือกเอาน้ำขวด 600 cc
พร้อมกับผ้าเย็นหลายผืนขึ้นมา เหลือบไปเห็นผู้ต้องขังหลายคนมองมาที่ จขกท
จขกท จึงเอาของทั้งหมดไปให้คนที่เหลือแบ่งกัน
ช่วงเวลานั้น ประตูห้องขังได้ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง ตำรวจได้นำชายอายุ 28 ปี เข้ามา พร้อมกับพูดกับ จขกท ว่า
"พี่ ช่วยดูมันหน่อย มันเพิ่งฆ่ารัดคอเมียมัน กลัวว่าคืนนี้มันจะคลั่ง อาละวาด ยังไงๆดูมันหน่อย"
จขกท ฟังแล้วในใจคิดว่า
"เฮ้ย..ทำไมซวยอย่างนี้ว่ะ อยู่ในนี้ก็เซ็งแล้ว นี่ยังให้ตรูคุมไอ้คนที่เพิ่งฆ่าเมียมาหยกๆเนี่ยนะ กรรมแล้วตรู.."
แต่หลังจากสังเกตอากัปกิริยา ก็พอจะเดาว่ามันก็เริ่มสำนึกในความผิด เพราะมันเริ่มสะอื้น
จขกท จึงถามมันว่า "ตำรวจบอกว่า รัดคอเมียตายหรือ " มันก็บอกว่า ใช่ เพราะผู้หญิงไปมีใหม่ มันรักเค้ามาก
จขกท จึงปลอบไปว่า "คนเรามันก็เกิดอารมณ์ชั่ววูปได้ ไหนๆก็ทำไปแล้ว หาวิธีแก้ไขหนักเป็นเบาดีกว่า
อย่าเพิ่งคิดอะไร กินข้าว กินน้ำก่อน
หลังจากกินข้าวกินน้ำกัน บรรยากาศในห้องขังก็ดีขึ้น เริ่มมีการสนทนากันโดยตั้งวงห่างๆกัน
ที่ใครที่มัน บทสนทนาจึงเริ่มขึ้น
(ในจำนวนคนที่ติดอยู่ มีเรื่องยาเสพติด 3 คน เมาแล้วขับ 2 คน ยักยอก 1 คน เข้าเมืองผิดกฏหมาย 3 คน
ทะเลาะวิวาท 2 คน และที่เพิ่มมาคือ ไอ้หนุ่มที่เพิ่งรัดคอเมียตายอีก 1 คน )
หลังจากที่ถามไถ่เรื่องคดีแล้ว ขี้ยาที่เล่นยาบ้าคนหนึ่งถาม จขกท ว่า
ขี้ยา.......ป๋า ติดข้อหาอะไร ?
ความอายเกิดขึ้นทันที ก็ดูคดีที่พวกมันโดนแต่ละคนซิ มันน่าอวดอยู่หรอก แต่ตรูโดนคดีแบบนี้เนี่ยนะ
แต่ด้วยความที่ไม่ชอบเรื่องโกหก จึงกลั้นใจตอบมันไปว่า
จขกท....
ตรูเล่นพันทิปว่ะ
วินาทีที่ตอบไป ไอ้ขี้ยาสวนมาทันทีว่า
ขี้ยา.....โห..ป๋า ยาตัวใหม่หรา แรงมั้ยครับ
จขกท....เออ.แรง มุงอย่าไปเล่นนะโว้ย ทีเดียวติดเลิกไม่ได้ เด่วเหมือนตรู
คุยกันได้อีกสักพัก จขกท เห็นไอ้คนที่รัดคอเมียสงบลงแล้ว
ก็บอกทุกคนว่า นอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะให้คนมาเยี่ยม ซื้ออาหารและของจำเป็นมาให้กับทุกคน
ตอนนั้น จขกท ก็เริ่มเหนื่อยและง่วง แต่ยังคงนั่งอยู่ ไม่กล้านอนเพราะไม่ชิน
แต่ในที่สุดก็ทนไม่ได้ จึงเอาผ้าเย็นเช็ดหน้าเช็ดตัวเสร็จ ก็ใช้ผ้านั้นเช็ดพื้นที่จะนอน
และเอาอีกสองผืนมาปูทับขวดน้ำที่จะเอามาหนุนหัว แล้วล้มลงไปนอน
การจะฝืนตาหลับในบรรยากาศเเบบนี้ ตอนแรกก็ทำใจยากเหมือนกัน
ในใจจึงเริ่มคิดถึงวีรบุรุษในประวัติศาสตร์หลายคนที่เคยผ่านคุก ตะราง มาแล้วสุดท้ายกลับมาอย่างยิ่งใหญ่
และเมื่อนึกถึงเพลง จิตร ภูมิศักดิ์ ที่มีเนื้อร้องท่อนหนึ่งว่า
"คุกขังเขาได้ แต่หัวใจอย่าปรารถนา เกิดมาเข่นฆ่าอธรรม"
มาถึงตรงนี้ ทุกอย่างผ่อนคลายไปหมด สายตาก็เริ่มหลับลงอย่างสนิท
รุ่งเช้า เวลาประมาณ 7 นาฬิกา เมื่อ ทนายความส่วนตัว กับ ลูกสาว มาถึง พร้อมกับอาหาร
จขกท จึงเรียกบรรดาเพื่อนร่วมขัง มาทานอาหารด้วยกัน
และเมื่อทำเรื่องประกันตัวเสร็จเรียบร้อย จขกท ก็บอกกับทุกคนในห้องขังว่า
ตรูไปก่อน ผู้ต้องขังหลายคนในนั้นก็บอกว่า "โชคดีป๋า"
เมื่อเท้าก้าวพ้นประตูห้องขัง จขกท ก็สูดหายใจแรงๆ รับอากาศสดชื่น พร้อมกลับคืนสู่อิสรภาพอีกครั้ง
จบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในชีวิตอีกหนึ่งเรื่อง
ป.ล
ขอบคุณ เพื่อนหลายกลุ่มที่แสดงความห่วงใยต่อ จขกท ในเหตุการณ์นี้ ซึ้งน้ำใจจริงๆ
ป.ล 2 ในเม้นท์ย่อย จะเล่าสาเหตุที่โดนหมายจับ กับ ข้อสงสัยที่ว่า จขกท เตรียมการในคืนนั้นอย่างไร
ป.ล 3 สำหรับบรรดาคดีหมิ่นประมาทต่างที่โดน ไม่มีอะไรให้หนักใจ สู้กันตามกฏหมาย
ป.ล 4 รูป และคำว่า มนต์กฤษณะกาลี จำจากละครฮิต บุพเพสันนิวาส ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกระทู้
ป.ล 5 คืนนั้นเอาขวดน้ำหนุนหัว แล้วเอาผ้าเย็นปู หลับสนิทจริงๆ เหมือน วารีบำบัด เลย
คืนก่อนลองใหม่ แต่ทีนี่เอาเป็นขวด 1.5 ลิตร พร้อมผ้าเย็นปูทับ หลับสนิทเหมือนกัน
ใครไม่เชื่อ..ลองดู
ไปเป็นป๋า....1 วัน....ในห้องขัง cnck
เพิ่งจะว่างวันนี้ เลยอยากถ่ายทอดประสบการณ์นี้ เผื่อบางคนที่ยังไม่รู้จะได้รู้ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน
จขกท มีตำราโหราศาสตร์ของจีนโบราณ เคยศึกษาต่อเนื่องหลายปีแล้วไม่ได้ศึกษาต่อ
มาปีสองปีนี้รู้สึกดวงตัวเองไม่ค่อยดี จึงนำมาทำนายคร่าวๆ ปรากฏว่าแม่นยำพอสมควร
เลยมาลองทำนายให้เพื่อนฝูงที่สนิทๆไม่กี่คน เพื่อนเหล่านั้นก็ยอมรับความแม่นยำ
ตารางข้างล่างนี้ ใครเกิดปีอะไร (ค.ศ) ให้จำตัวอักษรจีนที่อยู่ข้างบนที่อยู่บนปีเกิด
นั่นแหละคือวัฏจักรราศรีของท่าน
ปีนี้เป็นปี ค.ศ 2018 หมอดูทั่วไปมักจะบอกว่า ปีมะโรง ดวงจะแย่ที่สุด
แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ นักษัตรที่แย่ที่สุดจากตำราเล่มนี้คือ ปีฉลู
จขกท เกิดในปีฉลู จึงต้องเตรียมการสะเดาะเคราะห์หนี มนต์กฤษณะกาลี
ข้ามมาถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เวลา 2 ทุ่ม จขกท มีนัดที่ ส.น พลับพลาไชย 1
(เห็นภายหลังมีการอวยกันถึงขนาดเป็นวีรบุรุษ เป็นเจ้าแม่กวนอิม โอ้โห..เป็นไปได้
รายละเอียดไว้เล่าที่เม้นท์ย่อย กระทู้จะได้ไม่ยาวไป)
หลังจากโดนหมายจับ (น่าจะเป็นคนแรกในประเทศไทยหรือเปล่า ที่โดนหมายจับในคดีหมิ่นประมาท )
ตำรวจ สน พลับพลาไชย ก็ต้องประสาน ตำรวจ สน พญาไท เพื่อมารับตัวตามกฏหมาย
ซึ่ง ตำรวจทั้งสองโรงพัก ก็ปฏิบัติกับ จขกท เป็นอย่างดี
เมื่อไปถึงที่โรงพักเป็นเวลาประมาณ 22.30 น. จขกท ก็ยื่นเรื่องขอประกันตัวเองตามปกติ
ซึ่งหมายจับแบบนี้สามารถประกันตัวได้ แต่ร้อยเวรเจ้าของคดีไม่อยู่ ไม่สามารถติดต่อได้
การทำเรื่องขอประกันจึงเริ่มมีปัญหา และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนยังติดต่อไม่ได้
ตำรวจจึงไม่มีทางเลือกต้องส่ง จขกท เข้าห้องขัง
วินาทีแรกที่เดินเข้าห้องขัง สูญเสียอิสรภาพ ตอนนั้นยอมรับว่าโกรธที่ถูกลบหลู่
แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ก็เริ่มปรับสภาพ เพื่อต้องอยู่กับมัน
ลักษณะห้องขัง
จากภายนอก จะเดินไปถึงข้างในได้ต้องผ่านประตูเหล็ก 2 ชั้น
และเมื่อเข้าไปถึงชั้นใน จะซอยแยกห้องเป็นห้องเยาวชน และห้องขังหญิง นอกนั้นเป็นห้องขังรวมชาย
บรรยากาศในห้องขัง
คืนนั้น จขกท นับจำนวนผู้ต้องขังเป็นชายล้วนมีทั้งหมด 11 คน ซึ่งนับว่าไม่แออัด
แต่อากาศไม่ถ่ายเท กลิ่นอับชื้นรบกวนจิตใจพอสมควร จขกท ก็เริ่มหาทำเลที่ดีที่สุด
เพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นในคืนนั้น มองไปมองมาเลือกทำเลที่ใกล้ประตู หน้าห้องขังเยาวชน เป็นทำเลที่เหมาะที่สุด
เมื่อได้ทำเลแล้ว ปัญหาต่อไปคือ คืนนี้จะนอนหลับได้ยังไง ? เพราะในห้องขังมีแต่พื้นล้วนๆ
ไม่มีเตียงหรือแม้แต่หมอน เหลือบไปเห็นผู้ต้องขังคนอื่นก็นอนทั้งอย่างนั้น
แต่มีอยู่คน แกใช้ขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตรหนุนหัว ในใจตอนนั้นก็คิดว่า "จะนอนได้หรือว่ะ ?"
ตอนนั้น เพื่อนหลายคนมาเยี่ยมพร้อมกับของใช้และอาหาร จขกท ก็เลือกเอาน้ำขวด 600 cc
พร้อมกับผ้าเย็นหลายผืนขึ้นมา เหลือบไปเห็นผู้ต้องขังหลายคนมองมาที่ จขกท
จขกท จึงเอาของทั้งหมดไปให้คนที่เหลือแบ่งกัน
ช่วงเวลานั้น ประตูห้องขังได้ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง ตำรวจได้นำชายอายุ 28 ปี เข้ามา พร้อมกับพูดกับ จขกท ว่า
"พี่ ช่วยดูมันหน่อย มันเพิ่งฆ่ารัดคอเมียมัน กลัวว่าคืนนี้มันจะคลั่ง อาละวาด ยังไงๆดูมันหน่อย"
จขกท ฟังแล้วในใจคิดว่า
"เฮ้ย..ทำไมซวยอย่างนี้ว่ะ อยู่ในนี้ก็เซ็งแล้ว นี่ยังให้ตรูคุมไอ้คนที่เพิ่งฆ่าเมียมาหยกๆเนี่ยนะ กรรมแล้วตรู.."
แต่หลังจากสังเกตอากัปกิริยา ก็พอจะเดาว่ามันก็เริ่มสำนึกในความผิด เพราะมันเริ่มสะอื้น
จขกท จึงถามมันว่า "ตำรวจบอกว่า รัดคอเมียตายหรือ " มันก็บอกว่า ใช่ เพราะผู้หญิงไปมีใหม่ มันรักเค้ามาก
จขกท จึงปลอบไปว่า "คนเรามันก็เกิดอารมณ์ชั่ววูปได้ ไหนๆก็ทำไปแล้ว หาวิธีแก้ไขหนักเป็นเบาดีกว่า
อย่าเพิ่งคิดอะไร กินข้าว กินน้ำก่อน
หลังจากกินข้าวกินน้ำกัน บรรยากาศในห้องขังก็ดีขึ้น เริ่มมีการสนทนากันโดยตั้งวงห่างๆกัน
ที่ใครที่มัน บทสนทนาจึงเริ่มขึ้น
(ในจำนวนคนที่ติดอยู่ มีเรื่องยาเสพติด 3 คน เมาแล้วขับ 2 คน ยักยอก 1 คน เข้าเมืองผิดกฏหมาย 3 คน
ทะเลาะวิวาท 2 คน และที่เพิ่มมาคือ ไอ้หนุ่มที่เพิ่งรัดคอเมียตายอีก 1 คน )
หลังจากที่ถามไถ่เรื่องคดีแล้ว ขี้ยาที่เล่นยาบ้าคนหนึ่งถาม จขกท ว่า
ขี้ยา.......ป๋า ติดข้อหาอะไร ?
ความอายเกิดขึ้นทันที ก็ดูคดีที่พวกมันโดนแต่ละคนซิ มันน่าอวดอยู่หรอก แต่ตรูโดนคดีแบบนี้เนี่ยนะ
แต่ด้วยความที่ไม่ชอบเรื่องโกหก จึงกลั้นใจตอบมันไปว่า
จขกท....ตรูเล่นพันทิปว่ะ
วินาทีที่ตอบไป ไอ้ขี้ยาสวนมาทันทีว่า
ขี้ยา.....โห..ป๋า ยาตัวใหม่หรา แรงมั้ยครับ
จขกท....เออ.แรง มุงอย่าไปเล่นนะโว้ย ทีเดียวติดเลิกไม่ได้ เด่วเหมือนตรู
คุยกันได้อีกสักพัก จขกท เห็นไอ้คนที่รัดคอเมียสงบลงแล้ว
ก็บอกทุกคนว่า นอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะให้คนมาเยี่ยม ซื้ออาหารและของจำเป็นมาให้กับทุกคน
ตอนนั้น จขกท ก็เริ่มเหนื่อยและง่วง แต่ยังคงนั่งอยู่ ไม่กล้านอนเพราะไม่ชิน
แต่ในที่สุดก็ทนไม่ได้ จึงเอาผ้าเย็นเช็ดหน้าเช็ดตัวเสร็จ ก็ใช้ผ้านั้นเช็ดพื้นที่จะนอน
และเอาอีกสองผืนมาปูทับขวดน้ำที่จะเอามาหนุนหัว แล้วล้มลงไปนอน
การจะฝืนตาหลับในบรรยากาศเเบบนี้ ตอนแรกก็ทำใจยากเหมือนกัน
ในใจจึงเริ่มคิดถึงวีรบุรุษในประวัติศาสตร์หลายคนที่เคยผ่านคุก ตะราง มาแล้วสุดท้ายกลับมาอย่างยิ่งใหญ่
และเมื่อนึกถึงเพลง จิตร ภูมิศักดิ์ ที่มีเนื้อร้องท่อนหนึ่งว่า
"คุกขังเขาได้ แต่หัวใจอย่าปรารถนา เกิดมาเข่นฆ่าอธรรม"
มาถึงตรงนี้ ทุกอย่างผ่อนคลายไปหมด สายตาก็เริ่มหลับลงอย่างสนิท
รุ่งเช้า เวลาประมาณ 7 นาฬิกา เมื่อ ทนายความส่วนตัว กับ ลูกสาว มาถึง พร้อมกับอาหาร
จขกท จึงเรียกบรรดาเพื่อนร่วมขัง มาทานอาหารด้วยกัน
และเมื่อทำเรื่องประกันตัวเสร็จเรียบร้อย จขกท ก็บอกกับทุกคนในห้องขังว่า
ตรูไปก่อน ผู้ต้องขังหลายคนในนั้นก็บอกว่า "โชคดีป๋า"
เมื่อเท้าก้าวพ้นประตูห้องขัง จขกท ก็สูดหายใจแรงๆ รับอากาศสดชื่น พร้อมกลับคืนสู่อิสรภาพอีกครั้ง
จบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในชีวิตอีกหนึ่งเรื่อง
ป.ล ขอบคุณ เพื่อนหลายกลุ่มที่แสดงความห่วงใยต่อ จขกท ในเหตุการณ์นี้ ซึ้งน้ำใจจริงๆ
ป.ล 2 ในเม้นท์ย่อย จะเล่าสาเหตุที่โดนหมายจับ กับ ข้อสงสัยที่ว่า จขกท เตรียมการในคืนนั้นอย่างไร
ป.ล 3 สำหรับบรรดาคดีหมิ่นประมาทต่างที่โดน ไม่มีอะไรให้หนักใจ สู้กันตามกฏหมาย
ป.ล 4 รูป และคำว่า มนต์กฤษณะกาลี จำจากละครฮิต บุพเพสันนิวาส ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกระทู้
ป.ล 5 คืนนั้นเอาขวดน้ำหนุนหัว แล้วเอาผ้าเย็นปู หลับสนิทจริงๆ เหมือน วารีบำบัด เลย
คืนก่อนลองใหม่ แต่ทีนี่เอาเป็นขวด 1.5 ลิตร พร้อมผ้าเย็นปูทับ หลับสนิทเหมือนกัน
ใครไม่เชื่อ..ลองดู