👍❌~มาลาริน~โกงเงินแก้ตกเขียว ศึกษาธิการฉาว กว่า10 ปีฟาดไป 88ล้านสุมหัวโกงโอนเข้าบัญชี ญาติพี่น้องตั้งแต่ปี 2551-2561


โกงโผล่อีกคราวนี้เป็นศธ.เงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตช่วยแก้ปัญหาตกเขียวเด็กสาวชาวเหนือ ถูกข้าราชการสุมหัวโกงโอนเข้าบัญชี ญาติพี่น้องตั้งแต่ปี 51-61 ฟาดไป88ล้านโร่แจ้งความส่งปปช.สอบ ส่วนคดีทุจริตเงินคนจนยังบานไม่หุบปปท.ตั้งอนุกรรมการไต่สวน 5 จังหวัด เร่งลงพื้นที่อีก 21 จังหวัด ด้าน“บิ๊กโย่ง”จ่อชงนายกฯใช้ม.44เข้าไปจัดการ

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่มตรวจสอบภายในสำนักงานปลัดสธ. ได้ทำการตรวจสอบบัญชีงบประมาณ ประจำปี 2560 ของสำนักงานปลัดศธ. เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่า มีการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต โดยมีการโอนเงินทุนการศึกษาของนักเรียนในโครงการเข้าบัญชีของบุคคลอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตั้งแต่ปี 2551-2561 เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 88 ล้านบาท และได้รายงานต่อ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. รับทราบแล้ว ซึ่ง รมว.ศธ.ได้สั่งการให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่ทุจริต และให้ตรวจสอบกองทุนอื่น ๆให้เข้มข้น

“ผมได้มอบหมายให้นิติกรของสำนักงานปลัด ศธ. ไปแจ้งความที่ สน.ดุสิต ในคดีอาญา และให้ส่งต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) ขณะเดียวกันก็ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และได้ย้ายบุคคลที่ตรวจสอบพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง 2 ราย พ้นหน้าที่ไปแล้ว ทั้งนี้ เพื่อให้คณะกรรมการสืบสวนฯทำงานได้สะดวก”ปลัดสธ.ระบุ

และว่า จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ถูกกล่าวหายอมรับแล้วว่าได้กระทำความผิดจริง โดยได้โอนเงินเข้าบัญชีญาติ พี่น้องและคนรู้จักถึง 19 บัญชี ตั้งแต่ปี 2551 - 2561 รวมกว่า 88 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงเวลา ดังกล่าวโอนเงินเข้าบัญชีหน่วยงานที่รับทุนรวมกว่า 77 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าเงินที่ยักยอก เข้าบัญชีญาติ พี่น้องและคนรู้จัก โดยยอดล่าสุดในปี 2561 ได้โอนเข้าบัญชีบุคคลอื่นกว่า 3 ล้านบาท แต่ไม่มีการโอนเข้าบัญชีหน่วยงานหรือผู้ที่ได้รับทุนดังกล่าวนี้เลย

“ยืนยันว่าคนที่กระทำผิดจะต้องได้รับโทษขั้นเด็ดขาด ซึ่งนอกจากจะถูกไล่ออกแล้ว ยังต้องได้รับโทษตามกฎหมายอาญาด้วย”นายการุณยืนยัน

ด้าน ดร.ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า กองทุนเสมาพัฒนาชีวิต นี้ เป็นกองทุนแก้ปัญหาตกเขียวเด็กหญิง โดยเฉพาะภาคเหนือ สมัยนายอาทร จันทวิมล เป็นรองปลัด ศธ.และเป็นผู้ประสานงานขอเงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาล มาช่วยเด็กตกเขียว โดยให้สำนักงานปลัด ศธ.บริหารจัดการ แต่ระยะหลังๆค่อนข้างเงียบไม่มีใครทำอะไร เลยทำให้ไม่มีใครสนใจ ซึ่งนายอาทรยังเคยสอบถามว่ากองทุนนี้ยังอยู่หรือไม่ และศธ.เอาไปทำอะไรบ้าง ก็ไม่มีใครตอบ เพราะไม่มีใครรู้ว่ายังมีอยู่หรือเปล่า

ผู้สื่อข่าวรายงาน กองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เริ่มก่อนตั้งเมื่อปี 2542 สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นกองทุนสำหรับสนับสนุนเด็กที่อยู่ในสภาวะยากลำบากให้มีทุนการศึกษาต่อระดับวิชาชีพ โดยใช้เงินจากการออกสลากกินแบ่งการกุศลงวดพิเศษ เงินอุดหนุนจากงบประมาณ เงินบริจาคและเงินดอกผลของกองทุน การบริหารกองทุนให้มีคณะกรรมการกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต มีปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน

วันเดียวกันคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เรียกประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาเรื่องกล่าวหาร้องเรียนเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีทุจริตปลอมแปลงเอกสารเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ ผู้ป่วยโรคเอดส์ และเงินส่งเสริมอาชีพ ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในจังหวัดขอนแก่น

พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)กล่าวภายหลังประชุมว่า คณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มอีก 5 จังหวัด คือ จ.บึงกาฬ,หนองคาย,น่าน,สุราษฎร์ธานี และตราด เป็นการเพิ่มเติมจากที่เคยตั้งไปแล้ว 2 จังหวัดคือ ที่ จ.เชียงใหม่ และขอนแก่น

สำหรับใน 5 จังหวัด มีบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องไต่สวนรวม 25คน แยกเป็นรายจังหวัด จ.บึงกาฬ มี 9 คน, จ.หนองคาย 3 คน ,จ.น่าน 5 คน, จ.สุราษฎร์ธานี 6 คน และ จ.ตราด 2 คน แต่ละจังหวัดจะมี ผอ.ศูนย์คนไร้ที่พึ่งเกี่ยวข้องด้วยทั้งหมด 5คน นอกนั้นก็เป็นข้าราชการ พนักงานข้าราชการ และลูกจ้างจำนวนต่างกันไป และอาจมีการใช้กฎหมาย ปปช.มาตรา 123/1 มาดำเนินการกับผู้กระทำผิดร่วมเช่นกัน

โดยทั้ง 5 จังหวัดพบว่ามีพฤติการณ์ที่ใกล้เคียงกันทั้งหมด มีทั้งการนำชื่อคนตายมาเป็นบุคคลที่ได้รับสิทธิ์,บุคคลไม่เข้าหลักเกณฑ์,ปลอมลายมือชื่อข้อมูลในแบบสำรวจ,ให้หน่วยงานอื่นของรัฐ เช่น โรงเรียน,อบต.ส่งรายชื่อคนเข้าเกณฑ์ให้ศูนย์ แต่ศูนย์กลับจ่ายเงินไม่ครบตามฎีกา ,รายชื่อในแบบสำรวจ เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ปรากฎข้อมูลหรือไม่มีสถานะในทะเบียนราษฎร

นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่ามีบางจังหวัดที่มี่ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องการทุจริตด้วย แต่ในชั้นนี้คงยังไม่ข้อระบุรายละเอียดว่าเป็นหน่วยงานไหน หรือจังหวัดใด ขอตรวจสอบให้ชัดเจนจึงจะสามารถชี้มูลความผิดได้

ส่วนความคืบหน้าในส่วนของ จ.ขอนแก่น และเชียงใหม่ ขณะนี้ได้ดำเนินการสอบพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า100ปากกำลังเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน พร้อมกับจะเชิญสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) มาเป็นคณะอนุกรรมการร่วมตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย รวมทั้งจะให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาตรวจสอบเส้นทางการเงินกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้

“หากพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับบุคคลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)ในส่วนกลาง ก็จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ไปตรวจสอบต่อ เพราะอำนาจของ ป.ป.ท.ในขณะนี้ทำได้แค่ตรวจถึงระดับ ผอ.ศูนย์ เท่านั้น”พล.ต.อ.จรัมพร

นอกจากนี้ยังพบว่ามีอีก 21 จังหวัดที่อยู่ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเนื่องจากมีข้อมูลพบว่า มีความผิดปกติในการเบิกจ่ายเงิน ได้แก่ จ.พระนครศรีอยุธยา สระบุรีอ่างทอง กระบี่ ตรัง สงขลา นราธิวาส ยะลา พัทลุง อุดรธานี ร้อยเอ็ด นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ยโสธรลำพูน ลำปาง เชียงราย พิษณุโลก และสระแก้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนเจ้าหน้าที่สำนักงานปปท.9 ยังคงฝังตัวอยู่ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ เพื่อตรวจสอบในเชิงลึกถึงการโกงเงินผู้ยากไร้ผู้ป่วยเอดส์ ที่มี ที่มีอยู่กว่า 13,000 คน ล่าสุดมีรายงานว่า ในบางพื้นที่มีปัญหาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเท่าที่ควร

โดยมีสายข่าวแจ้งว่า ประชาชนบางคนถูกล็อบบี้และถูกว่าจ้าง เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้รับเงินในโครงการนี้แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ละความพยามในการสอบข้อเท็จจริง

ด้านพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ติดเชื้อเอดส์ว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยไปแล้วคือ ผอ.ศูนย์คนไร้ที่พึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ที่ผู้อำนวยการศูนย์ฯเกษียณอายุออกไปแล้ว ก็ยังสามารถสั่งสอบทางวินัยได้

และที่โครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ที่ผู้อำนวยการศูนย์ฯลาออกไปแล้วเช่นกัน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2560 ก็จะดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยด้วย

อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้รมว.พม.ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่สอบสวนวันแรกและรายงานมายังตน ส่วนตัวเลขข้าราชการระดับสูงที่เข้าไปเกี่ยวข้องมีจำนวนกี่คนนั้น ขณะนี้คงต้องรอให้เขาสรุปอีกสักพัก แต่ถ้าพบเป็นข้าราชการระดับสูงในพื้นที่เกี่ยวข้อง ตนได้สั่งการไปยังรมว. พม.ด้วยว่าให้สั่งย้ายออกจากพื้นที่ทันที

ขณะที่พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)เผยว่าการโกงเงินคนยากไร้และผู้ป่วยเอสด์ ถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานข้อมูลมาต่อเนื่องคาดว่าผลสอบล็อตแรกคงแล้วเสร็จในปลายเดือนมีนาคมนี้

“มีการพาดพิงทุกระดับ หากเชื่อมโยงได้มีหลักฐานเชื่อได้ว่าผิดจะมีการลงโทษเบื้องต้น ส่วนปลัดและรองปลัด พม.นั้น มีคนพาดพิง แต่ต้องไปพิสูจน์ก่อน ตนยังไม่เชื่อทั้ง 2 ฝ่าย ทุกคนยังมีโอกาสเป็นได้ทั้งถูกทั้งผิด แต่ถ้าโยงไปถึงไหนก็ดำเนินการหมด ไม่ต้องห่วงว่าจะเจอตอเพราะผมใหญ่กว่าตอ ผมขุดตอได้หมดอยู่แล้ว รับรองไม่มีแน่”พล.อ.อนันตพร กล่าว

และว่าหากจำเป็นก็จะขอนายกฯให้ใช้คำสั่งมาตรา 44 เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินการ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ขอ ต้องคุยกับนายกฯก่อน แต่ก็มีแนวโน้มจะใช้ ” รมว.พม.กล่าว และว่าา ขอตรวจสอบปี 60 ก่อนก็แล้วกัน แต่จะดูว่าเชื่อมโยงกับปีอื่นๆด้วยหรือไม่ ทั้งนี้หากพบในปี 61 ซึ่งเป็นช่วงที่ตนรับผิดชอบอยู่ ก็สามารถตรวจสอบได้ทันที

http://www.naewna.com/local/325544

ดิฉันมีข้อสังเกตนะคะ...ทำไมมาเปิดเผยการโกงในยุคนี้

ทั้งๆที่ผ่านมา...เป็นสิบปี  ไม่มีการตรวจพบเลย

เป็นเพราะคนแฉขบวนการโกง  คงมั่นใจในรัฐบาลนี้ที่สามารถคุ้มครองผู้แฉหรือพยานได้

จึงเป็นที่มาของการเปิดเผยการโกงกันมาเรื่อยๆ

ต้องเรียกเงินคืนมาชดใช้ให้ครบนะคะ

อย่าปล่อยคนโกงลอยนวลไปอีกค่ะ

ให้กำลังใจคนจับโกงและปราบโกงทุกท่านนะคะ...💗💗💗💗💗💗

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่