#ยาวหน่อยนะคะ
ต้องบอกก่อนว่าบ้านเรามีลูกสาวสองคน เราเป็นลูกคนสุดท้อง
พี่เราอายุห่างกับเราสองปี เราเริ่มรู้สึกไม่ดีกับพี่เรามา ตั้งแต่เรายังเด็กแล้ว
ตอนอยู่บ้านเวลาไม่คุยก็ไม่เกิดอะไร แต่เวลาเจอกัน แล้วอยู่ด้วยกันมันทำให้เรารู้สึกเกลียดพี่เรามาก
แบบเกลียดทุกอย่าง ทั้งคำพูดแนวคิด การกระทำของนาง
เราว่าเราไม่ได้เป็นคนดีพร้อม แต่เราว่าพี่เราเป็นคนที่แย่มาก
นางชอบลืมปิดไฟ แล้วก็ชอบเปิดไฟที่ ไม่ได้ใช้ ซึ่งเวลาเราเห็นเราก็เดินไปปิด
นางชอบทำให้บ้านมันเกิดความแย่อะไรบ้างอย่าง แต่เราชอบไปแก้ก่อนไปบอกนาง เพราะถึงเราบอกทันทีนางก็ไม่ไป
นางเลยโตมาโดยการไม่ฝึกแก้อะไรเลย เป็นคนมักง่าย
เราเกลียดการที่พ่อแม่เข้าข้างนาง
เพราะอะไรบ้งอย่างพ่อแม่ ว่า นางน้อยมาก
แต่กับเราขอใช้ คำว่า ด่า และตีเรา
เราโดนตีบ่อยมากอะ เราเคยโดนตบหน้าด้วย
เราโดนบ่อยจน เรากลั้นอารามหน้าเราได้อะ ถึงน้ำตาจะไหลอยู่ก้เถอะ
(ตอนพี่เราโดนตี นางปล่อยโฮ เลยจ้า สงสัยไม่ชิน)
เรายอมรับว่าเราเป็นคนที่แข็งด้านความคิด เลยอาจทำให้เราดูหยาบๆ
พ่อแม่ชอบบอกว่าเราไม่เชื่อฟัง เราก็ทำทุกอย่างที่เขาบอกนะ ดูแลบ้าน ทำงานบ้าน ฯ
แต่เวลาทำงานบ้านพ่อแม่ชอบว่าเรา แล้วก็ชอบเร่งให้ทำเร็วๆ
เช่น ตอนเวรเราล้างจาน เราค้างไว้สักพักแล้ว พ่อแม่เห็นก็ไล่เราไปล้างทันที ไม่เสร็จห้ามเราไปไหน
แต่ของเวรพี่เราล้าง ปริมาณเท่ากันไม่มีใครเรียกไปทำอะไร หรือถ้าเรียกก็ไม่มีการรั้งตัวนางไว้
นางก็ขึ้นห้องนางไป พอใจก็ลงมาล้าง
เราไม่ชอบการที่พ่อแม่เราทำอย่างหนึ่งกับคนหนึ่งแล้วมักจะลืมทำกับอีกคนหนึ่ง
ชอบมาด่าเรา แต่รู้สึกผิดเลยไม่ไปด่าพี่เรา อะไรแย่ๆมาทำกับเรา
แต่พออะไรดี ก็สอนพี่เรา แล้วก็ให้เราไปเรียนกับพี่ ซึ่งมันไม่เคยสอน
ถ้าเราไม่เน้นพ่อแม่ก็จะไม่สอนอะไรเรา ทำเหมือนเราเซ้าซี้อะ
พร้อมสอนพี่แต่ไม่ว่างสอนเรา
เราเกลียดที่นางมีคำว่าพี่ ค้ำหัว
เวลามีอะไร พ่อแม่ก็จะสอน พี่น้องต้องรักกัน เป็นน้องต้องเคารพพี่ แต่พี่เรามันไม่มีดีอะไรเลยไง
เรายังตามเช็ดก้นให้มันอยู่เลย จะให้มารักอะไร สิ่งที่ทำให้แล้วรู้สึกขอบคุณตอนนี้ ก็ยังคงไม่มี
เราเกลียดที่นางได้ทุกอย่าง
แต่เราต้องรอ เวลาเข้าเรียนใหม่ ก็ต้องซื้อชุดนรใหม่
พี่เราชอบใส่พละ นางก็ซื้อชุดพละมาเพิ่ม
ต่อมาเราก็ได้ใช้ต่อนาง ดีที่รรบังคับซื้อทุกคน เราเลยยังมีของตัวเองด้วย
เหมือนอะไรๆก็ง่ายอะสำหรับนาง
เราไม่ได้อ่อนเรื่องเรียนนะ เราเคยสอบได้ห้องเรียนพิเศษตอนมต้น ซึ่งพี่เราไม่ติด
ตอนมปลายเราก็ได้อีก แต่เราเลือกไม่เรียนเพราะไม่ใช่สายเรา ซึ่งพี่เราก้ไม่ห้องพิเศษติดรอบมปลายเหมือนเดิม
แต่นางสนใจทางวิทย์ นางเลยเลือกเรียนคณะที่ ดูมีฐานประกันหน่อย ซึ่งพ่อแม่ก็โอกับนาง
ให้นางไปเรียนพิเศษหลายที่มาก
แต่เราสนทางศิลป์ เราเลยขอเรียนพิเศษอย่างเดียว ศิลปะ
เราว่าวิชาการคณะเราน่าจะไม่เน้นเท่าไร
ความไม่ยุติธรรมอีกอย่างคือเวลานางไปเรียนเช้าถึงเย้นงี้ นางจะได้เงินค่าขนมเพื่มไปกินข้าวด้วยทั้งเสารอาทิต
แต่เราเรียนที่เดียว พ่อแม่ก็เลยไม่ให้เงินเรา เพราะ ไปรับไปส่งอยู่แล้ว
คิอถ้าเราไม่ไปโรงเรียน นอกจากเงินส่วนนั้น เราจะไม่มีเงินใช้เลย
เวลาซื้อของอะไรแล้วเราขอให้แม่ซื้อให้ แม่ก็จะบอกอันนี้ตอนพี่พี่ไม่เห็นมาขอแม่เลย
คือถ้าอยากให้เงินเราใช้เหมือนกัน ช่วยให้เงินเราเท่ากันด้วย
แต่จุดเปลี่ยนความเกลียดของเรา จากจุดที่พอรับไหว เป็นอธิบายไม่ถูก
คือตอนนางเข้า มหาลัย แล้วเราอยู่มปลายอยู่
ตอนนางเข้า นางได้โทรศัพใหม่ โน้ตบุ๊ค รองเท้า เสื้อผ้าใส่ไปเรียน
แล้วตอนนางเรียนไปเรื่อยๆ นางก็ได้เงินค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพราะชีวิตมันยังไม่ลงตัว
เวลาเกิดไรเราก้เห็นนางใช้จ่ายได้เต็มที่ ตามกำหนดของนาง
แต่คือเราคิด ไง เราคิดตั้งแรกเลย
เพราะบ้านเราไม่ได้มีฐานะดี ค่าใช้จ่ายมันก็ต้องจำกัด
พ่อแม่เรา ให้พี่เราง่ายขนาดนี้ แล้วตอนถีงตาเรามันยังจะเหลือไหวอยู่เหรอ
ซึ่งก็ตามคาด ไม่ไหว
สุดท้ายตอนนี้เราได้ใช้โทรศัพเก่าพ่อ โน้ตบุ้คเก่าแม่
จะเจ็บน้อยกว่านี้มากถ้า ทั้งสองอย่างไม่ใช่รุ่นเดียวกันกับที่พี่เราซื้อ
คือถ้าซื้อใช้พร้อมช่วงพี่ มันก็สเปคดีสุดนะ แต่ตอนนี้ก้ผ่านมาสองปีแล้วไง
แล้วคือเราได้ใช้ต่ออะ ของพี่เราคือพาไปซื้อที่ร้านเลย
เราติดรอบโควต้ามหาลัยดัง ซึ่งเป้นคณะในฝันของเรา
ติดแล้วทำให้เรามีที่เรียนก่อนเพื่อนหลายคน ทำให้ช่วงปิดเทอมก่อนเปิดมเราจะว่าง
พอเราติด เราก้คิดว่าเราจะได้โทรศัพใหม่ กับโน้ตบุ๊คเป็นของตัวเองสักที
เราไม่ได้อยากได้ของใหม่เราแค่อยากมีโมเมนตออกไปเลือกของใช้เองบ้าง
เราเห็นพี่เราทำแล้วมันรู้สึกฟินอะ
มันเหมือนที่กำลังจะได้มาคือผลตอบแทนความพยายามของเรา
ที่เราต้องการก่อนเลยคือโทรศัพเพราะเครื่องที่เราใช้อยู๋มันใกล้ดับแล้ว
เราเลยเอาไปบอกแม่ แม่บอก จ่ายค่าเทอมให้สองคนก็ไม่มีเงินเหลือทำอะไรแล้ว
เราก็รู้สึกเฟลอยู่นะ ช่วงที่ควรจะเป็นความยินดีของเรา
แต่เราต้องมาเครียดเรื่องเราจะยังได้อะไรไปมหาลัยอยู๋มั้ย
พีคกว่าพีคคือแม่ไล่เราไปหางานพิเศษทำ
จะได้ลดรายจ่ายครอบครัว(ส่วนของเรา) ซึ่งที่จริงเราสนใจอยากลองทำอยู่แล้ว
แต่คือ ทำไมต้องตอนนี้อะ คือต่อไปนี้เราอยากได้อะไรก็ให้ทำงานเองเลยงี้เหรอ
พี่เราไม่เห็นต้องออกมาหาเงินเองเลย
พอเราบอกแม่ ท่านก็บอกก็พี่เราได้รอบสุดท้าย อะไรมันก็ไม่มีเวลาแล้ว
แล้วคือช่วงที่มันเรียนอยู่ละ ตอนปิดเทอมก็ไม่เห็นไล่มันไปทำงาน
จะมาบอกไม่มีเวลาได้ยังไง มาให้เราไปทำงานแล้วก็เอาเงินส่วนเราไปให้พี่เท่าเดิมงี้เหรอ
พูดได้คำเดียวว่า ลำเอียง
แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ พอเราว่าเขาก็บอกให้เราเลิกเปรียบเทียบคนอื่น
เราเข้าใจว่าทุกอย่างมันเป็นผลดีกับเราในอนาคต
แต่ความรู้สึกที่เรารับรู้อยู่ตอนนี้ มันคือความเจ็บใจ
ซึ่งมันคือสิ่งที่พี่เราไม่มีวันเข้าใจ เพราะนางผ่านช่วงชีวิตนี้มาอย่างสุขสบายแล้ว
มันเกลียดมันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆมารวมกัน
ไม่ได้มีอันไหนเกลียดแบบจริงจัง
แต่พอนึกทุกเรื่องมารวมกัน มันหาความคิดดีๆมาให้ไม่ได้จริงๆ

#คงได้แค่ทำใจ
#น้ำตาไหลตลอดการพิมพ์เสื้อเปื้อนน้ำมูกหมดแล้ว
#ใครเคยปรับตัวยังไงได้ช่วยแชร์ประสบการณ์หน่อยนะคะ
ทำยังไงดีเมื่อเราเกลียดพี่น้องตัวเอง
ต้องบอกก่อนว่าบ้านเรามีลูกสาวสองคน เราเป็นลูกคนสุดท้อง
พี่เราอายุห่างกับเราสองปี เราเริ่มรู้สึกไม่ดีกับพี่เรามา ตั้งแต่เรายังเด็กแล้ว
ตอนอยู่บ้านเวลาไม่คุยก็ไม่เกิดอะไร แต่เวลาเจอกัน แล้วอยู่ด้วยกันมันทำให้เรารู้สึกเกลียดพี่เรามาก
แบบเกลียดทุกอย่าง ทั้งคำพูดแนวคิด การกระทำของนาง
เราว่าเราไม่ได้เป็นคนดีพร้อม แต่เราว่าพี่เราเป็นคนที่แย่มาก
นางชอบลืมปิดไฟ แล้วก็ชอบเปิดไฟที่ ไม่ได้ใช้ ซึ่งเวลาเราเห็นเราก็เดินไปปิด
นางชอบทำให้บ้านมันเกิดความแย่อะไรบ้างอย่าง แต่เราชอบไปแก้ก่อนไปบอกนาง เพราะถึงเราบอกทันทีนางก็ไม่ไป
นางเลยโตมาโดยการไม่ฝึกแก้อะไรเลย เป็นคนมักง่าย
เราเกลียดการที่พ่อแม่เข้าข้างนาง
เพราะอะไรบ้งอย่างพ่อแม่ ว่า นางน้อยมาก
แต่กับเราขอใช้ คำว่า ด่า และตีเรา
เราโดนตีบ่อยมากอะ เราเคยโดนตบหน้าด้วย
เราโดนบ่อยจน เรากลั้นอารามหน้าเราได้อะ ถึงน้ำตาจะไหลอยู่ก้เถอะ
(ตอนพี่เราโดนตี นางปล่อยโฮ เลยจ้า สงสัยไม่ชิน)
เรายอมรับว่าเราเป็นคนที่แข็งด้านความคิด เลยอาจทำให้เราดูหยาบๆ
พ่อแม่ชอบบอกว่าเราไม่เชื่อฟัง เราก็ทำทุกอย่างที่เขาบอกนะ ดูแลบ้าน ทำงานบ้าน ฯ
แต่เวลาทำงานบ้านพ่อแม่ชอบว่าเรา แล้วก็ชอบเร่งให้ทำเร็วๆ
เช่น ตอนเวรเราล้างจาน เราค้างไว้สักพักแล้ว พ่อแม่เห็นก็ไล่เราไปล้างทันที ไม่เสร็จห้ามเราไปไหน
แต่ของเวรพี่เราล้าง ปริมาณเท่ากันไม่มีใครเรียกไปทำอะไร หรือถ้าเรียกก็ไม่มีการรั้งตัวนางไว้
นางก็ขึ้นห้องนางไป พอใจก็ลงมาล้าง
เราไม่ชอบการที่พ่อแม่เราทำอย่างหนึ่งกับคนหนึ่งแล้วมักจะลืมทำกับอีกคนหนึ่ง
ชอบมาด่าเรา แต่รู้สึกผิดเลยไม่ไปด่าพี่เรา อะไรแย่ๆมาทำกับเรา
แต่พออะไรดี ก็สอนพี่เรา แล้วก็ให้เราไปเรียนกับพี่ ซึ่งมันไม่เคยสอน
ถ้าเราไม่เน้นพ่อแม่ก็จะไม่สอนอะไรเรา ทำเหมือนเราเซ้าซี้อะ
พร้อมสอนพี่แต่ไม่ว่างสอนเรา
เราเกลียดที่นางมีคำว่าพี่ ค้ำหัว
เวลามีอะไร พ่อแม่ก็จะสอน พี่น้องต้องรักกัน เป็นน้องต้องเคารพพี่ แต่พี่เรามันไม่มีดีอะไรเลยไง
เรายังตามเช็ดก้นให้มันอยู่เลย จะให้มารักอะไร สิ่งที่ทำให้แล้วรู้สึกขอบคุณตอนนี้ ก็ยังคงไม่มี
เราเกลียดที่นางได้ทุกอย่าง
แต่เราต้องรอ เวลาเข้าเรียนใหม่ ก็ต้องซื้อชุดนรใหม่
พี่เราชอบใส่พละ นางก็ซื้อชุดพละมาเพิ่ม
ต่อมาเราก็ได้ใช้ต่อนาง ดีที่รรบังคับซื้อทุกคน เราเลยยังมีของตัวเองด้วย
เหมือนอะไรๆก็ง่ายอะสำหรับนาง
เราไม่ได้อ่อนเรื่องเรียนนะ เราเคยสอบได้ห้องเรียนพิเศษตอนมต้น ซึ่งพี่เราไม่ติด
ตอนมปลายเราก็ได้อีก แต่เราเลือกไม่เรียนเพราะไม่ใช่สายเรา ซึ่งพี่เราก้ไม่ห้องพิเศษติดรอบมปลายเหมือนเดิม
แต่นางสนใจทางวิทย์ นางเลยเลือกเรียนคณะที่ ดูมีฐานประกันหน่อย ซึ่งพ่อแม่ก็โอกับนาง
ให้นางไปเรียนพิเศษหลายที่มาก
แต่เราสนทางศิลป์ เราเลยขอเรียนพิเศษอย่างเดียว ศิลปะ
เราว่าวิชาการคณะเราน่าจะไม่เน้นเท่าไร
ความไม่ยุติธรรมอีกอย่างคือเวลานางไปเรียนเช้าถึงเย้นงี้ นางจะได้เงินค่าขนมเพื่มไปกินข้าวด้วยทั้งเสารอาทิต
แต่เราเรียนที่เดียว พ่อแม่ก็เลยไม่ให้เงินเรา เพราะ ไปรับไปส่งอยู่แล้ว
คิอถ้าเราไม่ไปโรงเรียน นอกจากเงินส่วนนั้น เราจะไม่มีเงินใช้เลย
เวลาซื้อของอะไรแล้วเราขอให้แม่ซื้อให้ แม่ก็จะบอกอันนี้ตอนพี่พี่ไม่เห็นมาขอแม่เลย
คือถ้าอยากให้เงินเราใช้เหมือนกัน ช่วยให้เงินเราเท่ากันด้วย
แต่จุดเปลี่ยนความเกลียดของเรา จากจุดที่พอรับไหว เป็นอธิบายไม่ถูก
คือตอนนางเข้า มหาลัย แล้วเราอยู่มปลายอยู่
ตอนนางเข้า นางได้โทรศัพใหม่ โน้ตบุ๊ค รองเท้า เสื้อผ้าใส่ไปเรียน
แล้วตอนนางเรียนไปเรื่อยๆ นางก็ได้เงินค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพราะชีวิตมันยังไม่ลงตัว
เวลาเกิดไรเราก้เห็นนางใช้จ่ายได้เต็มที่ ตามกำหนดของนาง
แต่คือเราคิด ไง เราคิดตั้งแรกเลย
เพราะบ้านเราไม่ได้มีฐานะดี ค่าใช้จ่ายมันก็ต้องจำกัด
พ่อแม่เรา ให้พี่เราง่ายขนาดนี้ แล้วตอนถีงตาเรามันยังจะเหลือไหวอยู่เหรอ
ซึ่งก็ตามคาด ไม่ไหว
สุดท้ายตอนนี้เราได้ใช้โทรศัพเก่าพ่อ โน้ตบุ้คเก่าแม่
จะเจ็บน้อยกว่านี้มากถ้า ทั้งสองอย่างไม่ใช่รุ่นเดียวกันกับที่พี่เราซื้อ
คือถ้าซื้อใช้พร้อมช่วงพี่ มันก็สเปคดีสุดนะ แต่ตอนนี้ก้ผ่านมาสองปีแล้วไง
แล้วคือเราได้ใช้ต่ออะ ของพี่เราคือพาไปซื้อที่ร้านเลย
เราติดรอบโควต้ามหาลัยดัง ซึ่งเป้นคณะในฝันของเรา
ติดแล้วทำให้เรามีที่เรียนก่อนเพื่อนหลายคน ทำให้ช่วงปิดเทอมก่อนเปิดมเราจะว่าง
พอเราติด เราก้คิดว่าเราจะได้โทรศัพใหม่ กับโน้ตบุ๊คเป็นของตัวเองสักที
เราไม่ได้อยากได้ของใหม่เราแค่อยากมีโมเมนตออกไปเลือกของใช้เองบ้าง
เราเห็นพี่เราทำแล้วมันรู้สึกฟินอะ
มันเหมือนที่กำลังจะได้มาคือผลตอบแทนความพยายามของเรา
ที่เราต้องการก่อนเลยคือโทรศัพเพราะเครื่องที่เราใช้อยู๋มันใกล้ดับแล้ว
เราเลยเอาไปบอกแม่ แม่บอก จ่ายค่าเทอมให้สองคนก็ไม่มีเงินเหลือทำอะไรแล้ว
เราก็รู้สึกเฟลอยู่นะ ช่วงที่ควรจะเป็นความยินดีของเรา
แต่เราต้องมาเครียดเรื่องเราจะยังได้อะไรไปมหาลัยอยู๋มั้ย
พีคกว่าพีคคือแม่ไล่เราไปหางานพิเศษทำ
จะได้ลดรายจ่ายครอบครัว(ส่วนของเรา) ซึ่งที่จริงเราสนใจอยากลองทำอยู่แล้ว
แต่คือ ทำไมต้องตอนนี้อะ คือต่อไปนี้เราอยากได้อะไรก็ให้ทำงานเองเลยงี้เหรอ
พี่เราไม่เห็นต้องออกมาหาเงินเองเลย
พอเราบอกแม่ ท่านก็บอกก็พี่เราได้รอบสุดท้าย อะไรมันก็ไม่มีเวลาแล้ว
แล้วคือช่วงที่มันเรียนอยู่ละ ตอนปิดเทอมก็ไม่เห็นไล่มันไปทำงาน
จะมาบอกไม่มีเวลาได้ยังไง มาให้เราไปทำงานแล้วก็เอาเงินส่วนเราไปให้พี่เท่าเดิมงี้เหรอ
พูดได้คำเดียวว่า ลำเอียง
แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ พอเราว่าเขาก็บอกให้เราเลิกเปรียบเทียบคนอื่น
เราเข้าใจว่าทุกอย่างมันเป็นผลดีกับเราในอนาคต
แต่ความรู้สึกที่เรารับรู้อยู่ตอนนี้ มันคือความเจ็บใจ
ซึ่งมันคือสิ่งที่พี่เราไม่มีวันเข้าใจ เพราะนางผ่านช่วงชีวิตนี้มาอย่างสุขสบายแล้ว
มันเกลียดมันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆมารวมกัน
ไม่ได้มีอันไหนเกลียดแบบจริงจัง
แต่พอนึกทุกเรื่องมารวมกัน มันหาความคิดดีๆมาให้ไม่ได้จริงๆ
#คงได้แค่ทำใจ
#น้ำตาไหลตลอดการพิมพ์เสื้อเปื้อนน้ำมูกหมดแล้ว
#ใครเคยปรับตัวยังไงได้ช่วยแชร์ประสบการณ์หน่อยนะคะ