✏✒~มาลาริน~กระแสเลือกตั้งคึกคัก นวก.ฟันธงพรรคใหม่ยังไม่เกิด แหวงนปช.บอกมี 2 พรรคที่แข่งกัน สมชัยชี้แล้วแต่ลุงตู่จะเลือก

นักวิชาการเชื่อพรรคนิติราษฎร์เกิดยากสนามเลือกตั้งจะอาศัยมุมกฎหมายอย่างเดียวไม่ได้


4 มี.ค.61- นายยุทธพร อิสรชัย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชและนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ กล่าวว่า บรรดาพรรคการเมืองที่เดินทางไปจดทะเบียนนั้น หากแบ่งจากโครงสร้างพรรคแล้ว

สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มได้แก่

1. พรรคที่ตั้งใหม่โดยมีสายสัมพันธ์กับพรรคหรือกลุ่มการเมืองเดิม คล้ายกับพรรคสาขาลูก 2.พรรคการเมืองที่ตั้งใหม่เลย โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายใด

อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองทั้ง 2 ลักษณะ อาจไม่ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งสนามใหญ่มากนัก เพราะจากพรรคเหล่านี้ไม่มีอะไรมาการันตีคะแนนเสียง เช่นเดียวกับพรรคการเมืองใหญ่ที่มีมีมาอย่างยาวนาน เพราะในสนามแข่งขัน จะอาศัยเพียงมุมของกฎหมายมาใช้ คงจะเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องมีบริบทอื่นๆประกอบ ทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งการเปิดพื้นที่สาธารณะเพิ่มรับฟังความเห็นของประชาชน ซึ่งพรรคเหล่านี้เต็มที่แล้ว คงเป็นได้เพียงพรรคการเมืองขนาดกลางเท่านั้น

    สำหรับแนวทางเบื้องต้นสำหรับการสร้างพรรคการเมืองแบบใหม่ ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ได้นำเสนอนั้น ถือว่ามีความน่าสนใจ และจะช่วยดึงบรรดาคนรุ่นใหม่ที่ยังคงติดภาพการเมืองไทยแบบเดิมๆ หรือไม่ให้ความสนใจ หันมาสนใจและทำความเข้าใจการเมือง ในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม แม้ว่าผลการเลือกตั้งจะไม่เป็นไปตามที่คิด ซึ่งจะส่งผลดีต่อไปในระยะยาว

  อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นครั้งต่อไปนั้น น่าจะเป็นไปในลักษณะเดิม หากมีการเปลี่ยนแปลงในภาพรวมก็คงไม่ถึงร้อยละ 30 เพราะประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นในตัวผู้แทนฯในพื้นที่เช่นเดิม

http://www.thaipost.net/main/detail/4255

น่าคิดนะคะ....🐮🐮🐮🐮🐮




'เหวง'ฟันธงเลือกตั้งมีพรรคการเมืองแค่2ขั้วเอาคสช.กับฝ่ายประชาธิปไตย




4 มี.ค.61- นพ.เหวง โตจิราการ สมาชิกพรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช.กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่เป็นการเลือกระหว่างพรรคที่สนับสนุนและพรรคที่ไม่สนับสนุนคสช.ขณะนี้แน่นอนแล้วว่าต้องมีการเลือกตั้ง แต่จะเป็นกพ.62 หรือไม่ก็คงต้องจับตากันดูต่อไปแม้ว่าคสช.โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะออกมาส่งเสียงเตือนว่า พรรคการเมืองสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่ห้ามพูดเรื่องนโยบายเรื่องนี้ไม่ต่างอะไรจากการห้าม ดวงอาทิตย์ไม่ให้ขึ้นทางตะวันออก

    "คนไทยทั้งประเทศเขารอการเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อจะตัดสินใจทางการเมืองว่าจะเดินไปตามเส้นทางที่คสช.บังคับจัดวางไว้ หรือจะปฏิเสธและเดินไปบนเส้นทางที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง แม้แต่พล.อ.ประยุทธ์ยังพูดซ้ำๆ อยู่เสมอว่า จะเอาแบบผม หรือจะเอาแบบเก่า เอาแบบผมก็คือเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ2560 ของคสช.เช่น สว.แต่งตั้งโดยคสช.250 คน มีอำนาจเหนือสส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ร่างโดยคณะของคสช.การปฏิรูปประเทศใน 11 ด้านที่กำหนดโดยคณะของคสช. องค์กรอิสระห้าองค์กรรวมศาลรัฐธรรมนูญที่มาจากคสช.แต่มีอำนาจเหนืออำนาจของประชาชนที่ผ่านจากการเลือกตั้ง มาตรฐานทางจริยธรรมที่ร่างโดยศาลรธน.และองค์กรอิสระทั้งห้าที่มาจากคสช. ซึ่งพวกเขาหาทางเลี่ยงบาลีไม่ต้องรับโทษได้ แต่หากเป็นผู้มาจากการเลือกตั้งยากที่จะรอดได้ ยังมีการเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว การนับคะแนนแบบจัดสรรปันส่วนแบบผสม การลงโทษสี่ชั่วโคตร การใช้กฏหมายย้อนหลังกับผู้ที่เป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายอำนาจนิยมฯลฯ"

    เขาบอกว่าพรรคการเมืองที่จะลงสนามเลือกตั้งครั้งนี้จึงจัดกลุ่มได้เพียงสองฟากเท่านั้นคือฟากที่เดินไปตามเส้นทางของคสช.กับฟากที่ปฎิเสธเส้นทางของคสช.และเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริงพวกที่ต้องการรักษาและสืบทอดการรังสรรค์ของคสช.ได้ประกาศชัดเจนว่าจะเดินตามรอยคสช.โดยไม่เคอะเขินแต่อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นพรรคกปปส.ของพวกนายสุเทพ พรรคประชาชนปฎิรูปของนายไพบูลย์ นิติตะวัน และอีกหลายพรรคที่แสดงตัวอย่างชัดเจนแล้ว ก็ยังแต่พรรคฝั่งประชาธิปไตยเท่านั้นเองที่จะกล้าหาญชาญชัยในแสดงออกอย่างชัดแจ้งหรือไม่ว่าพวกท่านปฎิเสธเส้นทางคสช.และกลับไปสู่เส้นทางประชาธิปไตยของอารยะประเทศทั้งหลาย คนไทยทั้งประเทศกำลังเฝ้ารออยู่


http://www.thaipost.net/main/detail/4254

แล้วนปช.สนับสนุนใคร..?





“สมชัย”ชี้ด้วยกระแส ชูบิ้กตู่เป็นนายก




เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กล่าวถึงกระแสหลังวันเปิดจับจองชื่อพรรคการเมืองใหม่ หลายพรรคแสดงจุดยืนว่า จะหนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง ซึ่งถือว่าไม่ผิด เพราะเป็นการแสดงเจตน์จำนงของผู้ก่อตั้งพรรค แต่หากมีการเลือกตั้งจริง ที่จะประกาศเป็นทางการได้ จะมีเพียงแค่พรรคเดียวเท่านั้น แต่พอไปดูพาดหัวของสื่อบางสำนักระบุว่า กกต.ไฟเขียวพรรคการเมืองชูบิ๊กตู่เป็นนายกฯเห็นแล้วอาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่ากกต.เอนเอียงไปยังผู้มีอำนาจ จึงขอชี้แจงว่า

มาตรา 88 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ระบุว่าในการเลือกตั้งทั่วไป ให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแจ้งรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคการเมืองนั้นมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นายกรัฐมนตรีไม่เกิน 3 รายชื่อ

และมาตรา 89 ระบุว่า การเสนอชื่อต้องมีหนังสือยินยอม และไม่เคยทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองอื่น แปลเป็นภาษาชาวบ้านว่า หากพลเอกประยุทธ์ จะอยู่ใน 1 ใน 3 ชื่อที่พรรคการเมืองจะเสนอให้เป็นายกรัฐมนตรี ก็เสนอได้แค่พรรคเดียว โดยเจ้าตัวต้องยินยอม

“วันนี้ พรรคไหนจะบอกว่าจะชูพล.อ.ประยุทธ์ก็คงไม่ผิดอะไร เป็นการเรียกเรตติ้งกันไป แต่พรรคที่จะเสนอเป็นทางการจะมีได้พรรคเดียว พล.อ.ประยุทธ์คงต้องตัดสินใจให้ดี และควรเลือกพรรคที่น่าจะได้ ส.ส.ในสภา ไม่น้อยกว่า 25 คน เพราะเป็นเงื่อนไขในการเสนอชื่อเข้าแข่งขันลงคะแนนด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสองสภารวมกัน” นายสมชัยกล่าว

เลือกถูกพรรค วางแผนดี มีแนวร่วม ได้ 375 เสียงขึ้นไป ก็โหวตจบในรอบเดียว เลือกผิดพรรค หรือ ไม่เลือก ก็ต้องรอให้เขาโหวตไม่ได้ในรอบแรกแล้วค่อยรอเป็นนายกคนนอกบัญชี

http://www.banmuang.co.th/news/politic/104528

ต่างๆนานาทัศนะ การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นสีสันน่าจับตานะคะ

แต่ดิฉันเชื่อว่า ลุงตู่จะไม่ลงพรรคใดแน่นอนค่ะ  

ท่านจะเข้ามาก็ต่อเมื่อนักการเมืองไปไม่ได้ ถึงทางตันเท่านั้น

ในระยะนี้คอยติดตามกันต่อไปนะคะ...✌✌✌✌✌✌



เวลาเปลี่ยน อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้...เพราะคำท้าทายให้ลุงตู่ลงเลือกตั้งนี่แหละค่ะ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่