JJNY : ปลุกคนไทย เอาปท.ออกจากวิกฤต|พท.จี้ 'ตู่-ป้อม' อย่าเงียบ| สมชัยดักทางตู่| จีนประเมินเอง อาจมีปชช.ติดโควิด 250 ล.

อดีตเลขาฯสมช. ปลุกคนไทย เอาปท.ออกจากวิกฤต ชี้ความเสื่อม 8 ปี ต้องจบด้วยแลนด์สไลด์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3741129
  
 
อดีตเลขาฯสมช. ปลุกคนไทย ช่วยเอาปท.ออกจากวิกฤต ชี้ความเสื่อม 8 ปีต้องจบด้วยแลนด์สไลด์  
 
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย  อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ  (สมช.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า ขณะนี้ถือเป็นช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนผ่าน จากการใช้อำนาจนิยมของเผด็จการ ไปเป็นอำนาจของประชาชนต้องเป็นใหญ่ ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยประกาศตนต่อชาวโลกว่ามีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่ยังคงเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจขึ้นได้ เพราะกลุ่มคนทำการยึดอำนาจเป็นพวกไม่เคารพกฎหมายดูแคลนประชาชน จึงกระทำการเช่นนั้นได้ และใช้เล่ห์เพทุบายมาเป็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจบริหารประเทศก็ใช้การปกครองแบบอำนาจนิยม
 
ผลลัพธ์ 8 ปี ก็คือ ทำให้ทุกมิติของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การทหารล้วนปรากฎผลเสื่อมทรามเป็นภาพของสีเทาทั้งสิ้นซึ่งแปลความได้ว่าประเทศนี้ได้เข้าสู่วิกฤติการณ์ขั้นที่ประชาชนประสบความทุกข์ระทมไร้ที่พึ่งในทุกมิติ แม้กระทั่งการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ และวุฒิสมาชิกผลพวงของการยึดอำนาจก็ยังถูกสังคมตั้งคำถามว่าท่านผู้ใหญ่เหล่านั้นได้เข้าใจความหมายของ ”ความชอบธรรม” กันแค่ไหนและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้จริงหรือ ทางออกจากวิกฤติการณ์ดังกล่าวสังคมไทยต้องยืนยงด้วยลำแข้งของตนเองด้วยการรวมพลังคนไทยจากทั้งใน และนอกประเทศ ซึ่งต่างก็มีฝีไม้ลายมือกลับมารับใช้ชาติ (Time to come Home) ก็อยู่ในวิสัยที่เราจะตีฝ่าวิกฤตการณ์กันไปได้อย่างอยู่รอดปลอดภัย
 
ดังนั้น ผลการเลือกตั้งใหญ่ที่ใกล้จะเกิดขึ้นจึงต้องจบลงที่ชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ของปีกพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันขับเคลื่อนการเมืองใหม่ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางมีอำนาจจัดการตนเองกล่าวโทษ ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของภาคราชการได้อย่างเข้มข้นแล้ว เมื่อนั้นการมีส่วนร่วมรวมพลังของภาคประชาชนทั่วสารทิศพาชาติออกจากวิกฤติการณ์ก็จะเป็นจริงไปพร้อมกับการสลัดนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจใจมดออกจากอำนาจไปเผชิญคดีความท่วมหัว เพราะน้ำลดตอผุดตามกฎแห่งกรรมไล่ล่า



พท.จี้ 'ตู่-ป้อม' อย่าเงียบ ปม กกท.ทำสัญญาบอลโลกผิดเงื่อนไข เอื้อนายทุน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7429247
 
พท.จี้ ‘ประยุทธ์-ประวิตร’ อย่าเงียบ ปม กกท.ทำสัญญาบอลโลกผิดเงื่อนไข ปชช.ถูกลิดรอนสิทธิ์ เอื้อประโยชน์นายทุน ลั่นต้องมีคนรับผิดชอบ
 
วันที่ 24 ธ.ค. 2565 นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สุรินทร์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เร่งสะสางปมปัญหาการถ่ายทอดสัญญาณการแข่งขันฟุตบอลโลก
 
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า แม้การถ่ายทอดสดจะจบสิ้นลงไปแล้ว แต่ปัญหาเรื่องการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ยังไม่จบ เพราะการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานในการกำกับดูแลของรัฐ มีการทำสัญญาให้สิทธิ์ขาดในการถ่ายทอดแก่เอกชนรายหนึ่ง ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎ must carry ของ กสทช. เป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยถูกลิดรอนสิทธิ์ในการรับชมอย่างไม่เป็นธรรม จนสังคมตั้งคำถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการเอื้อประโยชน์นายทุนหรือไม่ เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ อย่าแกล้งปล่อยให้เงียบหายโดยไร้ข้อสรุป
 
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับเงินสนับสนุนจำนวน 600 ล้านบาทที่ได้รับผ่านกองทุน กทปส.นี้ มีที่มาจากรายได้การบริหารสัมปทานกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของชาติของประชาชนทุกคน เงินสนับสนุนในส่วนนี้จึงไม่ควรนำไปใช้แบบไม่คุ้มค่า โดยขาดความรับผิดชอบต่อประชาชน หรือขาดกำกับดูแลที่ดี
 
การใช้จ่ายของภาครัฐทุกวันนี้ไร้ประสิทธิภาพมาก รัฐบาลนี้เข้ามามุ่งใช้แต่งบประมาณ หลายครั้งเป็นไปอย่างไร้ประสิทธิภาพ บริหารจัดการกิจการใดๆ ไม่เป็น งบประมาณใช้ผิดที่ผิดทาง ไม่มีคนรับผิดชอบ พรรคพท.จะติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง การทำสัญญาเอื้อประโยชน์นายทุนโดยหน่วยงานของรัฐในครั้งนี้ต้องเร่งสะสาง อย่าให้ชาวบ้านครหาว่าพวกท่านเป็นรัฐบาลของเจ้าสัว แต่ไม่เห็นหัวประชาชน” นายชนินทร์ กล่าว
 

 
สมชัย ดักทางบิ๊กตู่ ลงพื้นที่ตีเนียนหาเสียง บอกหลังๆไปบ่อย ทั้งๆที่น้ำก็ไม่ได้ท่วม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3741508
   
‘สมชัย’ เตือน’บิ๊กตู่’ อย่าใช้ทรัพยากรรัฐแฝงหาเสียงลต. หลังประกาศเล่นการเมืองเต็มตัว จี้โชว์สปิริตรีบสมัครสมาชิก ดึงตัวสส. ไหลเข้าพรรค
  
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย (สร.) และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศเข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครทสช. ว่า หลังจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้ทรัพยากรของรัฐ ต้องไม่เอื้อประโยชน์เพื่อการเลือกตั้ง เพราะขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์ ขยันลงพื้นที่เป็นพิเศษทั้งที่พื้นที่นั้นไม่ได้ประสบปัญหา แต่เป็นการลงไปพบปะกับผู้ประสงค์จะลงรับเลือกตั้งในนามของพรรครทสช.
 
ยกตัวอย่าง ช่วงที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งไม่ได้มีปัญหาน้ำท่วมเหมือนจังหวัดสงขลา โดยข่าวปรากฎออกมาได้เปิดโอกาสให้ผู้สมัครของพรรคการเมืองต่างๆที่มีแนวโน้มมาอยู่รทสช.ได้เข้าพบเพื่อปรึกษาหารือ เหตุนี้อาจเข้าข่ายการใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งได้ เพราะนับจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ในสายตาประชาชนว่าวางตัวเหมาะสมหรือไม่ หรือมีแนวโน้มใช้ทรัพยากรของรัฐ ตำแหน่งหน้าที่ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่

เมื่อถามว่า การประกาศตัวของพล.อ.ประยุทธ์ จะทำให้สถานการณ์การเมืองนับจากนี้เป็นอย่างไร นายสมชัย กล่าวว่า ช่วงปีใหม่สถานการณ์ยังคงปกติไม่มีอะไร นอกจากเป็นจังหวะที่พรรครทสช.ใช้โอกาสนี้ขึ้นป้ายอวยพรปีใหม่โดยที่มีรูปพล.อ.ประยุทธ์อยู่ด้วย แต่ต้องย้ำเตือนว่าพล.อ.ประยุทธ์ สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคแล้วหรือไม่ ถ้ายังไม่ได้สมัครจะเอารูปพล.อ.ประยุทธ์ขึ้นไม่ได้ ส่วนตอบรับการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคควรจะต้องมีมติกรรมการบริหารพรรคก่อน ดังนั้นความคึกคักอาจจะเกิดขึ้นช่วงหลังปีใหม่ 2566 ที่จะมีส.ส.และว่าที่ผู้สมัครส.ส.จำนวนหนึ่งไหลเข้าพรรครทสช. แต่เท่าที่ดูท่าทีของคนที่เป็นส.ส.ในสภาฯก็ยังไม่มีใครกล้าที่จะลาออกมาเพื่อเข้าพรรครทสช.อย่างเต็มตัว ไม่เหมือนกรณีของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่มีส.ส.ลาออกนับสิบคนและมาสมัครเข้าพรรคภท. ขอใช้คำว่าใจถึงมากกว่า เพราะมีจุดยืนทางการเมืองชัดเจนและมั่นคงมากกว่า
 
ส่วนพรรครทสช. ก็ยังไม่เห็นมีส.ส.คนใดลาออกแล้วเข้ามาอยู่พรรคเลย ทำให้เห็นถึงความลังเลและความไม่มั่นใจว่าจะไปต่อกับพรรครทสช. ยิ่งไปกว่านั้นการที่พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาแก้ตัวภายหลังประกาศตัวว่าเป็นแค่เพียงการแสดงเจตนาแสดงให้เห็นว่าตัวนายกฯเองก็ยังไม่ถึงที่สุด ดังนั้น ถ้าหากจะทำให้พรรคนี้เข้มแข็ง พล.อ.ประยุทธ์ ต้องชัดเจนด้วยการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคและรับตำแหน่งภายในพรรค เพราะจะทำให้กระแสการไหลเข้ามาของส.ส.มีจำนวนมากยิ่งขึ้นและได้บุคคลที่สามารถได้ที่นั่งส.ส.ให้กับพรรคได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่