รีวิว Red Sparrow : หญิงร้อนพิฆาต (คะแนน 8 /10)
เส้นทางของสายลับหญิง กับภารกิจที่ต้องใช้กามอารมณ์..
[**No Spoil ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ]
แค่ชื่อนักแสดงนำก็น่าดูแล้วสำหรับ Red Sparrow ที่ได้นักแสดงดังอย่าง "เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์" มารับบทนางเอกในเรื่องนี้ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ ออเจ้าเปลืองเนื้อเปลืองตัวเป็นอย่างมาก กับการต้องโชว์เนื้อหนังมังสาให้ประชาชีได้ยลโฉม และถ้าหากขาดการแสดงของ "เจน ลอว์" แล้วไซร้ ดีกรีความสนุกของหนังเรื่องนี้จะลดลงไปอีกมากโขเลยทีเดียว หนังได้เรท 15+ แต่ส่วนตัวเรารู้สึกว่ามันควรจะ 18+ ด้วยซ้ำไป ทั้งฉากทางเพศ และฉากการฆาตกรรม..
Red Sparrow เป็นเรื่องราวของ "โดมินิก้า เอโกโรวา" ( รับบทโดย : เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ) อดีตนักเต้นบัลเล่ต์ ที่ประสบอุบัติเหตุขาหัก ทำให้เกิดปัญหากับหน้าที่การงานของเธอ อีกทั้งแม่ของเธอก็กำลังป่วย ต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก ทำให้เธอมีสภาพเหมือนถูกบีบบังคับให้ต้องเข้าสู่วงการสายลับที่มีชื่อว่า "สแปร์โรว์"
สแปร์โรว์ เป็นสายลับที่ใช้หน้าตาความสวย และจิตวิทยาในการล่อลวงพวกเหยื่อ เหล่าชายชาตรีที่มีความหื่นกระหายในกามอารมณ์ทั้งหลาย เพื่อให้คายความลับสำคัญออกมา โดยที่การฝึกฝนสุดหฤโหดทั้งหลาย ไม่ได้โหดด้วยการต่อสู้ หรือการทรมานทางร่างกายแต่อย่างใด แต่สร้างความทรมานทางจิตใจกับผู้ฝึกเป็นอย่างมาก
โดยภารกิจของโดมินิก้า คือการล้วงความลับจากเจ้าหน้าที่ CIA "เนท นาร์ช" ( รับบทโดย : โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน ) ซึ่งก็เป็นเจ้าหน้าที่ที่ฝึกมาดี และมีความสามารถมากไม่แพ้กัน เราจึงได้เห็นการชิงเหลี่ยม ชิงไหวพริบกันสุดฤทธิ์ในหนังเรื่องนี้ มากกว่าจะเป็นหนังที่เน้นฉากบู๊ ฉากต่อสู้ แม้ว่าจะเป็นหนังแนวสายลับก็ตาม..
ส่วนที่เรารู้สึกชอบในหนังเรื่องนี้.. คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการแสดงของ "เจน ลอว์" ที่ต้องขอยกตำแหน่งน้ำปลาแท้ตราคนแบกหนังให้เธอจริง ๆ แม้ว่าส่วนตัวเราจะได้รู้ว่าเธอเป็นนักแสดงที่เก่งกาจอะไรมากขนาดติดอันดับต้นๆ แต่มันก็เพียงพอที่จะช่วยให้หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องแบบน่าติดตามมากขึ้น
ส่วนอีกจุดที่ชอบคือเรื่องของตัวบท บทหนังนั้นไม่ได้เดินเรื่องเป็นเส้นตรง มีการชิงเหลี่ยม ชิงไหวพริบกันตลอดทั้งเรื่อง แถมพูดโกหกกันหน้าตายแบบไม่อายฟ้าดิน ใครได้เป็นแฟนนี่ต้องระแวงกันสุด ๆ และก็นั่นแหละ.. มันทำให้เรารู้สึกอยากติดตาม อยากฟังคำพูดทุกคำของตัวละครว่ามีอะไรแอบแฝงไว้หรือไม่ เป็นจุดที่สร้างความบังเทิงให้กับเราได้ดีทีเดียว
ส่วนจุดที่เราไม่ชอบ.. คือเรารู้สึกว่าหนังมีความยาวมากเกินไป หนังใช้เวลาไปกว่า 2 ชั่วโมง 19 นาที แต่ในช่วงกลางเรื่องมันมีหลาย ๆ จุดที่สามารถย่อให้กระชับลงได้ เพราะถ้ามันไม่สำคัญ และไม่ทำออกมาได้ดีจริง มันจะเป็นความเนือย และน่าเบื่อสำหรับผู้ชมไม่น้อยเลย
อีกจุดคือ โดยส่วนตัวแล้วเรารู้สึกว่า "เคมี" ของนักแสดงเกือบทุกคนไม่เข้ากันเลย ไม่รู้ว่าซ้อมรับส่งบทกันอย่างไร กินข้าวโต๊ะเดียวกันบ้างไหม หรือต่างคนต่างซ้อมกับกระจกแล้วมาเข้าฉากเลย หรืออาจเป็นเพราะต้องตีบทสายลับหน้าตายเลยทำให้เคมีระหว่างกันออกเป็นแบบนี้ก็ไม่ทราบได้ แต่ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบจริง ๆ
ในส่วนของคิวบู๊ เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการที่มีคิวบู๊น้อยกว่าที่คิดไว้ เพราะมันไม่ใช่สายลับบู๊ระห่ำเมือง แต่เรารู้สึกตะหงิด ๆ ในใจ กับการตัดสินใจของตัวละครในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน เหมือนพยายามเลือกทางที่ยากมากกว่าง่าย เพราะกลัวว่าคนดูจะไม่ลุ้นจนเกินไป
สรุป.. โดยภาพรวมเป็นหนังที่ชอบครับ ไม่เสียดายเงินและเวลาเลย แต่ต้องบอกว่ามันไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน ถ้าคุณคิดจะเข้าไปดูฉากแอคชั่น ฉากต่อสู้กันเยอะ ๆ ขอให้คุณเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะเรื่องนี้สู้กันด้วยจิตวิทยาและวาจาเป็นส่วนใหญ่ อาจทำให้ใครหลาย ๆ คนต้องผิดหวัง แต่ถ้าคุณคิดว่าใช่ นี่แหละทางของเรา เชิญเข้าไปทัศนาในโรงกันได้เลยครับ ไม่ผิดหวัง
“รสนิยมการดูหนังแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
ถ้าคุณคิดว่าใช่ พิสูจน์ด้วยตาของคุณเองในโรงหนังดีที่สุด
แล้วอย่าลืมกลับมาคุยกันนะครับ ^^”
.
.
.
Facebook : ก็แค่คนชอบดูหนัง
ใครอยากติดตามรีวิวหนังใหม่ ๆ สามารถติดตามได้ทาง GUAWESOME.com อีกช่องทางครับ
ผมพึ่งได้มีโอกาสเขียนให้กับทางเว็บไซต์ ก่อนจะนำมาลง Pantip อีกทีฮะ
ยังไงก็ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยจ้า~
https://goo.gl/21KLZT
[CR] [ก็แค่คนชอบดูหนัง] Red Sparrow : ออเจ้าเปลืองเนื้อ เปลืองตัวมากขอรับ !! [No Spoil]
เส้นทางของสายลับหญิง กับภารกิจที่ต้องใช้กามอารมณ์..
[**No Spoil ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ]
แค่ชื่อนักแสดงนำก็น่าดูแล้วสำหรับ Red Sparrow ที่ได้นักแสดงดังอย่าง "เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์" มารับบทนางเอกในเรื่องนี้ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ ออเจ้าเปลืองเนื้อเปลืองตัวเป็นอย่างมาก กับการต้องโชว์เนื้อหนังมังสาให้ประชาชีได้ยลโฉม และถ้าหากขาดการแสดงของ "เจน ลอว์" แล้วไซร้ ดีกรีความสนุกของหนังเรื่องนี้จะลดลงไปอีกมากโขเลยทีเดียว หนังได้เรท 15+ แต่ส่วนตัวเรารู้สึกว่ามันควรจะ 18+ ด้วยซ้ำไป ทั้งฉากทางเพศ และฉากการฆาตกรรม..
Red Sparrow เป็นเรื่องราวของ "โดมินิก้า เอโกโรวา" ( รับบทโดย : เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ) อดีตนักเต้นบัลเล่ต์ ที่ประสบอุบัติเหตุขาหัก ทำให้เกิดปัญหากับหน้าที่การงานของเธอ อีกทั้งแม่ของเธอก็กำลังป่วย ต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก ทำให้เธอมีสภาพเหมือนถูกบีบบังคับให้ต้องเข้าสู่วงการสายลับที่มีชื่อว่า "สแปร์โรว์"
สแปร์โรว์ เป็นสายลับที่ใช้หน้าตาความสวย และจิตวิทยาในการล่อลวงพวกเหยื่อ เหล่าชายชาตรีที่มีความหื่นกระหายในกามอารมณ์ทั้งหลาย เพื่อให้คายความลับสำคัญออกมา โดยที่การฝึกฝนสุดหฤโหดทั้งหลาย ไม่ได้โหดด้วยการต่อสู้ หรือการทรมานทางร่างกายแต่อย่างใด แต่สร้างความทรมานทางจิตใจกับผู้ฝึกเป็นอย่างมาก
โดยภารกิจของโดมินิก้า คือการล้วงความลับจากเจ้าหน้าที่ CIA "เนท นาร์ช" ( รับบทโดย : โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน ) ซึ่งก็เป็นเจ้าหน้าที่ที่ฝึกมาดี และมีความสามารถมากไม่แพ้กัน เราจึงได้เห็นการชิงเหลี่ยม ชิงไหวพริบกันสุดฤทธิ์ในหนังเรื่องนี้ มากกว่าจะเป็นหนังที่เน้นฉากบู๊ ฉากต่อสู้ แม้ว่าจะเป็นหนังแนวสายลับก็ตาม..
ส่วนที่เรารู้สึกชอบในหนังเรื่องนี้.. คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการแสดงของ "เจน ลอว์" ที่ต้องขอยกตำแหน่งน้ำปลาแท้ตราคนแบกหนังให้เธอจริง ๆ แม้ว่าส่วนตัวเราจะได้รู้ว่าเธอเป็นนักแสดงที่เก่งกาจอะไรมากขนาดติดอันดับต้นๆ แต่มันก็เพียงพอที่จะช่วยให้หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องแบบน่าติดตามมากขึ้น
ส่วนอีกจุดที่ชอบคือเรื่องของตัวบท บทหนังนั้นไม่ได้เดินเรื่องเป็นเส้นตรง มีการชิงเหลี่ยม ชิงไหวพริบกันตลอดทั้งเรื่อง แถมพูดโกหกกันหน้าตายแบบไม่อายฟ้าดิน ใครได้เป็นแฟนนี่ต้องระแวงกันสุด ๆ และก็นั่นแหละ.. มันทำให้เรารู้สึกอยากติดตาม อยากฟังคำพูดทุกคำของตัวละครว่ามีอะไรแอบแฝงไว้หรือไม่ เป็นจุดที่สร้างความบังเทิงให้กับเราได้ดีทีเดียว
ส่วนจุดที่เราไม่ชอบ.. คือเรารู้สึกว่าหนังมีความยาวมากเกินไป หนังใช้เวลาไปกว่า 2 ชั่วโมง 19 นาที แต่ในช่วงกลางเรื่องมันมีหลาย ๆ จุดที่สามารถย่อให้กระชับลงได้ เพราะถ้ามันไม่สำคัญ และไม่ทำออกมาได้ดีจริง มันจะเป็นความเนือย และน่าเบื่อสำหรับผู้ชมไม่น้อยเลย
อีกจุดคือ โดยส่วนตัวแล้วเรารู้สึกว่า "เคมี" ของนักแสดงเกือบทุกคนไม่เข้ากันเลย ไม่รู้ว่าซ้อมรับส่งบทกันอย่างไร กินข้าวโต๊ะเดียวกันบ้างไหม หรือต่างคนต่างซ้อมกับกระจกแล้วมาเข้าฉากเลย หรืออาจเป็นเพราะต้องตีบทสายลับหน้าตายเลยทำให้เคมีระหว่างกันออกเป็นแบบนี้ก็ไม่ทราบได้ แต่ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบจริง ๆ
ในส่วนของคิวบู๊ เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการที่มีคิวบู๊น้อยกว่าที่คิดไว้ เพราะมันไม่ใช่สายลับบู๊ระห่ำเมือง แต่เรารู้สึกตะหงิด ๆ ในใจ กับการตัดสินใจของตัวละครในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน เหมือนพยายามเลือกทางที่ยากมากกว่าง่าย เพราะกลัวว่าคนดูจะไม่ลุ้นจนเกินไป
สรุป.. โดยภาพรวมเป็นหนังที่ชอบครับ ไม่เสียดายเงินและเวลาเลย แต่ต้องบอกว่ามันไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน ถ้าคุณคิดจะเข้าไปดูฉากแอคชั่น ฉากต่อสู้กันเยอะ ๆ ขอให้คุณเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะเรื่องนี้สู้กันด้วยจิตวิทยาและวาจาเป็นส่วนใหญ่ อาจทำให้ใครหลาย ๆ คนต้องผิดหวัง แต่ถ้าคุณคิดว่าใช่ นี่แหละทางของเรา เชิญเข้าไปทัศนาในโรงกันได้เลยครับ ไม่ผิดหวัง
“รสนิยมการดูหนังแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
ถ้าคุณคิดว่าใช่ พิสูจน์ด้วยตาของคุณเองในโรงหนังดีที่สุด
แล้วอย่าลืมกลับมาคุยกันนะครับ ^^”
.
.
.
Facebook : ก็แค่คนชอบดูหนัง
ใครอยากติดตามรีวิวหนังใหม่ ๆ สามารถติดตามได้ทาง GUAWESOME.com อีกช่องทางครับ
ผมพึ่งได้มีโอกาสเขียนให้กับทางเว็บไซต์ ก่อนจะนำมาลง Pantip อีกทีฮะ
ยังไงก็ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยจ้า~ https://goo.gl/21KLZT