ไปเช่าบ้านด้วยความรีบร้อน เพราะงานด่วน ที่ทำงานใหม่อยู่ไกลมาก ไม่มีเวลาไปหาบ้าน
เจอบ้านหลังนี้ในอินเตอร์เน็ต เออ มีสนามหญ้าหน้าบ้าน เหมาะให้ลูกๆวิ่งเล่น เนื่องด้วย มีสัตว์เลี้ยง ก็ถามทางโทรศัพท์ว่าสะดวกให้เช่าไหม บอกได้ๆ สบายยย วิ่งเล่นสนามหญ้าตรงนี้ได้ บลาบลา
ตามสัญญาบ้าน มีรายการดังนี้.
จ่าย 50000 บาทแรก
- เป็นเงินค่าทำความสะอาด 300/เดือน รวม 3600 บาท
- ค่าประกัน 16400 บาท เป็นค่าประกันของเสียหาย (ในบ้านมีแค่ตู้ 2 เตียง 3 ม้านั่งไม้อันหนักๆ 4 แอร์2ตัว เครื่องทำน้ำอุ่น 2)
- ค่าเช่า 3 เดือน
สุดท้าย 30000 บาท
- ตอนเข้าอยู่ให้จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเดือนละ1หมื่น
สรุปจ่ายไป 60000 บาท สำหรับสำหรับการเข้าอยู่เดือนแรก ไฟตามสัญญาบอกว่าเป็นไฟรัฐบาล
(เข้าใจว่ายังไงกันคะ ไฟรัฐบาล คือจ่ายตามสลิปเหมือนที่เราเข้าใจไหม)
เดือนแรก เจอค่าไฟในสลิปการไฟฟ้า 1900 บาท ถึงกับอึ้ง
เพราะแอร์ไม่ได้เปิด ไม่ชอบนอนแอร์ ตู้เย็นก็ยังไม่ได้ซื้อ อยู่เฉพาะตอนนอนจริงๆคือหลังสองสามทุ่ม
เลยถามว่า เอ๊ะยังไง มิเตอร์นี้มีใครพ่วงไฟด้วยเหรอ นี่ไฟของหนูคนเดียวเหรอ --ใช่ค่ะ ว่างั้น
เลยส่งให้ดูสลิปของบ้านเช่าที่เดิมว่า บ้านแบบที่ชาร์จเพิ่มค่าไฟที่หน่วยละ 8 บาท เรายังจ่ายเดือนละพันสองพันสามเลย อันนั้นมีตู้เย็นด้วย มีเครื่องทำน้ำอุ่นเหมือนกัน
กลับลำ บอกว่าไปดูมิเตอร์ข้างห้องนะคะ แล้วจดหน่วยไว้ หน่วยละ5 บาทค่ะ
อ้าว ทำไมไม่บอกแต่แรก ตอนเข้าเราจะได้จดไว้
อยู่ๆวันดีคืนดี ก็จะมีห้องด้านในล็อคเอง ล็อคแบบล็อคลงกลอน ซึ่งไม่ใช่นิสัยเรา แล้วมันเป็นห้องน้ำที่เราปล่อยให้แมวเดินมาฉี่ในกระบะในห้องน้ำ เราเลยมั่นใจว่ามีคนเข้ามาโดยไม่แจ้ง
เจ้าของเค้าก็พยายามมากให้แม่บ้านเขาเข้ามาจัดห้องเรา เราเลยบอกว่ามันเป็นเอกสาร ทั้งเอกสารส่วนตัวเอกสารงานที่ไม่ได้เอาออกจากกล่อง ไม่สะดวกให้คนอื่นมายุ่ง.
เกริ่นยาว อย่าคิดว่าไปเช่าคฤหาสถ์อยู่ ไม่ใช่แบบนั้น มันเหมือนบ้านที่ทำให้นักท่องเที่ยวเช่ารายวัน แล้วมาปล่อยระยะยาว แบ่งเป็นล็อคๆ ซึ่งเราอยุ่จริงล็อคเดียว อีกล็อคหนึ่งก็เอาไว้เผื่อแม่มานอนหรือเพื่อนมา ก็คือแบ่งบ้าน1 หลังเป็นสองส่วนที่ไม่เกี่ยวกันเลย แต่เราเช่าทั้งหลัง
2 เดือนผ่านไป หลังจากเอกสารในตู้ไปรษณีย์หายบ้าง มีคนแถวนั้น และแม่บ้านเปิดเข้ามาในบริเวณบ้านตามใจฉันบ้าง แถมมีคนมาเปิดเข้าบ้านทำการสำรวจ และมีการมาบอกว่าให้เอาชั้นรองเท้ากะของที่วางหน้าห้องเก็บเข้าไปในห้อง
บอกให้เอาตะไคร้ที่ปลูกให้จัดการให้เรียบร้อย (เรานี่นึกว่าเราไปปลูกต้นสักในสนามเขาเลยทีเดียว)
เลยพอละ มาเช่าบ้านทำไมล่ะเนี่ย อยู่ห้องไม่ต้องมีพื้นที่ก็เหมือนกันไหมถ้าแบบนี้ ยอมเสียเงินประกันไปตามที่แม่บอก แม่เชียร์ให้ย้ายตั้งแต่เจอเรื่องคนมาเปิดประตูเข้ามาในบ้าน
เดือนสุดท้ายที่อยู่ จ่ายล่วงหน้าให้ไปด้วย เพราะคิดว่าจะได้ไม่ต้องมาสับสนกับ30000 ที่จ่ายไปทีแรก.
เคลียร์บ้านเสร็จ ได้เงินคืนมา ไม่ถึง 30000 บาท บอกว่าหักค่าน้ำค่าไฟค่าล้างแอร์
ส่วนเงินประกัน 16400 บาทคือริบ เพราะอยู่ไม่ถึงปี
เราเลยสงสัยว่าที่อื่นเค้าก็หักค่าน้ำค่าไฟเดือนสุดท้ายค่าของเสียหายไปจากประกันหรือเปล่า เพราะเงินประกันที่เราจ่ายนี่เก็บมากกว่าค่าเช่ารายเดือนไปอีก ผ้าม่านก็ติดเอง ไม่ได้เจาะบ้าเนเขานะ ห้อยไว้ๆกันคนมองมา ซึ่งก็ชอบส่องมาเหลือเกิน ตู้เย็นก็ซื้อเอง (นี่สำเนียกตอนเข้าไปอยู่จริงๆวันแรก ใจเร็วด่วนได้นี่คือฉัน. บ่นใครไม่ได้ 555)
ที่สงสัยอีกคือเงินประกันสามารถคิดได้เท่าไหร่ หรือแล้วแต่จะเรียกเก็บ (มีมาบอกว่านี่ยังไม่คิดค่าสัตว์เลี้ยงนะ คืออะไร ทำไมไม่บอกให้เคลียร์ตั้งแต่แรก งงในงง)
สอบถามผู้ทำธุรกิจบ้านเช่า ค่าประกัน/เงินคืนหลังเลิกเช่า
เจอบ้านหลังนี้ในอินเตอร์เน็ต เออ มีสนามหญ้าหน้าบ้าน เหมาะให้ลูกๆวิ่งเล่น เนื่องด้วย มีสัตว์เลี้ยง ก็ถามทางโทรศัพท์ว่าสะดวกให้เช่าไหม บอกได้ๆ สบายยย วิ่งเล่นสนามหญ้าตรงนี้ได้ บลาบลา
ตามสัญญาบ้าน มีรายการดังนี้.
จ่าย 50000 บาทแรก
- เป็นเงินค่าทำความสะอาด 300/เดือน รวม 3600 บาท
- ค่าประกัน 16400 บาท เป็นค่าประกันของเสียหาย (ในบ้านมีแค่ตู้ 2 เตียง 3 ม้านั่งไม้อันหนักๆ 4 แอร์2ตัว เครื่องทำน้ำอุ่น 2)
- ค่าเช่า 3 เดือนสุดท้าย 30000 บาท
- ตอนเข้าอยู่ให้จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเดือนละ1หมื่น
สรุปจ่ายไป 60000 บาท สำหรับสำหรับการเข้าอยู่เดือนแรก ไฟตามสัญญาบอกว่าเป็นไฟรัฐบาล
(เข้าใจว่ายังไงกันคะ ไฟรัฐบาล คือจ่ายตามสลิปเหมือนที่เราเข้าใจไหม)
เดือนแรก เจอค่าไฟในสลิปการไฟฟ้า 1900 บาท ถึงกับอึ้ง
เพราะแอร์ไม่ได้เปิด ไม่ชอบนอนแอร์ ตู้เย็นก็ยังไม่ได้ซื้อ อยู่เฉพาะตอนนอนจริงๆคือหลังสองสามทุ่ม
เลยถามว่า เอ๊ะยังไง มิเตอร์นี้มีใครพ่วงไฟด้วยเหรอ นี่ไฟของหนูคนเดียวเหรอ --ใช่ค่ะ ว่างั้น
เลยส่งให้ดูสลิปของบ้านเช่าที่เดิมว่า บ้านแบบที่ชาร์จเพิ่มค่าไฟที่หน่วยละ 8 บาท เรายังจ่ายเดือนละพันสองพันสามเลย อันนั้นมีตู้เย็นด้วย มีเครื่องทำน้ำอุ่นเหมือนกัน
กลับลำ บอกว่าไปดูมิเตอร์ข้างห้องนะคะ แล้วจดหน่วยไว้ หน่วยละ5 บาทค่ะ
อ้าว ทำไมไม่บอกแต่แรก ตอนเข้าเราจะได้จดไว้
อยู่ๆวันดีคืนดี ก็จะมีห้องด้านในล็อคเอง ล็อคแบบล็อคลงกลอน ซึ่งไม่ใช่นิสัยเรา แล้วมันเป็นห้องน้ำที่เราปล่อยให้แมวเดินมาฉี่ในกระบะในห้องน้ำ เราเลยมั่นใจว่ามีคนเข้ามาโดยไม่แจ้ง
เจ้าของเค้าก็พยายามมากให้แม่บ้านเขาเข้ามาจัดห้องเรา เราเลยบอกว่ามันเป็นเอกสาร ทั้งเอกสารส่วนตัวเอกสารงานที่ไม่ได้เอาออกจากกล่อง ไม่สะดวกให้คนอื่นมายุ่ง.
เกริ่นยาว อย่าคิดว่าไปเช่าคฤหาสถ์อยู่ ไม่ใช่แบบนั้น มันเหมือนบ้านที่ทำให้นักท่องเที่ยวเช่ารายวัน แล้วมาปล่อยระยะยาว แบ่งเป็นล็อคๆ ซึ่งเราอยุ่จริงล็อคเดียว อีกล็อคหนึ่งก็เอาไว้เผื่อแม่มานอนหรือเพื่อนมา ก็คือแบ่งบ้าน1 หลังเป็นสองส่วนที่ไม่เกี่ยวกันเลย แต่เราเช่าทั้งหลัง
2 เดือนผ่านไป หลังจากเอกสารในตู้ไปรษณีย์หายบ้าง มีคนแถวนั้น และแม่บ้านเปิดเข้ามาในบริเวณบ้านตามใจฉันบ้าง แถมมีคนมาเปิดเข้าบ้านทำการสำรวจ และมีการมาบอกว่าให้เอาชั้นรองเท้ากะของที่วางหน้าห้องเก็บเข้าไปในห้อง
บอกให้เอาตะไคร้ที่ปลูกให้จัดการให้เรียบร้อย (เรานี่นึกว่าเราไปปลูกต้นสักในสนามเขาเลยทีเดียว)
เลยพอละ มาเช่าบ้านทำไมล่ะเนี่ย อยู่ห้องไม่ต้องมีพื้นที่ก็เหมือนกันไหมถ้าแบบนี้ ยอมเสียเงินประกันไปตามที่แม่บอก แม่เชียร์ให้ย้ายตั้งแต่เจอเรื่องคนมาเปิดประตูเข้ามาในบ้าน
เดือนสุดท้ายที่อยู่ จ่ายล่วงหน้าให้ไปด้วย เพราะคิดว่าจะได้ไม่ต้องมาสับสนกับ30000 ที่จ่ายไปทีแรก.
เคลียร์บ้านเสร็จ ได้เงินคืนมา ไม่ถึง 30000 บาท บอกว่าหักค่าน้ำค่าไฟค่าล้างแอร์
ส่วนเงินประกัน 16400 บาทคือริบ เพราะอยู่ไม่ถึงปี
เราเลยสงสัยว่าที่อื่นเค้าก็หักค่าน้ำค่าไฟเดือนสุดท้ายค่าของเสียหายไปจากประกันหรือเปล่า เพราะเงินประกันที่เราจ่ายนี่เก็บมากกว่าค่าเช่ารายเดือนไปอีก ผ้าม่านก็ติดเอง ไม่ได้เจาะบ้าเนเขานะ ห้อยไว้ๆกันคนมองมา ซึ่งก็ชอบส่องมาเหลือเกิน ตู้เย็นก็ซื้อเอง (นี่สำเนียกตอนเข้าไปอยู่จริงๆวันแรก ใจเร็วด่วนได้นี่คือฉัน. บ่นใครไม่ได้ 555)
ที่สงสัยอีกคือเงินประกันสามารถคิดได้เท่าไหร่ หรือแล้วแต่จะเรียกเก็บ (มีมาบอกว่านี่ยังไม่คิดค่าสัตว์เลี้ยงนะ คืออะไร ทำไมไม่บอกให้เคลียร์ตั้งแต่แรก งงในงง)