คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
ในแง่ของกฎหมาย
การที่ลูกค้าโต๊ะแรกสั่งสเต๊กจากร้านอาหารเป็นกรณีที่คู่กรณีทั้งสองฝ่ายผูกพันกันตามสัญญาซื้อขาย
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ( ป.พ.พ. ) มาตรา 453 เมื่อร้านอาหารส่งมอบสเต๊กให้
ลูกค้าโต๊ะแรกแล้วกรรมสิทธิ์ย่อมโอนไปยังลูกค้าโต๊ะแรกทันที ลูกค้าโต๊ะแรกย่อมมีสิทธิในการใช้สอย
หรือจัดการกับสเต๊กจานนั้นอย่างไรก็ได้ ( จะทิ้งเฉย ๆ ก็ได้ ) ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336
เมื่อลูกค้าโต๊ะแรกกินเสร็จแล้วลุกไปจากโต๊ะแล้ว ย่อมเป็นการแสดงเจตนาโดยปริยายว่าลูกค้าโต๊ะแรก
สละการครอบครองและสละกรรมสิทธิ์ในสเต๊กจากนั้นแล้ว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1319 ดังนั้นสเต๊กจากนั้น
ย่อมเป็นทรัพย์ไม่มีเจ้าของ
เมื่อสเต๊กจานนั้นกลับมาเป็นทรัพย์ไม่มีเจ้าของแล้ว บุคคลใดก็สามารถได้กรรมสิทธิ์ในสเต๊กจานนั้นได้โดยการเข้าถือเอา
ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1318 ดังนั้นสาระสำคัญจึงอยู่ที่ว่าระหว่างโต๊ะข้าง ๆ กับเจ้าของร้านใครจะสามารถเข้าครอบครองสเต๊กนั้น
ได้ก่อนคนนั้นก็ได้กรรมสิทธิ์ไป ถ้าร้านสเต๊กเข้าถือเอาสเต๊กนั้นได้ก่อน จากนั้นโต๊ะข้าง ๆ จึงเอาสเต๊กไป โต๊ะข้าง ๆ
ย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์หรือวิ่งราวทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา ( ป.อ. ) มาตรา 334 หรือ 336
แต่ถ้าโต๊ะข้าง ๆ เข้าถือเอาสเต๊กนั้นได้ก่อนโต๊ะข้าง ๆ นั้นย่อมไม่มีความผิดตามกฎหมายใด ๆ ครับ
การที่ลูกค้าโต๊ะแรกสั่งสเต๊กจากร้านอาหารเป็นกรณีที่คู่กรณีทั้งสองฝ่ายผูกพันกันตามสัญญาซื้อขาย
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ( ป.พ.พ. ) มาตรา 453 เมื่อร้านอาหารส่งมอบสเต๊กให้
ลูกค้าโต๊ะแรกแล้วกรรมสิทธิ์ย่อมโอนไปยังลูกค้าโต๊ะแรกทันที ลูกค้าโต๊ะแรกย่อมมีสิทธิในการใช้สอย
หรือจัดการกับสเต๊กจานนั้นอย่างไรก็ได้ ( จะทิ้งเฉย ๆ ก็ได้ ) ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336
เมื่อลูกค้าโต๊ะแรกกินเสร็จแล้วลุกไปจากโต๊ะแล้ว ย่อมเป็นการแสดงเจตนาโดยปริยายว่าลูกค้าโต๊ะแรก
สละการครอบครองและสละกรรมสิทธิ์ในสเต๊กจากนั้นแล้ว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1319 ดังนั้นสเต๊กจากนั้น
ย่อมเป็นทรัพย์ไม่มีเจ้าของ
เมื่อสเต๊กจานนั้นกลับมาเป็นทรัพย์ไม่มีเจ้าของแล้ว บุคคลใดก็สามารถได้กรรมสิทธิ์ในสเต๊กจานนั้นได้โดยการเข้าถือเอา
ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1318 ดังนั้นสาระสำคัญจึงอยู่ที่ว่าระหว่างโต๊ะข้าง ๆ กับเจ้าของร้านใครจะสามารถเข้าครอบครองสเต๊กนั้น
ได้ก่อนคนนั้นก็ได้กรรมสิทธิ์ไป ถ้าร้านสเต๊กเข้าถือเอาสเต๊กนั้นได้ก่อน จากนั้นโต๊ะข้าง ๆ จึงเอาสเต๊กไป โต๊ะข้าง ๆ
ย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์หรือวิ่งราวทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา ( ป.อ. ) มาตรา 334 หรือ 336
แต่ถ้าโต๊ะข้าง ๆ เข้าถือเอาสเต๊กนั้นได้ก่อนโต๊ะข้าง ๆ นั้นย่อมไม่มีความผิดตามกฎหมายใด ๆ ครับ
สมาชิกหมายเลข 1445658 ทึ่ง, jimkong ทึ่ง, dolwaya ขำกลิ้ง, Ter @ AFC ถูกใจ, Photo Indy Hunter ถูกใจ, Zenmaster_T ถูกใจ, itims ถูกใจ, เจ็ดวันอาบน้ำหนเดียว ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1781833 ถูกใจ, รักนะโซชิ ถูกใจรวมถึงอีก 31 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
พึ่งเจอกับตัวเองเมื่ออาทิตย์ก่อน เข้าไปกินข้าวในศูนย์อาหารแห่งหนึ่งในห้าง มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งซื้อข้าวมาทาน กินได้ครึ่งจานก็อิ่ม แล้วก็ลุกขี้นไป สักพักมามีมาคนเดินมาดู แล้วยกจานไปนั่งกินที่โต๊ะมุมห้อง เราเข้าใจ คนเรามีความจำเป็นไม่เหมือนกัน ของเหลือใช้ของคนหนึ่ง อาจเป็นสิ่งมีค่าของคนอื่นได้ กินเพื่ออยู่ครับ เราเคยจนมาก่อนรู้และเข้าใจดี ไม่ต้องไปแบมือขอคนอื่นเขา และดูคนอื่นรอบข้างก็ไม่ได้ว่าอะไร
สมาชิกหมายเลข 4175223 ถูกใจ, DontMakeMeWalkWhenIWantToFly ซึ้ง, dolwaya ถูกใจ, Judey ซึ้ง, Old Guy ถูกใจ, In Darkness ถูกใจ, รักนะโซชิ ถูกใจ, too_gt ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 854522 ถูกใจ, PAN OUT ถูกใจรวมถึงอีก 3 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
อาหารที่เหลือบนโต๊ะ โดยที่ผู้รับประทานจ่ายค่าอาหารเรียบร้อยแล้วและไม่กินแล้ว ใครเป็นผู้ครอบครองครับ
สมมติตามซีเควนซ์เวลา
1. โต๊ะนึงสั่งสเต็กมารับประทาน มีเครื่องเคียงเป็นขนมปัง เนย ซุป หอมทอด
2. โต๊ะนั้นกินไปแค่สเต็ก ส่วนที่เหลือไม่กิน
3. โต๊ะนั้นเรียกจ่ายเงิน จ่ายเงินเรียบร้อย แล้วก็ลุกไป แต่บริกรยังไม่มาเก็บปล่อยไว้อย่างนั้น
4. โต๊ะข้างๆ เอามือไปหยิบหอมทอดมารับประทาน
เลยมีคำถามว่า
1. อาหารที่เหลือภายหลังการจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว และ ผู้รับประทานไม่กินแล้วเป็นของใคร
2. โต๊ะข้างๆมีความผิดทางกฎหมายอย่างไร