เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ศ.ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโสสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (STC) แถลงผลการสำรวจ “ความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปต่อข่าวการจับกุมผู้ที่มีพฤติกรรมลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวนกับการเอาผิดทางกฎหมายและการลงโทษทางสังคม” สำรวจระหว่างวันที่ 14-19 กุมภาพันธ์ จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,211 คน สรุปผลดังนี้
เมื่อทราบข่าวการจับกุมผู้ที่มีพฤติกรรมลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวน
กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 37.24 รู้สึกเศร้าเสียใจเป็นอันดับแรก
รองลงมา ร้อยละ 27.17 รู้สึกโกรธ/โมโหเป็นอันดับแรก
ร้อยละ 19.49 ยอมรับว่าตนเองรู้สึกสงสัยงงงวย ขณะที่กลุ่มตัวอย่าง
ร้อยละ 12.96 รู้สึกเป็นเรื่องปกติธรรมดา และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 3.14 มีความรู้สึกอื่นๆ
ความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีการจับกุมผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ ลักลอบฝ่าฝืนเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้น
ร้อยละ 46.82 ให้ความสนใจติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการจับกุมผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่พร้อมพวกในกรณีฝ่าฝืน/ลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบ้าง
ร้อยละ 31.46 ให้ความสนใจติดตามโดยละเอียด
ร้อยละ 21.72 ยอมรับว่าไม่ได้ให้ความสนใจติดตามเลย
อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 74.32 รู้สึกกังวลว่าคดีการจับกุมผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่พร้อมพวกในกรณีฝ่าฝืนฯ ถึงที่สุดจะกลายเป็น “มวยล้มต้มคนดู”
ร้อยละ 72.91 กังวลว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งเข้าทำการจับกุมในคดีผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่พร้อมพวกฝ่าฝืนฯ จะได้รับผลกระทบ เช่น ถูกกลั่นแกล้ง ถูกข่มขู่ เป็นต้น
ร้อยละ 71.84 เห็นว่าข่าวการจับกุมผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่พร้อมพวกที่ฝ่าฝืนฯ จะส่งผลกับภาพลักษณ์องค์กรต่อสาธารณะของบริษัทเอกชนขนาดใหญ่บริษัท
ร้อยละ 70.52 ไม่เห็นด้วยว่าการจับกุมผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่พร้อมพวกที่ฝ่าฝืนฯ ถือเป็นเรื่องส่วนตัวโดยไม่เกี่ยวข้องกับหลักธรรมาภิบาลในองค์กร
ด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับผู้ที่มีพฤติกรรมลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวน
ร้อยละ 69.78 รู้สึกว่าระหว่างผู้ที่มีฐานะทางสังคม เช่น ข้าราชการระดับสูง ผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ หรือเศรษฐี กับชาวบ้านธรรมดาทั่วไปที่ถูกจับกุมในกรณีลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวนจะได้รับการปฏิบัติดูแล/อำนวยความสะดวกจากหน่วยงานภาครัฐแตกต่างกัน
ร้อยละ 65.48 เชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจ/อำนวยความสะดวกให้กับการลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวนของผู้ที่มีฐานะทางสังคม เช่น ข้าราชการระดับสูง ผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ เศรษฐี
ร้อยละ 69.61 ไม่เห็นด้วยกับการนำเอาผู้ที่เคยถูกจับกุมในคดีลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวน มารณรงค์เรื่องการปกป้องสัตว์ป่าสงวนให้กับสังคมหลังจากการได้รับโทษ
ร้อยละ 77.13 เห็นว่าควรเอาผิดอย่างรุนแรงกับข้าราชการ หรืออดีตข้าราชการที่มีส่วนช่วยประสานงานอำนวยความสะดวก ให้ผู้มีฐานะทางสังคมลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่าสงวนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ถึงแม้ข้าราชการ หรืออดีตข้าราชการผู้นั้นไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ
และร้อยละ 61.6 เห็นว่าการลงโทษทางสังคมกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวน จะส่งผลให้ผู้มีฐานะทางสังคม ซึ่งมีพฤติกรรมชอบล่าสัตว์ป่าสงวนเกิดความเกรงกลัวได้มากกว่าการเอาผิดทางกฎหมาย
JJNY : โพลแสลงใจ 2.4 ซี้จุกสูญ สยามอินเทอร์เน็ตโพลล์ชี้ ปชช. 74.32% เชื่อคดีล่าเสือดำ 'มวยล้มต้มคนดู'
เมื่อทราบข่าวการจับกุมผู้ที่มีพฤติกรรมลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวน
กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 37.24 รู้สึกเศร้าเสียใจเป็นอันดับแรก
รองลงมา ร้อยละ 27.17 รู้สึกโกรธ/โมโหเป็นอันดับแรก
ร้อยละ 19.49 ยอมรับว่าตนเองรู้สึกสงสัยงงงวย ขณะที่กลุ่มตัวอย่าง
ร้อยละ 12.96 รู้สึกเป็นเรื่องปกติธรรมดา และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 3.14 มีความรู้สึกอื่นๆ
ความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีการจับกุมผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ ลักลอบฝ่าฝืนเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้น
ร้อยละ 46.82 ให้ความสนใจติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการจับกุมผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่พร้อมพวกในกรณีฝ่าฝืน/ลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบ้าง
ร้อยละ 31.46 ให้ความสนใจติดตามโดยละเอียด
ร้อยละ 21.72 ยอมรับว่าไม่ได้ให้ความสนใจติดตามเลย
อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 74.32 รู้สึกกังวลว่าคดีการจับกุมผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่พร้อมพวกในกรณีฝ่าฝืนฯ ถึงที่สุดจะกลายเป็น “มวยล้มต้มคนดู”
ร้อยละ 72.91 กังวลว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งเข้าทำการจับกุมในคดีผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่พร้อมพวกฝ่าฝืนฯ จะได้รับผลกระทบ เช่น ถูกกลั่นแกล้ง ถูกข่มขู่ เป็นต้น
ร้อยละ 71.84 เห็นว่าข่าวการจับกุมผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่พร้อมพวกที่ฝ่าฝืนฯ จะส่งผลกับภาพลักษณ์องค์กรต่อสาธารณะของบริษัทเอกชนขนาดใหญ่บริษัท
ร้อยละ 70.52 ไม่เห็นด้วยว่าการจับกุมผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่พร้อมพวกที่ฝ่าฝืนฯ ถือเป็นเรื่องส่วนตัวโดยไม่เกี่ยวข้องกับหลักธรรมาภิบาลในองค์กร
ด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับผู้ที่มีพฤติกรรมลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวน
ร้อยละ 69.78 รู้สึกว่าระหว่างผู้ที่มีฐานะทางสังคม เช่น ข้าราชการระดับสูง ผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ หรือเศรษฐี กับชาวบ้านธรรมดาทั่วไปที่ถูกจับกุมในกรณีลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวนจะได้รับการปฏิบัติดูแล/อำนวยความสะดวกจากหน่วยงานภาครัฐแตกต่างกัน
ร้อยละ 65.48 เชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจ/อำนวยความสะดวกให้กับการลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวนของผู้ที่มีฐานะทางสังคม เช่น ข้าราชการระดับสูง ผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ เศรษฐี
ร้อยละ 69.61 ไม่เห็นด้วยกับการนำเอาผู้ที่เคยถูกจับกุมในคดีลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวน มารณรงค์เรื่องการปกป้องสัตว์ป่าสงวนให้กับสังคมหลังจากการได้รับโทษ
ร้อยละ 77.13 เห็นว่าควรเอาผิดอย่างรุนแรงกับข้าราชการ หรืออดีตข้าราชการที่มีส่วนช่วยประสานงานอำนวยความสะดวก ให้ผู้มีฐานะทางสังคมลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่าสงวนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ถึงแม้ข้าราชการ หรืออดีตข้าราชการผู้นั้นไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ
และร้อยละ 61.6 เห็นว่าการลงโทษทางสังคมกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวน จะส่งผลให้ผู้มีฐานะทางสังคม ซึ่งมีพฤติกรรมชอบล่าสัตว์ป่าสงวนเกิดความเกรงกลัวได้มากกว่าการเอาผิดทางกฎหมาย