ถ้าความรักที่จากไปนานแสนนานกลับมา จะเลือกอยู่กับความรัก หรือความเหมาะสม
เราและแฟนเก่าได้คบกันในช่วงสมัยเรียน เป็นเวลา 5-6 ปี ก่อนจะเลิกลากันไป ทั้งที่ยังรักกันแต่ด้วยความที่เราเด็กกันทั้งคู่ จึงทำให้ตัดสินใจเลิกรากันไป แบบต่างคน ต่างเงียบและไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง ช่วงเวลาที่เราคบกันยอมรับว่าเรามีความสุขมาก ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ ร่วมทุกข์ ร่วมสุขไปด้วยกัน กินด้วยกัน อดด้วยกัน เป็นเวลาเกือบ 6 ปี เคยตกลงกันถ้าเราผ่านมันไปได้ เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน และเราจะแก่ไปด้วยกัน แต่สุดท้ายเราก็ไปกันไม่รอด เพราะเขามีผู้หญิงคนอื่น เข้ามาในชีวิตตลอดเวลา มันเป็นเรื่องรบกวนหัวใจในช่วงที่เราคบกัน ไม่ว่าเขาจะไปไหน เขาจะไปยุ่งกับใคร แต่สุดท้ายเขาก็จะกลับมาหาเรา แต่เราก็อดทนเพราะรักเขา จนถึงวันที่เรารู้สึกว่า เราไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว เราเริ่มไม่แน่ใจว่าจริงๆแล้วเราสองคนมันคืออะไร จริงๆเขาอาจจะไม่ได้รักเราจริงๆ เพราะเขายังมีผู้หญิงคนอื่นตลอดเวลา เราจึงตัดสินใจเดินจากมาแบบเงียบๆ ค่อยๆ หายไปจากชีวิตเขา แรกๆเขาก็ตาม ขอให้เรากลับไปคบกันเหมือนเดิม แต่ตัวเขาเองก็เริ่มจะหายๆไปแบบเงียบ ๆเหมือนกัน จากเคยโทรมาทุกวัน เป็นอาทิตย์ละครั้ง เป็นเดือนละครั้ง เป็นสองเดือนครั้ง ครึ่งปีครั้ง เขาคงรู้ว่าเราเองคงจะเลิกกับเขาแน่นอน ยังไงเราก็คงไม่กลับไปคบเขาแล้ว ตัวเขาก็ได้หายสาปสูญไปจากชีวิตเรา เราไม่เคยได้เจอกับเขาอีกเลยตั้งแต่ปี 2544 เป็นเวลา 17 ปี และไม่เคยได้รู้ข่าวคราว อะไรของเขาอีกเลย นับจากนั้นมา เราก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่งงาน มีลูก เราเลือกที่แต่งงานกับผู้ชายที่แตกต่างจากแฟนเก่าเราทุกอย่าง เพราะเราไม่อยากจะเสียใจอีก เราเลือกเขาเพราะเรามั่นใจว่า เขานี้ละจะไม่ทำให้เราเสียใจ เขานี้ละจะดูแลเรา และรักเรา จะไม่ทำร้ายเรา อย่างคนเก่าที่เราเคยคบ แต่ตลอดเวลาที่เราอยู่กับสามี เราคิดว่าสิ่งนี้มันคือความสุข เราบอกตัวเองทุกวันว่ามันคือความสุข แต่เราไม่เคยรักสามีเราเลย เราไม่เคยบอกรักสามีเราเลยสักครั้ง เราแค่รู้สึกว่าเขาดีกับเรา ดูแลเรา ดูแลลูกเรา แต่ใจเรายังไม่ปลดล็อคจากอดีตที่ผ่านมาได้เลย ยังนอนฝันถึงแฟนเก่าตลอด คิดถึงตลอดเวลา ไม่เคยลืมผู้ชายคนนั้นได้เลย แล้วเขาก็กลับเข้ามา เพื่อนเราเจอเขาโดยบังเอิญ จึงทำให้เราได้พบกันอีกครั้ง เขาขอโทษและได้สำนึกผิด สำหรับเรื่องที่ผ่านมา เราบอกเลยว่ามันตื้นตันไปหมด ไม่รู้จะพูดอะไร นอกจากนั่งร้องไห้ วุ่นวายใจและสับสนไปหมด ยอมรับว่าเราทำใจไม่ได้เลย และรู้ตัวเลยว่ายังรักเขาอยู่เต็มหัวใจ ซึ่งตัวเขาเองก็ได้แต่งงานและมีครอบครัวไปแล้วเหมือนกัน แต่เขายังไม่มีลูก เขาก็ยอมรับว่าเขาเองก็ตามหาเราอยู่ และยังรักเรามากไม่เคยลืมเราเลย และก็มีแอบคิดว่ายังอยากให้เรากลับมาเหมือนเดิม แต่ต่างคนต่างมีครอบครัว ที่เราต้องรับผิดชอบ คือเราทั้ง 2 คนไม่ได้มีความสุขกับการมีชีวิตคู่ที่เป็นอยู่ เหมือนเราทั้ง 2 คนยังติดอยู่กับความรักที่ผ่านมา แฟนเก่าเราบอกว่า เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดจนเขาเองก็ไม่สามารถลืมได้ และไม่เคยได้พบความสุขแบบนั้นอีกเลย เขาแต่งงานและอยู่กับครอบครัวปัจจุบันเพราะความเหมาะสม เพราะความดีของภรรยาของเขาในช่วงที่ผ่านมาเขาก็ดูแลกันมาตลอด เรากำลังคิดว่าเราควรจะทำยังไงดี เราจะเลือกเดินไปทางไหน ถ้าเราเลือกเดินไปทางความเหมาะสม เราก็ต้องอยู่แบบไร้หัวใจปราศจากความรัก เราคิดว่าหลายคู่มีความรู้สึกแบบนี้ อยู่แบบไม่ได้รักกัน แต่ต้องอยู่เพื่อครอบครัว หรือเราจะเลือกความรัก ที่เราโหยหามาตลอดทั้งชีวิต เราไม่เคยรักใครได้อีกเลย นับจากวันนั้นมา ไม่มีใครอยากทำร้ายใคร เราก็ไม่อยากทำร้ายสามี เขาเองก็ไม่ได้อยากจะทำร้ายภรรยา ในเมื่อเราสองคนยังรักกัน และไม่อาจรักคนของเราได้ทั้งคู่ เราควรจะทำยังไง และจะก้าวเดินไปทางไหนดี
แฟนเก่าคือคนที่รัก แฟนใหม่คือคนที่เหมาะสม (จะเลือกอยู่กับความรัก หรือความเหมาะสม)
เราและแฟนเก่าได้คบกันในช่วงสมัยเรียน เป็นเวลา 5-6 ปี ก่อนจะเลิกลากันไป ทั้งที่ยังรักกันแต่ด้วยความที่เราเด็กกันทั้งคู่ จึงทำให้ตัดสินใจเลิกรากันไป แบบต่างคน ต่างเงียบและไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง ช่วงเวลาที่เราคบกันยอมรับว่าเรามีความสุขมาก ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ ร่วมทุกข์ ร่วมสุขไปด้วยกัน กินด้วยกัน อดด้วยกัน เป็นเวลาเกือบ 6 ปี เคยตกลงกันถ้าเราผ่านมันไปได้ เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน และเราจะแก่ไปด้วยกัน แต่สุดท้ายเราก็ไปกันไม่รอด เพราะเขามีผู้หญิงคนอื่น เข้ามาในชีวิตตลอดเวลา มันเป็นเรื่องรบกวนหัวใจในช่วงที่เราคบกัน ไม่ว่าเขาจะไปไหน เขาจะไปยุ่งกับใคร แต่สุดท้ายเขาก็จะกลับมาหาเรา แต่เราก็อดทนเพราะรักเขา จนถึงวันที่เรารู้สึกว่า เราไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว เราเริ่มไม่แน่ใจว่าจริงๆแล้วเราสองคนมันคืออะไร จริงๆเขาอาจจะไม่ได้รักเราจริงๆ เพราะเขายังมีผู้หญิงคนอื่นตลอดเวลา เราจึงตัดสินใจเดินจากมาแบบเงียบๆ ค่อยๆ หายไปจากชีวิตเขา แรกๆเขาก็ตาม ขอให้เรากลับไปคบกันเหมือนเดิม แต่ตัวเขาเองก็เริ่มจะหายๆไปแบบเงียบ ๆเหมือนกัน จากเคยโทรมาทุกวัน เป็นอาทิตย์ละครั้ง เป็นเดือนละครั้ง เป็นสองเดือนครั้ง ครึ่งปีครั้ง เขาคงรู้ว่าเราเองคงจะเลิกกับเขาแน่นอน ยังไงเราก็คงไม่กลับไปคบเขาแล้ว ตัวเขาก็ได้หายสาปสูญไปจากชีวิตเรา เราไม่เคยได้เจอกับเขาอีกเลยตั้งแต่ปี 2544 เป็นเวลา 17 ปี และไม่เคยได้รู้ข่าวคราว อะไรของเขาอีกเลย นับจากนั้นมา เราก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่งงาน มีลูก เราเลือกที่แต่งงานกับผู้ชายที่แตกต่างจากแฟนเก่าเราทุกอย่าง เพราะเราไม่อยากจะเสียใจอีก เราเลือกเขาเพราะเรามั่นใจว่า เขานี้ละจะไม่ทำให้เราเสียใจ เขานี้ละจะดูแลเรา และรักเรา จะไม่ทำร้ายเรา อย่างคนเก่าที่เราเคยคบ แต่ตลอดเวลาที่เราอยู่กับสามี เราคิดว่าสิ่งนี้มันคือความสุข เราบอกตัวเองทุกวันว่ามันคือความสุข แต่เราไม่เคยรักสามีเราเลย เราไม่เคยบอกรักสามีเราเลยสักครั้ง เราแค่รู้สึกว่าเขาดีกับเรา ดูแลเรา ดูแลลูกเรา แต่ใจเรายังไม่ปลดล็อคจากอดีตที่ผ่านมาได้เลย ยังนอนฝันถึงแฟนเก่าตลอด คิดถึงตลอดเวลา ไม่เคยลืมผู้ชายคนนั้นได้เลย แล้วเขาก็กลับเข้ามา เพื่อนเราเจอเขาโดยบังเอิญ จึงทำให้เราได้พบกันอีกครั้ง เขาขอโทษและได้สำนึกผิด สำหรับเรื่องที่ผ่านมา เราบอกเลยว่ามันตื้นตันไปหมด ไม่รู้จะพูดอะไร นอกจากนั่งร้องไห้ วุ่นวายใจและสับสนไปหมด ยอมรับว่าเราทำใจไม่ได้เลย และรู้ตัวเลยว่ายังรักเขาอยู่เต็มหัวใจ ซึ่งตัวเขาเองก็ได้แต่งงานและมีครอบครัวไปแล้วเหมือนกัน แต่เขายังไม่มีลูก เขาก็ยอมรับว่าเขาเองก็ตามหาเราอยู่ และยังรักเรามากไม่เคยลืมเราเลย และก็มีแอบคิดว่ายังอยากให้เรากลับมาเหมือนเดิม แต่ต่างคนต่างมีครอบครัว ที่เราต้องรับผิดชอบ คือเราทั้ง 2 คนไม่ได้มีความสุขกับการมีชีวิตคู่ที่เป็นอยู่ เหมือนเราทั้ง 2 คนยังติดอยู่กับความรักที่ผ่านมา แฟนเก่าเราบอกว่า เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดจนเขาเองก็ไม่สามารถลืมได้ และไม่เคยได้พบความสุขแบบนั้นอีกเลย เขาแต่งงานและอยู่กับครอบครัวปัจจุบันเพราะความเหมาะสม เพราะความดีของภรรยาของเขาในช่วงที่ผ่านมาเขาก็ดูแลกันมาตลอด เรากำลังคิดว่าเราควรจะทำยังไงดี เราจะเลือกเดินไปทางไหน ถ้าเราเลือกเดินไปทางความเหมาะสม เราก็ต้องอยู่แบบไร้หัวใจปราศจากความรัก เราคิดว่าหลายคู่มีความรู้สึกแบบนี้ อยู่แบบไม่ได้รักกัน แต่ต้องอยู่เพื่อครอบครัว หรือเราจะเลือกความรัก ที่เราโหยหามาตลอดทั้งชีวิต เราไม่เคยรักใครได้อีกเลย นับจากวันนั้นมา ไม่มีใครอยากทำร้ายใคร เราก็ไม่อยากทำร้ายสามี เขาเองก็ไม่ได้อยากจะทำร้ายภรรยา ในเมื่อเราสองคนยังรักกัน และไม่อาจรักคนของเราได้ทั้งคู่ เราควรจะทำยังไง และจะก้าวเดินไปทางไหนดี