คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ช่วยจัดให้อ่านง่ายๆนะคะ
** ถ้าไม่อยากรู้ที่มาข้ามไปอ่านปัญหาข้างล่างเลยค่ะ มันยาวมากๆ***
หนูอายุแค่ 17 แต่ตอนนี้กลับเจอปัญหามากมายเข้ามาพร้อมกัน ปัญหาน่าจะเริ่มมาจากที่แม่ไม่เลี้ยงหนูแล้วเอามาให้ตากับยายเลี้ยงตั้งแต่เกิดเลย แต่หนูไม่รู้สึกว่าขาดพ่อแม่เพราะตากับยายดูแลดีอยู่แล้ว
ปัญหาในชีวิตหนูก็เริ่มมาจริงจังมากขึ้นตอนม.ปลาย เพราะน้า ผช ที่เป็นลูกของตากับยายกลับมาอยู่บ้าน ชอบทะเลาะกับยายลงไม้ลงมือจนตาต้องมาจัดการให้ แล้วพอหายโกรธกัน น้าผชก็จะแต่งงาน ให้ตากับยายไปขอให้ หมดค่าสินสอดไปเยอะมาก ตอนงานเลี้ยงก็มาขู่ยายขอเงินเพิ่ม
หลังจากนั้นจะทำธุรกิจขายของ ให้ยายไปกู้เงินให้เกือบแสน บอกว่าจะคืนให้แต่ก็ไม่คืน จนยายต้องเอาเงินเดือนตามาใช้หนี้ตรงนี้แทน เงินเดือนตาก็เอาออกมาใช้หนี้หมดด้วย จนเรื่องเงินที่บ้านเริ่มมีปัญหาเพราะเงินไม่พอใช้ แล้วก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆไม่มีเงินเก็บพร้อมหนี้ที่ยายไม่ได้ก่อ
แล้วเมื่อ 4 เดือนก่อน ตาหมดสติล้มหัวฟาดพื้นในตลาด มีคนในตลาดพาส่งรพ. พอหนูไปถึงตาก็ฟื้นแล้วแต่ไม่พูดจานอนตะแคงไปมา ตาลอยแล้ว จากนั้นมีหมอมาบอกว่าตามีเลือดคลั่งในสมองข้างซ้ายต้องผ่าตัด ตาก็ผ่าตัดเสร็จแล้ว อยู่ห้องปลอดเชื้อของศัลยกรรมประสาท เข้าเยี่ยมได้แค่ไม่กี่ครั้ง
ในวันนึงหนูเข้าไปเห็นตาลืมตาได้ หนูก็ถามตาว่าตาเห็นหนูมั้ยตาก็พยักหัว พยาบาลหลายคนก็ยิ้มกันใหญ่ ผลจากการผ่าตัดคือ ตาเป็นอัมพาตครึ่งซีก คือข้างขวาขยับไม่ได้แต่ข้างซ้ายได้ปกติ
มีอยู่ครั้งนึงหนูไปเยี่ยมตาแล้วเห็นตาไม่หายใจพอดีพยาบาลจึงช่วยปั๊มหัวใจ หนูรู้สึกกลัวตาจากไปกลัวตาเป็นอะไรไปแล้วใครจะอยู่กับหนูกับยาย แล้วตาก็รอดอีกครั้ง
พอออกจาก รพ. ตาก็ได้กลับมาอยู่บ้านตัวเองจริงๆสักที แต่กลับมาในสภาพที่ร่างกายไม่เหมือเดิมอีกต่อไป ความรู้สึกของหนูดิ่งลงเรื่อยๆ ร้องไห้เวลาเห็นตาอยากตะแคงแต่ตะแคงไม่ได้ ต้องให้คนอื่นช่วย น้าผชกับแม่ก็ไม่ได้กลับมาดูแลตาอย่างใกล้ชิดเลย ตาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องออกจากงาน กินข้าวทางสายยาง ใส่ท่อสวนปัสสาวะ เป็นแบบนี้มา 3 เดือนกว่า
ในระหว่างที่ผ่านมาหนูรู้ว่าลำบากมาก ต้องประหยัดเงินต้องทำอะไรหลายอย่างที่มันเหนื่อยและมันท้อ เหมือนหนูสู้กับตาอยู่สองคน ยายแอบคุยกับคนอื่นที่เขามีลูกมีเมียแล้ว ดูแลตาไม่ดี ยาก็ให้บ้างไม่ให้บ้าง เพราะหนูไปรร. กลับมายาก็ยังมีเท่าเดิม
น้าผชก็อยู่แต่บ้านไม่ไปทำงาน หนี้ไม่ใช้ ค่าน้ำค่าไฟไม่จ่าย หนูคิดหนักเลยว่าจะไปหาเงินมาจากที่ไหน เวลาตาจะไปรพ.ตามที่หมอนัด ก็ต้องเหมารถสองแถวไป อย่างที่หนูเล่าไปว่าตาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตาจึงต้องนอนบนพื้นรถสองแถว เป็นอะไรที่น่าสงสารมาก ทั้งๆที่น้าผชมีรถแต่ไม่ไปส่งเพราะจะเอาค่าน้ำมันรถจากยาย แต่ยายไม่มีให้
น้าผชแอบเข้าห้องนอนหนูตอนหนูไม่อยู่ เข้ามาค้นห้องและขโมยโทรศัพท์หนูไป 3 เครื่อง โทรศัพท์ของหนูยังดีอยู่แค่หน้าจอแตกกับของเพื่อนที่ให้ยืมใช้ตอนโทรศัพท์แตกใหม่ๆ พอหนูจับได้ก้ไม่พอใจแล้วก็เอาโคมไฟอ่านหนังสือหนูไปขว้างแตก ซึ่งราคาก็ไม่ใช่น้อยๆ ทำลายข้าวของในบ้านและในห้องหนู เหยียบหนังสือเรียน หนูร้องไห้เหมือนคนบ้าเพราะเสียดายของ กว่าจะเก็บเงินซื้อได้ และยังเข้ามาตบหัวหนูสามรอบ ตาได้ยินและเห็น รับรู้เรื่องราวแต่ไม่สามารถพูดได้ ไม่สามารถลุกมาช่วยได้แล้ว หนูสงสารตามากๆ
ปัญหาต่อมาเมื่อไม่นานมานี้ วันที่ 14 มกรา ท่อรถแต่งของน้าผชหาย น้าโทษคนข้างบ้านว่าเป็นคนขโมย เพราะเขาเป็นคนนอกที่เข้าบ้านล่าสุด แล้วจะให้ยายไปเป็นพยานในการแจ้งความ แต่ยายไม่ยอมเพราะไม่แน่ใจว่าใช่คนข้างบ้านจริงรึเปล่า วันนั้นหนูไปรร. กลับบ้านมายายบอกว่า น้า ผช ก็ไม่พอใจ ด่ายายจะตียาย เอาค้อนเหล็กขว้างใส่หัวยาย แต่ยายหลบ ค้อนเหล็กจึงไปกระแทกพื้น พื้นบ้านแตก
ยายกลัวเลยหนีไปบ้านพี่สาว ตอนดึกกลับมาพร้อมหนู หนูไปเห็นว่าเขายึดตู้เย็นยายเข้าห้องเขา ตัดสายเตาแก๊สที่พึ่งซื้อมาใหม่ หนูไม่พอใจมากเพราะมันแพง พึ่งซื้อได้สองวัน เลยไปเขียนกระดาษว่ามันเป็นการกระทำที่ไม่สมควรแล้วแปะไว้ที่เตาแก๊ส
วันต่อมามันคงเห็น ตอนเย็นหนูขึ้นรถเมย์เดินกลับเข้ามาบ้าน น้าผชลงจากรถแล้วเข้ามาถามว่าใครเขียน หนูบอกว่าหนูเอง แล้วมันก็ถามว่าเขียนทำไม แล้วเอาเครื่งดูดฝุ่นมาตบหัวหนู จนเครื่องดูดฝุ่นแตก ยายเลยพาไปแจ้งความเย็นวันนั้นเลย ทางตร.ก็ให้หนูไปตรวจที่นิติเวชแล้วก็กลับบ้านได้ น้าผชบอกว่าไม่กลัวตำรวจหรอก
พอหนูกลับมา เห็นผลจากการที่มันค้นห้องหนูอีกครั้ง ครั้งนี้มันทำรุนแรงมาก เอาข้าวของเครื่องใช้หนูออกมาหมดห้อง หนังสือยับเยิน ราวผ้าหัก ฟูกที่นอนก็พับหักไปด้วย แล้วเอาตามานอนห้องหนูแทน หนูโกรธมากถึงมากที่สุด เลยด่าไปว่า สอดอ.หมา มันออกห้องมาแล้วบอกว่า จะไม่พูดมากแล้วนะพร้อมกับทำหน้ากวนๆ มือถือปืนไว้ข้างหลัง พูดขู่ว่าไม่เจ็บนะอันนี้ บลาๆเหมือนคนเป็นจิตนิดๆ
หนูสงสารตัวเองมากที่มาเจอเรื่องแบบนี้ คำถามในหัวคือ เราไปทำอะไรให้เขาวะ หลังจากนั้นก็มีทั้งผู้ใหญ่บ้านและญาติผู้ใหญ่หลายคนมาจัดการปัญหานี้ให้
น้าสะใภ้นี่ร้ายมาก ตอนไม่มีใครพูดไม่ดีสุดๆ เคยจะตบหนูด้วย โดยมีน้าผชให้ท้าย ทั้งๆที่อายุก็ 30 กว่าแล้วจะมาตบกับหนูเพื่อวัดว่าใครแน่กว่า นี่คือความคิดคนจบสูงหรอ พอต่อหน้าผู้ใหญ่สองคนนี้ก็พูดเพราะมาก ครับค่ะผมต่างๆนาๆ หนูยืนหน้าบ้านได้ยินแล้วแทบทนไม่ไหว ตอนนั้นดึกมากแล้วแต่ตายังไม่นอน ได้แค่กะพริบตาอย่างเดียว
หลังจากนั้นแม่รู้เรื่ิองก็กลับมาบ้าน ทำเหมือนมาดูแลตา แต่ด่ายายขึ้นขึ้นกูจนยายร้องไห้เพราะแม่ไม่ชอบยาย หนูผิดหวังกับแม่อีกแล้ว ทำไมแม่ไม่ใช่ผญที่อ่อนหวาน รักลูก รักพ่อแม่เหมือนแม่คนอื่น หนูอายคนแถวบ้านมากเพราะบ้านหนูเป็นบ้านหลังเดียวที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเสียงดังทุกวัน ยิ่งแม่มาทำอีกกลายเป็นว่าคูณสองทั้งแม่ทั้งน้า
ตาก็ได้แต่ฟังอย่างเดียว พยายามพูดแต่พูดไม่ชัดและฟังไม่ออก ไม่มีใครทำกายภาพบำบัดให้ตา จนตามีแผลกดทับจากการนอนติดเตียง ซีกขวาขยับไม่ได้แข็งไปหมด ถ้าขยับให้ตาจะเจ็บมาก
แล้วปัญหาในครอบครัวก็เป็นแบบนี้ทุกวันจนหนูไม่อยากกลับบ้านมาเจอเรื่องแบบนี้ ส่วนเรื่องแจ้งความตร.เรียกไปคุย น้า
ผช ก็รับปากว่าจะไม่ทำอีก
จากนั้นก็วนลูปแบบนี้ทุกวัน คือเช้ามาหนูไปรร. ตาก็ต้องกินข้าวทางสายยางที่ยายเป็นคนให้ ตอนเย็นมาแม่ก็ทะเลาะกับยาย น้าก็เสริม จนหนูไม่มีสมาธิอ่านหนังสือสอบ ชาวบ้านนินทาไปหมด เพราะมันหยาบคายและเสียงดัง วนไปเรื่อยๆทุกวันๆ หนูเหนื่อยมากแต่เห็นตาเป็นแบบนี้ก็ต้องทน ต้องรับไว้ให้ได้
หนูอยู่ม.5 สิ่งเดียวที่ทำได้คือตั้งใจเรียน หนูคิดไว้ว่าเรียนให้จบทำงานดีๆแล้วจะได้เลี้ยงตา ไม่ต้องไปง้อน้ากับแม่ จะเอาใบปริญญามาให้ตาจับให้ตาเห็นเพราะตาไม่เคยเห็น ลูกทั้งสองก็เรียนไม่จบ
พอวันที่25มกรา หนูทำการบ้านเสร็จก็ออกมาดูตาข้างนอก เห็นตาสั่น เลยเรียกคนไปส่งที่รพ. หมอบอกว่าตาติดเชื้อในกระแสปัสสาวะ จากการสวนสายปัสสาวะ มีไข้จนต้องนอน รพ.
พอวันที่2กุมภา ตาก็ได้กลับบ้าน หนุบอกตาว่าจะได้กลับบ้านแล้วนะตา แล้วตาก็ยิ้มให้ พอตอนกลับเป็นความรู้สึกที่แย่อีกแล้ว เพราะตาได้นอนพื้นรถสองแถว น้าผชไม่มารับเพราะขอค่าน้ำมันเหมือนเดิม
กลับมาคราวนี้ ยาเยอะมาก หลายชนิดมากๆ หนูคิดว่ายายไม่รู้เรื่องแน่ๆเลยจัดการแยกยาไว้ เขียนชื่อยาที่หมอย้ำว่าสำคัญเช่นยาฆ่าเชื้อ หนูก็นั่งทำ ตอนพาตาลงจากรถสองแถว หนู ลุงขับรถ และยายก็แบกตาขึ้นบ้าน ตาผอมลงมาก เพราะยายไม่ใส่ใจ ให้ข้าวตาแค่ 3 มื้ิอ แล้วมื้อนึงให้แค่ 200 มิลลิลิตรมาตลอด มันก็ตกอยู่วันละ 600 แคล ตาจะอยู่ได้ยังไงเหมือนคนขาดสารอาหาร
ตอนแรกหนูไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ หมอเลยแนะนำให้ไปหาป้าที่โภชนาการรพ. ป้าบอกว่ายายหนูมาเอาข้าวนานๆครั้ง ซึ่งมันจะไปพอได้ยังไง หนุกลับมาถามยาย ยายบอกว่ากลัวข้าวหมด ไม่มีเงินซื้อ
หนูเลยรู้สึกแย่ลงไปอีก ทำไมครอบครัวหนูต้องเป็นแบบนี้กัน ตาก็เลี้ยงมาทั้งหมดทุกคน ทำไมไม่ช่วยดูแลตาบ้าง จากนั้นหนูเลยจัดการเองหมดเลย พอดีตากลับวันศุกร์ เสาร์อาทิตย์หนูเลยให้ข้าวตาเอง รวมเป็น 1500 แคลต่อวัน
วันจันทร์ก็เป็นวันเกิดตาพอดี 5 กุมภา ตอนเช้าวันจันทร์หนูก็เลยไปบอกตาว่าวันนี้วันเกิดตานะ ขอให้หายป่วยไวๆ อายุยืนยาว รอดูความสำเร็จหนูด้วย แล้วหนูก็ไปรร. พอกลับบ้านก็เจอแบบเดิมคือยายไม่ให้ยาตา ทั้งๆที่หนูจัดไว้ให้แล้ว ไม่พอสายยางอาหารหลุดตั้งแต่เที่ยง ตาไม่ได้กินน้ำ ไม่ได้กินข้าว ต้องรอวันรุ่งขึ้นก่อน หนูสงสารตาไม่รู้จะทำยังไง เพราะอนามัยปิดแล้ว
แต่พอตอนเที่ยงคืน ยายก็มาเรียกหนูเสียงยายแบบใจหายมาก หนูสัมผัสได้เลยว่าต้องมีอะไรไม่ดี ก็คือตาเสียแล้ว ไม่มีใครเห็น ตัวซีดไปหมด ชีพจรก็ไม่เต้น เลยพาไปรพ. แต่ก็ช่วยไว้ไม่ได้ เพราะก้านสมองของตาตายแล้ว หนูร้องไห้ไม่ออกเลย ไม่คิดว่าตาจะไปเร็วแบบนี้ หนูไม่เชื่อตัวเองด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นจริง
สิ่งที่ตามมาคือ แม่มาด่ายายที่รพ. ว่ายายฆ่าตา อยากให้ตาตายจะได้ไปอยู่กับชู้ แล้วคือหนูอยู่ตรงนั้น ทำไมหนูต้องมารับฟังคำพูดแบบนี้ การกระทำแบบนี้จากคนในครอบครัว
น้ากับแม่เสียใจที่ตาเสีย แต่เรื่องที่เขาสนใจหลังจากนั้นคือสมบัติ ตามีเงินประกันสังคม เงินในธนาคาร แล้วเขาก็แย่งกัน หนูเสียใจแล้วก็ปลงกับคนแบบนี้ ทำไมพวกเขาไม่ไปทำงาน ทำไมต้องมารอเงินของตา เวลาพระสวดเขาก็ยังทะเลาะกันกับยาย แล้วคนที่ยายคุยด้วยก็มางานศพตา เป็นเรื่องที่หยามตามากเลย
หนูน้ำตาซึมข้างโลง บอกตาว่าอย่าไปสนใจไม่ต้องเป็นห่วงหนู คนต่างๆที่มางานต่างบอกว่าตารักหนูมาก ทำงานจนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิตเพื่อหนู แล้วสิ่งที่หนูคิดคือ ทำไมลูกและเมียถึงทำแบบนี้กับตา
จนถึงตอนนี้เรื่องเงินก็ยังไม่จบสิ้น ทั้งน้าและแม่ กลัวยายเอาสมบัติไว้คนเดียว กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง แล้วสองวันก่อนมีคนจะมายึดรถน้าเพราะไม่จ่ายเขาหลายเดือน ก็มาขู่เอาเงินยายเพราะเงินจากประกันสังคมยังไม่ได้ น้าผชเข้ามาเอาโฉนดที่ดินไป หนูก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอาไปทำอะไร แม่กับน้าผชเคยบอกว่าจะเอาชื่อตัวเองไปห้อยในที่ดินด้วย เพราะกลัวยายเอาไปจำนอง แต่ตอนนี้กลับมาขโมยไปแล้วจะเอาไปจำนองเองเพราะจะเอาเงินไปจ่ายค่ารถ
แล้วหนูต้องทำยังไงต่อกับปัญหาแบบนี้ มันยืดยาวไม่มีวันจบสักที สงสารตาที่ยังต้องเป็นห่วง เพราะสัปเหร่อมาบอกว่าตอนจะเผาแล้ว ตาไม่หลับตา เผาศพไม่ไหม้กว่าจะไหม้ก็นานมาก ตั้งแต่วันเผา หนูรู้สึกว่าตัวเองเวลาอยู่คนเดียวชอบดิ่งไปในโลกอีกโลกนึงที่มันว่างเปล่า ชอบร้องไห้ ท้อง่าย เหม่อตลอดเวลา สมาธิสั้น
** ถ้าไม่อยากรู้ที่มาข้ามไปอ่านปัญหาข้างล่างเลยค่ะ มันยาวมากๆ***
หนูอายุแค่ 17 แต่ตอนนี้กลับเจอปัญหามากมายเข้ามาพร้อมกัน ปัญหาน่าจะเริ่มมาจากที่แม่ไม่เลี้ยงหนูแล้วเอามาให้ตากับยายเลี้ยงตั้งแต่เกิดเลย แต่หนูไม่รู้สึกว่าขาดพ่อแม่เพราะตากับยายดูแลดีอยู่แล้ว
ปัญหาในชีวิตหนูก็เริ่มมาจริงจังมากขึ้นตอนม.ปลาย เพราะน้า ผช ที่เป็นลูกของตากับยายกลับมาอยู่บ้าน ชอบทะเลาะกับยายลงไม้ลงมือจนตาต้องมาจัดการให้ แล้วพอหายโกรธกัน น้าผชก็จะแต่งงาน ให้ตากับยายไปขอให้ หมดค่าสินสอดไปเยอะมาก ตอนงานเลี้ยงก็มาขู่ยายขอเงินเพิ่ม
หลังจากนั้นจะทำธุรกิจขายของ ให้ยายไปกู้เงินให้เกือบแสน บอกว่าจะคืนให้แต่ก็ไม่คืน จนยายต้องเอาเงินเดือนตามาใช้หนี้ตรงนี้แทน เงินเดือนตาก็เอาออกมาใช้หนี้หมดด้วย จนเรื่องเงินที่บ้านเริ่มมีปัญหาเพราะเงินไม่พอใช้ แล้วก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆไม่มีเงินเก็บพร้อมหนี้ที่ยายไม่ได้ก่อ
แล้วเมื่อ 4 เดือนก่อน ตาหมดสติล้มหัวฟาดพื้นในตลาด มีคนในตลาดพาส่งรพ. พอหนูไปถึงตาก็ฟื้นแล้วแต่ไม่พูดจานอนตะแคงไปมา ตาลอยแล้ว จากนั้นมีหมอมาบอกว่าตามีเลือดคลั่งในสมองข้างซ้ายต้องผ่าตัด ตาก็ผ่าตัดเสร็จแล้ว อยู่ห้องปลอดเชื้อของศัลยกรรมประสาท เข้าเยี่ยมได้แค่ไม่กี่ครั้ง
ในวันนึงหนูเข้าไปเห็นตาลืมตาได้ หนูก็ถามตาว่าตาเห็นหนูมั้ยตาก็พยักหัว พยาบาลหลายคนก็ยิ้มกันใหญ่ ผลจากการผ่าตัดคือ ตาเป็นอัมพาตครึ่งซีก คือข้างขวาขยับไม่ได้แต่ข้างซ้ายได้ปกติ
มีอยู่ครั้งนึงหนูไปเยี่ยมตาแล้วเห็นตาไม่หายใจพอดีพยาบาลจึงช่วยปั๊มหัวใจ หนูรู้สึกกลัวตาจากไปกลัวตาเป็นอะไรไปแล้วใครจะอยู่กับหนูกับยาย แล้วตาก็รอดอีกครั้ง
พอออกจาก รพ. ตาก็ได้กลับมาอยู่บ้านตัวเองจริงๆสักที แต่กลับมาในสภาพที่ร่างกายไม่เหมือเดิมอีกต่อไป ความรู้สึกของหนูดิ่งลงเรื่อยๆ ร้องไห้เวลาเห็นตาอยากตะแคงแต่ตะแคงไม่ได้ ต้องให้คนอื่นช่วย น้าผชกับแม่ก็ไม่ได้กลับมาดูแลตาอย่างใกล้ชิดเลย ตาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องออกจากงาน กินข้าวทางสายยาง ใส่ท่อสวนปัสสาวะ เป็นแบบนี้มา 3 เดือนกว่า
ในระหว่างที่ผ่านมาหนูรู้ว่าลำบากมาก ต้องประหยัดเงินต้องทำอะไรหลายอย่างที่มันเหนื่อยและมันท้อ เหมือนหนูสู้กับตาอยู่สองคน ยายแอบคุยกับคนอื่นที่เขามีลูกมีเมียแล้ว ดูแลตาไม่ดี ยาก็ให้บ้างไม่ให้บ้าง เพราะหนูไปรร. กลับมายาก็ยังมีเท่าเดิม
น้าผชก็อยู่แต่บ้านไม่ไปทำงาน หนี้ไม่ใช้ ค่าน้ำค่าไฟไม่จ่าย หนูคิดหนักเลยว่าจะไปหาเงินมาจากที่ไหน เวลาตาจะไปรพ.ตามที่หมอนัด ก็ต้องเหมารถสองแถวไป อย่างที่หนูเล่าไปว่าตาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตาจึงต้องนอนบนพื้นรถสองแถว เป็นอะไรที่น่าสงสารมาก ทั้งๆที่น้าผชมีรถแต่ไม่ไปส่งเพราะจะเอาค่าน้ำมันรถจากยาย แต่ยายไม่มีให้
น้าผชแอบเข้าห้องนอนหนูตอนหนูไม่อยู่ เข้ามาค้นห้องและขโมยโทรศัพท์หนูไป 3 เครื่อง โทรศัพท์ของหนูยังดีอยู่แค่หน้าจอแตกกับของเพื่อนที่ให้ยืมใช้ตอนโทรศัพท์แตกใหม่ๆ พอหนูจับได้ก้ไม่พอใจแล้วก็เอาโคมไฟอ่านหนังสือหนูไปขว้างแตก ซึ่งราคาก็ไม่ใช่น้อยๆ ทำลายข้าวของในบ้านและในห้องหนู เหยียบหนังสือเรียน หนูร้องไห้เหมือนคนบ้าเพราะเสียดายของ กว่าจะเก็บเงินซื้อได้ และยังเข้ามาตบหัวหนูสามรอบ ตาได้ยินและเห็น รับรู้เรื่องราวแต่ไม่สามารถพูดได้ ไม่สามารถลุกมาช่วยได้แล้ว หนูสงสารตามากๆ
ปัญหาต่อมาเมื่อไม่นานมานี้ วันที่ 14 มกรา ท่อรถแต่งของน้าผชหาย น้าโทษคนข้างบ้านว่าเป็นคนขโมย เพราะเขาเป็นคนนอกที่เข้าบ้านล่าสุด แล้วจะให้ยายไปเป็นพยานในการแจ้งความ แต่ยายไม่ยอมเพราะไม่แน่ใจว่าใช่คนข้างบ้านจริงรึเปล่า วันนั้นหนูไปรร. กลับบ้านมายายบอกว่า น้า ผช ก็ไม่พอใจ ด่ายายจะตียาย เอาค้อนเหล็กขว้างใส่หัวยาย แต่ยายหลบ ค้อนเหล็กจึงไปกระแทกพื้น พื้นบ้านแตก
ยายกลัวเลยหนีไปบ้านพี่สาว ตอนดึกกลับมาพร้อมหนู หนูไปเห็นว่าเขายึดตู้เย็นยายเข้าห้องเขา ตัดสายเตาแก๊สที่พึ่งซื้อมาใหม่ หนูไม่พอใจมากเพราะมันแพง พึ่งซื้อได้สองวัน เลยไปเขียนกระดาษว่ามันเป็นการกระทำที่ไม่สมควรแล้วแปะไว้ที่เตาแก๊ส
วันต่อมามันคงเห็น ตอนเย็นหนูขึ้นรถเมย์เดินกลับเข้ามาบ้าน น้าผชลงจากรถแล้วเข้ามาถามว่าใครเขียน หนูบอกว่าหนูเอง แล้วมันก็ถามว่าเขียนทำไม แล้วเอาเครื่งดูดฝุ่นมาตบหัวหนู จนเครื่องดูดฝุ่นแตก ยายเลยพาไปแจ้งความเย็นวันนั้นเลย ทางตร.ก็ให้หนูไปตรวจที่นิติเวชแล้วก็กลับบ้านได้ น้าผชบอกว่าไม่กลัวตำรวจหรอก
พอหนูกลับมา เห็นผลจากการที่มันค้นห้องหนูอีกครั้ง ครั้งนี้มันทำรุนแรงมาก เอาข้าวของเครื่องใช้หนูออกมาหมดห้อง หนังสือยับเยิน ราวผ้าหัก ฟูกที่นอนก็พับหักไปด้วย แล้วเอาตามานอนห้องหนูแทน หนูโกรธมากถึงมากที่สุด เลยด่าไปว่า สอดอ.หมา มันออกห้องมาแล้วบอกว่า จะไม่พูดมากแล้วนะพร้อมกับทำหน้ากวนๆ มือถือปืนไว้ข้างหลัง พูดขู่ว่าไม่เจ็บนะอันนี้ บลาๆเหมือนคนเป็นจิตนิดๆ
หนูสงสารตัวเองมากที่มาเจอเรื่องแบบนี้ คำถามในหัวคือ เราไปทำอะไรให้เขาวะ หลังจากนั้นก็มีทั้งผู้ใหญ่บ้านและญาติผู้ใหญ่หลายคนมาจัดการปัญหานี้ให้
น้าสะใภ้นี่ร้ายมาก ตอนไม่มีใครพูดไม่ดีสุดๆ เคยจะตบหนูด้วย โดยมีน้าผชให้ท้าย ทั้งๆที่อายุก็ 30 กว่าแล้วจะมาตบกับหนูเพื่อวัดว่าใครแน่กว่า นี่คือความคิดคนจบสูงหรอ พอต่อหน้าผู้ใหญ่สองคนนี้ก็พูดเพราะมาก ครับค่ะผมต่างๆนาๆ หนูยืนหน้าบ้านได้ยินแล้วแทบทนไม่ไหว ตอนนั้นดึกมากแล้วแต่ตายังไม่นอน ได้แค่กะพริบตาอย่างเดียว
หลังจากนั้นแม่รู้เรื่ิองก็กลับมาบ้าน ทำเหมือนมาดูแลตา แต่ด่ายายขึ้นขึ้นกูจนยายร้องไห้เพราะแม่ไม่ชอบยาย หนูผิดหวังกับแม่อีกแล้ว ทำไมแม่ไม่ใช่ผญที่อ่อนหวาน รักลูก รักพ่อแม่เหมือนแม่คนอื่น หนูอายคนแถวบ้านมากเพราะบ้านหนูเป็นบ้านหลังเดียวที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเสียงดังทุกวัน ยิ่งแม่มาทำอีกกลายเป็นว่าคูณสองทั้งแม่ทั้งน้า
ตาก็ได้แต่ฟังอย่างเดียว พยายามพูดแต่พูดไม่ชัดและฟังไม่ออก ไม่มีใครทำกายภาพบำบัดให้ตา จนตามีแผลกดทับจากการนอนติดเตียง ซีกขวาขยับไม่ได้แข็งไปหมด ถ้าขยับให้ตาจะเจ็บมาก
แล้วปัญหาในครอบครัวก็เป็นแบบนี้ทุกวันจนหนูไม่อยากกลับบ้านมาเจอเรื่องแบบนี้ ส่วนเรื่องแจ้งความตร.เรียกไปคุย น้า
ผช ก็รับปากว่าจะไม่ทำอีก
จากนั้นก็วนลูปแบบนี้ทุกวัน คือเช้ามาหนูไปรร. ตาก็ต้องกินข้าวทางสายยางที่ยายเป็นคนให้ ตอนเย็นมาแม่ก็ทะเลาะกับยาย น้าก็เสริม จนหนูไม่มีสมาธิอ่านหนังสือสอบ ชาวบ้านนินทาไปหมด เพราะมันหยาบคายและเสียงดัง วนไปเรื่อยๆทุกวันๆ หนูเหนื่อยมากแต่เห็นตาเป็นแบบนี้ก็ต้องทน ต้องรับไว้ให้ได้
หนูอยู่ม.5 สิ่งเดียวที่ทำได้คือตั้งใจเรียน หนูคิดไว้ว่าเรียนให้จบทำงานดีๆแล้วจะได้เลี้ยงตา ไม่ต้องไปง้อน้ากับแม่ จะเอาใบปริญญามาให้ตาจับให้ตาเห็นเพราะตาไม่เคยเห็น ลูกทั้งสองก็เรียนไม่จบ
พอวันที่25มกรา หนูทำการบ้านเสร็จก็ออกมาดูตาข้างนอก เห็นตาสั่น เลยเรียกคนไปส่งที่รพ. หมอบอกว่าตาติดเชื้อในกระแสปัสสาวะ จากการสวนสายปัสสาวะ มีไข้จนต้องนอน รพ.
พอวันที่2กุมภา ตาก็ได้กลับบ้าน หนุบอกตาว่าจะได้กลับบ้านแล้วนะตา แล้วตาก็ยิ้มให้ พอตอนกลับเป็นความรู้สึกที่แย่อีกแล้ว เพราะตาได้นอนพื้นรถสองแถว น้าผชไม่มารับเพราะขอค่าน้ำมันเหมือนเดิม
กลับมาคราวนี้ ยาเยอะมาก หลายชนิดมากๆ หนูคิดว่ายายไม่รู้เรื่องแน่ๆเลยจัดการแยกยาไว้ เขียนชื่อยาที่หมอย้ำว่าสำคัญเช่นยาฆ่าเชื้อ หนูก็นั่งทำ ตอนพาตาลงจากรถสองแถว หนู ลุงขับรถ และยายก็แบกตาขึ้นบ้าน ตาผอมลงมาก เพราะยายไม่ใส่ใจ ให้ข้าวตาแค่ 3 มื้ิอ แล้วมื้อนึงให้แค่ 200 มิลลิลิตรมาตลอด มันก็ตกอยู่วันละ 600 แคล ตาจะอยู่ได้ยังไงเหมือนคนขาดสารอาหาร
ตอนแรกหนูไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ หมอเลยแนะนำให้ไปหาป้าที่โภชนาการรพ. ป้าบอกว่ายายหนูมาเอาข้าวนานๆครั้ง ซึ่งมันจะไปพอได้ยังไง หนุกลับมาถามยาย ยายบอกว่ากลัวข้าวหมด ไม่มีเงินซื้อ
หนูเลยรู้สึกแย่ลงไปอีก ทำไมครอบครัวหนูต้องเป็นแบบนี้กัน ตาก็เลี้ยงมาทั้งหมดทุกคน ทำไมไม่ช่วยดูแลตาบ้าง จากนั้นหนูเลยจัดการเองหมดเลย พอดีตากลับวันศุกร์ เสาร์อาทิตย์หนูเลยให้ข้าวตาเอง รวมเป็น 1500 แคลต่อวัน
วันจันทร์ก็เป็นวันเกิดตาพอดี 5 กุมภา ตอนเช้าวันจันทร์หนูก็เลยไปบอกตาว่าวันนี้วันเกิดตานะ ขอให้หายป่วยไวๆ อายุยืนยาว รอดูความสำเร็จหนูด้วย แล้วหนูก็ไปรร. พอกลับบ้านก็เจอแบบเดิมคือยายไม่ให้ยาตา ทั้งๆที่หนูจัดไว้ให้แล้ว ไม่พอสายยางอาหารหลุดตั้งแต่เที่ยง ตาไม่ได้กินน้ำ ไม่ได้กินข้าว ต้องรอวันรุ่งขึ้นก่อน หนูสงสารตาไม่รู้จะทำยังไง เพราะอนามัยปิดแล้ว
แต่พอตอนเที่ยงคืน ยายก็มาเรียกหนูเสียงยายแบบใจหายมาก หนูสัมผัสได้เลยว่าต้องมีอะไรไม่ดี ก็คือตาเสียแล้ว ไม่มีใครเห็น ตัวซีดไปหมด ชีพจรก็ไม่เต้น เลยพาไปรพ. แต่ก็ช่วยไว้ไม่ได้ เพราะก้านสมองของตาตายแล้ว หนูร้องไห้ไม่ออกเลย ไม่คิดว่าตาจะไปเร็วแบบนี้ หนูไม่เชื่อตัวเองด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นจริง
สิ่งที่ตามมาคือ แม่มาด่ายายที่รพ. ว่ายายฆ่าตา อยากให้ตาตายจะได้ไปอยู่กับชู้ แล้วคือหนูอยู่ตรงนั้น ทำไมหนูต้องมารับฟังคำพูดแบบนี้ การกระทำแบบนี้จากคนในครอบครัว
น้ากับแม่เสียใจที่ตาเสีย แต่เรื่องที่เขาสนใจหลังจากนั้นคือสมบัติ ตามีเงินประกันสังคม เงินในธนาคาร แล้วเขาก็แย่งกัน หนูเสียใจแล้วก็ปลงกับคนแบบนี้ ทำไมพวกเขาไม่ไปทำงาน ทำไมต้องมารอเงินของตา เวลาพระสวดเขาก็ยังทะเลาะกันกับยาย แล้วคนที่ยายคุยด้วยก็มางานศพตา เป็นเรื่องที่หยามตามากเลย
หนูน้ำตาซึมข้างโลง บอกตาว่าอย่าไปสนใจไม่ต้องเป็นห่วงหนู คนต่างๆที่มางานต่างบอกว่าตารักหนูมาก ทำงานจนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิตเพื่อหนู แล้วสิ่งที่หนูคิดคือ ทำไมลูกและเมียถึงทำแบบนี้กับตา
จนถึงตอนนี้เรื่องเงินก็ยังไม่จบสิ้น ทั้งน้าและแม่ กลัวยายเอาสมบัติไว้คนเดียว กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง แล้วสองวันก่อนมีคนจะมายึดรถน้าเพราะไม่จ่ายเขาหลายเดือน ก็มาขู่เอาเงินยายเพราะเงินจากประกันสังคมยังไม่ได้ น้าผชเข้ามาเอาโฉนดที่ดินไป หนูก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอาไปทำอะไร แม่กับน้าผชเคยบอกว่าจะเอาชื่อตัวเองไปห้อยในที่ดินด้วย เพราะกลัวยายเอาไปจำนอง แต่ตอนนี้กลับมาขโมยไปแล้วจะเอาไปจำนองเองเพราะจะเอาเงินไปจ่ายค่ารถ
แล้วหนูต้องทำยังไงต่อกับปัญหาแบบนี้ มันยืดยาวไม่มีวันจบสักที สงสารตาที่ยังต้องเป็นห่วง เพราะสัปเหร่อมาบอกว่าตอนจะเผาแล้ว ตาไม่หลับตา เผาศพไม่ไหม้กว่าจะไหม้ก็นานมาก ตั้งแต่วันเผา หนูรู้สึกว่าตัวเองเวลาอยู่คนเดียวชอบดิ่งไปในโลกอีกโลกนึงที่มันว่างเปล่า ชอบร้องไห้ ท้อง่าย เหม่อตลอดเวลา สมาธิสั้น
แสดงความคิดเห็น
อายุ17เจอปัญหาแบบนี้กลัวรับไม่ไหว
หนูอายุแค่ 17 แต่ตอนนี้กลับเจอปัญหามากมายเข้ามาพร้อมกัน ปัญหาน่าจะเริ่มมาจากที่แม่ไม่เลี้ยงหนูแล้วเอามาให้ตากับยายเลี้ยงตั้งแต่เกิดเลย แต่หนูไม่รู้สึกว่าขาดพ่อแม่เพราะตากับยายดูแลดีอยู่แล้ว ปัญหาในชีวิตหนูก็เริ่มมาจริงจังมากขึ้นตอนม.ปลาย เพราะน้าผชที่เป็นลูกของตากับยาย กลับมาอยู่บ้าน ชอบทะเลาะกับยายลงไม้ลงมือ จนตาต้องมาจัดการให้ แล้วพอหายโกรธกัน น้าผชก็จะแต่งงาน ให้ตากับยายไปขอให้ หมดค่าสินสอดไปเยอะมากตอนงานเลี้ยงก็มาขู่ยายขอเงินเพิ่ม หลังจากนั้นจะทำธุรกิจขายของ ให้ยายไปกู้เงินให้เกือบแสน บอกว่าจะคืนให้แต่ก็ไม่คืน จนยายต้องเอาเงินเดือนตา มาใช้หนี้ตรงนี้แทน เงินเดือนตาก็เอาออกมาใช้หนี้หมดด้วย จนเรื่องเงินที่บ้านเริ่มมีปัญหาเพราะเงินไม่พอใช้ แล้วก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆไม่มีเงินเก็บพร้อมหนี้ที่ยายไม่ได้ก่อ แล้วเมื่อ 4 เดือนก่อน ตาหมดสติ ล้มหัวฟาดพื้นในตลาด มีคนในตลาดพาส่งรพ. พอหนูไปถึงตาก็ฟื้นแล้ว แต่ไม่พูดจา นอนตะแคงไปมา ตาลอย แล้วจากนั้นมีหมอมาบอกว่า ตามีเลือดคลั่งในสมองข้างซ้ายต้องผ่าตัด ตาก็ผ่าตัดเสร็จแล้ว อยู่ห้องปลอดเชื้อของศัลยกรรมประสาท เข้าเยี่ยมได้แค่ไม่มีกี่ครั้งในวันนึง หนุเข้าไปเห็นตาลืมตาได้ หนูก็ถามตาว่าตาเห็นหนูมั้ยตาก็พยักหัว พยาบาลหลายคนก็ยิ้มกันใหญ่ ผลจากการผ่าตัดคือ ตาเป็นอัมพาตครึ่งซีก คือข้างขวาขยับไม่ได้แต่ข้างซ้ายได้ปกติ มีอยู่ครั้งนึงหนูไปเยี่ยมตา แล้วเห็นตาไม่หายใจพอดี พยาบาลจึงช่วยปั๊มหัวใจ หนูรู้สึกกลัวตาจากไป กลัวตาเป็นอะไรไปแล้วใครจะอยู่กับหนูกับยาย แล้วตาก็รอดอีกครั้ง พอออกจากรพ. ตาก็ได้กลับมาอยู่บ้านตัวเองจริงๆสักที แต่กลับมาในสภาพที่ร่างกายไม่เหมือเดิมอีกต่อไป ความรู้สึกของหนูดิ่งลงเรื่อยๆ ร้องไห้เวลาเห็นตาอยากตะแคงแต่ตะแคงไม่ได้ ต้องให้คนอื่นช่วย น้าผชกับแม่ก็ไม่ได้กลับมาดูแลตาอย่างใกล้ชิดเลย ตาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องออกจากงาน กินข้าวทางสายยาง ใส่ท่อสวนปัสสาวะ เป็นแบบนี้มา 3 เดือนกว่า ในระหว่างที่ผ่านมา หนูรู้ว่าลำบากมาก ต้องประหยัดเงิน ต้องทำอะไรหลายอย่างที่มันเหนื่อยและมันท้อ เหมือนหนูสู้กับตาอยู่สองคน ยายแอบคุยกับคนอื่นที่เขามีลูกมีเมียแล้ว ดูแลตาไม่ดี ยาก็ให้บ้างไม่ให้บ้าง เพราะหนูไปรร. กลับมายาก็ยังมีเท่าเดิม น้าผชก็อยู่แต่บ้านไม่ไปทำงาน หนี้ไม่ใช้ ค่าน้ำค่าไฟไม่จ่าย หนูคิดหนักเลยว่าจะไปหาเงินมาจากที่ไหน เวลาตาจะไปรพ.ตามที่หมอนัด ก็ต้องเหมารถสองแถวไป อย่างที่หนูเล่าไปว่าตาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตาจึงต้องนอนบนพื้นรถสองแถว เป็นอะไรที่น่าสงสารมาก ทั้งๆที่น้าผชมีรถแต่ไม่ไปส่งเพราะจะเอาค่าน้ำมันรถจากยาย แต่ยายไม่มีให้ น้าผชแอบเข้าห้องนอนหนูตอนหนูไม่อยู่ เข้ามาค้นห้องและขโมยโทรศัพท์หนูไป 3 เครื่อง โทรศัพท์ของหนูยังดีอยู่แค่หน้าจอแตกกับของเพื่อนที่ให้ยืมใช้ตอนโทรศัพท์แตกใหม่ๆ พอหนูจับได้ก้ไม่พอใจแล้วก็เอาโคมไฟอ่านหนังสือหนูไปขว้างแตก ซึ่งราคาก็ไม่ใช่น้อยๆ ทำลายข้าวของในบ้านและในห้องหนู เหยียบหนังสือเรียน หนูร้องไห้เหมือนคนบ้าเพราะเสียดายของ กว่าจะเก็บเงินซื้อได้ และยังเข้ามาตบหัวหนูสามรอบ ตาได้ยินและเห็น รับรู้เรื่องราวแต่ไม่สามารถพูดได้ ไม่สามารถลุกมาช่วยได้แล้ว หนูสงสารตามากๆ ปัญหาต่อมาเมื่อไม่นานมานี้ วันที่14มกรา ท่อรถแต่งของน้าผชหาย น้าโทษคนข้างบ้านว่าเป็นคนขโมย เพราะเขาเป็นคนนอกที่เข้าบ้านล่าสุด แล้วจะให้ยายไปเป็นพยานในการแจ้งความ แต่ยายไม่ยอมเพราะไม่แน่ใจว่าใช่คนข้างบ้านจริงรึเปล่า วันนั้นหนูไปรร. กลับบ้านมายายบอกว่า น้าผชก็ไม่พอใจ ด่ายายจะตียาย เอาค้อนเหล็กขว้างใส่หัวยาย แต่ยายหลบ ค้อนเหล็กจึงไปกระแทกพื้น พื้นบ้านแตก ยายกลัวเลยหนีไปบ้านพี่สาว ตอนดึกกลับมาพร้อมหนู หนูไปเห็นว่าเขายึดตู้เย็นยายเข้าห้องเขา ตัดสายเตาแก๊สที่พึ่งซื้อมาใหม่ หนูไม่พอใจมากเพราะมันแพง พึ่งซื้อได้สองวัน เลยไปเขียนกระดาษว่ามันเป็นการกระทำที่ไม่สมควรแล้วแปะไว้ที่เตาแก๊ส วันต่อมามันคงเห็น ตอนเย็นหนูขึ้นรถเมย์เดินกลับเข้ามาบ้าน น้าผชลงจากรถแล้วเข้ามาถามว่าใครเขียน หนูบอกว่าหนูเอง แล้วมันก็ถามว่าเขียนทำไม แล้วเอาเครื่งดูดฝุ่นมาตบหัวหนู จนเครื่องดูดฝุ่นแตก ยายเลยพาไปแจ้งความเย็นวันนั้นเลย ทางตร.ก็ให้หนูไปตรวจที่นิติเวชแล้วก็กลับบ้านได้ น้าผชบอกว่าไม่กลัวตำรวจหรอก พอหนูกลับมา เห็นผลจากการที่มันค้นห้องหนูอีกครั้ง ครั้งนี้มันทำรุนแรงมาก เอาข้าวของเครื่องใช้หนูออกมาหมดห้อง หนังสือยับเยิน ราวผ้าหัก ฟูกที่นอนก็พับหักไปด้วย แล้วเอาตามานอนห้องหนูแทน หนูโกรธมากถึงมากที่สุด เลยด่าไปว่า สอดอ.หมา มันออกห้องมาแล้วบอกว่า จะไม่พูดมากแล้วนะพร้อมกับทำหน้ากวนๆ มือถือปืนไว้ข้างหลัง พูดขู่ว่าไม่เจ็บนะอันนี้ บลาๆเหมือนคนเป็นจิตนิดๆ หนูสงสารตัวเองมากที่มาเจอเรื่องแบบนี้ คำถามในหัวคือ เราไปทำอะไรให้เขาวะ หลังจากนั้นก็มีทั้งผู้ใหญ่บ้านและญาติผู้ใหญ่หลายคนมาจัดการปัญหานี้ให้ น้าสะใภ้นี่ร้ายมาก ตอนไม่มีใครพูดไม่ดีสุดๆ เคยจะตบหนูด้วย โดยมีน้าผชให้ท้าย ทั้งๆที่อายุก็30กว่าแล้วจะมาตบกับหนูเพื่อวัดว่าใครแน่กว่า นี่คือความคิดคนจบสูงหรอ พอต่อหน้าผู้ใหญ่สองคนนี้ก็พูดเพราะมาก ครับค่ะผมต่างๆนาๆ หนูยืนหน้าบ้านได้ยินแล้วแทบทนไม่ไหว ตอนนั้นดึกมากแล้วแต่ตายังไม่นอน ได้แค่กะพริบตาอย่างเดียว หลังจากนั้นแม่รู้เรื่ิองก็กลับมาบ้าน ทำเหมือนมาดูแลตา แต่ด่ายายขึ้นขึ้นกูจนยายร้องไห้เพราะแม่ไม่ชอบยาย หนูผิดหวังกับแม่อีกแล้ว ทำไมแม่ไม่ใช่ผญที่อ่อนหวาน รักลูก รักพ่อแม่เหมือนแม่คนอื่น หนูอายคนแถวบ้านมากเพราะบ้านหนูเป็นบ้านหลังเดียวที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเสียงดังทุกวัน ยิ่งแม่มาทำอีกกลายเป็นว่าคูณสองทั้งแม่ทั้งน้า ตาก็ได้แต่ฟังอย่างเดียว พยายามพูดแต่พูดไม่ชัดและฟังไม่ออก ไม่มีใครทำกายภาพบำบัดให้ตา จนตามีแผลกดทับจากการนอนติดเตียง ซีกขวาขยับไม่ได้แข็งไปหมด ถ้าขยับให้ตาจะเจ็บมาก แล้วปัญหาในครอบครัวก็เป็นแบบนี้ทุกวันจนหนูไม่อยากกลับบ้านมาเจอเรื่องแบบนี้ ส่วนเรื่องแจ้งความตร.เรียกไปคุย น้าผชก็รับปากว่าจะไม่ทำอีก จากนั้นก็วนลูปแบบนี้ทุกวันคือเช้ามาหนูไปรร. ตาก็ต้องกินข้าวทางสายยางที่ยายเป็นคนให้ ตอนเย็นมาแม่ก็ทะเลาะกับยาย น้าก็เสริม จนหนูไม่มีสมาธิอ่านหนังสือสอบ ชาวบ้านนินทาไปหมด เพราะมันหยาบคายและเสียงดัง วนไปเรื่อยๆทุกวันๆ หนูเหนื่อยมากแต่เห็นตาเป็นแบบนี้ก็ต้องทน ต้องรับไว้ให้ได้ หนูอยู่ม.5 สิ่งเดียวที่ทำได้คือตั้งใจเรียน หนูคิดไว้ว่าเรียนให้จบทำงานดีๆแล้วจะได้เลี้ยงตา ไม่ต้องไปง้อน้ากับแม่ จะเอาใบปริญญามาให้ตาจับให้ตาเห็นเพราะตาไม่เคยเห็น ลูกทั้งสองก็เรียนไม่จบ พอวันที่25มกรา หนูทำการบ้านเสร็จก็ออกมาดูตาข้างนอก เห็นตาสั่น เลยเรียกคนไปส่งที่รพ. หมอบอกว่าตาติดเชื้อในกระแสปัสสาวะ จากการสวนสายปัสสาวะ มีไข้จนต้องนอนรพ.พอวันที่2กุมภา ตาก็ได้กลับบ้าน หนุบอกตาว่าจะได้กลับบ้านแล้วนะตา แล้วตาก็ยิ้มให้ พอตอนกลับเป็นความรู้สึกที่แย่อีกแล้ว เพราะตาได้นอนพื้นรถสองแถว น้าผชไม่มารับเพราะขอค่าน้ำมันเหมือนเดิม กลับมาคราวนี้ ยาเยอะมาก หลายชนิดมากๆ หนูคิดว่ายายไม่รู้เรื่องแน่ๆเลยจัดการแยกยาไว้ เขียนชื่อยาที่หมอย้ำว่าสำคัญเช่นยาฆ่าเชื้อ หนูก็นั่งทำ ตอนพาตาลงจากรถสองแถว หนู ลุงขับรถ และยายก็แบกตาขึ้นบ้าน ตาผอมลงมาก เพราะยายไม่ใส่ใจ ให้ข้าวตาแค่ 3 มื้ิอ แล้วมื้อนึงให้แค่ 200 มิลลิลิตรมาตลอด มันก็ตกอยู่วันละ 600 แคล ตาจะอยู่ได้ยังไงเหมือนคนขาดสารอาหาร ตอนแรกหนูไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ หมอเลยแนะนำให้ไปหาป้าที่โภชนาการรพ. ป้าบอกว่ายายหนูมาเอาข้าวนานๆครั้ง ซึ่งมันจะไปพอได้ยังไง หนุกลับมาถามยาย ยายบอกว่ากลัวข้าวหมด ไม่มีเงินซื้อ หนูเลยรู้สึกแย่ลงไปอีก ทำไมครอบครัวหนูต้องเป็นแบบนี้กัน ตาก็เลี้ยงมาทั้งหมดทุกคน ทำไมไม่ช่วยดูแลตาบ้าง จากนั้นหนูเลยจัดการเองหมดเลย พอดีตากลับวันศุกร์ เสาร์อาทิตย์หนูเลยให้ข้าวตาเอง รวมเป็น 1500 แคลต่อวัน วันจันทร์ก็เป็นวันเกิดตาพอดี 5 กุมภา ตอนเช้าวันจันทร์หนูก็เลยไปบอกตาว่าวันนี้วันเกิดตานะ ขอให้หายป่วยไวๆ อายุยืนยาว รอดูความสำเร็จหนูด้วย แล้วหนูก็ไปรร. พอกลับบ้านก็เจอแบบเดิมคือยายไม่ให้ยาตา ทั้งๆที่หนูจัดไว้ให้แล้ว ไม่พอสายยางอาหารหลุดตั้งแต่เที่ยง ตาไม่ได้กินน้ำ ไม่ได้กินข้าว ต้องรอวันรุ่งขึ้นก่อน หนูสงสารตาไม่รู้จะทำยังไง เพราะอนามัยปิดแล้ว แต่พอตอนเที่ยงคืน ยายก็มาเรียกหนูเสียงยายแบบใจหายมาก หนูสัมผัสได้เลยว่าต้องมีอะไรไม่ดี ก็คือตาเสียแล้ว ไม่มีใครเห็น ตัวซีดไปหมด ชีพจรก็ไม่เต้น เลยพาไปรพ. แต่ก็ช่วยไว้ไม่ได้ เพราะก้านสมองของตาตายแล้ว หนูร้องไห้ไม่ออกเลย ไม่คิดว่าตาจะไปเร็วแบบนี้ หนูไม่เชื่อตัวเองด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นจริง สิ่งที่ตามมาคือ แม่มาด่ายายที่รพ.ว่ายายฆ่าตา อยากให้ตาตายจะได้ไปอยู่กับชู้ แล้วคือหนูอยู่ตรงนั้น ทำไมหนูต้องมารับฟังคำพูดแบบนี้ การกระทำแบบนี้จากคนในครอบครัว น้ากับแม่เสียใจที่ตาเสีย แต่เรื่องที่เขาสนใจหลังจากนั้นคือสมบัติ ตามีเงินประกันสังคม เงินในธนาคาร แล้วเขาก็แย่งกัน หนูเสียใจแล้วก็ปลงกับคนแบบนี้ ทำไมพวกเขาไม่ไปทำงาน ทำไมต้องมารอเงินของตา เวลาพระสวดเขาก็ยังทะเลาะกันกับยาย แล้วคนที่ยายคุยด้วยก็มางานศพตา เป็นเรื่องที่หยามตามากเลย หนูน้ำตาซึมข้างโลง บอกตาว่าอย่าไปสนใจไม่ต้องเป็นห่วงหนู คนต่างๆที่มางานต่างบอกว่าตารักหนูมาก ทำงานจนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิตเพื่อหนู แล้วสิ่งที่หนูคิดคือ ทำไมลูกและเมียถึงทำแบบนี้กับตา จนถึงตอนนี้เรื่องเงินก็ยังไม่จบสิ้น ทั้งน้าและแม่ กลัวยายเอาสมบัติไว้คนเดียว กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง แล้วสองวันก่อนมีคนจะมายึดรถน้าเพราะไม่จ่ายเขาหลายเดือน ก็มาขู่เอาเงินยายเพราะเงินจากประกันสังคมยังไม่ได้ น้าผชเข้ามาเอาโฉนดที่ดินไป หนูก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอาไปทำอะไร แม่กับน้าผชเคยบอกว่าจะเอาชื่อตัวเองไปห้อยในที่ดินด้วย เพราะกลัวยายเอาไปจำนอง แต่ตอนนี้กลับมาขโมยไปแล้วจะเอาไปจำนองเองเพราะจะเอาเงินไปจ่ายค่ารถ แล้วหนูต้องทำยังไงต่อกับปัญหาแบบนี้ มันยืดยาวไม่มีวันจบสักที สงสารตาที่ยังต้องเป็นห่วง เพราะสัปเหร่อมาบอกว่าตอนจะเผาแล้ว ตาไม่หลับตา เผาศพไม่ไหม้กว่าจะไหม้ก็นานมาก ตั้งแต่วันเผา หนูรู้สึกว่าตัวเองเวลาอยู่คนเดียวชอบดิ่งไปในโลกอีกโลกนึงที่มันว่างเปล่า ชอบร้องไห้ ท้อง่าย เหม่อตลอดเวลา สมาธิสั้น
ปัญหาที่หนูกังวลก็คือ
1. การเรียน หนูจะเรียนต่อมหาลัยยังไงเม่ื่อไม่มีเงิน เวลาหนูไปถามใครก็ไม่ค่อยได้คำตอบ ถ้าทำงาน แถวจังหวัดหนูไม่ค่อยมีงานสำหรับคนที่อายุ17 ส่วนใหญ่จะ18บริบูรณ์ เงินกู้กยศ.ได้เดือนละ 1100 หนูคิดว่าไม่พอแน่ๆ เงินเก็บก็ไม่มีเลย
2. เรื่องยายกับคนที่ยายคุย ตอนนี้ยายเหมือนไม่รู้ผิดชอบชั่วดีแล้ว ไม่หยุดคุย เติมเงินโทรหากันต่อหน้าหนู คุยถึงเที่ยงคืน เงินไม่มีจะกินข้าวเพราะยายเอาไปเติมเงิน แล้วไม่ได้สมัครโปรอะไรสักอย่าง
3. เรื่องโฉนดที่ดิน หนูควรทำยังไงให้ได้คืน แล้วถ้าเกิดเขาขู่จะเอาชื่อห้อยกับยายด้วย หนูควรทำยังไง เพราะวันข้างหน้าเขาต้องทำนิสัยเดิมแน่นอน
4. เรื่องครอบครัว ถ้าปัญหายังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทางออกที่ดีที่สุดคือ หนูต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นหรือแยกไม่อยู่ใกล้เขา แต่หนูเสียดายบ้านเพราะตาสร้างไว้ให้หนู ตอนหนู 5 ขวบตาพามาดูบ้านที่กำลังสร้างทุกวันหนูจำได้ดี สำหรับน้าผชกับแม่ ตาไม่เคยคิดจะให้อะไรเลย แล้วยังเคยบอกว่า ถ้าน้าผชมีปัญหามากก็ไล่ไปอยู่ที่อื่น ตาบอกว่าออกไปอยู่หออย่ามาอยู่บ้าน
5. ถ้าเขามายุ่งกับเงินของเราอีก จะป้องกันยังไงดี เพราะน้าผชนิสัยไม่ดีมาก ถ้าขอแล้วไม่ได้ก็มีเรื่อง
6. หนูจะมีชีวิตที่ดีต่อไปได้ยังไง ในเมื่อเรื่องในชีวิตหนูเป็นแบบนี้ไปแล้ว หนูไม่อยากท้อ เรียนก็เหนื่อยแล้วกลับบ้านมาเจอแบบนี้อีก ไม่มีกำลังใจ เวลาไปเรียนหนูยิ้มหัวเราะปกติแต่ในใจไม่ได้รู้สึกสนุกเลย หนูคิดว่าหนูจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อใคร ในเมื่อไม่มีตาแล้ว หลายครั้งที่หนูอยากตามตาไป แต่ไปไม่ได้ ได้แต่คิดถึงตอนที่ตายังอยู่[/le