เรื่องราวของผู้หญิงคนนึงที่เสียโฉม (คุณจะทำยังไง เมื่อคุณสูญเสียสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตไป ทั้งๆที่เป็นตัวคุณเอง)

คุณจะรู้สึกยังไงคะ ถ้าวันนึงคุณตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวของคุณเองนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คือตัวคุณเองแย่ลงเมื่อคุณมองกระจก

เราเป็นผู้หญิงคนนึงค่ะ ที่เมื่อก่อน ก็เหมือนผู้หญิงทั่วไป ที่มีความสุขกับการแต่งหน้า แต่งตัว ทำผม ให้ตัวเองดูดี
และเราเป็นผู้หญิงคนนึงค่ะที่หน้าตาค่อนข้างดูดี โดยที่ไม่ได้ศัลกรรมอะไรเลย เคยมีความฝันด้วยว่าอยากทำงานเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์
เพราะคงจะหาเงินได้เยอะ ไปศัลยกรรมนมหน่อยก็โอเคแล้ว เราวาดฝันไว้มากมายเลยค่ะ ทั้งในอนาคตหน้าที่การงาน ครอบครัว
จนกระทั่งวันนึง โชคชะตาเล่นตลก ทำให้เราเสียโฉมค่ะ
ตอนนั้นความรู้สึกเราเหมือนโลกทั้งใบ ไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว ไม่เป็นอันกิน นอน ไม่มีเรี่ยวแรงจะเดิน ไม่เล่นมือถือ หรือทำอะไรได้ เมื่อเห็นในมือถือหรือทีวี ก็จะเห็นคนที่เขาปกติ ทำให้เรารู้สึกแย่กว่าเดิม นอนนึกอยู่บนเตียงทั้งวันทั้งคืน จนปวดหัวและหลับไป ตื่นมาก็พยายามนอนต่อ เพราะไม่อยากรู้สึกอะไรอีก
น้ำหนัก ลดลงฮวบฮาบ 8โล ทั้งที่ไม่ได้ออกกำลังกาย ยิ่งกว่าอกหักจากคนอื่นหลายเท่า เมื่อคุณสูญเสียสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตไป ซึ่งเป็นตัวคุณเอง เป็นหน้าเป็นตา ซึ่งผู้หญิงทุกคนก็อยากให้ตัวเองดูดีกันทั้งนั้น สิ่งที่เคยทำได้ เมื่อก่อนตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ รู้สึกเหมือนไม่เหลืออะไรอีกแล้วค่ะ ทั้งความมั่นใจ พบเจอผู้คน ไม่อยากมองกระจก จากที่เมื่อก่อนเป็นคนที่มองกระจกแล้วยิ้มให้ตัวเองทุกครั้ง ตอนนี้กลับกลายเป็นเกลียดกระจกค่ะ ยิ่งดูทีวีรายการที่ทำให้คนดูดีขึ้น คนอื่นเขามีแต่ทำให้ตัวเองดูดีขึ้น มีแต่เราที่แย่ลง ทำไมต้องเป็นเรา ทั้งๆที่เราไม่เคยทำศัลยกรรมอะไรก็พอใจในตัวเองอยู่แล้ว ปรึกษาหมอแล้ว ก็ไม่สามารถทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกค่ะ ช่วงแรกๆ เป็นหนักมาก ไม่อยากตื่นขึ้นมารับรู้อะไรแค่อยากหลับๆไป เคยคิดฆ่าตัวตายวันละหลายรอบ แต่ก็รู้ว่าไม่ควร ยังต้องหาเลี้ยงครอบครัว ชีวิตยังมีอะไรอีกเยอะให้ทำ แต่พอทุกวันที่ตื่นมาเห็นตัวเองมันก็ช่างทรมารเหลือเกินค่ะ ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมค่ะ ตื่นมาไม่เคยมีความสุขเลย ขนาดตอนหลับยังฝันร้าย ทำไมเราต้องอยู่ตรงนั้น เดินไปทางนั้น ถ้าวันนั้นเราไม่อยู่ตรงนั้นเราคงจะมีความสุขไปทั้งชีวิต

นอกจากไม่อยากเจอหน้าใคร ไม่สามารถทำอะไรอย่างที่อยากทำได้ ยกตัวอย่างอย่างเช่น แต่งหน้าทำผม หรือถ่ายรูป ก็อิจฉาคนปกติธรรมดาที่ไม่มีปัญหาอะไรมากเลยค่ะ และที่สำคัญเรามีแฟนค่ะ มันยิ่งทำให้ผู้หญิงคนนึงรู้สึกแย่มากที่ต้องแย่ลง ความกลัวที่เมื่อก่อนไม่เคยมี ตอนนี้กลับกลายเป็นกลัวทุกอย่าง ช่วงแรกๆเราคิดเลิกกับแฟนเลยค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าผู้หญิงอย่างเราไม่ดีพอสำหรับใครอีกแล้ว ผู้ชายก็ต้องชอบมองผู้หญิงสวยๆงามๆ เราคิดว่าชาตินี้คงจะอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต หรือไม่ก็ไปบวชค่ะ เพราะไม่กล้าฆ่าตัวตาย และยังมีครอบครัวและภาระที่ไม่สามารถทิ้งไปได้ เลยไม่รุ้จะทำยังไงดี ทั้งๆที่เราเมื่อก่อนก็มีทุกอย่าง มีคนรักที่ดี มีครอบครัวที่ดี มีเงินเก็บ แต่กลับไม่มีความสุข เพราะตัวเราเองกลับแย่ลง ความรู้สึกมันเหมือนกำลังจะมีทุกอย่างแล้ว แต่กลับเหมือนสูญเสียทุกอย่างลงในพริบตา เหมือนขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงสุดแล้วหล่นลงมา เจ็บมากค่ะ ปางตาย โลกใบนี้ที่เคยสดใสยิ้มให้กับตัวเอง ตอนนี้ทำไมมันช่างโหดร้าย เราไม่เคยมองตัวเองแล้วยิ้มจริงๆอีกเลยสักที เราเข้าใจความรู้สึกจริงๆของคนที่คิดจะฆ่าตัวตายก็คราวนี้ค่ะ ว่าคนเราถ้าไม่ถึงที่สุดคงไม่อยากตายด้วยน้ำมือตัวเอง คนเรามีปัญหาและสถานภาพต่างกัน
ส่วนตัวเรา มันติดตัวเราไปทั้งชีวิตค่ะ ไม่สามารถหนีตัวเองไปได้ ไม่สามารถลืมได้เพราะคุณจะรู้สึกทุกครั้งที่มองกระจก มันขมขื่นมากจริงๆค่ะ เลยไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบที่คิดจะฆ่าตัวตาย แต่ได้ไตร่ตรองเอาไว้แล้ว เพราะช่วงแรกๆทุกวันที่ตื่นมามันช่างทรมานจริงๆค่ะ เขียนจดหมายลาตายพร้อมกับนำสิ่งมีค่าที่มีทั้งเงินเก็บและทองมากองรวมกันไว้แล้ว ค้นหาว่าจะตายยังไงไม่เจ็บปวดหรือเจ็บปวดน้อยที่สุด ได้มา6วิธีค่ะ ช่วงแรกๆถึงกับเปิดแอร์นอนในรถเลยค่ะ ที่บอกว่าแค่อยากหลับๆไป หลับอยู่ในรถค่ะ ใจมันก็กลัวแต่มันทรมานไม่ไหวค่ะ และเรายังเป็นโรคหอบแต่ไม่เคยเป็นมากขนาดนี้ ขนาดนอนอยู่คิดถึงอนาคตคิดหลายอย่างจนปวดหัวจนนอนหอบอยู่บนเตียง เลยอยากหลับๆไปไม่อยากตื่นมาเลยจริงๆ ทรมานมากที่สุดในชีวิตก็ตอนนี้ พอเวลาผ่านไปเริ่มคิดได้ว่าพยายามจะมีความสุข ในแบบที่เป็น แต่มันก็ยังทรมานใจอยู่ทุกวันเพราะไม่ว่ายังไง การใช้ชีวิตของเรา ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วค่ะ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าเดี๋ยวก็เจ็บจนชิน อยู่ไปถึงจะทุกข์บ้าง แต่มันก็ต้องมีความสุขปะปนอยู่ดีกว่าตายจริงๆ ถึงแม้จะรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นก็ตาม

แล้วเรามีแฟนค่ะ เราคบกับแฟนมา 3ปีกว่าค่ะ เขาดีมากให้เราได้ทุกอย่าง มันทำให้เราเสียดายมากถ้าจะเสียเขาไปให้คนอื่น แต่จะอยู่กับเขาต่อไปก็เหมือนตัวเองไม่ดีพอ เป็นตัวถ่วงคนดีๆ เขาน่าจะได้พบเจอคนที่ดีกว่าเรา แต่เขาบอกไม่เป็นไร เขารักเราค่ะ ถึงแม้จะเกิดอะไรก็ยังอยู่กับเรา แต่ความรู้สึกเราเนี่ยสิ ทุกครั้งที่เจอกัน แม้แต่มองหน้า ยังไม่กล้ามองเขาเลย ไม่เหลือความมั่นใจอะไรอีกแล้ว แล้วเราจะทำให้เขามีความสุขได้ยังไงคะ เราร้องไห้ทุกวัน เราบอกเขาว่าเราไม่ดีพออีกแล้วนะ ไปหาคนที่ดีกว่าเราเถอะ เราไม่เหมือนเดิมแล้ว ท้ายสุดนี้ เขาขอเราแต่งงานค่ะ ยิ่งเค้าทำดีกับเรามากเท่าไหร่ ในใจลึกๆเรายิ่งเจ็บมากเท่านั้น ว่าทำไมเราสองคนถึงเป็นอย่างที่เคยเป็นไม่ได้ รู้สึกอย่างที่เคยรู้สึกกันไปตลอดชีวิตไม่ได้ ยิ่งเค้าทำดีกับเรา เรายิ่งเสียใจเหมือนทำให้เค้าผิดหวังในตัวเรา ยิ่งตอนแต่งงาน เรายิ่งกลัว เราไม่อยากพบเจอใคร ไม่อยากให้คนรอบตัวเขาว่าหาได้แค่นี้หรอ เราไม่รู้จริงๆว่าควรทำอย่างไร ช่วยบอกทีค่ะถ้าเป็นคุณ จะปล่อยเขาไปเจอคนดีๆ หรือจะคบกับเขาเหมือนเดิม แต่ก็ต้องทนระแวง คิดมาก ว่าเราแย่ลงแล้วอนาคตล่ะ เขาจะยังเหมือนเดิมหรือป่าว คิดไปถึงถ้ามีลูก เราจะเป็นแม่และภรรยาที่ดีได้หรือป่าว ทั้งๆที่เมื่อก่อนคิดว่าถ้าฉันมีลูกจะเลี้ยงดูให้ดีที่สุด แต่ตอนนี้แม้แต่ตัวเอง ยังไม่อยากมองตัวเองเลยค่ะ ไม่อยากอาบน้ำล้างหน้าไม่อยากมองกระจก ที่อาบเพราะต้องอาบ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่อาบน้ำเปิดเพลงฟังแล้วมีความสุข ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะดูแลตัวเองเลยค่ะ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเป็นคนรักสุขภาพ ดูแลตัวเอง ไม่ทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ทานบ้างนานๆครั้ง ไม่ทานน้ำอัดลม แต่ตอนนี้ค่ะ ความรู้สึกมันบอกว่าอยากทำอะไร ทำไปเหอะ ก่อนที่จะไม่ได้ทำ จะตายเมื่อไหร่ไม่รู้ ตอนนี้ เหมือนกับกินๆไปเหอะ ทำๆไปเหอะ เมื่อไหร่จะหมดวัน อยากกลับบ้านนอนจะได้ลืมความทุกข์ทุกๆอย่าง มีชีวิตเหมือนให้มันผ่านๆไปอีกวันๆๆ แล้วเราจะดีพอสำหรับใคร ควรต้องรู้สึกยังไง มีวิธีทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นไหมคะ

วันนั้น ถึงตอนนี้ก็ 5 เดือนแล้วค่ะ ที่ต้องเจ็บปวด และคงเจ็บปวดต่อไปตลอดชีวิต มีเงินมากมายแค่ไหนก็ไม่อาจเอามันกลับคืนมาได้
ไม่เคยตื่นมาแล้วใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วค่ะ ลืมไปแล้วว่าความสุขที่แท้จริง การใช้ชีวิตปกติมันเป็นยังไง ทำไมเราไม่เหมือนคนอื่น ทำไมเราเป็นตัวเองไปเรื่อยๆไม่ได้ อยากเป็นตัวเองแบบเมื่อก่อนไปทั้งชีวิต อยากที่ใช้ชีวิตตามปกติแบบไม่ต้องมีเรื่องอะไรอยู่ในหัว สมองโล่งๆแบบคนอื่น ตอนนี้กลายเป็นคนคิดมาก คิดทุกวินาทีของชีวิตว่าทำไม ทำไม ทำไม แล้วทำไม แล้วตอนนี้พอมันแย่มันก็เหมือนแย่ไปซะหมด ทำอะไรก็ไม่ดีซักอย่าง พอมีเรื่องอะไรแย่ๆทุกๆอย่างเราก็จะโทษตัวเองตลอด ถ้าเราเป็นอย่างเมื่อก่อนเราคงไม่มานั่งรู้สึกอะไรแบบนี้ ตอนนี้เราเหมือนว่าพอแย่ไปอย่างนึง แล้วมันดึงชีวิตเราลงมาเลยค่ะ รวมไปถึงเรื่องอื่นๆด้วย
ตอนนี้เราเริ่มจะค่อยๆรู้สึกกลับมาใช้ชีวิตปกติได้บ้าง แต่ก็ยังไม่ทั้งหมด ยังทรมานอยู่บ้างแต่ไม่เหมือนกับตอนแรกๆ มันส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตและความรู้สึกของเรามากเลยค่ะ แต่ยังไงจะพยายามอดทนสู้ต่อไปค่ะ แม้มันจะทรมานเหลือเกิน ได้แต่หวังว่าสักวันนึงเราตื่นขึ้นมาทุกๆอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมค่ะ ขอแค่ตัวตนเรากลับมาเป็นเหมือนเดิม แค่นั้นเอง ไม่ขออะไรมากมายเลยค่ะ ไม่ต้องการเงินพันล้านหมื่นล้าน เอาเงินทั้งโลกมากองตรงหน้า บอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกเป็นของเรา จะไปที่ไหนทำอะไรก็ได้ ยังไม่มีความสุขเท่ากับการได้ตัวตนกลับมาเลยค่ะ ถ้าย้อนเวลาไปได้ก็คงจะดีมากเลยค่ะ
หลายๆคนอาจอ่านแล้วไม่เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของเราเพราะเราไม่ได้บอกว่าเสียโฉมเพราะอะไร เรามีเหตุผลที่เราไม่ได้บอก ขอโทษด้วยที่เราไม่ขอเปิดเผยในที่นี้นะคะ แต่ขอยืนยันว่าเรื่องราวที่เขียนมาเป็นความจริงทุกประการค่ะ

สุดท้ายถ้าใครอยากด่าเราว่าโง่งี่เง่า ด่าได้เลยค่ะ เพราะถ้าคุณไม่เป็นเราคงไม่เข้าใจว่าการเหมือนมีตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต มันทรมานแค่ไหน
จากคนที่ดีมากกลายเป็นแย่มาก ทั้งๆที่คนอื่นเค้ามีแต่ทำตัวเองให้ดีขึ้นไป ทั้งชีวิตค่ะ ทั้งชีวิตของเราเปลี่ยนไปแล้วค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบ ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่าน มีความสุขกับการเป็นตัวเอง มีความสุขกับครอบครัวและมีความรักที่ดีค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่