ช่วยบอกวิธีรักษารอยด่าง ดำ ตามผิวหนัง หลังจากมีปัญหาเป็นผื่นแดงจากการแพ้ยา

กระทู้คำถาม
จะมาเล่าความสะเพร่าไม่ใส่ใจ ความบกพร่องของตนเอง ให้ทุกคนทราบ เพื่อเป็นความรู้และรักษาอย่างถูกวิธี เพราะมันมีอันตรายถึงชีวิตจริงๆ ยาวนิสนึงนะคะแต่อยากให้อ่านค่ะ
  เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้เปลี่ยนยาแก้ปวดชนิดใหม่ไป เพื่อรักษาอาการปวดไมเกรนค่ะ (ช่วงก่อนเป็นประจำเดือนจะมีอาการปวดไมเกรนค่อนข้างถี่และปวดแบบรุนแรง) ด้วยความที่ยังไม่เคยทานยาตัวนี้มาก่อน ( กลุ่มยาตระกูล ไอบรูโปรเฟ่น )
  •ทานยาวันแรกไม่เป็นอะไรค่ะ อาการปวดไมเกรนลดลงดี (ชอบเลยกินแล้วหายปวดดี)
  •พอวันที่สองช่วงสายมีอาการปวดไมเกรนอีกจึงทานยาต่ออีก 1 เม็ด (อาการก้อยังปกติดีอยู่อีกนั่นหร่ะ)
  •วันที่สาม (วันนี้ได้เดินทางมาถึง) ช่วงสายๆอีกเช่นกันอาการปวดไมเกรนมาเหมือนมีการตั้งเวลาไว้ จึงจัดไปอีก 1 เม็ด
  ตอนพักเที่ยงทานข้าวตามปกติ (ทานผัดพริกแกงกุ้ง แพะรับบาปอย่างแรกมาแล้ว) ช่วงเวลาประมาณบ่ายสองเริ่มสังเกตุเหตุเม็ดผดผื่นขึ้นตามแขนทั้งสองข้างก่อน เริ่มโทษน้องกุ้งทันที เนื่องจากใกล้ช่วงเวลาทีอาการเริ่มออกที่สุด( ทั้งๆที่กินกุ้งเกือบทุกวัน)
   ตกเย็นเม็ดผดผื่นได้เริ่มขยายอาณาจักรออก แต่เป็นไปอย่างช้าๆ ทีนี้เริ่มหันกลับมาโทษครีมวิตามินอีบำรุงผิว ตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมาใช้จากโรงพยาบาล แต่ด้วยความที่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช่หรือไม่เพราะครีมก้อเป็นของที่ทางโรงพยาบาลผลิตและจำหน่าย แล้วยังไม่เคยพบข้อมูลว่ามีใครแพ้ (หรือเราจะเป็นคนที่โชคร้ายที่แพ้หนอ คิดไปเรื่อยเปื่อยอีก) แต่ก้อไม่ได้ใช้มาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วนะเพราะลืมทา ทีนี้เริ่มอัดยาแก้แพ้แระ เผื่อจะบรรเทาได้ เพราะปกติผิวก้อแพ้ค่อนข้างง่าย ผื่นเล็กๆน้อยๆชอบขึ้นบ่อย จึงมียาแก้แพ้ติดไว้ตลอด
  •วันที่สี่ ตื่นมาสังเกตุดู อืมผื่นขึ้นมากกว่าเดิมนิสนึง จึงทานยาแก้แก้ดันเอาไว้อีก ทีนี้ตอนสายๆ เวลาเดิมเลยอาการปวดมาอีกแระ จัดยาแก้ปวดตัวเดิมไปอีก 1 เม็ด โอเครหายปวดแระ 11โมงจะไปงานประกวดรอยสักที่ห้างแถวบ้าน ด้วยความที่ไม่ไกลบ้านเท่ารัยไม่อยากยุ่งยากเรื่องที่จอดรถ จึงแว้นมอไซค์ตากแดดไป โดยนุ่งยีนส์ขาสั้น และเสื้อยืดแขนสั้น แล้วใส่เสื้อเชิ้ตบางๆทับไว้โดยไม่ติดกระดุมแขนเสื้อ ทำให้ลมตีแขนเสื้อขึ้นแล้วผิวตรงแขนโดนแดด (อืมไม่ร้อนเท่ารัยอากาศกำลังดี คือรู้สึกว่าแดดไม่แรงแต่มันคือแดดใกล้เที่ยง) อยู่ในงานประกวดด้วยความสำเริง สำราญใจ ประมาณสี่โมงเย็นอาการเริ่มหนักขึ้น ผื่นตรงแขนบริเวณที่โดนแดดออกมากขึ้น กับที่บริเวณขาทั้งสองข้าง เริ่มอยู่ไม่ไหวเกิดอาการคัน เริ่มเดินหาร้านขายยาซื้อยาแก้แก้กับคารามายด์มาบรรเทา เพราะงานยังไม่จบ อาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนไม่ไหว เพราะเริ่มขึ้นรอบๆดวงตาด้วยแล้ว เลยต้องแว๊นลากสังขารอันแสนคันเคยอเดินทางไปโรงพยาบาลเอกชนแถวบ้าน คุณหมอได้วินิจฉัยโดยสันนิษฐานว่าน่าจะแพ้ครีม เนื่องจากอาการเป็นแค่บริเวณผิวสัมผัส(แขน ขา ใบหน้า) ที่ทาครีมเท่านั้น ตามลำตัวไม่ออกอาการและชีพจรกับความดันก้อปกติ จึงให้ยาทากับยากินมาให้ทาน แล้วนัดดูอาการ
  •วันที่ห้า อาการดูไม่ดีเท่ารัยบริเวณรอบๆตาผื่นผุดมากขึ้น เริ่มปวดตาสองข้างเล็กน้อย ตามแขน ขา มีผื่นเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย เริ่มรู้สึกไม่ค่อยมีแรง และอาการเดิมกลับมาอีก คือปวดไมเกรน หลังกินยาแก้แพ้มื้อเช้าเสร็จ จึงจัดยาแก้ปวดชนิดเดิมซ้ำไปอีก 1 เม็ด ( ก้อกินแล้วมันหายปวดนี่นา แล้วหมอก้อสันนิษฐานว่าเราแพ้ครีมเพราะงั้นยาตัวนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไร ดูสมองสิคิดไปได้) พอหลังจากกินยาเข้าไปประมาณ หนึ่งชั่วโมง เริ่มรู้สึกว่าอ่อนแรงมาก ผดผื่นก้อผุดแย่งกันขึ้นโดยเป็นหนักที่แขนทั้งสองข้าง คือสภาพน่ากลัวมาก (บริเวณที่โดนแดดโดยตรงเลยตรงนั้น) เริ่มปวดตาและตาบวมมากขึ้น คิดว่าน่าจะยาแก้แพ้ออกฤทธิ์คงกำลังดันพิษออกจากร่างกายหร่ะว๊า เดี๋ยวมันคงจะดีขึ้นหร่ะ
  ตกเย็นเริ่มไม่เป็นดังคิด แรงไม่มีเลย เดินก้อเซ ปวดตาสองข้างลืมตาแทบไม่ขึ้น ผดผื่น ขึ้นออกร้อนมากและคันไปหมด ทั้ง แขน ขา และรอบดวงตา ทีแรกกะว่าจะลองไปหาหมอคลีนิคแถวบ้านดู ถ้าได้ฉีดยาแล้วน่าจะดีขึ้น ยากินคงจะไม่ถึงหร่ะ ( คิดไปได้เรื่อยอีก) จนคนที่บ้านเห็นอาการแล้วดูท่าจะรอดยาก จึงพาไปโรงพยาบาลพญาไทศรีราชา  
   ได้พบคุณหมอเฉพาะทางที่เกี่ยวกับผิวหนัง คุณหมอได้จ้องหน้าคนไข้ แค่แว่บนึง จึงเอ่ยปากถามว่า เป็นมากี่วันแล้ว เราก้อตอบไปอ่ะนะว่าเข้าวันที่สามแล้วที่มีอาการ แต่วันนี้รู้สึกจะหนักกว่าวันแรกมาก คุณหมอจึงถามอีกว่าแล้วได้กินยาหรือไปหาหมอมาบ้างหรือยัง จึงตอบไปว่า ไปหามาเมื่อวานแต่เป็นอีกโรงพยาบาลเป็นคุณหมออีกท่าน กินยาแล้วก้อไม่ดีขึ้นมีแต่แย่ลง
  คุณหมอมองหน้า แล้วเค้นถามว่ากินยาอะไรเข้าไปบ้าง ได้กินยาใหม่ ที่ต่างไปจากเคยกินบ้างมั้ย ( นึกในใจนี่หมอเป็นอับดุลหรือนี่ทำไมจึงรู้) จึงบอกกิจกรรมใหม่ๆ ที่เปลี่ยนไปจากชีวิตประจำวัน และบอกยี่ห้อยาแก้ปวดกับคุณหมอไป. เท่านั้นหร่ะคุณหมอสั่งหยุดกินยาตัวนี้ทันที แล้ววินิจฉัยว่า โอกาสทีเราจะแพ้ยาตัวนี้มีเปอร์เซนต์สูงที่สุดแระ มันเป็นผู้ต้องหาที่น่าสงสัยที่สุด เพราะคนแพ้ยาตัวนี้เยอะอยู่ จึงได้ฉีดยาให้ 1 เข็มและจัดยามาให้ทาทั้งใบหน้า,ผิวกาย และยาทาน
  •วันที่หกตอนตื่นนอนลืมตาไม่ขึ้นไปทำงานไม่ไหว กินข้าวและกินยามื้อเช้าแล้วจึงนอนพักต่อ ตกบ่ายมา อาการบวมที่รอบๆดวงตาเริ่มยุบลงแล้ว ไม่ปวดตาแล้ว ส่วนตามแขน ขา ไม่มีของใหม่ผุดขึ้นแล้ว เหลือแต่ของเก่าที่ปะทุมาก่อนหน้านี้ ( ดีใจน้ำตาซึมเล็กน้อย) กินข้าวกินยา ตามมื้อ ปกติ รวมถึงยาก่อนนอน
  •วันที่เจ็ด ที่รอบดวงตา และ แขน ขา เริ่มยุบลง เริ่มดีขึ้น มีแรงมากขึ้นแล้ว ตอนเย็นไปหาหมอตามนัด คุณหมอให้ทานยาต่ออีก1 สัปห์ดา แล้วนัดดูอาการอีกรอบ
  ••วันที่แปด-เก้า ใบหน้าดีขึ้นมากแล้ว แต่งหน้าได้หลังจากเป็นซากศพมาหลายวัน ที่ขาเหลือรอยแดงเป็นจุดๆบางแห่ง แต่ส่วนมากหายแล้วเป็นจุดดำๆเล็กๆกระจายๆ (โอเครพอทำใจไหวอยู่)
  😭😭 มาพีคตรงที่แขนนี่หร่ะ เป็นปื้นเลย ผิวหนังจุดที่เป็นหนักตอนนี้ เริ่มเป็นสีแดงคล้ำๆเป็นปื้นๆ มองอนาคตออกเลยว่าเดี๋ยวต้องดำเป็นปื้นๆเหมือนปานแน่นอน เป็นหนักสองข้างอีกต่างหาก
😭😭😭😭😭อยากให้ช่วยแนะนำวิธีรักษารอยนี้ทีค่ะ ใครที่เคยมีประสบการณ์ หรือมีวิธีเด็ดๆ รบกวนด้วยนะคะ เพราะตอนนี้รู้สึกสูญเสียและขาดความมั่นใจในตัวเองมากๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่