เรื่องสนุกเฮฮา ท้าทายความคิดอย่างหนึ่งของการเลี้ยงลูก คือ การคอยตอบคำถามแปลก ๆ จากลูกนี่ล่ะค่ะ
มีทั้งคำถามที่ไร้เดียงสา แลดูอวดดีแบบซื่อ ๆ คาดเดาไม่ได้ ท้ายทายความคิด มิติทางศีลธรรม ความเชื่อและการใช้ชีวิต
วันนี้ ลูกคนโตเราถามอะไรแปลก ๆ อีกแล้ว เลยขอเอามาแชร์แลกเปลี่ยนกับเพื่อน ๆ
ใครเคยถามหรือตอบคำถามอะไรแปลก ๆ จากลูก มาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ
เรามีลูกสาวสามคนค่ะ แต่ละคนก็แต่ละแบบ
ลูกสาวคนโตเรา จะเป็นคนช่างคิด ช่างสงสัยและมักตั้งคำถามอะไรที่เราคิดไม่ถึงเสมอเช่น

- ทำไมแสงดาวถึงสีขาว
- ยมบาลที่ท่านต้องตัดสินลงโทษคน ท่านจะบาปมั้ย ท่านจะรู้สึกอย่างไรเวลาทำหน้าที่ ?
หรือล่าสุดวันนี้ เธอถามว่า
- หม่ามี้คะ ถ้ามีพรที่หม่ามี้สามารถขอได้ 3 ข้อ หม่ามี้จะขออะไร เอาข้อแรกก่อน
เราตอบไปว่า หม่ามี้จะขอให้ตัวเองเป็นคนมีสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นถูกต้อง มีสติปัญญาและมีความเมตตาค่ะ
พอเราจะบอกข้อต่อไปที่จะขอ ลูกเบรคขึ้นบอกว่า เอาข้อเดียวก่อน
แล้วลูกก็เล่าให้ฟังว่า วันนี้อ่านเรื่องสั้นเรื่อง Monkey's Paw เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่เวลาขอพรอะไรมักติดโชคร้ายมาด้วยเสมอ
เช่น ขอให้ได้เงินสองร้อยปอนด์ ก็ได้จริง ๆ แต่ได้เพราะลูกชายเสียชีวิต เงินสองร้อยปอนด์เป็นเงินที่ได้จากประกัน
จากนั้น ลูกก็ถามว่า แล้วหม่ามี้คิดว่า พรที่หม่ามี้ขอ ถ้ามีโชคร้ายติดมาด้วย โชคร้ายจะเป็นอะไร ?
โห...ยากว่ะค่ะลูก
เราก็เลยตอบไปว่า โชคร้ายก็อาจจะเป็นได้ว่า หม่ามี้ต้องไปเจออะไรที่ทำให้เสียใจมาก ๆ ก่อนมั้ง พอทุกข์ใจเสียใจมาก ๆ ก็จะเกิดปัญญา
และเมตตาคนอื่น
แต่ถ้าเรามีสภาพจิตที่ตระหนักรู้ทุกอย่างตามความเป็นจริง รู้จักปล่อยวาง ถึงเจอทุกข์อะไร แม่คิดว่าเราก็น่าจะเอาตัวรอดได้
ลูกนิ่งคิด...เหมือนยอมรับ
ส่วนอิแม่โล่งใจไปหนึ่งเปลาะที่คราวนี้ตอบคำถามผ่าน ลูกทำท่ายอมรับเหตุผลได้
ครั้งที่แล้ว มาถามเรื่องยมบาล
แม่ก็งงมาก ตอบลูกไปตรง ๆ ว่า ไม่เคยเป็นยมบาลนะคะลูก
แต่เคยอ่านหนังสือเจอมาบอกว่า คนเกิดเป็นยมบาลได้จะเคยทำบาปและทำบุญมาในปริมาณที่เท่ากัน ผิดถูกอย่างไรก็ไม่ทราบได้นะคะ
ส่วนคำถามที่ว่าบาปหรือไม่ ได้แต่ตอบไปง่าย ๆ ว่า "คงไม่บาป เพราะเป็นหน้าที่ ไม่ได้ลงโทษเพราะเลือกที่รัก มักที่ชัง"
แล้วดิฉันก็เสริมไปประมาณว่า "อย่าไปเป็นผู้พิพากษาเลยนะลูก จะเจอสถานการณ์น่าอึดอัดแบบนี้แหละ ถ้าประคองใจไม่ดี หลักไม่มั่นล่ะก็แย่แน่ ๆ "
ส่วนลูกคนรอง จะเป็นคำถามอีกแนว
เวลาเราโม้ในบ้านว่า "ไม่มีอะไรที่หม่ามี้ไม่รู้" แล้วก็จะหัวเราะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แบบลำพอง
ลูกก็จะถามไปว่า เส้นเลือดที่เชื่อมต่อระหว่างปอดกับหัวใจชื่ออะไร
โหดค่ะลูก
พอเป็นคำถามเส้นเลือด อิแม่รู้อยู่อย่างเดียวคือ aorta ซึ่งก็ผิดอีก
ทีนี้ ก็ได้ฟังลูกเฉลยคำตอบว่าที่ถูกคือ pulmonary vein
ตอนลูกเล็ก ๆ เราเคยพยายามสอนแบบสอดแทรกภาษาอังกฤษในบทสนทนา
เช่น เวลาอยากให้ลูกหอม เราจะเอียงแก้มซ้ายขวาให้แล้วบอกว่า kiss kiss
แปลว่า ให้คิสแก้มซ้ายที คิสแก้มขวาที
แต่ลูกคนรอง เป็นคนแนววิชาการแบบซื่อ ๆ เธอสอนเราว่า
"หม่ามี้คะ พหูพจน์ของคำว่า kiss คือ kisses ไม่ใช่ kiss kiss นะคะ"
ส่วนลูกคนเล็กจะเป็นสายบันเทิง
คำถามที่เธอถามเรามักเป็นอะไรที่เราคาดไม่ถึง แต่ก็ฮาไปอีกแบบเช่น
"หม่ามี้ให้ทาย วันวาเลนไทน์นี้ลูกได้กุหลาบกี่ดอก"
ทายไม่ถูกอ่ะ
"สี่ดอกค่ะ xxให้"
ทำไม xx ถึงให้ลูกล่ะคะ
เค้าจีบลูกเหรอ

เปล่าค่ะ เค้าทำกระติกน้ำลูกแตก ก็เลยเอาดอกกุหลาบมาชดเชย
ปั๊ดโธ่
คำถามแปลก ๆ จากลูก
มีทั้งคำถามที่ไร้เดียงสา แลดูอวดดีแบบซื่อ ๆ คาดเดาไม่ได้ ท้ายทายความคิด มิติทางศีลธรรม ความเชื่อและการใช้ชีวิต
วันนี้ ลูกคนโตเราถามอะไรแปลก ๆ อีกแล้ว เลยขอเอามาแชร์แลกเปลี่ยนกับเพื่อน ๆ
ใครเคยถามหรือตอบคำถามอะไรแปลก ๆ จากลูก มาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ
เรามีลูกสาวสามคนค่ะ แต่ละคนก็แต่ละแบบ
ลูกสาวคนโตเรา จะเป็นคนช่างคิด ช่างสงสัยและมักตั้งคำถามอะไรที่เราคิดไม่ถึงเสมอเช่น
- ทำไมแสงดาวถึงสีขาว
- ยมบาลที่ท่านต้องตัดสินลงโทษคน ท่านจะบาปมั้ย ท่านจะรู้สึกอย่างไรเวลาทำหน้าที่ ?
หรือล่าสุดวันนี้ เธอถามว่า
- หม่ามี้คะ ถ้ามีพรที่หม่ามี้สามารถขอได้ 3 ข้อ หม่ามี้จะขออะไร เอาข้อแรกก่อน
เราตอบไปว่า หม่ามี้จะขอให้ตัวเองเป็นคนมีสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นถูกต้อง มีสติปัญญาและมีความเมตตาค่ะ
พอเราจะบอกข้อต่อไปที่จะขอ ลูกเบรคขึ้นบอกว่า เอาข้อเดียวก่อน
แล้วลูกก็เล่าให้ฟังว่า วันนี้อ่านเรื่องสั้นเรื่อง Monkey's Paw เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่เวลาขอพรอะไรมักติดโชคร้ายมาด้วยเสมอ
เช่น ขอให้ได้เงินสองร้อยปอนด์ ก็ได้จริง ๆ แต่ได้เพราะลูกชายเสียชีวิต เงินสองร้อยปอนด์เป็นเงินที่ได้จากประกัน
จากนั้น ลูกก็ถามว่า แล้วหม่ามี้คิดว่า พรที่หม่ามี้ขอ ถ้ามีโชคร้ายติดมาด้วย โชคร้ายจะเป็นอะไร ?
โห...ยากว่ะค่ะลูก
เราก็เลยตอบไปว่า โชคร้ายก็อาจจะเป็นได้ว่า หม่ามี้ต้องไปเจออะไรที่ทำให้เสียใจมาก ๆ ก่อนมั้ง พอทุกข์ใจเสียใจมาก ๆ ก็จะเกิดปัญญา
และเมตตาคนอื่น
แต่ถ้าเรามีสภาพจิตที่ตระหนักรู้ทุกอย่างตามความเป็นจริง รู้จักปล่อยวาง ถึงเจอทุกข์อะไร แม่คิดว่าเราก็น่าจะเอาตัวรอดได้
ลูกนิ่งคิด...เหมือนยอมรับ
ส่วนอิแม่โล่งใจไปหนึ่งเปลาะที่คราวนี้ตอบคำถามผ่าน ลูกทำท่ายอมรับเหตุผลได้
ครั้งที่แล้ว มาถามเรื่องยมบาล
แม่ก็งงมาก ตอบลูกไปตรง ๆ ว่า ไม่เคยเป็นยมบาลนะคะลูก
แต่เคยอ่านหนังสือเจอมาบอกว่า คนเกิดเป็นยมบาลได้จะเคยทำบาปและทำบุญมาในปริมาณที่เท่ากัน ผิดถูกอย่างไรก็ไม่ทราบได้นะคะ
ส่วนคำถามที่ว่าบาปหรือไม่ ได้แต่ตอบไปง่าย ๆ ว่า "คงไม่บาป เพราะเป็นหน้าที่ ไม่ได้ลงโทษเพราะเลือกที่รัก มักที่ชัง"
แล้วดิฉันก็เสริมไปประมาณว่า "อย่าไปเป็นผู้พิพากษาเลยนะลูก จะเจอสถานการณ์น่าอึดอัดแบบนี้แหละ ถ้าประคองใจไม่ดี หลักไม่มั่นล่ะก็แย่แน่ ๆ "
ส่วนลูกคนรอง จะเป็นคำถามอีกแนว
เวลาเราโม้ในบ้านว่า "ไม่มีอะไรที่หม่ามี้ไม่รู้" แล้วก็จะหัวเราะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แบบลำพอง
ลูกก็จะถามไปว่า เส้นเลือดที่เชื่อมต่อระหว่างปอดกับหัวใจชื่ออะไร
โหดค่ะลูก
พอเป็นคำถามเส้นเลือด อิแม่รู้อยู่อย่างเดียวคือ aorta ซึ่งก็ผิดอีก
ทีนี้ ก็ได้ฟังลูกเฉลยคำตอบว่าที่ถูกคือ pulmonary vein
ตอนลูกเล็ก ๆ เราเคยพยายามสอนแบบสอดแทรกภาษาอังกฤษในบทสนทนา
เช่น เวลาอยากให้ลูกหอม เราจะเอียงแก้มซ้ายขวาให้แล้วบอกว่า kiss kiss
แปลว่า ให้คิสแก้มซ้ายที คิสแก้มขวาที
แต่ลูกคนรอง เป็นคนแนววิชาการแบบซื่อ ๆ เธอสอนเราว่า
"หม่ามี้คะ พหูพจน์ของคำว่า kiss คือ kisses ไม่ใช่ kiss kiss นะคะ"
ส่วนลูกคนเล็กจะเป็นสายบันเทิง
คำถามที่เธอถามเรามักเป็นอะไรที่เราคาดไม่ถึง แต่ก็ฮาไปอีกแบบเช่น
"หม่ามี้ให้ทาย วันวาเลนไทน์นี้ลูกได้กุหลาบกี่ดอก"
ทายไม่ถูกอ่ะ
"สี่ดอกค่ะ xxให้"
ทำไม xx ถึงให้ลูกล่ะคะ
เค้าจีบลูกเหรอ
เปล่าค่ะ เค้าทำกระติกน้ำลูกแตก ก็เลยเอาดอกกุหลาบมาชดเชย
ปั๊ดโธ่