เครียดค่ะ ปวดหัวมากๆค่ะ สุขภาพจิตไปหมดละคะ
ตอนพ่ออยู่พ่อเราทะเลาะกับแม่ตลอดดดดดดดดด ด่ากันตลอดดดดดดด พ่อได้แต่พูดว่าเลี้ยงลูกแบบนี้เดี่ยวก็โตไปทำอะไรไม่เป็น
เมื่อก่อนตอนมีพ่ออยู่ พ่อก็จะจัดการธุรกิจครอบครัวคนเดียว ไม่ปล่อยให้แม่ทำเลย
พอพ่อเสียแม่ก็อยู่บ้านคนเดียว แล้วเราก็กลับมาอยู่ด้วยเพราะเขาโทรเรียกให้กลับมา(โดยพูดว่ากลับมาอยู่บ้าน เดี่ยวใช้เงินหอนี่แหละ ((บ้านมีพอพัก))
ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราถูกเลี้ยงดูมาแบบแทบจะไม่ต้องทำอะไรเองเลย อยากได้อะไรก็แค่บอกก็จะได้มาทันที มีพี่เลี้ยงตั้งแต่เด็ก ขนาดป.6เรายังมีคนอาบน้ำให้อยู่เลย -*- คนที่สปอยมีแค่แม่ค่ะ พ่อไม่เคยสปอย และดุมาก
เราออกมาใช้ชีวิตเองจริงๆก็ตอนเข้าปี1 เพราะต้องไปเรียนที่ กทม ตอนนั้นก็เริ่มคิดเองทำอะไรเอง แล้วรู้สึกแฮปปี้มากๆค่ะ เราจะโทรคุยแต่กับพ่อนะคะแทบทุกวันแม่แทบไม่คุยอะคะ
หลังเรียนจบทำงานได้ไม่นานแม่ก็เรียกกลับไปอยู่ด้วย พอหลังจากที่กลับไปอยู่บ้านไม่นาน ก็ปวดหัวมากค่ะ แม่ทำเรื่องนู่นเรื่องนี้มาให้แก้ตลอด ไม่ขาด เช่นโอนที่ดินให้คนอื่นสุดท้ายก็ไม่ได้เงิน (คือโอนไปทั้งๆที่ยังไม่ได้เงินสักบาท) แล้วก็ยอมให้เด็กที่อยู่หอพักติดค้างค่าเช่าห้อง ปีกว่าๆ **แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เล่าให้เราฟัง ปิดบังเราตลอดเรามารู้เองตลอดค่ะ บางทีมารู้ตอนจะทำอะไรไม่ทันแล้วอย่างเรื่องค่าห้องมารู้ตอนเด็กจะออก**
เวลาเราบอกเราพูดอะไร เขาจะไม่ทำตามเลยนะคะ จะไม่ทำเลยค่ะ แล้วพอเกิดปัญหาจะมีใครที่ต้องมาแก้ก็มีแค่เรานี่แหละค่ะ (เราเป็นลูกคนเดียว) เราปวดหัวมากเราไม่อยากคุยอะไรกับเขาเลยจริงๆ โดนโกงไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว เหนื่อยมากจริงๆค่ะ แล้วตั้งแต่พ่อเสีย รายได้เราก็ไม่ได้เยอะแบบเมื่อก่อน น้อยนิดแบบหมดไปเป็นเดือนๆ
ตอนนี้เราตัดสินใจกลับไปอยู่ กทม เราปวดหัวมากจริงๆ เราไม่อยากคุยอะไรกับเขาเลยคุยอะไรก็ทะเลาะ(เลือกที่จะไปดีกว่าอยู่แบบนี้เสียสุขภาพจิตทั้งคู่) ตอนนี้เราเข้าใจพ่อหลายๆอย่างว่าทำไมตอนนั้นพ่อเป็นแบบนั้น คงปวดหัวมากแบบที่เราเป็นอยู่ นี่เราต้องกลับไป กทม แล้วค่ะเพราะเขาเรียกไปทำงาน แต่เราติดปัญหาเรื่องเคลียเรื่องค่าห้องที่ค้างก็หลายหมื่น วันจันทร์มีนัดกับทนาย
ตอนแรกก็คิดว่าสังคมไทยเราต้องดูแลพ่อแม่ไม่งั้นจะเป็นลูกอกตัญญู แต่หนูว่ามันไม่ใช้ทุกกรณีค่ะ การไม่อยู่ไม่ได้แปลว่าจะไม่ดูแลนะคะ
สุขภาพจิตเสียเพราะครอบครัว
ตอนพ่ออยู่พ่อเราทะเลาะกับแม่ตลอดดดดดดดดด ด่ากันตลอดดดดดดด พ่อได้แต่พูดว่าเลี้ยงลูกแบบนี้เดี่ยวก็โตไปทำอะไรไม่เป็น
เมื่อก่อนตอนมีพ่ออยู่ พ่อก็จะจัดการธุรกิจครอบครัวคนเดียว ไม่ปล่อยให้แม่ทำเลย
พอพ่อเสียแม่ก็อยู่บ้านคนเดียว แล้วเราก็กลับมาอยู่ด้วยเพราะเขาโทรเรียกให้กลับมา(โดยพูดว่ากลับมาอยู่บ้าน เดี่ยวใช้เงินหอนี่แหละ ((บ้านมีพอพัก))
ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราถูกเลี้ยงดูมาแบบแทบจะไม่ต้องทำอะไรเองเลย อยากได้อะไรก็แค่บอกก็จะได้มาทันที มีพี่เลี้ยงตั้งแต่เด็ก ขนาดป.6เรายังมีคนอาบน้ำให้อยู่เลย -*- คนที่สปอยมีแค่แม่ค่ะ พ่อไม่เคยสปอย และดุมาก
เราออกมาใช้ชีวิตเองจริงๆก็ตอนเข้าปี1 เพราะต้องไปเรียนที่ กทม ตอนนั้นก็เริ่มคิดเองทำอะไรเอง แล้วรู้สึกแฮปปี้มากๆค่ะ เราจะโทรคุยแต่กับพ่อนะคะแทบทุกวันแม่แทบไม่คุยอะคะ
หลังเรียนจบทำงานได้ไม่นานแม่ก็เรียกกลับไปอยู่ด้วย พอหลังจากที่กลับไปอยู่บ้านไม่นาน ก็ปวดหัวมากค่ะ แม่ทำเรื่องนู่นเรื่องนี้มาให้แก้ตลอด ไม่ขาด เช่นโอนที่ดินให้คนอื่นสุดท้ายก็ไม่ได้เงิน (คือโอนไปทั้งๆที่ยังไม่ได้เงินสักบาท) แล้วก็ยอมให้เด็กที่อยู่หอพักติดค้างค่าเช่าห้อง ปีกว่าๆ **แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เล่าให้เราฟัง ปิดบังเราตลอดเรามารู้เองตลอดค่ะ บางทีมารู้ตอนจะทำอะไรไม่ทันแล้วอย่างเรื่องค่าห้องมารู้ตอนเด็กจะออก**
เวลาเราบอกเราพูดอะไร เขาจะไม่ทำตามเลยนะคะ จะไม่ทำเลยค่ะ แล้วพอเกิดปัญหาจะมีใครที่ต้องมาแก้ก็มีแค่เรานี่แหละค่ะ (เราเป็นลูกคนเดียว) เราปวดหัวมากเราไม่อยากคุยอะไรกับเขาเลยจริงๆ โดนโกงไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว เหนื่อยมากจริงๆค่ะ แล้วตั้งแต่พ่อเสีย รายได้เราก็ไม่ได้เยอะแบบเมื่อก่อน น้อยนิดแบบหมดไปเป็นเดือนๆ
ตอนนี้เราตัดสินใจกลับไปอยู่ กทม เราปวดหัวมากจริงๆ เราไม่อยากคุยอะไรกับเขาเลยคุยอะไรก็ทะเลาะ(เลือกที่จะไปดีกว่าอยู่แบบนี้เสียสุขภาพจิตทั้งคู่) ตอนนี้เราเข้าใจพ่อหลายๆอย่างว่าทำไมตอนนั้นพ่อเป็นแบบนั้น คงปวดหัวมากแบบที่เราเป็นอยู่ นี่เราต้องกลับไป กทม แล้วค่ะเพราะเขาเรียกไปทำงาน แต่เราติดปัญหาเรื่องเคลียเรื่องค่าห้องที่ค้างก็หลายหมื่น วันจันทร์มีนัดกับทนาย
ตอนแรกก็คิดว่าสังคมไทยเราต้องดูแลพ่อแม่ไม่งั้นจะเป็นลูกอกตัญญู แต่หนูว่ามันไม่ใช้ทุกกรณีค่ะ การไม่อยู่ไม่ได้แปลว่าจะไม่ดูแลนะคะ