4 ยาจก กับ 14วันบน Atlantic Road 4,000 กิโลสู่ พระอาทิตย์เที่ยงคืน

สวัสดีค่า กระทู้นี่เกิดขึ้นด้วยความที่ จขกท เป็นคนที่เที่ยวตั้งแต่เด็กสมัยยังใช้กล้องฟิลมถ่ายรูป ทำอัลบัม เก็บบันทึกเดินทางที่ไปแต่ละครั้ง จนตอนนี้ร้านล้างรูปเจ๋งไปหมดแล้ว ก็ยังคงเที่ยวอยู่ 5555 แต่หลังๆมานี้ เที่ยวแต่ละทีก็ถ่ายรูปเก็บๆไว้ ละก็ลืมมันไป จนพอมาเปิดดูรูป ก็เลยอยากทำบันทึกเดินทางเก็บไว้เหมือนสมัยก่อน ก็เลยเกิดเป็นกระทู้แรกขึ้น ขอออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นคนถ่ายรูปสวยเลยนะคะ ใช้ใจถ่ายล้วนๆ ฝีมือไม่มี5555 มีข้อผิดพลาดอะไรก็ติชมได้เลยนะคะ

ซึ่งทริปนี้เริ่มจากการที่ จขกท ไปเยี่ยมญาติที่นอร์เวย์แลนด์แดนปลาแซลมอน มาหลายครั้งแล้วยังไม่เคยเห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืนซะที คุณป้าทั้งสอง เลยจัดให้ค่ะ เราตกลงกันว่าจะขับรถไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั่น จากStavanger ไปจนถึง Lofoton เกาะที่มีคำกล่าวว่าไปแล้วเหมือนได้ขึ้นสวรรค์(แท้จริงแล้วอาจจะตายเพราะเงินหมดก่อนไปถึง5555)


ทริปนี้เรามีกัน สี่คนค่ะ ประกอบด้วย คุณแม่ จขกท และก็คุณป้าที่อยู่ที่นอร์เวย์อีกสองคนค่ะ จะบอกว่าเป็นการเดินทางที่ลงตัวมากเพราะทุกคนมีหน้าที่หมด คุณป้าคนหนึ่งชอบขับรถ คุณป้าอีกคนทำอาหารอร่อย ส่วนคุณแม่ แพคของเก่ง ส่วน หน้าที่จขกท นั้น เด็กล้างจานค่ะ 5555 เราเดินทางกันไปด้วยรถคันเล็กเนื่องจากคล่องตัวและก็ประหยัดน้ำมัน คือที่นอร์เวย์เนี่ยขนาดผลิตน้ำมันเองได้ น้ำมันยังโคตรแพงเลย เพราะฉะนั้นเที่ยวไกลๆขอประหยัดน้ำมันไว้ก่อน  

เราออกเดินทางจาก Stavanger กันตอนเย็นหลังคุณป้าเลิกงานค่ะ คนที่นอร์เวย์น่าอิจฉามาก คือในหนึ่งปีเขาจะมีวันให้ลาหยุดเรียกว่า Fellesferie ประมาณ3อาทิตย์ถึง 1 เดือนค่า มีเงินให้ไปเที่ยวด้วยนะเออ บางที่คือบังคับให้คนหยุดเพื่อไปพักผ่อนเลยด้วย อิจฉาอะ

วันนี้เราใช้ถนนเส้นหลัก E39 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 – 5 ชม. ต่อ Ferry 2 รอบ เนื่องด้วยภูมิประเทศของนอร์เวย์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาของ Fjord ขับไปทางไหนก็เห็นแต่น้ำ น้ำ ทะเล กว่าจะเห็นฝั่งก็ต้องอ้อมไปไกล คนที่นี่จึงนิยมใช้ Ferry มาก บน Ferry จะมีที่ขายอาหาร เป็นเหมือนจุดพักรถ โดยที่ยังได้เดินทางไปด้วย ดีจริงๆ เรามาถึงจุดหมายปลายทางแรก ตอนเวลาประมาณ 3 ทุ่ม โชคดีที่เป็นหน้าร้อน ท้องฟ้าเลยยังไม่มืด ได้ออกไปเที่ยวรอบเมืองสักหน่อย


เมืองแรกที่เราไปคือ Bergen เมืองท่าสุดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยว เมืองท่าอันดับ หนึ่ง ของนอร์เวย์ที่ จขกท ไปทีไรแล้วฝนตกทุกที -,- ไม่เคยได้รูปดีๆกับเขาเลย แต่วันนี้ฟ้าแอบใสค่ะ สงสัยบ่นไปละได้ยิน เราพักกันที่ Austin Hotel พอเก็บของแล้วก็รีบไปเดินเล่นสูดอากาศในเมืองค่ะ ก่อนที่ฝนจะตกสะก่อน คืออากาศที่นี้เปลี่ยนเร็วมาก ขนาดหน้าร้อนฝนก็ตกค่ะ เดี๋ยวก็แดด เดี๋ยวก็ลม ไม่มีอย่างเดียวคือร้อนค่ะ วันไหนอุณหภูมิเกิน 25 นี่ ชาวบ้านแทบจะไม่เป็นอันทำงาน นอนผึ่งแดดกันเฉิบๆ


Bergenมีจุดที่น่าสนใจ คือขึ้นกระเช้าไปชมวิวบนเขาซึ่งมองมาจะเห็นเมืองทั้งเมือง หรือไปเดินดูเมืองเก่าค่ะ บ้านเรือนของนอร์เวย์ส่วนใหญ่จะทำด้วยไม้ เพราะเขามีป่าเยอะมาก แต่ละหลังจะทาสีสันสดใส สีฮิตๆ ที่นี่คงหนีไม่พ้นสีแดง เหลือง ตัดกับสภาพอากาศที่ขมุกขมัวสุดๆ ตามบ้านอาจจะมีgallery น่ารักๆ กับร้านของฝากเป็นตุ๊กตา troll เอกลักษณ์ของนอร์เวย์เต็มไปหมด ถ้าเดินๆเลียบท่าเรือเก่า ไปสุดถนนจะเจอร้านของฝากใหญ่ๆ จะเจอคนขายพูดภาษาไทยได้แทบทุกคน ไม่ต้องกลัวเหงา

ด้วยความที่เป็นหน้าร้อนที่ร้อนถึง 14 องศา(สำหรับคนที่นี่) เราจึงไปหาไอติมกินกันดับร้อน ซึ่งไอติมที่เราไปซื้อเป็นแบบกดๆ เหมือนโยเกิร์ตแลนด์ อ่านป้ายละเห็นว่า14 nok ด้วยความงกจึงหยิบถ้วยใหญ่และกดมาเยอะมาก พอคิดตังออกมาแล้วพบว่าเขาคิดเป็นขีดนั่น แทบจะเป็นลม5555

วันที่สองเราตื่นมาเกือบ9โมง พร้อมกับรีบวิ่งไปกินอาหารของโรงแรม ที่นี่มีปลาหลากหลายให้เลือกทั้งแบบดิบและสด รวมถึงมีชีสที่อร่อยมาก ขึ้นชื่อของนอร์เวย์เลยก็ คือ บราวน์ชีส บอกเลยว่าอาหารมื้อนี่พวกเราตุนกันสุดๆ เพราะนี้คือ โรงแรมคืนเดียวที่จองไว้ ค่ำนี้จะนอนไหนก็ไม่รู้ 555 สู้ชีวิตกันไปค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่