[CR] รีวิว เลห์ ลาดัก อินเดียที่รัก Ladakh I'm fall in love ไม่ไปคือพลาดนะจ๊ะ (Aug 2017) ตอน 2

ตอน 1 : https://pantip.com/topic/37391318
Day 2-1 @ Leh-Nubra
หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย 8 โมงตรงพี่พลขับ หน้าตาหล่อเหลาใจดี ก็มารับพวกเราที่ guesthouse ตรงตามเวลาเป๊ะ วันนี้พร้อมเต็มที่ นอนกันมาเต็มอิ่มทั้งคืน เวลาว่างเรามีเยอะ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็มันไม่มี Wifi ไม่มีเวลาหายใจทิ้งกับโลก Social โคตรว่างอ่ะ!
ก่อนออกจากรร บอกทางน้องๆว่า เตรียมตัวให้ดีวันนี้เราจะเริ่มผจญภัยกันเต็มตัว หยูกยาเตรียมให้พร้อม เราจะไปพักกันที่ Nubra กันหนึ่งคืน ที่สำคัญ น้ำพริก มาม่า ขนมห้ามขาด เรากะนิก(น้องที่ไปด้วย) เป็นพวกกระเพาะคราก กินกันตลอดเวลา ตั้งแต่มารู้สึกจะมีอยู่แค่สองคนที่กินอาหารได้(ดีเกิน)คือเรากะนิกนั่นเอง อีกสองนาง(เปรมและบลู) นั้นดูแล้วจะรักษาหุ่น กินน้อย พูดเยอะ ไม่รู้พวกนางไปเอาแรงจากไหนมากัน
รถเราเริ่มเคลื่อนตัวออกจาก guesthouse ขับลัดเลาะตามซอกซอยเล็กๆออกห่างจากหมู่บ้านเดิมไปเรื่อยๆ ถนนที่นี่ฝุ่นค่อนข้างเยอะ มีทั้งสัตว์ทั้งคนทั้งนักท่องเที่ยวเดินปะปนกันแบบไม่แบ่งชั้นวรรณะ พูดก็พูดเถอะ ถนนที่นี่แคบแบบมีเลนเดียว แต่คนที่นี่แบ่งปันกันจนสามารถขับรถสวนกันได้ไม่ยากเย็น ถ้าลองมาเป็นที่กทม ไม่อยากนึกจะเกิดอะไรขึ้น ต่างคนต่างรีบจะไป งานนี้คงอยู่ที่เดิมกันอีกยาว
ขับมาไม่นาน รู้ตัวอีกทีรถเราเริ่มเคลื่อนตัวลัดไปจนถึงไหล่เขาอีกที่ มองลงไปเห็นเมืองเลห์ไกลๆ อยู่ท่ามกลางป่าเขียวๆ มีบ้านผู้คน รายล้อมไปด้วยทุ่งนา และเทือกเขามหึมา เป็นภาพที่สวยงามมากๆจนต้องหยุดรถเพื่อลงมาบันทึกภาพเอาไว้ ตอนนั้นยังไม่ได้รู้ว่าหนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลนัก นี่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่าน้ั้นเอง ทั้งสี่สาวลงมาถ่ายภาพกันวุ่นวาย โดยมีพี่คนขับใจดีคอยชักภาพให้บ้าง บรรยายวิวไปให้บ้าง เป็นที่สนุกสนาน
เส้นทางไป Nubra นี้มีระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 150 Km เป็นเส้นทางที่เรียกว่าคดเคี้ยวหักงอ แบบที่เราๆคาดไม่ถึงเลยเชียวล่ะ ก็คิดดูเอาระยะทางแค่นี้ ต้องใช้เวลาประมาณ 6 ชม ในการเดินทาง เราได้ยินครั้งแรกยังไม่เชื่อ อะไรกันไม่เห็นจะไกล จะเดินทางนานอะไรมากมาย พูดไม่ทันขาดคำ เส้นทางลาดยางที่วิ่งมาก็มลายหายไปเป็นถนนลูกรังที่มีทั้งหินและฝุ่นแถมนั่งๆไปต้องคอยจับเบาะดีๆ เนื่องจากถนนค่อนข้างขรุขระ งานนี้มีหัวสั่นหัวคลอน ตับไตไส้พุงไปกองรวมกันที่ไหนสักแห่ง เข้าใจในตอนนั้นเองว่าทำไมเวลาอ่านรีวิวถึงได้มีคนเขียนไว้ตลอดว่าให้เตรียม ยาอม ยาหม่อง ยาแก้เมารถไว้ ก็ดูสภาพเพื่อนเราตอนนี้สิ นั่งคุยกันไป หัวก็สั่นไป ตัวก็โยกไป ไม่ขำก็ไม่รู้จะว่าไง นี่ตรูพาน้องมาเที่ยวหรือมาลำบากเนี่ย
ดูวีดีโอประกอบ จะเห็นภาพดูสะเทือนๆ สั่นๆ เหมือนอยู่บนดาวอังคาร
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
วันนี้เราจะไต่เขาไปเรื่อยๆ ผ่านหุบเหวขึ้นสู้ถนนที่สูงที่สุดในโลก Khardung La top ที่ระดับความสูง 5,363 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เอาเป็นว่ามันสูงที่สุดที่เคยไปมาเลยล่ะ ตอนที่ไปแชงกรีล่ามายังสูงประมาณ 4,500 เมตรเท่านั้น คราวนี้ของจริง! เอาวะให้มันรู้ไปว่าจะขนาดไหนกัน
ห้าวได้ไม่ทันไร ก็ต้องตะโกนร้องออกมา เห้ย! มีรถสวนมาหัวใจจะวาย หลบแทบไม่ทัน ก็ถนนมันเริ่มแคบลงๆ จากที่รถเคยสวนกันได้ ตอนนี้มันแคบมาก เส้นทางเป็นหินตลอดทาง แถมบางช่วงมีหินไหลถล่มลงมา ดังนั้นทุกๆช่วงของถนนก็จะเห็นมีการซ่อมแซมและก่อสร้างอยู่เป็นระยะๆ ถ้าหากช่วงไหนมีรถติดๆกัน ก็พึงรู้ไว้ว่าข้างหน้าอาจะมีหินถล่มอยู่ ต้องทยอยย้ายหิน ดังนั้นการเดินทางเส้นทางนี้ ต้องใจเย็นๆ ชมวิว ชมธรรมชาติไป เท่าที่สังเกตคุณลุงคนขับของเราใจเย็นมากๆ แถมทักทายคนขับคันอื่นๆตลอดทาง ประหนึ่งนางงามมิตรภาพ เมื่อสัมภาษณ์จึงได้ความว่า นางขับรถนำเที่ยวแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว จึงรู้จักคนเยอะเป็นพิเศษ ปีๆนึงจะขับรถแบบนี้สัก 4-5 เดือนในช่วงที่ไม่หนาวเท่านั้น พอหน้าหนาวก็ต้องหยุดขับเพราะถนนไม่เอื้ออำนวย อันตราย ได้ยินแบบนี้พวกเราก็รู้สึกเชื่อมั่นในคุณลุงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า จะว่าไป เราก็ทำอะไรไมไ่ด้มากนัก นอกใจให้กำลังใจอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ ขออย่างเดียวห้ามตกเหวเด็ดขาด พี่มีภาระกิจอีกหลายอย่างที่ต้องทำ หนี้อีกบานเบอะต้องรีบกลับไปใช้ แถมยังต้อง golive อีกหลายโปรเจค ส๊าธุ(กล่าวในใจ) ป๊อดไปอีกตรู
เวลาผ่านไป 3 ชมโดยประมาณ ตอนนี้ไม่รู้จะจัดระบบร่างกายอย่างไรดี มันน่าสลับสับเปลี่ยนที่อยู่กันไปหมดแล้ว ตับ ไต ไส้ พุง ม้าม อาจจะสลับที่กันอยู่ คงต้องลงรถลงไปกระโดดๆให้มันกลับที่เดิมของมันซะบ้าง ในที่สุดเราก็มาหยุดรถที่จุดพัก ณ Khardongla  Pass  - World highest Motorable Road.  
Khardongla เนี่ยถือได้ว่าเป็นถนนสูงที่ในโลกที่รถผ่านได้ โอ้ววว แม่เจ้าถึงว่าทำไมมันหนาวขนาดเน้ นี่ไปทางไหนก็มีน้ำแข็งปกคลุม ลองไปสืบดูมารู้ว่านางเสียแชมป์ให้กับ Mana La แถวทิเบตไม่นานที่ความสูง 5359 เมตร แต่เนื่องจากที่นั่นไปยากมากไม่มีคนไปถึง ดังนั้น Khardongla จึงยังขอยึดครองแชมป์อยู่เหมือนเดิม ไม่ยอมปลดป้ายซะงั้น 55  การที่จะผ่านที่นี่ได้ต้องทำ Permit มาแล้วเท่านั้น เพื่อนคนไหนที่มาเองก็สามารถไปติดต่อ agency แถวๆตลาด Leh ได้เลย สามารถเหมารถเช่าเพื่อไป Nubra ได้เช่นกัน สำหรับกรุ๊ปเราให้ Agency จัดการให้เตรียมพร้อมไปตั้งแต่ต้นแล้ว จึงหายห่วงในเรื่องนี้ มีหน้าที่จ่ายเงินอย่างเดียว
มาถึงจุดนี้แล้วคนที่เริ่มมีอาการเมารถหรือ AMS คือแพ้ความสูงจะเริ่มออกอาการได้ชัด เช่น วิงเวียน หน้ามืด อ้วก เบื่ออาหาร ให้คุณรู้ตัวไว้แล้วรีบออกจาจุดนั้นให้เร็วที่สุด เพราะทิ้งไว้นานอาการจะเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เดินลงจากรถไปนี่เรียกว่าหนาวยะเยือกมาก บางคนถึงกับเกิดอาการวิงเวียนศรีษะก็ไม่ต้องแปลกใจไป เพราะบนนี้ถือได้ว่าสูงจากน้ำทะเลมากกก ความกดอากาศค่อนข้างต่ำ ถ้าดูดีๆ ระดับที่เรายืนอยู่มันคือยอดเขาที่เรามองเห็นจากในเมืองลิบๆนั่นเอง เดินไปทางไหนก็เย็นเข้ากระดูก เอาวะมาๆ รีบๆถ่ายเหอะน้องๆ เนี่ยไปหาห้องน้ำกันดีกว่า ไหนๆก็จอดพักแล้ว เราควรได้ปลดทุกข์ออกสักหน่อย
ว่าแล้วก็เดินหาห้องน้ำที่จุดพักรถ มันต้องมีสิน่า ที่พักที่ไหนๆมันก็ต้องมีห้องน้ำกันทั้งนั้นแหละ bingo! นั่นไง เห็นแล้วว เขียนตัวโตๆไว้ว่า Lady toilet !!  แต่เอ เราจะไหวไหม มองเข้าไป มันเป็นแค่ห้องมีประตูกั้น ข้างนี่ในคือ ทุกอย่างรวมกันหมด  ได้แต่มองหน้ากันไปมา แล้วส่ายหัวแบบพี่อินเดียเบาๆ พร้อมเดินจากมา หน้าละห้อย มาบอกลุงคนขับรถว่า พี่คะๆๆ ขอเข้าห้องน้ำแบบ outdoor มีไหมคะ what outdoor toilet?? okay okay เอาวะ ลุงบอกมีว่ะ งั้นไปข้างหน้าเลยค่าลุง หนูจะอดทนค่ะ
ว่าด้วยเรื่องห้องน้ำ สามารถเล่าได้เป็น Series เอาไว้ตอนท้ายๆจะรวบรวมมาให้เลือกสรร ว่ามีกี่ model ให้เลือกสรร แต่ละแบบมีความ unique แบบล้ำกันไปคนละอย่าง เหนือคำบรรยายจริงๆ จีนที่แน่ยังต้องแพ้ให้พี่อินเดีย

ขับออกมาได้สักพัก คุณลุงก็มาจอดรถที่รกร้างแห่งหนึ่ง แล้วหันมาบอกพวกเราว่า เนี่ยแหละอันนี้มันร้างพวกยูเดินไปนะ ไม่มีใครมาหรอก เหมือนเห็นทางสวรรค์ พวกเราเดินขึ้นไปด้านบน เดินไปหอบไป พร้อมกับตกลงกัน ใครจะเลือกจุดไหน น้องเปรมบอกหนูเอาจุดนี้ค่ะ ลมไม่แรงมาก ทนไหวค่ะ ส่วนพี่นิกนั้น เลือกจุดที่ไกลออกไปอีก แต่ทว่าลมจะน่าไม่เป็นใจ มีหนาวขาไปตามๆกัน กลับลงมายังมีการบอกว่า พี่ๆตรงหญ้าบนเนินนั้นวิวดีนะ แต่หนาวไปหน่อย เอาเป็นว่าจุดไหนก็ได้ เอาออกให้หมดเลยนะ พี่ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีให้เข้าไหมนะ ถ้าไม่ไหวอีกที เราค่อยหาก้อนหินใหญ่ๆหลบเอาละกันเนอะ
Awwww สบายใจ ปลดทุกข์เรียบร้อยคิดว่าคงหมดทุกข์หมดโศก ที่ไหนได้ขับมาเรื่อยๆ หัวโยกไปๆมาๆอีกสักพัก ที่เสียงพูดมาแบบแผ่วเบาว่า พี่ๆๆๆ หนูขออ้วก หันไปอีกทีน้องเปรมมี่สุดที่รักของพี่ กำลังนอนแบบหมดเรี่ยวแรง ไอ้พวกที่เหลือก็ไม่ได้รู้เล๊ยว่าเพื่อนเมารถ เลยต้องบอกคุณลุงค่ะ จอดรถค่ะจอด ขอให้น้องเขาไปให้อาหารข้างทางแพร๊พค่ะ

พวกที่รอดนี่ไม่ได้มีความเกรงใจคนป่วยเลยซักนี๊ด หน้าตายัยคนหน้านี่ ยิ้มแย้มแจ่มใสเกินไปมาก
กลับขึ้นรถมาเลยจัดการย้ายที่นั่งให้คุณน้องไปนั่งหน้าซะแล้วเอนเบาะลงนอนเพื่อพักใจกาย พวกที่เหลือก็มาระริกระรี้ด้านหลังกันต่อละกัน นั่งไปได้อีกสักพัก น้องคนสวยที่นั่งหน้าก็ได้หันมาอีกครั้งพร้อมบอกเราว่า จะอ้วกกกก!!! เอ้าจอดรถสิคะ รออะไร เอาล่ะเพลานี้หมดตัวจริงๆสินะ พวกเราเลยถือโอากาสบอกคุณลุงเพือแวะรับทานอาหารเที่ยงเลยดีกว่า จะได้ให้เปรมได้พักด้วย ที่พักที่นี่ก็เหมือนทั่วๆไปอยู่ริมถนนแนบชิดเลยก็ว่าได้ มีอาหารพื้นบ้านให้เลือกไม่มากนัก แต่รสชาดถือว่าผ่านนะ

ถ้าจะสั่งน้ำเย็นให้บอก Ice +... สิ่งที่ได้มาก็คือจะเป็นน้ำเย็นๆหนึ่งขวด โดยกรรมวิธีที่ทำให้น้ำเย็นนั้นง่ายมาก แค่เอาขวดไปแช่น้ำ มันก็เย็นแล้วโดยธรรมชาติ จะหาน้ำแข้งกินที่นี่มันไม่ง่ายนะจ้ะ
เมนูไข่เจียวพร้อมโรตีนี้ได้มา เพราะเห็นลุงคนขับสั่งก่อน หน้าตากินได้แน่ เราสั่งตาม
นั่งพักผ่อนกันสักอึดใจ ทานข้าวเรียบร้อยก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ นี่เรามาครึ่งทางแล้วนะ ตูดระบมจนชา ขนาดเรานั่งยังเครียด เลยหันไปถามลุง ขับรถเครียดไหมคะ ลุงบอกแค่นี้ชิวว์ๆ ขับแบบนี้ทุ๊กวัน เอาล่ะถ้าคนขับไม่เครียด ตรูจะเครียดไปไย ขึ้นรถเดินทางต่อกันดีกว่าจะได้ถึงเสียที
ดูหน้าสิ ยังมีระรื่นกันอยู่สองตัว เสื้อขาวกะเสื้อดำ ที่เหลือดูกันเอาเอง
พักก่อนนะคะ...

ไปต่อตอน 2-2 ที่นี่นะคะ
ตอน 2-2 : https://pantip.com/topic/37400675
ชื่อสินค้า:   เลห์ ลาดักห์,Leh Ladakh,india,อินเดีย,north india
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่