สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกๆ คน วันนี้หนูมีประสบการณ์ชีวิตความรักมาแชร์ค่ะ
หนูคบกับแฟนมาเกือบจะ 10 ปี คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนจนเรียนจบ พอเรียนจบต่างคนต่างมีงานทำและหนูก็คิดว่ายังไงเราก็คงได้แต่งงานใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแน่นอน แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะ สุดท้ายเราก็ต้องหันหลังแยกทางกันไป คือหนูรักเขามาก รักมากๆ อะไรที่ทำให้ได้คือหนูยอมให้ทุกอย่างเลย หนูอยู่กับเขามาตั้งแต่เขายังสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเองไม่ได้ แต่เขาโชคดีที่พ่อแม่ปูทางในเรื่องของกิจการไว้ให้ เขาก็สามารถสานต่อได้อย่างสบาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าพ่อแม่ปูทางไว้ให้แล้วทุกอย่างจะได้เขาซะทีเดียว ช่วงตอนยังเรียนอยู่เหมือนกับแค่ช่วยที่บ้านทำงานไป พ่อกับแม่เขาไม่ได้ปล่อยให้เขารับผิดชอบทั้งหมด และให้เงินเขาใช้จ่ายในแต่ละวันไป
ตอนนั้นหนูก็โอเค เห็นเขาตั้งใจทำงานหนูก็ชอบ ก็สนับสนุน
และตัวหนูก็ขอเงินจากพ่อแม่ของหนูมาใช้จ่ายเหมือนกัน หนูใช้ชีวิตอยู่กับเขาตั้งแต่เรียน อยู่หอบ้าง บางครั้งก็สลับไปอยู่บ้านเขา หนูดูแลทุกอย่าง หนูเป็นคนจ่ายค่าเช่าหอเองตลอด ตอนนั้นหนูไม่ซีเรียสด้วยซ้ำ หนูทำให้คนรอบข้างเห็นว่าเขาดูแลหนูได้ เลี้ยงหนูได้ มีครั้งนึงเคยไปกินข้าวกับเพื่อนหนู
เขาบอกหนูว่าไม่มีเงิน หนูก็ไม่ซีเรียสอะไรนะ แต่เขาบอกว่าให้หนูเอาเงินให้เขา แล้วเขาจะเป็นคนจ่ายเอง เขาอยากให้เพื่อนหนูเห็นว่าเขาเป็นคนจ่าย เขาเป็นคนดูแล!!!
พอถึงเวลาเรียกพนักงานเก็บเงิน หนูส่งเงินให้เขาจากใต้โต๊ะรับไปจ่ายค่าอาหารเอง จ่ายให้เพื่อนหนูเห็น
หนูก็ไม่อยากให้คนรอบข้างมองเขาไม่ดี มองเขาว่าอะไรๆ ก็ต้องให้หนูจ่าย เพราะโดยส่วนมากที่ใช้ชีวิตตอนเรียนด้วยกันหนูจะเปย์เค้ามาก หนูจะออกเองทุกอย่าง เพราะเขามักบอกหนูตลอดว่าเขาไม่มีเงิน หนูไม่เคยบอกคนรอบข้างหนูเลยว่าหนูคบกับเขาแล้วหนูต้องเป็นแบบนี้ แต่เขามักจะแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเขาเปย์หนูนะ หนูไม่อยากให้ใครมองเขาไม่ดี เวลาหนูซื้ออะไรหนูก็จะบอกว่าแฟนหนูซื้อให้ทั้งๆ ที่หนูซื้อเอง และหนูจะซื้อเสื้อผ้า สิ่งของต่างๆให้แฟนเป็นประจำ หนูก็ขอเงินพ่อแม่มานี่แหละ และก็มีหารายได้เล็กๆ น้อยๆ ตามประสาหนู แต่เขาไม่เคยซื้ออะไรให้หนูเลย เขาบอกไม่มีเงิน หนูก็เข้าใจนะว่าช่วยที่บ้านทำงานก็จริง แต่พ่อแม่ยังดูแลให้ค่าขนมในแต่ละวันอยู่ เงินจากทำงานก็ไม่ได้ตัวเองเต็มๆ ที่บ้านจัดการอยู่ คบกันมาหนูดูแลเขาทุกอย่าง หนูซักผ้า รีดผ้า ทำงานบ้านทั้งที่หอตัวเอง ทั้งงานบ้านที่บ้านเขา เพราะหนูจะไปๆมาๆ ระหว่างหอกับบ้านของเขา
หนูดูแลเรื่องการเรียน หนูทำการบ้าน ทำรายงานแทนเขาเพื่อส่งอาจารย์ เพราะหนูรู้มาว่าหากไม่ส่งไม่ได้สอบ หนูกลัวติดFบ้าง หนูกลัวเขาเรียนไม่จบบ้าง หนูก็ทำให้เขาตลอดจนเขาเรียนจบ ก่อนหน้านี้ชีวิตคู่มันก็มีทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่ว่าหนูจะผิดหรือถูก ส่วนมากเขาก็หาเหตุผลให้ตัวเองถูกได้เสมอ หนูกลายเป็นคนผิดตลอด และหนูเองจะต้องเป็นฝ่ายไปง้อเขา มีบ้างที่เคสหนักๆ ที่เขาไม่สามารถหาเหตุผลให้ตัวเองถูกได้ นั่นแหละเขาถึงง้อหนู หนูยอมเป็นแบบนี้มาตลอดที่เราคบกัน
เมื่อเขาเรียนจบ เขาก็ทำงานเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวต่อยอดกิจการของทางบ้านเลย ตอนนี้เขาก็ได้เงินจากการทำงานเต็มที่ ต่างกับตอนเรียนที่พ่อแม่ยังจัดการอยู่ ส่วนหนูทำงานเป็นลูกจ้างบริษัท ในระหว่างนี้ก็คบกันมาเรื่อยๆ
ครั้งหนึ่งเรามีเรื่องใหญ่มากให้ต้องเลิกกัน
ไป เราเลิกกันไปจริงๆ แล้วสุดท้ายวันหนึ่งเขาก็กลับมาง้อหนู
ตอนนั้นหนูคิดว่ายังไงก็ไม่เอาแล้ว หนูอดทนมามากแล้ว แต่สุดท้ายหนูก็แพ้ลูกอ้อนเขา เราปรับความเข้าใจกันกลับมาคบกันใหม่ ให้ลืมอดีตที่ไม่ดีแล้วเริ่มต้นใหม่ ตอนที่เค้าง้อหนูให้กลับมาคบเขาหว่านล้อมทุกอย่าง ถึงขนาดใช้วิธีที่ว่ากลับมาคบกันแล้วจะให้แม่ไปขอหมั้นเลย!!! หนูดีใจนะ
แต่มีแอบเล่นตัวบ้าง สุดท้ายหนูกลับมาคบ พอกลับมาคบจริงๆ เขาไม่เคยพูดเรื่องมาขอหมั้นกับแม่เขาต่อหน้าหนูเลย เหมือนตอนที่กลับมาคบกันแล้วญาติพี่น้องเขาก็แซวๆ ว่ากลัวจะเลิกกันอีก คบกันก็นานแล้ว ให้แต่งงานกันสักที แม่เขาก็พูดขึ้นมาว่าให้แม่ไปขอหมั้นกับที่บ้านมั๊ย หนูมองหน้าเขาเพื่อให้เขาพูดขึ้นมาอีกเสียงว่าอยากไปขอ เขาเงียบ เขาเปลี่ยนเรื่องพูด หนูหน้าชามาก หนูเลยตอบไปว่ายังไม่พร้อม ขอเวลาสร้างเนื้อสร้างตัวอีกนิด เราก็คบกันมาเรื่อยๆ
ในช่วงหนูทำงานหนูมีเงินก็จะหาซื้อโน้นนี้ให้ตลอด เขาอยากได้อะไรหนูก็ให้ แต่พอเวลาหนูอยากได้บ้าง เขาจะบอกว่าแพงบ้าง ไม่มีเงินบ้าง เหมือนเดินห้างกันหนูเดินผ่านช็อปเลือกๆ แต่ก็ไม่ซื้อ เขาถามว่าทำไมไม่ซื้อ หนูก็บอกๆไม่มีเงิน บางอย่างของไม่กี่ร้อยจริงๆ หนูซื้อเองได้แต่หนูแค่อยากได้ยินคำว่าเดี่ยวพี่จ่ายให้ จะเอาไรซื้อเลย!! แห้วค่ะไม่มีหรอก 😂 แต่ตอนนี้เวลาไปกินอะไรด้วยกันเขาก็เริ่มเป็นคนจ่ายเงินแล้วนะ ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราทั้งคู่กำลังสร้างตัว
เขาอยากต่อยอดธุริกิจ เค้าบอกจะลงทุนต่อ แต่เงินไม่มี ขอยืมเงินหนูไปลงทุนก่อน หนูก็มีไม่เยอะ ช่วงนั้นหนูก็พยายามทำงานหนักเพื่อหาเงินมาให้เขา รับจ๊อบเสริมกันเลือดตาแทบกระเด็น หาเงินให้เขาลงทุน เพราะหนูคิดว่าช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว หนูไม่มีกิจการที่ต่อยอดจากพ่อแม่เหมือนเขา หนูต้องทำงานเอง หนูไม่อยากให้ใครว่าหนูไปเกาะเขากินเด็ดขาด เขาสามารถสร้างตัวต่อยอดขยายกิจการอย่างใหญ่โตและรวดเร็วมาก วันนึงหนูจำเป็นต้องใช้เงิน หนูขอเงินคืนจากเขา เพราะตอนนี้เขามีเงินเลย กิจการกำลังไปได้ดี แต่เขามักจะบอกว่าไม่มีเงินเหมือนเดิม เอาไว้หมุนก่อน เวลาขอคืนมันก็ต้องทะเลาะกัน แต่เขาก็คืนให้นะ ทะยอยคืนให้ ทุกวันนี้กิจการไปได้สวยมาก เขาก็บอกหนูเสมอว่ากิจการของ "เรา" นะ
หนูได้ยินแบบนี้หนูดีใจนะเพราะที่ผ่านมาหนูก็อดทนลำบากและผลักดันช่วยเขาเต็มที่ วันนึงเขาซื้อรถเขาก็บอกคันนี้รถของ "เรา" นะ ชีวิตคู่ช่วงนี้หนูเต็มที่มาก เพราะคิดว่าเขาคงตั้งใจใช้ชีวิตคู่กับหนูแล้วจริงๆ คิดไปถึงขั้นสร้างบ้าน สถานะตอนนี้หนูยังเป็นแค่แฟน ไม่ใช่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย!!! ถึงเขามีเงินแต่หนูยังดูแลเขาทุกอย่างเหมือนเดิม วัยทำงานหนูอยู่ห่างจากเขา เราอยู่คนละจังหวัดกัน บางเดือนก็เจอกัน บางเดือนก็ไม่เจอกัน เราใช้วิธีติดต่อทางโทรศัพท์ ทางโซเชี่ยล
ส่วนมากเวลาเจอกันคือหนูกลับไปหาเขาเอง
หนูต้องหยุดงาน ขาดรายได้ จ่ายค่าเดินทางเองตลอด บางครั้งหนูจำเป็นต้องใช้จ่ายหนูมีภาระ กลับไม่ได้เพราต้องทำงานเก็บเงิน แต่เค้าบอกว่ากลับมาเถอะ เดียวเขาให้ค่าใช้จ่ายเอง หนูก็กลับแต่พอเอาเข้าจริงๆ เวลากลับไปหนูพูดถึงค่าใช้จ่ายตามที่เขาบอก เพราะหนูต้องใช้จริงๆ เขาจะพูดว่าหนูกลับมาตอนเขาไม่มีเงินอีกแล้ว หนูก็อารมณ์เสียนะ เขาเห็นหนูแบบนี้ก็พากันทะเลาะไปอีก เรื่องนี้มันสะสม!!! และเขาเคยพูดกับคนรอบข้างหนูว่าเวลาทะเลาะก็เรื่องเงินตลอด เหมือนหนูเป็นคนเห็นแก่เงินเลยค่ะ พอเขาเริ่มมีเงิน หนูเริ่มลองขอจากเขาบ้าง แต่น้อยมากที่หนูจะเอ๋ยปากขอ หนูไม่อยากให้เขามองว่าเป็น ผญ หน้าเงิน หนูจะเชิงขอเล่นๆ ดูใจมากกว่าแต่ก็ไม่ค่อยได้หรอก!!! ขนาดตอนเวลาไปเดินห้างด้วยกัน เขาก็จะเลือกซื้อและจ่ายของเขาอย่างเดียว หนูอยากได้อะไรดูไปก็แค่นั้นแหละ!!
แต่ในขณะที่เวลาหนูไปไหนมาไหนหนูจะซื้อไปฝากเขาตลอด แต่ตรงข้ามกันเขาจะมีแต่ของตัวเอง!!! แบบนี้หนูเป็นคนเห็นแก่เงินเหรอค่ะ ? ขนาดคุยเรื่องแต่งงานกันหนูยังบอกเลยทองที่ตกเป็นค่าสินสอด หนูออกให้เองนะ เพราะหนูไม่อยากให้ใครว่าหนูอยากได้ แต่เขาถามตลอดตกแล้วค่าสินสอดพ่อแม่หนูจะให้คืนมั๊ย? คืออะไรอ่า!!! หนูต้องคิดยังไงตอบยังไงกับคำถามนี้ หนูเคยถามพ่อกับแม่นะ ท่านทั้ง 2 คนบอกว่าไม่ตก ไม่เอา หนูจะตกเท่าไหร่แล้วแต่หนูเลย เพราะมันเป็นของๆ หนู ตกมาเองก็เอากลับไปสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นทุนชีวิตด้วยกัน แต่หนูไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเขานะ หนูมีแซวๆ ว่าบ้านหนูเรียกค่าสินสอดแพงนะ หนูแค่อยากเห็นความพยายามของเขาว่าหากแต่งงานแล้วมีค่าสินสอดเขาจะรับผิดชอบหามันมาได้มั๊ย แต่สิ่งที่เขาตั้งคำถามให้พ่อแม่หนูคือเขามองว่าครอบครัวหนูอยากได้ของๆ เหรอ? แต่หนูก็ยังคบมาตลอดเพราะแค่คำว่ารัก
หนูดูแลเขาเหมือนเดิมรวมถึงคนทางบ้านเขาด้วย วันที่เค้าป่วย เขาประสบอุบัติเหตุหนูหยุดงานไปดูแลเขา
หนูไม่มีเงินเดือน หนูมีอาชีพอิสระ ไม่ทำคือไม่มีเงิน แต่ต้องกินต้องใช้ทุกวัน ถึงจะอยู่บ้านเขาก็เถอะ วันที่แม่เค้าไม่สบายหนูขับมอไซต์พาแม่เขาเข้าเมืองไปหาหมอ วันที่พ่อเขาไม่สบายหนูนั่งสองแถวพาพ่อเขาไปหาหมอ ปัจจุบันนี้เวลาหนูคิดย้อนไปหนูรู้สึกตัวเองเลวมากเพราะไม่เคยทำให้พ่อแม่ตัวเองเลย แม่หนูไม่สบายแม่หนูขับมอไซต์ออกไปหาหมอด้วยตัวเอง แม่บอกไม่อยากรบกวนหนู วันที่พ่อหนูไม่สบายพ่อแอบไปหาหมอเองไม่บอกให้หนูรู้ด้วยซ้ำ หนูมารู้ทีหลังตลอด ชีวิตคู่ของหนูมันก็เป็นมาแบบนี้แหละ จนวันที่เขาประสบความสำเร็จในชีวิต มีงานมั่นคง มีเงิน มีรถ มีพร้อมแล้ว และเป็นวันเดียวกันที่เขาเลือกทิ้งหนูไป เขาบอกหนูว่าเขาพร้อมแล้ว อยากแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่หนูยังไม่พร้อมไง หนูสร้างอะไรไม่ได้สักอย่าง หนูแค่ขอเวลาช่วยปลดหนี้ให้ทางบ้าน แล้วหนูจะกลับไปสร้างเนื้อสร้างตัวกับเขา เขาให้หนูไม่ได้ เขาพูดว่าเมื่อไหร่จะพร้อม มีอะไรก็ช่วยแต่ที่บ้าน แล้วครอบครัวของเรา 2 คนล๊ะจะมีเมื่อไหร่? (เอาจริงๆ ถ้าเขามองย้อนหนูช่วยที่บ้านอย่างเดียวเหรอ ที่ผ่านมาก็ช่วยผลักดันส่งเสริมเขามาตลอดจนเติบโต ไม่เคยเห็นบ้างเลยเหรอ ) หนูน้อยใจคำพูดนะ งอนๆ เลยไม่คุยด้วยกะจะให้เขาง้อ...แต่ไม่เลย มันกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เขาเอาหลายๆ เรื่อง หลายๆ เหตุผลมารวมกัน เรื่องเลยบานปลายไปใหญ่ ไม่พูดไม่คุยกัน ต่างคนต่างเงียบกันไปเป็นสัปดาห์ ซึ่งหนูไม่รู้เลยว่าช่วงที่เราต่างเงียบกันไปจะเป็นช่วงเดียวกันที่เขาไปเจอ ผญ. อีกคน เขาคุยกันไม่นาน คุยกันในช่วงเวลาที่เราทั้งสองต่างเงียบใส่กัน วันนึงหนูทนเงียบไม่ไหวแล้วเพราะเขาเงียบมากขึ้น และหนูดูออกว่าเปลี่ยนไป หนูพยายามติดต่อ พยายามสืบจนในที่สุดก็ได้รู้ความจริงว่าเขาเลือกทิ้งหนูแล้ว เขาเอา ผญ. คนใหม่เข้ามาแทนที่หนู เขามองว่า ผญ. คนนี้มีความพร้อมกว่า ผญ. คนนี้มีงานมั่นคง มีรถขับ แต่หนูอาชีพอิสระ รถก็ไม่มี หนูยังอยู่ที่เดิมตรงนี้ไง ไม่มีอะไรสำเร็จสักอย่างเลย แต่จริงๆ แล้วหนูว่าหนูทำสำเร็จแล้วนะค่ะ หนูผลักดันสนับสนุนเขาตั้งแต่เรียนจนจบมีงานมีการทำมั่นคงถาวร เขาพร้อมกางปีกบินไปถึงฝั่งได้อย่างสบาย และในเวลาเดียวกันก็เดินจากหนูไป ปล่อยทิ้งหนูไว้ลำพังตรงที่เดิมตรงนี้ ความรักของหนูที่ผ่านมา หนูทำให้เขาได้แค่นี้แหละค่ะ ช่วยส่งมอบความสำเร็จให้เขา และเขาก็เอาความสำเร็จนี้ไปให้ ผญ. คนใหม่ที่เพิ่งเจอ เขาไม่เคยมองเห็นสิ่งดีๆ ที่หนูทำเลย เขามองแต่ข้อเสียของหนู หนูนิสัยไม่ดีค่ะยอมรับ หนูหวานไม่เก่ง หนูโกรธง่าย หนูใจร้อน วันนี้หนูแค่อยากบอกทุกๆ คนว่าใช่ว่าคบกันมานาน อดทนลำบากมาแล้วมันจะเป็นรักแท้นะค่ะ
สำหรับหนูวันนี้หนูเชื่อว่ารักแท้ไม่มีอยู่จริงค่ะ มีแค่ความรักฉาบฉวยในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น ทุกวันนี้หนูไม่เคยเชื่อในเรื่องของความลำบากพิสูจน์รักแท้อีกเลยค่ะ
เรื่องราวความรักของหนูก็มีแค่นี้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
อดทนลำบากมาใช่ว่าจะพิสูจน์รักแท้ได้😂
หนูคบกับแฟนมาเกือบจะ 10 ปี คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนจนเรียนจบ พอเรียนจบต่างคนต่างมีงานทำและหนูก็คิดว่ายังไงเราก็คงได้แต่งงานใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแน่นอน แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะ สุดท้ายเราก็ต้องหันหลังแยกทางกันไป คือหนูรักเขามาก รักมากๆ อะไรที่ทำให้ได้คือหนูยอมให้ทุกอย่างเลย หนูอยู่กับเขามาตั้งแต่เขายังสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเองไม่ได้ แต่เขาโชคดีที่พ่อแม่ปูทางในเรื่องของกิจการไว้ให้ เขาก็สามารถสานต่อได้อย่างสบาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าพ่อแม่ปูทางไว้ให้แล้วทุกอย่างจะได้เขาซะทีเดียว ช่วงตอนยังเรียนอยู่เหมือนกับแค่ช่วยที่บ้านทำงานไป พ่อกับแม่เขาไม่ได้ปล่อยให้เขารับผิดชอบทั้งหมด และให้เงินเขาใช้จ่ายในแต่ละวันไป
ตอนนั้นหนูก็โอเค เห็นเขาตั้งใจทำงานหนูก็ชอบ ก็สนับสนุน
และตัวหนูก็ขอเงินจากพ่อแม่ของหนูมาใช้จ่ายเหมือนกัน หนูใช้ชีวิตอยู่กับเขาตั้งแต่เรียน อยู่หอบ้าง บางครั้งก็สลับไปอยู่บ้านเขา หนูดูแลทุกอย่าง หนูเป็นคนจ่ายค่าเช่าหอเองตลอด ตอนนั้นหนูไม่ซีเรียสด้วยซ้ำ หนูทำให้คนรอบข้างเห็นว่าเขาดูแลหนูได้ เลี้ยงหนูได้ มีครั้งนึงเคยไปกินข้าวกับเพื่อนหนู
เขาบอกหนูว่าไม่มีเงิน หนูก็ไม่ซีเรียสอะไรนะ แต่เขาบอกว่าให้หนูเอาเงินให้เขา แล้วเขาจะเป็นคนจ่ายเอง เขาอยากให้เพื่อนหนูเห็นว่าเขาเป็นคนจ่าย เขาเป็นคนดูแล!!!
พอถึงเวลาเรียกพนักงานเก็บเงิน หนูส่งเงินให้เขาจากใต้โต๊ะรับไปจ่ายค่าอาหารเอง จ่ายให้เพื่อนหนูเห็น
หนูก็ไม่อยากให้คนรอบข้างมองเขาไม่ดี มองเขาว่าอะไรๆ ก็ต้องให้หนูจ่าย เพราะโดยส่วนมากที่ใช้ชีวิตตอนเรียนด้วยกันหนูจะเปย์เค้ามาก หนูจะออกเองทุกอย่าง เพราะเขามักบอกหนูตลอดว่าเขาไม่มีเงิน หนูไม่เคยบอกคนรอบข้างหนูเลยว่าหนูคบกับเขาแล้วหนูต้องเป็นแบบนี้ แต่เขามักจะแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเขาเปย์หนูนะ หนูไม่อยากให้ใครมองเขาไม่ดี เวลาหนูซื้ออะไรหนูก็จะบอกว่าแฟนหนูซื้อให้ทั้งๆ ที่หนูซื้อเอง และหนูจะซื้อเสื้อผ้า สิ่งของต่างๆให้แฟนเป็นประจำ หนูก็ขอเงินพ่อแม่มานี่แหละ และก็มีหารายได้เล็กๆ น้อยๆ ตามประสาหนู แต่เขาไม่เคยซื้ออะไรให้หนูเลย เขาบอกไม่มีเงิน หนูก็เข้าใจนะว่าช่วยที่บ้านทำงานก็จริง แต่พ่อแม่ยังดูแลให้ค่าขนมในแต่ละวันอยู่ เงินจากทำงานก็ไม่ได้ตัวเองเต็มๆ ที่บ้านจัดการอยู่ คบกันมาหนูดูแลเขาทุกอย่าง หนูซักผ้า รีดผ้า ทำงานบ้านทั้งที่หอตัวเอง ทั้งงานบ้านที่บ้านเขา เพราะหนูจะไปๆมาๆ ระหว่างหอกับบ้านของเขา
หนูดูแลเรื่องการเรียน หนูทำการบ้าน ทำรายงานแทนเขาเพื่อส่งอาจารย์ เพราะหนูรู้มาว่าหากไม่ส่งไม่ได้สอบ หนูกลัวติดFบ้าง หนูกลัวเขาเรียนไม่จบบ้าง หนูก็ทำให้เขาตลอดจนเขาเรียนจบ ก่อนหน้านี้ชีวิตคู่มันก็มีทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่ว่าหนูจะผิดหรือถูก ส่วนมากเขาก็หาเหตุผลให้ตัวเองถูกได้เสมอ หนูกลายเป็นคนผิดตลอด และหนูเองจะต้องเป็นฝ่ายไปง้อเขา มีบ้างที่เคสหนักๆ ที่เขาไม่สามารถหาเหตุผลให้ตัวเองถูกได้ นั่นแหละเขาถึงง้อหนู หนูยอมเป็นแบบนี้มาตลอดที่เราคบกัน
เมื่อเขาเรียนจบ เขาก็ทำงานเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวต่อยอดกิจการของทางบ้านเลย ตอนนี้เขาก็ได้เงินจากการทำงานเต็มที่ ต่างกับตอนเรียนที่พ่อแม่ยังจัดการอยู่ ส่วนหนูทำงานเป็นลูกจ้างบริษัท ในระหว่างนี้ก็คบกันมาเรื่อยๆ
ครั้งหนึ่งเรามีเรื่องใหญ่มากให้ต้องเลิกกัน
ไป เราเลิกกันไปจริงๆ แล้วสุดท้ายวันหนึ่งเขาก็กลับมาง้อหนู
ตอนนั้นหนูคิดว่ายังไงก็ไม่เอาแล้ว หนูอดทนมามากแล้ว แต่สุดท้ายหนูก็แพ้ลูกอ้อนเขา เราปรับความเข้าใจกันกลับมาคบกันใหม่ ให้ลืมอดีตที่ไม่ดีแล้วเริ่มต้นใหม่ ตอนที่เค้าง้อหนูให้กลับมาคบเขาหว่านล้อมทุกอย่าง ถึงขนาดใช้วิธีที่ว่ากลับมาคบกันแล้วจะให้แม่ไปขอหมั้นเลย!!! หนูดีใจนะ
แต่มีแอบเล่นตัวบ้าง สุดท้ายหนูกลับมาคบ พอกลับมาคบจริงๆ เขาไม่เคยพูดเรื่องมาขอหมั้นกับแม่เขาต่อหน้าหนูเลย เหมือนตอนที่กลับมาคบกันแล้วญาติพี่น้องเขาก็แซวๆ ว่ากลัวจะเลิกกันอีก คบกันก็นานแล้ว ให้แต่งงานกันสักที แม่เขาก็พูดขึ้นมาว่าให้แม่ไปขอหมั้นกับที่บ้านมั๊ย หนูมองหน้าเขาเพื่อให้เขาพูดขึ้นมาอีกเสียงว่าอยากไปขอ เขาเงียบ เขาเปลี่ยนเรื่องพูด หนูหน้าชามาก หนูเลยตอบไปว่ายังไม่พร้อม ขอเวลาสร้างเนื้อสร้างตัวอีกนิด เราก็คบกันมาเรื่อยๆ
ในช่วงหนูทำงานหนูมีเงินก็จะหาซื้อโน้นนี้ให้ตลอด เขาอยากได้อะไรหนูก็ให้ แต่พอเวลาหนูอยากได้บ้าง เขาจะบอกว่าแพงบ้าง ไม่มีเงินบ้าง เหมือนเดินห้างกันหนูเดินผ่านช็อปเลือกๆ แต่ก็ไม่ซื้อ เขาถามว่าทำไมไม่ซื้อ หนูก็บอกๆไม่มีเงิน บางอย่างของไม่กี่ร้อยจริงๆ หนูซื้อเองได้แต่หนูแค่อยากได้ยินคำว่าเดี่ยวพี่จ่ายให้ จะเอาไรซื้อเลย!! แห้วค่ะไม่มีหรอก 😂 แต่ตอนนี้เวลาไปกินอะไรด้วยกันเขาก็เริ่มเป็นคนจ่ายเงินแล้วนะ ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราทั้งคู่กำลังสร้างตัว
เขาอยากต่อยอดธุริกิจ เค้าบอกจะลงทุนต่อ แต่เงินไม่มี ขอยืมเงินหนูไปลงทุนก่อน หนูก็มีไม่เยอะ ช่วงนั้นหนูก็พยายามทำงานหนักเพื่อหาเงินมาให้เขา รับจ๊อบเสริมกันเลือดตาแทบกระเด็น หาเงินให้เขาลงทุน เพราะหนูคิดว่าช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว หนูไม่มีกิจการที่ต่อยอดจากพ่อแม่เหมือนเขา หนูต้องทำงานเอง หนูไม่อยากให้ใครว่าหนูไปเกาะเขากินเด็ดขาด เขาสามารถสร้างตัวต่อยอดขยายกิจการอย่างใหญ่โตและรวดเร็วมาก วันนึงหนูจำเป็นต้องใช้เงิน หนูขอเงินคืนจากเขา เพราะตอนนี้เขามีเงินเลย กิจการกำลังไปได้ดี แต่เขามักจะบอกว่าไม่มีเงินเหมือนเดิม เอาไว้หมุนก่อน เวลาขอคืนมันก็ต้องทะเลาะกัน แต่เขาก็คืนให้นะ ทะยอยคืนให้ ทุกวันนี้กิจการไปได้สวยมาก เขาก็บอกหนูเสมอว่ากิจการของ "เรา" นะ
หนูได้ยินแบบนี้หนูดีใจนะเพราะที่ผ่านมาหนูก็อดทนลำบากและผลักดันช่วยเขาเต็มที่ วันนึงเขาซื้อรถเขาก็บอกคันนี้รถของ "เรา" นะ ชีวิตคู่ช่วงนี้หนูเต็มที่มาก เพราะคิดว่าเขาคงตั้งใจใช้ชีวิตคู่กับหนูแล้วจริงๆ คิดไปถึงขั้นสร้างบ้าน สถานะตอนนี้หนูยังเป็นแค่แฟน ไม่ใช่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย!!! ถึงเขามีเงินแต่หนูยังดูแลเขาทุกอย่างเหมือนเดิม วัยทำงานหนูอยู่ห่างจากเขา เราอยู่คนละจังหวัดกัน บางเดือนก็เจอกัน บางเดือนก็ไม่เจอกัน เราใช้วิธีติดต่อทางโทรศัพท์ ทางโซเชี่ยล
ส่วนมากเวลาเจอกันคือหนูกลับไปหาเขาเอง
หนูต้องหยุดงาน ขาดรายได้ จ่ายค่าเดินทางเองตลอด บางครั้งหนูจำเป็นต้องใช้จ่ายหนูมีภาระ กลับไม่ได้เพราต้องทำงานเก็บเงิน แต่เค้าบอกว่ากลับมาเถอะ เดียวเขาให้ค่าใช้จ่ายเอง หนูก็กลับแต่พอเอาเข้าจริงๆ เวลากลับไปหนูพูดถึงค่าใช้จ่ายตามที่เขาบอก เพราะหนูต้องใช้จริงๆ เขาจะพูดว่าหนูกลับมาตอนเขาไม่มีเงินอีกแล้ว หนูก็อารมณ์เสียนะ เขาเห็นหนูแบบนี้ก็พากันทะเลาะไปอีก เรื่องนี้มันสะสม!!! และเขาเคยพูดกับคนรอบข้างหนูว่าเวลาทะเลาะก็เรื่องเงินตลอด เหมือนหนูเป็นคนเห็นแก่เงินเลยค่ะ พอเขาเริ่มมีเงิน หนูเริ่มลองขอจากเขาบ้าง แต่น้อยมากที่หนูจะเอ๋ยปากขอ หนูไม่อยากให้เขามองว่าเป็น ผญ หน้าเงิน หนูจะเชิงขอเล่นๆ ดูใจมากกว่าแต่ก็ไม่ค่อยได้หรอก!!! ขนาดตอนเวลาไปเดินห้างด้วยกัน เขาก็จะเลือกซื้อและจ่ายของเขาอย่างเดียว หนูอยากได้อะไรดูไปก็แค่นั้นแหละ!!
แต่ในขณะที่เวลาหนูไปไหนมาไหนหนูจะซื้อไปฝากเขาตลอด แต่ตรงข้ามกันเขาจะมีแต่ของตัวเอง!!! แบบนี้หนูเป็นคนเห็นแก่เงินเหรอค่ะ ? ขนาดคุยเรื่องแต่งงานกันหนูยังบอกเลยทองที่ตกเป็นค่าสินสอด หนูออกให้เองนะ เพราะหนูไม่อยากให้ใครว่าหนูอยากได้ แต่เขาถามตลอดตกแล้วค่าสินสอดพ่อแม่หนูจะให้คืนมั๊ย? คืออะไรอ่า!!! หนูต้องคิดยังไงตอบยังไงกับคำถามนี้ หนูเคยถามพ่อกับแม่นะ ท่านทั้ง 2 คนบอกว่าไม่ตก ไม่เอา หนูจะตกเท่าไหร่แล้วแต่หนูเลย เพราะมันเป็นของๆ หนู ตกมาเองก็เอากลับไปสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นทุนชีวิตด้วยกัน แต่หนูไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเขานะ หนูมีแซวๆ ว่าบ้านหนูเรียกค่าสินสอดแพงนะ หนูแค่อยากเห็นความพยายามของเขาว่าหากแต่งงานแล้วมีค่าสินสอดเขาจะรับผิดชอบหามันมาได้มั๊ย แต่สิ่งที่เขาตั้งคำถามให้พ่อแม่หนูคือเขามองว่าครอบครัวหนูอยากได้ของๆ เหรอ? แต่หนูก็ยังคบมาตลอดเพราะแค่คำว่ารัก
หนูดูแลเขาเหมือนเดิมรวมถึงคนทางบ้านเขาด้วย วันที่เค้าป่วย เขาประสบอุบัติเหตุหนูหยุดงานไปดูแลเขา
หนูไม่มีเงินเดือน หนูมีอาชีพอิสระ ไม่ทำคือไม่มีเงิน แต่ต้องกินต้องใช้ทุกวัน ถึงจะอยู่บ้านเขาก็เถอะ วันที่แม่เค้าไม่สบายหนูขับมอไซต์พาแม่เขาเข้าเมืองไปหาหมอ วันที่พ่อเขาไม่สบายหนูนั่งสองแถวพาพ่อเขาไปหาหมอ ปัจจุบันนี้เวลาหนูคิดย้อนไปหนูรู้สึกตัวเองเลวมากเพราะไม่เคยทำให้พ่อแม่ตัวเองเลย แม่หนูไม่สบายแม่หนูขับมอไซต์ออกไปหาหมอด้วยตัวเอง แม่บอกไม่อยากรบกวนหนู วันที่พ่อหนูไม่สบายพ่อแอบไปหาหมอเองไม่บอกให้หนูรู้ด้วยซ้ำ หนูมารู้ทีหลังตลอด ชีวิตคู่ของหนูมันก็เป็นมาแบบนี้แหละ จนวันที่เขาประสบความสำเร็จในชีวิต มีงานมั่นคง มีเงิน มีรถ มีพร้อมแล้ว และเป็นวันเดียวกันที่เขาเลือกทิ้งหนูไป เขาบอกหนูว่าเขาพร้อมแล้ว อยากแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่หนูยังไม่พร้อมไง หนูสร้างอะไรไม่ได้สักอย่าง หนูแค่ขอเวลาช่วยปลดหนี้ให้ทางบ้าน แล้วหนูจะกลับไปสร้างเนื้อสร้างตัวกับเขา เขาให้หนูไม่ได้ เขาพูดว่าเมื่อไหร่จะพร้อม มีอะไรก็ช่วยแต่ที่บ้าน แล้วครอบครัวของเรา 2 คนล๊ะจะมีเมื่อไหร่? (เอาจริงๆ ถ้าเขามองย้อนหนูช่วยที่บ้านอย่างเดียวเหรอ ที่ผ่านมาก็ช่วยผลักดันส่งเสริมเขามาตลอดจนเติบโต ไม่เคยเห็นบ้างเลยเหรอ ) หนูน้อยใจคำพูดนะ งอนๆ เลยไม่คุยด้วยกะจะให้เขาง้อ...แต่ไม่เลย มันกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เขาเอาหลายๆ เรื่อง หลายๆ เหตุผลมารวมกัน เรื่องเลยบานปลายไปใหญ่ ไม่พูดไม่คุยกัน ต่างคนต่างเงียบกันไปเป็นสัปดาห์ ซึ่งหนูไม่รู้เลยว่าช่วงที่เราต่างเงียบกันไปจะเป็นช่วงเดียวกันที่เขาไปเจอ ผญ. อีกคน เขาคุยกันไม่นาน คุยกันในช่วงเวลาที่เราทั้งสองต่างเงียบใส่กัน วันนึงหนูทนเงียบไม่ไหวแล้วเพราะเขาเงียบมากขึ้น และหนูดูออกว่าเปลี่ยนไป หนูพยายามติดต่อ พยายามสืบจนในที่สุดก็ได้รู้ความจริงว่าเขาเลือกทิ้งหนูแล้ว เขาเอา ผญ. คนใหม่เข้ามาแทนที่หนู เขามองว่า ผญ. คนนี้มีความพร้อมกว่า ผญ. คนนี้มีงานมั่นคง มีรถขับ แต่หนูอาชีพอิสระ รถก็ไม่มี หนูยังอยู่ที่เดิมตรงนี้ไง ไม่มีอะไรสำเร็จสักอย่างเลย แต่จริงๆ แล้วหนูว่าหนูทำสำเร็จแล้วนะค่ะ หนูผลักดันสนับสนุนเขาตั้งแต่เรียนจนจบมีงานมีการทำมั่นคงถาวร เขาพร้อมกางปีกบินไปถึงฝั่งได้อย่างสบาย และในเวลาเดียวกันก็เดินจากหนูไป ปล่อยทิ้งหนูไว้ลำพังตรงที่เดิมตรงนี้ ความรักของหนูที่ผ่านมา หนูทำให้เขาได้แค่นี้แหละค่ะ ช่วยส่งมอบความสำเร็จให้เขา และเขาก็เอาความสำเร็จนี้ไปให้ ผญ. คนใหม่ที่เพิ่งเจอ เขาไม่เคยมองเห็นสิ่งดีๆ ที่หนูทำเลย เขามองแต่ข้อเสียของหนู หนูนิสัยไม่ดีค่ะยอมรับ หนูหวานไม่เก่ง หนูโกรธง่าย หนูใจร้อน วันนี้หนูแค่อยากบอกทุกๆ คนว่าใช่ว่าคบกันมานาน อดทนลำบากมาแล้วมันจะเป็นรักแท้นะค่ะ
สำหรับหนูวันนี้หนูเชื่อว่ารักแท้ไม่มีอยู่จริงค่ะ มีแค่ความรักฉาบฉวยในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น ทุกวันนี้หนูไม่เคยเชื่อในเรื่องของความลำบากพิสูจน์รักแท้อีกเลยค่ะ
เรื่องราวความรักของหนูก็มีแค่นี้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ