ราชาหนู


Rat king จาก Dellfeld ใน Germany ในปี 1895.Photo credit: Edelseider/Wikimedia


.
ในเช้าวันที่อากาศหนาวเย็นในเดือนมกราคม 2005
ที่หมู่บ้าน Saru ทางตอนใต้ของ Estonia
Rein Kıiv ชาวนากับลูกชายของเขา
ได้ค้นพบเรื่องราวแปลกประหลาด
พวกเขาพบว่าบนพื้นทรายของโรงนา
มีฝูงหนูรวมกลุ่มกัน 16 ตัวโดยมีหางพันกันเป็นปมเงื่อน
และต่างดิ้นรนจะหนีออกจากกันอย่างกระวนกระวายอย่างไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อย
แต่พวกมันยิ่งดิ้นรน หางของพวกมันยิ่งมัดกันเป็นปมเงื่อนมากยิ่งขึ้น
พวกหนูเหล่านี้เห็นได้ชัดเลยว่าพยายามขุดดิน
เพื่อให้ตัวเองออกจากโพรงที่คับแคบ
แต่ผลการต่อสู้ดิ้นรน หนูบางตัวถูกฝังอยู่ใต้ทราย
มีหนู 7 ตัวที่หางพันอยู่ในปมเงื่อนตายไปแล้ว
ลูกชายของ Rein Kıiv จึงตัดสินใจ
ที่ยุติเรื่องราวเลวร้ายและแสนจะชั่วร้ายนี้
(บางท้องถิ่นยังถือว่าเป็นเรื่องโชคไม่ดี
หรือมีภูติผีปีศาจมากลั่นแกล้ง)
ด้วยการหยิบไม้ทุบหนูตัวที่ยังไม่ตาย
ให้ไปพบพระผู้เป็นเจ้าทุกตัว

Rein Kıiv ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเลยว่า
การค้นพบของพวกเขาเป็นปรากฏการณ์
ที่หายากมากเรียกว่า ราชาหนู Rat King
ราชาหนูเคยถูกพบเห็นเมื่อราว 500 ปีก่อนมาแล้ว
โดยมีหนูจำนวน 60 ตัวที่เคยมีคนพบเห็น
และได้จดการบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์
ทั้งยังมีการเก็บรักษาซาก/ตัวอย่างไว้ในพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ

ในปี 1828  ราชาหนูที่ใหญ่ที่สุดและรู้จักกันดี
ถูกพบในเตาไฟของโรงสีที่ Buchheim (น่าจะดับแล้ว)
มีหนู 32 ตัวและยังเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์
Mauritianum ใน Altenburg ประเทศเยอรมนี

ราชาหนู Saru จะถูกนำไปเก็บไว้
และจัดแสดงให้ผู้คนเข้าเยี่ยมชม
ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (สัตววิทยา)
ที่มหาวิทยาลัย Tartu ประเทศเอสโตเนีย
ด้วยการดองไว้ในแอลกอฮอล์ขั้นต่ำ 70%
โดยผ่านการฉีดฟอร์มาลีนเข้าไปในตัวสัตว์
ทิ้งไว้นานเป็นเวลา 2 วันในห้องทั่วไป
กระบวนการนี้ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนทำ
เพราะฟอร์มาลีนเป็นสารเคมีมีพิษ

โดยก่อนที่จะนำมาส่งเพื่อการเก็บรักษา
พวกมันได้สัมผัสกับอากาศที่เปิดโล่ง
ทำให้หางของพวกหนูเริ่มแห้งขึ้น
และปมเงื่อนที่หางก็หลวมขึ้น
อย่างไรก็ตามสภาพของหาง
เคยผ่านการถูกบีบรัดอย่างแรง
ทำให้สามารถพิสูจน์และยืนยันได้ว่า
ปมหางหนูเคยแน่นหนามาก

ราชาหนูพบเห็นได้ชัดเจนว่า
เป็นของประหลาดตามธรรมชาติ
แต่ก็กลายเป็นประเด็นปัญหา
ที่มีการถกเถียงหาข้อเท็จจริงกัน
โดยมีสมมติฐานหนึ่งว่า
ราชาหนูถูกสร้างขึ้นมา
เพราะหนูเกิดอาการตกใจกลัว
แล้วกระตุ้นประสาทพวกมันด้วยการรวมตัวกันและยึดกันด้วยหางของแต่ละตัว
หรือเกิดขึ้นในกรณีที่อากาศหนาวเย็นมาก
เพราะพวกหนูมักจะกอดรัดกัน
เพื่อสร้างความอบอุ่นซึ่งกันและกันตอนนอนหลับ
และแล้วหางของพวกมันกลายเป็นปมเงื่อนมัดติดกันในภายหลัง
หรือโดนกาวทำให้หางพวกมันติดกันจากวัสดุธรรมชาติ
เช่น ยางไม้ เลือด อาหาร อุจจาระ ฯลฯ (แล้วเกิดแห้งแข็งขึ้นมา)
และวัสดุเหล่านั้นทำหน้าที่เหมือนกาว
ตรึงตราแน่นตอนพวกหนูนอนหลับ
เมื่อพวกหนูตื่นขึ้นมา ต่างรีบเร่ง
จะปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระออกไป
ด้วยการวิ่ง/ดึงหางออกไปไปในทิศทางที่แตกต่างกัน
ยิ่งทำให้หางของพวกหนูยิ่งพัวพันกัน
เป็นปมที่ยุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้น

คำอธิบายนี้มีร่องรอยที่เป็นจริงส่วนหนึ่ง
เพราะถ้าพิจารณาแล้ว
มักจะพบว่าราชาหนูถูกค้นพบ
ในประเทศที่หนาวเย็นในช่วงฤดูหนาว
ราชาหนูที่ได้ทำการศึกษา
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
มักจะเกี่ยวข้องกับหนูดำด้วย
ยกเว้นแต่การค้นพบที่หาได้ยากในชวา(อินโดนีเซีย) ซึ่งไม่ได้มีสภาพอากาศหนาวเย็น
.


.

ภาพเขียนการค้นราชาหนูในปี 1683



.
ศาสตราจารย์ Andrei Miljutin จากมหาวิทยาลัย Tartu
เชื่อว่าการเกิดขึ้นของราชาหนูในพื้นที่
มักจะมีปัจจัยสองประการที่คล้ายคลึงกันคือ
ฤดูหนาวและการปรากฏของฝูงหนูดำ

" ตามจริงแล้ว พวกหนูดำจะอยู่กันมาก
ในเขตตอนใต้ของของยุโรป
ซึ่งฤดูหนาวมักจะไม่รุนแรง
แต่ฤดูหนาวจะกำลังแรง
ในภาคเหนือของยุโรปและแคนาดา
แต่ในเขตนี้แทบไม่มีหนูดำหรือมีก็น้อยมาก
มีแต่หนูสีน้ำตาล Rattua norvegicus จำนวนมาก
ในยุโรปตอนเหนือและอเมริกาเหนือ
แต่พวกหนูสีนำ้ตาลมักจะไม่มีราชาหนู
เพราะเห็นได้ชัดว่าพวกมันมีหางสั้นกว่า
หางหนากว่าและมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าพันธุ์หนูดำ Rattus rattus
ในบันทึกของ Andrei Miljutin
.

ราชาหนู ที่พิพิธภํณฑ์ Châteaudun ใน France  Photo credit: Selbymay/Wikimedia



.
Andrei Miljutin เชื่อว่าการเกิดขึ้นของราชาหนู
จะมีบ่อยมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
เพราะในช่วงการวิจัยเรื่องราชาหนูนี้
Andrei Miljutin สามารถหาตัวอย่างราชาหนู
ได้ถึง 3 ตัวอย่างในประเทศ
หนึ่งในนั้นมีการเผยแพร่กันอย่างแพร่หลาย
ในสื่อมวลชนและเป็นเพราะคนค้นพบมีญาติเป้นผู้สื่อข่าว
การค้นพบจำนวนมากในชุมชนแทบจะเป็นเรื่องปกปิด
(เพราะบางแห่งเชื่อกันว่าจะเป็นเรื่องโชคร้ายมากกว่าโชคดี)
และยังคงถูกนักวิทยาศาสตร์มักจะมองข้าม/ไม่สนใจ
นอกจากนี้ใครจะรู้ว่า ราชาหนูจำนวนมาก
อาจจะถูกฝังอยู่ในอุโมงค์หรือโพรงใต้ดินที่รอการค้นพบ
.

ราชาหนู ที่พิพิธภัณฑ์ Mauritianum ใน Altenburg ประเทศ Germany Photo credit: Wikimedia



.
พวกหนูไม่ได้เป็นสัตว์ประเภทเดียว
ที่หางอาจจะพันกันจนกลายเป็นราชาหนู
เพราะในปี 2013  มีการค้นพบกระรอก  6 ตัว
หางพันติดกันอยู่ในโพรงไม้สนกลายเป็น ราชากระรอก Squirrel King
ใน Regina ประเทศ Canada
ซึ่งหางพวกมันได้รับการช่วยเหลือให้หลุดออกมาโดยทีมสัตวแพทย์ Dr. Steven Kruzenisk
ที่สถานพยาบาล Animal Clinic of Regina
ท่านเล่าว่าเคยรักษา ราชากระรอก มาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง
นาน ๆ จึงจะพบสักครั้งหนึ่ง
สำหรับกระรอกชุดนี้โชคดีที่มีคนมาส่งเร็ว
หางจึงไม่ถูกตัดทิ้งแต่อย่างใด
และได้ป้อนยาปฏิชีวนะกับฝูงกระรอกนี้
พรัอมกับดูแลอาการให้หายดี
ก่อนปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติต่อไป
.



.
เรียบเรียง/ที่มา


https://goo.gl/tjRqab
https://goo.gl/EGcist
https://goo.gl/1Yi41V
https://goo.gl/N2fU7U

.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่