คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 63
ขอคุยในฐานะแม่ฝ่ายชาย เพิ่งแต่งลูกมาไม่กี่เดือน
ตั้งแต่เลี้ยงลูกชาย เราก็รู้ว่าสักวันหนึ่งต้องขอสาวให้ลูก เราก็เก็บเงิน-ทองไว้ เตรียมตัวเพราะลูกไม่ได้เลี้ยงโตในวันเดียว แต่ละช่วงวัยของลูก พ่อ-แม่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าจะต้องเตรียม/สอน/เจอ กับอะไรบ้าง จึงอยากบอกทุกคนว่าอย่าสักแต่มีสามีภรรยา มีลูก ทุกอย่างต้องมีการเตรียมการที่ดีเพื่อครอบครัว
สินสอด ของหมั้น พิธีแต่งงาน เป็นธรรมเนียมที่งดงามของไทยและหลายๆชนชาติ ควรจะรักษาขนบธรรมเนียมนี้ไว้
สินสอด ทองหมั้น ตามสมควร อย่าเป็นหนี้ เราให้ 999,999 บ.ทอง 20 บาท แหวนเพชร 1 วง
สินสอดพ่อ-แม่ผู้หญิงจะคืนหรือไม่เรื่องของเขา เราให้เขาแล้วไม่ต้องพูด ไม่ต้องคิด เราได้ลูกสาวเพิ่มมาอีกคน
งานแต่งงานญาติทั้งสองฝ่ายต้องร่วมมือกัน ช่วยกันคิดช่วยกันทำ อะไรที่ดี ที่งาม ที่เหมาะสม ทำไปเถอะ
ขอให้คุณโชคดีในชีวิตคู่
ตั้งแต่เลี้ยงลูกชาย เราก็รู้ว่าสักวันหนึ่งต้องขอสาวให้ลูก เราก็เก็บเงิน-ทองไว้ เตรียมตัวเพราะลูกไม่ได้เลี้ยงโตในวันเดียว แต่ละช่วงวัยของลูก พ่อ-แม่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าจะต้องเตรียม/สอน/เจอ กับอะไรบ้าง จึงอยากบอกทุกคนว่าอย่าสักแต่มีสามีภรรยา มีลูก ทุกอย่างต้องมีการเตรียมการที่ดีเพื่อครอบครัว
สินสอด ของหมั้น พิธีแต่งงาน เป็นธรรมเนียมที่งดงามของไทยและหลายๆชนชาติ ควรจะรักษาขนบธรรมเนียมนี้ไว้
สินสอด ทองหมั้น ตามสมควร อย่าเป็นหนี้ เราให้ 999,999 บ.ทอง 20 บาท แหวนเพชร 1 วง
สินสอดพ่อ-แม่ผู้หญิงจะคืนหรือไม่เรื่องของเขา เราให้เขาแล้วไม่ต้องพูด ไม่ต้องคิด เราได้ลูกสาวเพิ่มมาอีกคน
งานแต่งงานญาติทั้งสองฝ่ายต้องร่วมมือกัน ช่วยกันคิดช่วยกันทำ อะไรที่ดี ที่งาม ที่เหมาะสม ทำไปเถอะ
ขอให้คุณโชคดีในชีวิตคู่
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
การที่คุณตั้งใจให้สินสอด กับพ่อแม่ฝ่ายหญิงแล้วไม่คิดเอาคืน
ถ้าเป็นเงินส่วนตัวของคุณ คุณอยากจะทำอย่างไรก็ได้ไม่มีใครว่า
พ่อแม่คุณมีทัศนคติอย่างหนึ่ง คุณมีทัศนคติอย่างหนึ่ง มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะคนเรามีความเห็นแตกต่างกันได้
แต่การตัดสินใจก็เป็นเรื่องของตัวคุณเอง คุณจะให้พ่อแม่ภรรยาสักสิบล้าน ก็เป็นสิทธิ์ของคุณอยู่แล้ว
แต่การที่พ่อแม่คุณ ขอให้พ่อแม่ภรรยาคืนเงินสินสอดมาให้คู่บ่าวสาวตั้งตัว
คุณมองว่าเป็นเรื่องเห็นแก่ตัว
ดิฉันมองว่า มันไม่ถูกต้องสักเท่าไร
การแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคน ทำไมต้องกู้หนี้ยืมสินเงินมากมายไปให้พ่อแม่ฝ่ายหญิง
เว้นเสียแต่ว่าคุณจะเต็มใจให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงเอง
คนสองคนจะแต่งงานกัน มันมีเหตุผลอะไรที่ฝ่ายชายต้องเอาเงินทองไปให้พ่อแม่ฝ่ายหญิง
ตรงกันข้าม ถ้าพ่อแม่ฝ่ายหญิงเรียกร้องสินสอดแล้วไม่ยอมคืน
ยิ่งฝ่ายชายกู้หนี้ยืมสินมาจัดงานแต่งงาน
ดิฉันกลับมองว่า พ่อแม่ฝ่ายหญิงต่างหากที่เป็นฝ่ายเห็นแก่ตัวอย่างมาก
ตอนที่ดิฉันแต่งงาน พ่อแม่ฝ่ายหญิงสมทบสินสอดกลับมาให้ลูกสาวลูกเขยไว้ตั้งตัวด้วยซ้ำ
แทนที่จะมองว่าพ่อแม่เห็นแก่ตัว มองว่าตัวเองเห็นแก่ตัวที่คิดกับพ่อแม่แบบนั้นดีกว่ามั้ย
ถ้าเป็นเงินส่วนตัวของคุณ คุณอยากจะทำอย่างไรก็ได้ไม่มีใครว่า
พ่อแม่คุณมีทัศนคติอย่างหนึ่ง คุณมีทัศนคติอย่างหนึ่ง มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะคนเรามีความเห็นแตกต่างกันได้
แต่การตัดสินใจก็เป็นเรื่องของตัวคุณเอง คุณจะให้พ่อแม่ภรรยาสักสิบล้าน ก็เป็นสิทธิ์ของคุณอยู่แล้ว
แต่การที่พ่อแม่คุณ ขอให้พ่อแม่ภรรยาคืนเงินสินสอดมาให้คู่บ่าวสาวตั้งตัว
คุณมองว่าเป็นเรื่องเห็นแก่ตัว
ดิฉันมองว่า มันไม่ถูกต้องสักเท่าไร
การแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคน ทำไมต้องกู้หนี้ยืมสินเงินมากมายไปให้พ่อแม่ฝ่ายหญิง
เว้นเสียแต่ว่าคุณจะเต็มใจให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงเอง
คนสองคนจะแต่งงานกัน มันมีเหตุผลอะไรที่ฝ่ายชายต้องเอาเงินทองไปให้พ่อแม่ฝ่ายหญิง
ตรงกันข้าม ถ้าพ่อแม่ฝ่ายหญิงเรียกร้องสินสอดแล้วไม่ยอมคืน
ยิ่งฝ่ายชายกู้หนี้ยืมสินมาจัดงานแต่งงาน
ดิฉันกลับมองว่า พ่อแม่ฝ่ายหญิงต่างหากที่เป็นฝ่ายเห็นแก่ตัวอย่างมาก
ตอนที่ดิฉันแต่งงาน พ่อแม่ฝ่ายหญิงสมทบสินสอดกลับมาให้ลูกสาวลูกเขยไว้ตั้งตัวด้วยซ้ำ
แทนที่จะมองว่าพ่อแม่เห็นแก่ตัว มองว่าตัวเองเห็นแก่ตัวที่คิดกับพ่อแม่แบบนั้นดีกว่ามั้ย
ความคิดเห็นที่ 13
พ่อแม่เราจบแค่ตรี ไม่มีสินสอดค่ะ
ลุงป้าเราจบเอกสองใบ โทสองใบ ที่ประเทศอังกฤษ ก็ไม่มีสินสอดค่ะ
อาจมีคนในสังคมที่มองว่าไม่โอเค แต่บ้านเราไม่ใส่ใจ เพราะต่างฝ่ายก็ต้องทำงาน
จะมีก็แต่แม่เรานี่แหละค่ะ ที่ลาออกมาตอนน้องยังเล็ก
ถึงไม่มีสินสอด แต่พ่อก็ให้แม่ถือเงินทั้งหมด และพ่อก็เลี้ยงดูตากับยายเรา
เรามองว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมากว่า 30 ปี มันเยอะกว่าสินสอดอยู่หลายสิบเท่า
ในฐานะที่เราเป็นแม่ และมีลูกชาย อนาคตก็แม่สามีดีๆ นี่เอง (ยกเว้นว่าลูกเราอยากจะเป็นเมียใคร นั่นก็อีกเรื่อง 555)
เราไม่เห็นด้วยกับสินสอดนะคะ ถ้าลูกกับแฟนเขาอยากมี ก็จงเก็บด้วยตัวเอง แต่ไม่ต้องเอาไปให้พ่อแม่ใคร
เก็บไว้ใช้สร้างตัวน่ะแหละ
เด็กผู้ชายไม่ได้เลี้ยงด้วยน้ำค้างและยอดหญ้า เหมือนกันเด็กผู้หญิงน่ะแหละ
สินสอดคือเรื่องล้าหลังค่ะ สำหรับเรานะ สำหรับคนอื่นไม่ทราบและไม่สน
สำหรับเราเท่านี้ค่ะ
ลุงป้าเราจบเอกสองใบ โทสองใบ ที่ประเทศอังกฤษ ก็ไม่มีสินสอดค่ะ
อาจมีคนในสังคมที่มองว่าไม่โอเค แต่บ้านเราไม่ใส่ใจ เพราะต่างฝ่ายก็ต้องทำงาน
จะมีก็แต่แม่เรานี่แหละค่ะ ที่ลาออกมาตอนน้องยังเล็ก
ถึงไม่มีสินสอด แต่พ่อก็ให้แม่ถือเงินทั้งหมด และพ่อก็เลี้ยงดูตากับยายเรา
เรามองว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมากว่า 30 ปี มันเยอะกว่าสินสอดอยู่หลายสิบเท่า
ในฐานะที่เราเป็นแม่ และมีลูกชาย อนาคตก็แม่สามีดีๆ นี่เอง (ยกเว้นว่าลูกเราอยากจะเป็นเมียใคร นั่นก็อีกเรื่อง 555)
เราไม่เห็นด้วยกับสินสอดนะคะ ถ้าลูกกับแฟนเขาอยากมี ก็จงเก็บด้วยตัวเอง แต่ไม่ต้องเอาไปให้พ่อแม่ใคร
เก็บไว้ใช้สร้างตัวน่ะแหละ
เด็กผู้ชายไม่ได้เลี้ยงด้วยน้ำค้างและยอดหญ้า เหมือนกันเด็กผู้หญิงน่ะแหละ
สินสอดคือเรื่องล้าหลังค่ะ สำหรับเรานะ สำหรับคนอื่นไม่ทราบและไม่สน
สำหรับเราเท่านี้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 24
เห็นด้วยกับ จขกท แต่ไม่ทั้งหมด
คุณค่าคนตัดสินไม่ได้ด้วยเงิน จขกท จะเอาคุณค่าในตัวคนมาเทียบเป็นเงิน
บอกเท่านี้น้อยไป มันไม่ถูก จขกท ก็ไม่ได้แตกต่างกับแม่ของ จขกท เท่าไหร่
ไม่ว่าจะเป็นคุณค่าจากการกระทำ คุณวุฒิ หน้าตา หรือต่างๆนาๆ
คุณค่าคนตีเป็นเงินไม่ได้
ส่วนอาจจะเป็นลูกเขย และสามีที่ดีแต่คุณเป็นลูกชายชั้นเลวเลยครับ
พ่อแม่คุณเลี้ยงคุณมาด้วยอากาศหรือเปล่าครับ
พ่อแม่คุณเลี้ยงคุณมาฟูมฟักมาด้วยอะไรที่ไม่ใช่เงินหรือเปล่า
คุณขอบคุณพ่อแม่ด้วยอะไรครับ การไปมาหาสู่ นี่เป็นเบสิคมากๆ
ถ้าทำไม่ได้ก็เอาตัวเองออกจากมรดกไปเลยครับ
ทำไมลูกชายถึงมองว่าเงินที่ตัวเองหามาได้ต้องเอาไปเลี้ยงไปให้เป็นค่าเลี้ยงดูฝ่ายหญิง
ในมุมมองคุณพ่อแม่คุณเห็นแก่ตัว แต่ในอีกมุมหนึ่งคุณมันลูกชายที่เห็นแก่ตัวยิ่งกว่า
ที่มองแต่ในมุมมองของตัวเอง มองในอีกมุมนะครับ
ขอยกข้ออ้างของคุณมานะครับ
คุณออกเรือนมาอยู่ไหนบ้านคุณเองหรือ พ่อแม่คุณไม่เหงาหรอครับ
แล้วถ้าแต่งเข้าบ้านพ่อแม่ พ่อแม่คุณก็ต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่อยู่ดีหรือไม่?
แล้วพ่อแม่คุณวันนี้เงินเยอะดี แต่ถ้าวันหนึ่งท่านป่วยใช้เงินเป็นล้านๆในการรักษา
คนจะเอาสำรองมาจ่ายไหม? ถ้าอยากให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงก็ช่วยให้พ่อแม่ฝ่ายชาย
เช่นหารครึ่งกันคนละ 5แสนยังจะดูดีกว่า
ส่วนเรื่องการตัดสินใจมันก็เป็นเรื่องของคุณเองครับ แต่อ่านแล้วสงสารพ่อแม่คุณครับ
คุณค่าคนตัดสินไม่ได้ด้วยเงิน จขกท จะเอาคุณค่าในตัวคนมาเทียบเป็นเงิน
บอกเท่านี้น้อยไป มันไม่ถูก จขกท ก็ไม่ได้แตกต่างกับแม่ของ จขกท เท่าไหร่
ไม่ว่าจะเป็นคุณค่าจากการกระทำ คุณวุฒิ หน้าตา หรือต่างๆนาๆ
คุณค่าคนตีเป็นเงินไม่ได้
ส่วนอาจจะเป็นลูกเขย และสามีที่ดีแต่คุณเป็นลูกชายชั้นเลวเลยครับ
พ่อแม่คุณเลี้ยงคุณมาด้วยอากาศหรือเปล่าครับ
พ่อแม่คุณเลี้ยงคุณมาฟูมฟักมาด้วยอะไรที่ไม่ใช่เงินหรือเปล่า
คุณขอบคุณพ่อแม่ด้วยอะไรครับ การไปมาหาสู่ นี่เป็นเบสิคมากๆ
ถ้าทำไม่ได้ก็เอาตัวเองออกจากมรดกไปเลยครับ
ทำไมลูกชายถึงมองว่าเงินที่ตัวเองหามาได้ต้องเอาไปเลี้ยงไปให้เป็นค่าเลี้ยงดูฝ่ายหญิง
ในมุมมองคุณพ่อแม่คุณเห็นแก่ตัว แต่ในอีกมุมหนึ่งคุณมันลูกชายที่เห็นแก่ตัวยิ่งกว่า
ที่มองแต่ในมุมมองของตัวเอง มองในอีกมุมนะครับ
ขอยกข้ออ้างของคุณมานะครับ
คุณออกเรือนมาอยู่ไหนบ้านคุณเองหรือ พ่อแม่คุณไม่เหงาหรอครับ
แล้วถ้าแต่งเข้าบ้านพ่อแม่ พ่อแม่คุณก็ต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่อยู่ดีหรือไม่?
แล้วพ่อแม่คุณวันนี้เงินเยอะดี แต่ถ้าวันหนึ่งท่านป่วยใช้เงินเป็นล้านๆในการรักษา
คนจะเอาสำรองมาจ่ายไหม? ถ้าอยากให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงก็ช่วยให้พ่อแม่ฝ่ายชาย
เช่นหารครึ่งกันคนละ 5แสนยังจะดูดีกว่า
ส่วนเรื่องการตัดสินใจมันก็เป็นเรื่องของคุณเองครับ แต่อ่านแล้วสงสารพ่อแม่คุณครับ
ความคิดเห็นที่ 16
ดูเหมือน จขกท จะไม่รัก หรือ มีอะไรน้อยใจ พ่อแม่ตัวเองหรือเปล่าค่ะ
สินสอด ควรหาเองค่ะ. ไม่ควรไปรบกวนพ่อแม่
ถ้าพ่อแม่ท่านให้ฝั่งเจ้าสาวไปแล้วขอคืนให้เจ้าบ่าวสาว ตั้งตัว...ท่านไม่ได้เอามาใช้เองสักหน่อย... ให้บ่าวสาว... แล้ว จขกท จะมาว่า พ่อแม่ตัวเองเห็นแก่ตัวได้อย่างไร
ดูเหมือนว่า จขกท จะเป็นห่วงฝั่งเจ้าสาวมาก ก็เป็นเรื่องดีนะคะ. แต่ จขกท อย่าลืม ดูแล ใส่ใจ พ่อแม่ฝั่งตัวเองด้วยนะคะ. จากที่เขียนมามันพอจะบอกลางๆๆว่า. จขกท อาจมีปม กับ พ่อแม่ ค่ะ
ขอให้ประสบผลสำเร็จในชีวิตคู่. และดูแลพ่อแม่ ทั้ง 2 ฝั่งอย่างเท่าเทียมกันนะคะ. โชคดีค่ะ
สินสอด ควรหาเองค่ะ. ไม่ควรไปรบกวนพ่อแม่
ถ้าพ่อแม่ท่านให้ฝั่งเจ้าสาวไปแล้วขอคืนให้เจ้าบ่าวสาว ตั้งตัว...ท่านไม่ได้เอามาใช้เองสักหน่อย... ให้บ่าวสาว... แล้ว จขกท จะมาว่า พ่อแม่ตัวเองเห็นแก่ตัวได้อย่างไร
ดูเหมือนว่า จขกท จะเป็นห่วงฝั่งเจ้าสาวมาก ก็เป็นเรื่องดีนะคะ. แต่ จขกท อย่าลืม ดูแล ใส่ใจ พ่อแม่ฝั่งตัวเองด้วยนะคะ. จากที่เขียนมามันพอจะบอกลางๆๆว่า. จขกท อาจมีปม กับ พ่อแม่ ค่ะ
ขอให้ประสบผลสำเร็จในชีวิตคู่. และดูแลพ่อแม่ ทั้ง 2 ฝั่งอย่างเท่าเทียมกันนะคะ. โชคดีค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ธรรมเนียมการให้สินสอดปัจจุบันผู้ใหญ่คิดว่าต้องให้ตามวุฒิการศึกษาฝ่ายหญิงจริงเหรอ??? คุณค่าอยู่ที่ไหน
ผมเรียนจบปริญญาตรีพร้อมเธอจากมอดังทางภาคเหนือ
แฟนผมตอนนี้ทำงานประจำและทำงานเสริมไปด้วย รายได้เธอจากงานเสริมมากกว่างานหลัก 4 เท่า แต่มก็ทำควบคู่กันไปเธอเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ และส่งน้องเรียนอีกคนนึง
เราคบกันมา 8 ปีตั้งแต่เข้ามหาลัยแล้วครับ
เธอทำงานเก่งมาก มีทัศนคติที่ดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เป็นคนดีมากครับ
เธออยากเรียนต่อแต่ตอนนี้เธอยังมีเงินไม่มากพอที่จะเรียน
เธอให้เงิน เลี้ยงดู พ่อแม่น้องแบ่งเงินเก็บ ทำกิจการ แบ่งเงินเก็บเรียนต่อและแบ่งเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคต ทั้งหมดนี้เธอทำเองหมดเลย
ผมกลับมาเรียนปริญญาโท หลังจากทำงานไปได้สองปี เพราะคิดว่าเงินเดือนต้องได้มากกว่านี้ถึงจะเลี้ยงดูครอบครัวเธอได้ครับและตั้งใจจะเรียนให้จบจนปริญญาเอก ผมค่อนข้างเก่งเรื่องการเรียน แม่กับพ่อผมส่งเรียนต่อเพราะที่บ้านค่อนข้างมีฐานะ (ฐานะจากเงินพ่อแม่ครับ)
ผมเป็นลูกคนสุดท้อง มีพี่ชายอีกสองคน
พี่คนโตพ่อกับแม่บอกให้เอาเงินไปสู่ขอแฟน เก้าแสนกว่าบาท เหตุผลเพราะสมควรได้เนื่องจากฝ่ายหญิงจบปริญญาโท เป็นอาจารย์มหาลัย ควรจะจัดงานแต่งใหญ่ๆให้สมเกียรติด้วย
ค่าจัดงานทั้งหมดหมดไปประมาณ แสนห้า
และพี่ผมเป็นหนี้อีกสองล้านเพราะกู้เงินมาซื้อรถและสู่ขอ
พี่คนรองเป็นหมอและมีแฟนเป็นหมอ
พ่อกับแม่บอกให้เอาเงินไปสู่ขอแฟนหลักล้าน (ประมาณล้านเก้าแสนบาท) และตัดงานแต่งหรูที่โรงแรมลอดซุ้มกระบี่ เชิญแต่แขกที่มีเกียรติมา
จบงานพี่คนโตเป็นหนี้สี่ล้านครับ
ส่วนผมกำลังปรึกษาแม่ว่าจะแต่งกับเธอ
แม่ผมบอกว่า เธอจบแค่ ป.ตรี สู่ขอห้าแสนพอ
และตอนนั้นแม่กับพ่อก็พยายามพูดให้ผมเลือกหาผู้หญิงคนใหม่ที่จะสมศักดิ์ศรีในใบปริญญาเอกของผม
ท่านไม่เข้าใจเลยว่าถ้าไม่มีเธอผมไปไม่ถึงแน่นอน
เธอช่วยผมแผลเจอนอล ช่วยทำโปรเจค
เป็นคู่คิดคู่ชีวิตเราเป็นเงาของกันและกันมาตลอด
เธอมีคุณค่ามากกว่าทุกสิ่งที่พวกท่านกำหนด
เธอมีค่ามากกว่านั้น
ผมรู้สึกไม่ดีกับทัศนคติของแม่มากๆไม่กล้าเล่าให้แฟนฟัง
แต่เหมือนแฟนผมจะรู้และเธอเข้าใจ
เธอถึงชวนผมเก็บเงินและไม่ให้ผมกู้
เหตุผลเธอคือเธอไม่อยากให้เราเป็นหนี้ครับ
หลังงานแต่งของพี่ทั้งสอง พี่สะใภ้คนโตทำงานบ้านไม่เป็นไม่ซักผ้า ทุกอย่างจ้างเอาหมดกินแต่อาหารร้านหรูข้างนอก กับข้าวไม่ยอมทำเลยหลังๆแม่บ่นว่าพี่สะใภ้คนโตขี้เกียจครับเงินเดือนพี่สะใภ้คนโตที่เป็นอาจารย์ จบป.โทยังไม่ถึงครึ่งของเงินเดือนที่แฟนผมหาได้เลยครับตอนนี้ แต่เธอมีกระเป๋าหรู มีไอโฟนx มีรถหรูขับด้วยเงินที่เป็นหนี้
พี่สะใภ้คนรองเป็นหมอ มีธุรกิจที่บ้านก่อนแต่งนึกว่าเป็นทรัพย์สินทีมี 10ล้าน (คือรีสอร์ท) หลังแต่งเพิ่งทราบว่ากิจการไปไม่ไหวกลายเป็นหนี้สิน เกือบแปดล้าน
เงินสินสอดของพี่ชายทั้งสองคนแม่เรียกเอาจากพ่อแม่พี่สะใภ้บอกว่าให้เอาให้ทั้งสองไว้ตั้งตัว
สรุปคือพ่อแม่พี่สะใภ้ไม่ได้เงินเต็มจำนวนจากสินสอดนั้น
ผมว่าฝั่งครอบครัวผมเห็นแก่ตัว
พี่ทั้งสองมีลูกเป็นเด็กพิเศษทั้งคู่
ลูกจากพี่คนโตเป็นcerebal palsy
ลูกของพี่คนรองเป็น ออทิซึม
เด็กทั้งสองผมก็รักมากเพราะคือหลานของผม
ตอนนี้
ผมตั้งใจจะให้เงินสู่ขอเธอทั้งหมดหนึ่งล้านเก้าหมื่นบาทกับพ่อแม่เธอโดยไม่เรียกร้องเอาใดๆคืนเลยครับ
เธอเป็นหัวหน้าครอบครัว
พ่อกับแม่เธอคงจะเหงามากถ้าเธอแต่งงานออกเรือนไปอยู่กับผม และถึงเราจะไปมาหาสู่กับพ่อแม่แต่มันก็เทียบไม่ได้เลยที่ท่านจะอดคิดถึงลูกสาวแสนดีของท่านไม่ได้
ผมเสียใจที่แม่ผมมองเธอแค่ระดับการศึกษา คุณค่าของเธอมันมากเกินกว่านั้นมากครับ
อยากเตือนให้พ่อแม่ผู้ใหญ่หลายๆคนที่มีลูกเป็นผู้ชาย พวกคุณควรให้เกียรติฝ่ายหญิงด้วยนะครับ และเลิกความคิดที่ให้จำนวนเงินสินสอดจากวุฒิได้แล้ว ผมได้ยินในวงผู้ใหญ่ที่เป็นอาจารย์เป็น ดร. คุยๆกับเรื่องนี้มามากเหมือนมันถูกฝังไว้เป็นธรรมเนียมไปแล้ว ดูที่ระดับคุณค่าภายในของคนดีกว่าครับ
ไม่ว่าฝั่งหญิงจะเป็นพนักงานโรงงาน แม่ค้า นักฯลฯ พนักงานธรรมดา ปริญาตรี ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามทุกคนไม่ควรโดนลดคุณค่าเพราะเรื่องแบบนี้ครับ
อย่าให้การเรียนปริญญาโท ปริญญาเอกเป็นสิ่งที่ใช้ต่อรองค่าสินสอดอีกเลย
คุณค่าของการเรียนมันมีมากกว่านั้น
และถ้าผญ คิดว่า การจบโทแบบง่ายๆ เพื่ออัพโปรไฟล์ แต่ทำงานไม่เป็น หาเงินไม่เก่ง ทำงานอะไรไม่เป็นเลย พ่อแม่เงินเงินส่งเรียนก็แค่นั้น ให้คิดใหม่ครับ ใส่คุณค่าของชีวิตเข้าไปด้วย