
7 สิงหา สู้บนทางปืน
.
" แม่ ไปได้แล้วนะ "
เสียงพ่อบอกแม่เพื่อให้พร้อมเดินทาง
" จ๊ะ พ่อ แล้วนุ่นอยู่ไหนละ "
แม่ถามพ่ออีกครั้ง
" รอในรถยนต์แล้ว "
พ่อตอบกลับให้แม่ทราบ
ความคิดคำนึงย้อนกลับคืนมาอีกครั้ง
ความทรงจำที่อยากจะลืมเลือน
แต่ก็ไม่อาจจะลืมได้ตลอดกาล
ตราบจนสิ้นลมหายใจในที่สุด
สิ้นวันที่เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม ในปีนั้น
ยังจำได้ว่า ไก่ ลูกชายที่เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีตรัง
ได้กลับมาที่บ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้ากับนำเสื้อผ้าไปบางส่วน
บอกแม่ว่าจะไปพักกับเพื่อนที่ต่างจังหวัดสักช่วงหนึ่ง
แม่ก็บอกว่า รีบไปรีบกลับนะ เพราะแม่เป็นห่วง
ไก่บอกไปไม่นานหรอกแม่ อยากจะไปพักผ่อนเท่านั้นเอง
มหาวิทยาลัยก็ปิดการเรียนการสอนและหยุดสอบหนึ่งเดือน
เพราะเหตุการณ์จราจลฆ่ากันตายในเมืองหลวง
ตามด้วยการรัฐประหารที่มีการประกาศปิดมหาวิทยาลัยทุกแห่ง
ทางบ้านนอกก็ทราบข่าวไม่แน่ชัดมากนัก
นอกจากกระบอกเสียงรัฐบาลว่า ปราบคอมมิวนิสต์
นักศึกษาเป็นคอมมิวนิสต์ ฆ่าคอมฯไม่บาป เหมือนแกงปลาถวายพระ
ไก่เดินไปหาพ่อแล้วบอกลาพ่อ
" ขอเงินไปเที่ยวหน่อยครับ พ่อ "
พ่อเลยหยิบเงินให้หนึ่งพันบาท
บอกใช้จ่ายประหยัด ๆ หน่อยนะลูก
ตอนนี้งานตัดเย็บเสื้อผ้าในค่ายทหารก็ไม่ค่อยมี
เพราะงบประมาณหมดแล้วต้องรอปีงบประมาณหน้า
รวมทั้งค่าใช้จ่ายนายทหาร/ทหารหลาย ๆ คน
มักจะต้องจ่ายกันมากมากทุก ๆ ปี
ตอนก่อนสิ้นปีงบประมาณในเดือนกันยายนของทุก ๆ ปี
เพราะต้องเลี้ยงรับ/เลี้ยงส่งเจ้านาย
ที่ต้องโยกย้าย/เกษียณอายุราชการกันมากในช่วงนี้
ทำให้ครอบครัวไม่ค่อยมีรายรับจากการตัดเย็บเสื้อผ้าใหม่
" ขอบคุณ ครับพ่อ
ไปแล้วนะ แม่
ไปแล้วนะ พ่อ " ไก่บอกลาพ่อแม่
แล้วหอมแก้มนุ่นน้องสาวก่อนไป
พร้อมกับมอบเงินให้นุ่นหนึ่งร้อยบาท
ก่อนเดินออกไปจากบ้าน
พฤษภาฟ้าพรายกลางสายฝน
แว่วข่าวว่าไก่ไปเป็นทหารป่า
แต่ไม่รู้ว่าอยู่เขตไหนของสยาม
เพราะมีนายทหารจาก กอ.รมน. มาสอบถามที่บ้าน
บอกว่า ถ้าไก่กลับมาให้ไปรายงานตัวด้วย
พร้อมกับมีหนังสือมหาวิทยาลัยศรีตรังแจ้งรีไทร์ไก่ตามมา
เพราะไม่ได้ลงทะเบียนเรียนกับเข้าเรียนเข้าสอบอีกเลย
หลังจากมหาวิทยาลัยเปิดเรียนได้สองภาคการศึกษาแล้ว
พ่อกับแม่ได้แต่เงียบงัน
ไม่รู้จะตอบนุ่นว่าอย่างไร
ว่าพี่ชายหายไปไหน ทำไมไม่กลับบ้าน
นายทหารในค่ายก็มองแบบงง ๆ กึ่งสงสัย
ที่มีข่าวลือว่า ลูกคนในค่ายทหารไปเป็นคอมมิวนิสต์
พ่อกับแม่ทำมาหากินในค่ายทหาร
ด้วยการเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าในค่ายทหาร
ซึ่งเป็นสวัสดิการภายในส่วนหนึ่งให้ครอบครัวทหาร
กับได้รับงานจ้างเหมาของส่วนราชการ
ในการตัดเย็บชุดทหารประจำปี
และซ่อมแซมเสื้อผ้าของทหารภายในค่าย
พ่อแม่ผูกพันกับสถานที่แห่งนี้ยาวนานมาหลายสิบปีแล้ว
แล้วทางกองทัพก็ให้พักอาศัยในค่ายทหารเพื่อทำอาชีพนี้
พร้อม ๆ กับบางคนที่ทำร้านอาหารในค่ายทหาร
เพื่อเป็นสวัสดิการภายในค่ายทหารด้วยเช่นกัน
.
คำสั่งที่ 66/23 ของป๋าเปรม(นายกรัฐมนตรี)
ให้นิสิต นักศึกษา และทหารป่าทุกคน
มารายงานตัวกับทางการภายในเร็วพลัน
จะถือว่าไม่มีความผิดประการใดทั้งสิ้น
และขอเชิญตัวเข้าค่ายฝึกอบรมหนึ่งเดือน
พร้อมกับให้กลับไปเรียนหนังสือได้ตามปรกติ
ไม่ถือว่าขาดการเรียนหรือถูกรีไทร์
พ่อกับแม่ได้แต่รอว่า ไก่จะกลับมาหรือไม่
แม่กระวนกระวายในเรื่องตามหาไก่มากกว่าพ่อ
แม่จึงไปตามหาไก่ที่มหาวิทยาลัย
จนเจอเพื่อนสนิทไก่ที่เข้าป่าแล้วกลับมาเรียนใหม่อีกครั้ง
คำตอบที่ทำให้หัวใจแม่พ่อและนุ่นสลายในวันนั้น
ไก่ถูกกับระเบิดตายในสนามรบหลังจากเข้าป่าไม่กี่ปี
ตอนจะเข้าปะทะกับทหารที่ค่ายแห่งหนึ่ง
ศพไก่ถูกลากออกมาได้
แล้วเผาศพพร้อมโปรยกระดูกลงแม่น้ำไปแล้ว
แม่กับพ่อได้แต่ขอร้องให้เพื่อนไก่
ช่วยพาไปจุดที่ไก่ตายได้ไหม
ก็ต้องรอวันเสาร์อาทิตย์จึงไปได้
แต่จุดที่ไก่ตายก็จำไม่ได้แล้ว
จุดที่เผาก็จำไม่ได้แล้ว
เหลือแต่ลำธารสายน้ำที่ลอยอังคารไก่ที่พอเห็นอยู่
แม่พ่อและนุ่นได้แต่จุดธูปเทียนโปรยดอกไม้อำลา
พร้อมกลับบ้านทำบุณย์ให้ไก่ตามประเพณีทางศาสนาพุทธ
ใครถามก็ได้แต่ร้องไห้ ไม่กล้าบอกว่าเรื่องอะไร
เพราะน่าอับอายและน่าหวาดกลัวเรื่องนี้
ในการที่มีลูกชายไปเป็นทหารป่า/ทหารคอมมิวนิสต์
.
หลายปีต่อมา
ทางการบอกเลิกการตัดเย็บเสื้อผ้าในค่ายทหาร
เพราะมีการรับเหมารายใหญ่รายเดียวจากกรุงเทพฯ
และต้องการผูกขาดรายเดียวในประเทศ
รวมทั้งเสื้อผ้าสำเร็จรูปเริ่มเป็นที่นิยมกันมากแล้ว
ทำให้ความจำเป็นในเรื่องการตัดเย็บเสื้อผ้าลดลงไปมาก
พ่อแม่ไก่เลยต้องย้ายออกจากค่ายทหาร
เพื่อเดินทางไปทำมาหากินในกรุงเทพฯ
หลังจากนุ่นไปทำงานที่กรุงเทพฯ หลายปีแล้ว
ห้องนอนไก่ยังมีเสื้อผ้าและหนังสือจัดวางอยู่
นานหลายปีแล้วที่ไก่ไม่เคยกลับมาอีกเลย
แม่ได้แต่ทำความสะอาดรออยู่ทุกวี่วัน
เพราะพยายามคิดว่าไก่ยังไม่ตาย
ไม่คิดจะเชื่อเลยตามที่เพื่อนบอก
พ่อได้แต่ส่ายหน้าและทำใจเรื่องนี้
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว
ที่พ่อแม่จะอยู่ในค่ายทหารก่อนย้ายบ้านไปกรุงเทพฯ
นุ่นก็ขอลางานหน่วยงานหนึ่งสัปดาห์กลับมาบ้าน
เพื่อมาช่วยพ่อแม่ย้ายบ้านไปอยู่ที่กรุงเทพฯ
พ่อได้แต่แจกจ่ายหนังสือ
กับข้าวของบางอย่างของไก่ให้กับคนที่ต้องการ
เสื้อผ้าไก่ก็บริจาคไปล่วงหน้าแล้ว
ให้กับคนที่ถูกน้ำท่วมในปีที่แล้ว
หลังจากทราบข่าวล่วงหน้าเมื่อปีที่แล้ว
ว่าปีนี้ปีสุดท้ายที่จะอยู่ในค่ายทหารได้
" ไปนะแม่ ไปนะนุ่น
เดี๋ยวไปลอยอังคารไก่ที่ทะเลสาบสงขลา
ทะเลที่ไก่ชอบยืนมองและชอบไปเที่ยว "
พ่อบอกแม่กับนุ่น พร้อมกับขับรถยนต์กะบะออกไป
พ่อกับนุ่นได้พูดคุยกับแม่ให้ทำใจเรื่องไก่
เพราะคงตายแน่นอนแล้วหลังจากผ่านไปหลายปี
ไก่กลับมาที่นี่ก็คงไม่เจอบ้านเก่าแล้ว
เพราะมีข่าวว่าทางการจะรื้อทิ้งสร้างใหม่เป็นบ้านพักนายทหาร
และถ้าไก่กลับมาจริง ไก่ก็คงติดต่อพ่อแม่นุ่นยากแล้ว
ยิ่งถ้าย้ายเข้ากรุงเทพฯเมืองที่กว้างใหญ่ไพศาล
บางทีอาจจะไม่เจอกันอีกตลอดชีวิตแล้ว
สู้พวกเราไปทำพิธีลอยอังคารให้ไก่
แม้ว่าจะไม่มีเถ้ากระดูก(อังคาร)ของไก่เลยก็ตาม
อย่างน้อยก็ได้ยอมรับกันในบ้านว่า ไก่ตายแล้ว
ลาแล้วบ้านเก่า
ลาแล้วความทรงจำในอดีต
ลาแล้วไก่
พ่อแม่กับนุ่น ลอยอังคารไก่ด้วยดอกไม้และกระทง
สมมุติว่าได้ลอยอังคารไก่ไปกับสายน้ำล่วงหน้าก่อนแล้ว
อีกไม่นานครอบครัวเราคงจะมาอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าอีกครั้ง
เสียงบอกเล่าจากความทรงจำของพ่อที่ชราภาพแล้ว
พร้อมกับชี้ไปที่แม่ที่เป็นโรคความจำเสื่อม
แต่ไม่เคยลืมว่าครั้งหนึ่งเคยมีไก่ ลูกชายอีกคนหนึ่ง
ทึ่ไม่เคยกลับมา/เยี่ยมเยือนอีกเลยหลัง 6 ตุลาคม 2519
ส่วนนุ่นก็กำลังพาแม่เดินอยู่ในหมู่บ้าน
ซึ่งเธอทำเป็นประจำในวันหยุดงาน
เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ
ก่อนที่จะเลือนหายไปกับสายน้ำ
.

ทุกชีวิตเป็นเช่นนั้นเอง
ลอยอังคารครั้งที่สอง
7 สิงหา สู้บนทางปืน
.
" แม่ ไปได้แล้วนะ "
เสียงพ่อบอกแม่เพื่อให้พร้อมเดินทาง
" จ๊ะ พ่อ แล้วนุ่นอยู่ไหนละ "
แม่ถามพ่ออีกครั้ง
" รอในรถยนต์แล้ว "
พ่อตอบกลับให้แม่ทราบ
ความคิดคำนึงย้อนกลับคืนมาอีกครั้ง
ความทรงจำที่อยากจะลืมเลือน
แต่ก็ไม่อาจจะลืมได้ตลอดกาล
ตราบจนสิ้นลมหายใจในที่สุด
สิ้นวันที่เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม ในปีนั้น
ยังจำได้ว่า ไก่ ลูกชายที่เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีตรัง
ได้กลับมาที่บ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้ากับนำเสื้อผ้าไปบางส่วน
บอกแม่ว่าจะไปพักกับเพื่อนที่ต่างจังหวัดสักช่วงหนึ่ง
แม่ก็บอกว่า รีบไปรีบกลับนะ เพราะแม่เป็นห่วง
ไก่บอกไปไม่นานหรอกแม่ อยากจะไปพักผ่อนเท่านั้นเอง
มหาวิทยาลัยก็ปิดการเรียนการสอนและหยุดสอบหนึ่งเดือน
เพราะเหตุการณ์จราจลฆ่ากันตายในเมืองหลวง
ตามด้วยการรัฐประหารที่มีการประกาศปิดมหาวิทยาลัยทุกแห่ง
ทางบ้านนอกก็ทราบข่าวไม่แน่ชัดมากนัก
นอกจากกระบอกเสียงรัฐบาลว่า ปราบคอมมิวนิสต์
นักศึกษาเป็นคอมมิวนิสต์ ฆ่าคอมฯไม่บาป เหมือนแกงปลาถวายพระ
ไก่เดินไปหาพ่อแล้วบอกลาพ่อ
" ขอเงินไปเที่ยวหน่อยครับ พ่อ "
พ่อเลยหยิบเงินให้หนึ่งพันบาท
บอกใช้จ่ายประหยัด ๆ หน่อยนะลูก
ตอนนี้งานตัดเย็บเสื้อผ้าในค่ายทหารก็ไม่ค่อยมี
เพราะงบประมาณหมดแล้วต้องรอปีงบประมาณหน้า
รวมทั้งค่าใช้จ่ายนายทหาร/ทหารหลาย ๆ คน
มักจะต้องจ่ายกันมากมากทุก ๆ ปี
ตอนก่อนสิ้นปีงบประมาณในเดือนกันยายนของทุก ๆ ปี
เพราะต้องเลี้ยงรับ/เลี้ยงส่งเจ้านาย
ที่ต้องโยกย้าย/เกษียณอายุราชการกันมากในช่วงนี้
ทำให้ครอบครัวไม่ค่อยมีรายรับจากการตัดเย็บเสื้อผ้าใหม่
" ขอบคุณ ครับพ่อ
ไปแล้วนะ แม่
ไปแล้วนะ พ่อ " ไก่บอกลาพ่อแม่
แล้วหอมแก้มนุ่นน้องสาวก่อนไป
พร้อมกับมอบเงินให้นุ่นหนึ่งร้อยบาท
ก่อนเดินออกไปจากบ้าน
พฤษภาฟ้าพรายกลางสายฝน
แว่วข่าวว่าไก่ไปเป็นทหารป่า
แต่ไม่รู้ว่าอยู่เขตไหนของสยาม
เพราะมีนายทหารจาก กอ.รมน. มาสอบถามที่บ้าน
บอกว่า ถ้าไก่กลับมาให้ไปรายงานตัวด้วย
พร้อมกับมีหนังสือมหาวิทยาลัยศรีตรังแจ้งรีไทร์ไก่ตามมา
เพราะไม่ได้ลงทะเบียนเรียนกับเข้าเรียนเข้าสอบอีกเลย
หลังจากมหาวิทยาลัยเปิดเรียนได้สองภาคการศึกษาแล้ว
พ่อกับแม่ได้แต่เงียบงัน
ไม่รู้จะตอบนุ่นว่าอย่างไร
ว่าพี่ชายหายไปไหน ทำไมไม่กลับบ้าน
นายทหารในค่ายก็มองแบบงง ๆ กึ่งสงสัย
ที่มีข่าวลือว่า ลูกคนในค่ายทหารไปเป็นคอมมิวนิสต์
พ่อกับแม่ทำมาหากินในค่ายทหาร
ด้วยการเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าในค่ายทหาร
ซึ่งเป็นสวัสดิการภายในส่วนหนึ่งให้ครอบครัวทหาร
กับได้รับงานจ้างเหมาของส่วนราชการ
ในการตัดเย็บชุดทหารประจำปี
และซ่อมแซมเสื้อผ้าของทหารภายในค่าย
พ่อแม่ผูกพันกับสถานที่แห่งนี้ยาวนานมาหลายสิบปีแล้ว
แล้วทางกองทัพก็ให้พักอาศัยในค่ายทหารเพื่อทำอาชีพนี้
พร้อม ๆ กับบางคนที่ทำร้านอาหารในค่ายทหาร
เพื่อเป็นสวัสดิการภายในค่ายทหารด้วยเช่นกัน
.
คำสั่งที่ 66/23 ของป๋าเปรม(นายกรัฐมนตรี)
ให้นิสิต นักศึกษา และทหารป่าทุกคน
มารายงานตัวกับทางการภายในเร็วพลัน
จะถือว่าไม่มีความผิดประการใดทั้งสิ้น
และขอเชิญตัวเข้าค่ายฝึกอบรมหนึ่งเดือน
พร้อมกับให้กลับไปเรียนหนังสือได้ตามปรกติ
ไม่ถือว่าขาดการเรียนหรือถูกรีไทร์
พ่อกับแม่ได้แต่รอว่า ไก่จะกลับมาหรือไม่
แม่กระวนกระวายในเรื่องตามหาไก่มากกว่าพ่อ
แม่จึงไปตามหาไก่ที่มหาวิทยาลัย
จนเจอเพื่อนสนิทไก่ที่เข้าป่าแล้วกลับมาเรียนใหม่อีกครั้ง
คำตอบที่ทำให้หัวใจแม่พ่อและนุ่นสลายในวันนั้น
ไก่ถูกกับระเบิดตายในสนามรบหลังจากเข้าป่าไม่กี่ปี
ตอนจะเข้าปะทะกับทหารที่ค่ายแห่งหนึ่ง
ศพไก่ถูกลากออกมาได้
แล้วเผาศพพร้อมโปรยกระดูกลงแม่น้ำไปแล้ว
แม่กับพ่อได้แต่ขอร้องให้เพื่อนไก่
ช่วยพาไปจุดที่ไก่ตายได้ไหม
ก็ต้องรอวันเสาร์อาทิตย์จึงไปได้
แต่จุดที่ไก่ตายก็จำไม่ได้แล้ว
จุดที่เผาก็จำไม่ได้แล้ว
เหลือแต่ลำธารสายน้ำที่ลอยอังคารไก่ที่พอเห็นอยู่
แม่พ่อและนุ่นได้แต่จุดธูปเทียนโปรยดอกไม้อำลา
พร้อมกลับบ้านทำบุณย์ให้ไก่ตามประเพณีทางศาสนาพุทธ
ใครถามก็ได้แต่ร้องไห้ ไม่กล้าบอกว่าเรื่องอะไร
เพราะน่าอับอายและน่าหวาดกลัวเรื่องนี้
ในการที่มีลูกชายไปเป็นทหารป่า/ทหารคอมมิวนิสต์
.
หลายปีต่อมา
ทางการบอกเลิกการตัดเย็บเสื้อผ้าในค่ายทหาร
เพราะมีการรับเหมารายใหญ่รายเดียวจากกรุงเทพฯ
และต้องการผูกขาดรายเดียวในประเทศ
รวมทั้งเสื้อผ้าสำเร็จรูปเริ่มเป็นที่นิยมกันมากแล้ว
ทำให้ความจำเป็นในเรื่องการตัดเย็บเสื้อผ้าลดลงไปมาก
พ่อแม่ไก่เลยต้องย้ายออกจากค่ายทหาร
เพื่อเดินทางไปทำมาหากินในกรุงเทพฯ
หลังจากนุ่นไปทำงานที่กรุงเทพฯ หลายปีแล้ว
ห้องนอนไก่ยังมีเสื้อผ้าและหนังสือจัดวางอยู่
นานหลายปีแล้วที่ไก่ไม่เคยกลับมาอีกเลย
แม่ได้แต่ทำความสะอาดรออยู่ทุกวี่วัน
เพราะพยายามคิดว่าไก่ยังไม่ตาย
ไม่คิดจะเชื่อเลยตามที่เพื่อนบอก
พ่อได้แต่ส่ายหน้าและทำใจเรื่องนี้
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว
ที่พ่อแม่จะอยู่ในค่ายทหารก่อนย้ายบ้านไปกรุงเทพฯ
นุ่นก็ขอลางานหน่วยงานหนึ่งสัปดาห์กลับมาบ้าน
เพื่อมาช่วยพ่อแม่ย้ายบ้านไปอยู่ที่กรุงเทพฯ
พ่อได้แต่แจกจ่ายหนังสือ
กับข้าวของบางอย่างของไก่ให้กับคนที่ต้องการ
เสื้อผ้าไก่ก็บริจาคไปล่วงหน้าแล้ว
ให้กับคนที่ถูกน้ำท่วมในปีที่แล้ว
หลังจากทราบข่าวล่วงหน้าเมื่อปีที่แล้ว
ว่าปีนี้ปีสุดท้ายที่จะอยู่ในค่ายทหารได้
" ไปนะแม่ ไปนะนุ่น
เดี๋ยวไปลอยอังคารไก่ที่ทะเลสาบสงขลา
ทะเลที่ไก่ชอบยืนมองและชอบไปเที่ยว "
พ่อบอกแม่กับนุ่น พร้อมกับขับรถยนต์กะบะออกไป
พ่อกับนุ่นได้พูดคุยกับแม่ให้ทำใจเรื่องไก่
เพราะคงตายแน่นอนแล้วหลังจากผ่านไปหลายปี
ไก่กลับมาที่นี่ก็คงไม่เจอบ้านเก่าแล้ว
เพราะมีข่าวว่าทางการจะรื้อทิ้งสร้างใหม่เป็นบ้านพักนายทหาร
และถ้าไก่กลับมาจริง ไก่ก็คงติดต่อพ่อแม่นุ่นยากแล้ว
ยิ่งถ้าย้ายเข้ากรุงเทพฯเมืองที่กว้างใหญ่ไพศาล
บางทีอาจจะไม่เจอกันอีกตลอดชีวิตแล้ว
สู้พวกเราไปทำพิธีลอยอังคารให้ไก่
แม้ว่าจะไม่มีเถ้ากระดูก(อังคาร)ของไก่เลยก็ตาม
อย่างน้อยก็ได้ยอมรับกันในบ้านว่า ไก่ตายแล้ว
ลาแล้วบ้านเก่า
ลาแล้วความทรงจำในอดีต
ลาแล้วไก่
พ่อแม่กับนุ่น ลอยอังคารไก่ด้วยดอกไม้และกระทง
สมมุติว่าได้ลอยอังคารไก่ไปกับสายน้ำล่วงหน้าก่อนแล้ว
อีกไม่นานครอบครัวเราคงจะมาอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าอีกครั้ง
เสียงบอกเล่าจากความทรงจำของพ่อที่ชราภาพแล้ว
พร้อมกับชี้ไปที่แม่ที่เป็นโรคความจำเสื่อม
แต่ไม่เคยลืมว่าครั้งหนึ่งเคยมีไก่ ลูกชายอีกคนหนึ่ง
ทึ่ไม่เคยกลับมา/เยี่ยมเยือนอีกเลยหลัง 6 ตุลาคม 2519
ส่วนนุ่นก็กำลังพาแม่เดินอยู่ในหมู่บ้าน
ซึ่งเธอทำเป็นประจำในวันหยุดงาน
เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ
ก่อนที่จะเลือนหายไปกับสายน้ำ
.
ทุกชีวิตเป็นเช่นนั้นเอง