ช็อค จนต้องร้องเรียน

ดิฉันต้องการเขียนเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวดิฉันเอง ซึ่งสร้างทั้งความลำบากและปัญหาต่างๆ มากมาย ด้วยเหตุผลของความสะเพร่าของเจ้าพนักงานกสิกร
ว่าด้วยเรื่อง

เจ้าพนักงานกสิกรไทย สาขา เดอะ มอลล์ บางแค รับเช็ค สกุลเงิน AED ของสหรัฐอาหรับอีมีเรท ที่ดิฉันนำไปขึ้น เพื่อเข้าบัญชีที่กสิกรที่ผูกกับเงินกู้ค่าคอนโดที่กู้จากกสิกร เพื่อให้ทางธนาคารตัดค่าเงินกู้ทุกเดือน โดยเจ้าพนักงานดังกล่าวได้ทำการอนุมัติรับเช็คเป็นอย่างดี แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าสกุลเงินดังกล่าวทางธนาคารกสิกรยังรับอยู่หรือไม่ ทำให้เช็คดังไม่สามารถขึ้นเงินและฝากเข้าบัญชีของดิฉันได้ในภายหลัง

ฟังดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาอะไรแต่อย่างใดใช่ไหมคะ?
ทำไมดิฉันต้องเครียดหาทางออกไม่ได้จนต้องมาเล่าให้เพื่อนๆ pantip ฟัง?
ยังค่ะ เดี๋ยวก่อนค่ะ มันมีมุมหักเห มากกว่าแค่เจ้าพนักงานกสิกรที่สะเพร่าค่ะ

หลังจากนำเช็คไปขึ้นที่กสิกรเพื่อเข้าบัญชีที่เป็นบัญชีที่ทางกสิกรหักค่าเงินกู้คอนโดตามที่เล่ามาแล้ว ดิฉันก็เดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลา 3 เดือน โดยที่คิดมาตลอดว่าเงินเข้าบัญชีเรียบร้อยดี

พอกลับมาประเทศไทยจึงพบว่า เช็คไม่สามารถเข้าบัญชีได้เพราะทางกสิกรมีการเปลี่ยนนโยบายเรื่องสกุลเงินที่รับ
ดิฉันตกใจเป็นอย่างมากและขอคุยกับผู้จัดการสาขา รอบแรกทางพนักงานแจ้งว่าผู้จัดการไม่ว่าง ดิฉันยืนกรานไม่ยอมกลับนอกจากจะได้พบผู้จัดการเพื่อพูดคุยถึงปัญหาดังกล่าว ทางกสิกรไม่ให้ความร่วมมือจนดิฉันต้องอธิบายว่าเงินดังกล่าวนำมาเข้าบัญชีกสิกรที่ตัดค่าเงินกู้ เท่านั้นแหละ! ผู้จัดการว่างคุยทันที

ดิฉันได้พูดคุยกับผู้จัดการเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นและสอบถามว่า
ในเมื่อเช็คไม่ได้ถูกนำเข้า ธนาคารไม่สามารถหักค่าผ่อนชำระเงินกู้ได้ ดิฉันกำลังเจอกับปัญหาติด blacklist และยังต้องเสียดอกเบี้ยทบมาเป็นจำนวนเท่าไหร่ และใครจะรับผิดชอบตรงนี้
ผู้จัดการแค่ยิ้ม ขอดูเอกสาร และบอกว่าจะช่วยเต็มที่ ขอโทษที แต่ธนาคารสามารถเปลี่ยนกฎและนโยบายต่างๆ ได้โดยไม่ต้องแจ้ง
ท่านกล่าวอีกว่าจะโทรกลับเมื่อไปคุยกับสำนักงานใหญ่เรื่องกรณีของดิฉัน

ดิฉันไม่เข้าใจว่าทำไมทาง เดอะ มอลล์ บางแค ไม่ส่งอีเมลแจ้งว่านำเช็คเข้าไม่ได้ มีแต่โทรเข้าเบอร์ที่ไทย ซึ่งดิฉันเองก็ไม่ได้อยู่ประเทศตามที่กล่าวไว้ข้างต้น โทรไม่ติดแต่ไม่พยายามติดต่อทางอื่นเลยค่ะ

นอกจากนั้นนะคะ เวลาผ่านไป 1อาทิตย์ หลังจากพบผู้จัดการสาขา เดอะ มอลล์ บางแค แต่ดิฉันไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างใดจากผู้จัดการสาขา งแม้แต่น้อย

ดิฉันเลยตัดสินใจไปที่สาขาสีลม เพื่อพบกับผู้จัดการสาขานั่นแทนเพื่อขอความช่วยเหลือ
ที่สาขา สีลม บริการและความใส่ใจ ต่างกันราวฟ้ากับดิน
เมื่อไปถึงและเล่าเรื่องคร่าวๆ ให้ผู้ช่วยผู้จัดการสาขาฟัง เธอได้ช่วยอย่างเต็มที่โดยเริ่มจากเช็คว่านโยบายที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้น เปลี่ยนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ พบว่า เปลี่ยนมาตั้งแต เดือน 4 ปี 60
แต่ดิฉันนำเช็คเข้าเมื่อวันที่ 14 เดือน 8 ปี 60
แสดงว่าเจ้าพนักงานทำงานผิดพลาดที่รับเช็ค ทั้งๆ ที่มีการเปลี่ยนนโยบายมานานกว่า 4 เดือนแล้ว
ผู้จัดการสาขาดังกล่าวยังเช็คให้อีกว่า ดิฉันติด blacklist และต้องหาเงิน จำนวน มากกว่า 140000 บาทมาโป๊ะค่าดอกที่เกินจากการที่ไม่มีเงินในบัญชีเพื่อหักชำระค่าเงินกู้ของกสิกร

ทำไมทางสาขา เดอะ มอลล์ ไม่ช่วยเลย ทำไมทำงานต่างกันขนาดนี้ ดิฉันไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ
จะเป็นลมค่ะ อยู่ดีๆ ต้องหาเงินกว่า 140000 บาทมาให้ได้อย่างเร็วที่สุดเพื่อจ่ายค่าดอกกับเงินต้น

อยากจะร้องไห้จริงๆ ดิฉันทั้งเครียดและหมดหนทาง ไม่รู้จะระบายกับใคร สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ความผิดของดิฉัน แต่ต้องมารับภาระดอกเบี้ยแถมติด blacklist ใครมีขอแนะนำยังไงบ้างคะ สามารถทำการฟ้องได้ไหมคะ ขอขอบคุณทุกท่านที่มีไอเดียหรือแนวทางช่วยเหลือดิฉันล่วงหน้าเลยนะคะ

ปล. ผู้ช่วยผู้จัดการสาขาใหญ่สีลม ควรได้รับการยกย่องมากๆ ค่ะ เธอช่วยดิฉันทุกอย่างจริงๆ ควรได้ขึ้นเป็นผู้จัดกาาสาขาและพนักงงานดีเด่นจริงๆ ค่ะ
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ คุณ สุธามาส