มาต่อกันค่ะ จากนี้จะเป็น Jordan นะคะ ใครยังไม่ได้อ่านตอนเริ่มทริป ไปอ่านได้ข้างล่างค่ะ
https://pantip.com/topic/37325706
ส่วนใครมีคำถามหรืออยากเม้ามอย มาเม้ากันได้ที่เพจของเราเด้อ
https://www.facebook.com/chaneerangers/
Day 3 – Amman – Jerash – Aljoan
กลับมาจอร์แดนแล้ว นี่คือแผนของวันนี้ค่ะ
ตื่นเช้ามาด้วยความโทรม ลงมากินอาหารเช้า เหยยย เป็นบุฟเฟ่ที่แย่มากกกกกกกก (คิดว่าเป็นทางเลือกของคนไม่มีทางเลือก โดนตีหัวโป๊กๆ...
ดอกที่ 4) สุดท้ายจบด้วยการจัดสิ่งนี้ค่ะ
ขอบอกเลยว่าเป็นมื้อ (และโรงแรม) ที่ไม่ประทับใจที่สุดในทริปค่ะ แต่จากนี้...อร่อยทุกมื้อเลยค่า ใครว่าอาหารอาหรับไม่อร่อย บอกเลยว่าไม่จริง ทริปนี้กินกันตัวแตก จากหน้าเรียวเป็นหน้ากลมเลยฮะ
อ่ะเริ่มค่ะ เก็บกระเป๋าออกเดินทาง ลิงขับชะนีเม้า เราใช้เส้นเลี่ยงเมืองค่ะ ทริปนี้เราใช้ทั้ง Google Map และ Garmin GPS ค่ะ เพื่อความชัวร์ ถนนหนทางที่นี่ไม่แย่นะคะ แค่ฝุ่นและหลังเต่าเยอะมาก ขับประมาณชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงค่ะ
Jeresh เป็นเมืองโรมันโบราณ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่สภาพสมบูรณ์ที่สุดค่ะ เรียกได้ว่าเป็นที่เรียกแขก (แขก หมายถึงนักท่องเที่ยวทั้งแขกและไม่แขกนะคะ) อันดับสองของ Jordan รองจากเพตราค่ะ
สภาพสมบูรณ์มากจริง และร้อนมากเช่นกัน วันที่เราไปคือฟ้าใสไร้เมฆ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก Instragramable สุดๆ ถ้าใครมีกล้องโปร GoPro หรือเลนส์ไวด์จะยิ่งฟินมากค่ะ
ประตูทางเข้าก็อลังละ
อันนี้เหมือนเป็นลานกลางเมืองค่ะ แยกซ้ายขวาไปที่ต่างๆ
มุมสูงเด้อ ประทับใจในคนสร้างมากๆ
Roman Theater อันนี้แบบถ้าเรายืนที่เวที แค่พูดเบาๆ ก็ได้ยินเสียงไปถึงแถวหลังเลย
ทางเดินไปวิหาร

ขอให้ไปถ่ายรูปค่ะ มุมสวยๆ เยอะมาก
ระหว่างทางเดินเข้าเนี่ย จะมี Local Guide booth คิด 20JD แต่ตอนนั้นเราเชิดเพราะคิดว่าไม่จำเป็นค่ะ แต่หารู้ไม่ว่าความซวยกำลังจะมาเยือนในไม่ช้า
เดินๆชมเมืองไป จะมีแขกพยายามมาฮิตเราเรื่อยๆค่ะ มาถ่ายรูปให้บ้าง แนะนำมุมโน่นนี่บ้าง เรากทำหน้ามึนๆเดินหนีมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ไม่รอดค่ะ เจอลูกตื้อของแขกหนุ่มคนนึงเข้าไป (โดนแต่สองคนนะคะ หมวยกะน้องบี) คือนางมาถ่ายรูปให้บีค่ะ แล้วก็แบบนี่ยู ใต้วิหารนี้มีห้องใต้ดินด้วยนะตามไอมา อันนี้ปกติปิดไว้เข้าไม่ได้นะ หมวยก็แบบหูผึ่ง จริงหรา นางบอกตามมาๆพิเศษเดี๋ยวนางเปิดให้ดู
หมวยก็นะ ดันตามเค้าไป (คือตอนนั้นน้อง B หาทางหนีแล้ว แต่เจ๊หมวยดันเดินตาม เลยตามเลยมาด้วยกัน) แขกหนุ่มก็เอากุญแจมาเปิดห้องใต้ดินให้ดูค่ะ นางเล่าว่าที่ใต้ดินเป็นที่เก็บอาหารและของเซ่นไหว้เทพเจ้าค่ะ ข้างใต้จะเย็น ผนังถูกทาด้วยน้ำมันมะกอกเพื่อเป็นการบูชา และทำให้ของเก็บได้นานค่ะ ไม่มีรูปนะคะเพราะข้างในมันมืด
อ่ะมีความรู้ที่หาใน google ตอนนั้นไม่เจอ นางก็เดินพาไปดูโน่นนี่ บลาๆ เช่นเครื่องตัดหินโบราณ การดูว่าเสาไหนของจริง อันไหนซ่อมขึ้นมาใหม่ ก็ดีนะแต่ตอนนั้นก็คิดในใจว่า กรูโดนชัว.... นางก็หันมาบอก “Hey, this is not free, I do guide tour for living” นั่นง่ะ เอาละ ตอนแรกคิดว่าคนละ 10JD คงพอ ที่ไหนได้นาง

คิดเงินเป็นที่ๆ พาไปดู เบ็ดเสร็จคนละ 17JD ... อ่ะ (แถมจะขอทิปเพิ่ม) มาถึงนี่ละก็ต้องจ่ายมะ เนื่องจากเราเพิ่งมาถึง Jordan เงินส่วนมาก็เป็นแบงก์ใหญ่ค่ะ และจำสีแบงก์ยังไม่ได้ ก็ให้นางไป
แยกกันแป็บเดียวนางเดินวนกลับมาทวงหนี้อ้างว่าเราจ่ายนางไม่ครบ!!! เนี่ยยูเป็นลูกค้าคนแรกของไอ แต่เนี่ยดูสิยูให้ไอมาแค่ 24JD เองขาดไปสิบ... เอ่อ....เราก็งงๆ คือที่นี่มันมีแบง 10 20 50 และสีก็สลับๆกัน งงๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็เลยหยิบให้นางไปอีก 10JD ใช้เงินแก้ปัญหา
เดินๆ ไป.... เหยกรูว่าให้ถูกนะ

โดนแขกหลอกชัวร์!!!!!!!!! เทคนิคการหลอกแพรวแพรวมากกกกก งงๆตีมึน นี่ไม่รู้โดนตีหัวโป๊กที่เท่าแล้วนะเนี่ยแค่สามวัน ทีหลังตอนตกลงอะไรหรือจ่ายเงินให้ใคร หมวยจะถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน เอาซี้
Chanee’s tip – แนะนำว่าจ่ายค่าจ้างไกด์เป็นเรื่องเป็นราวไปเถอะค่ะ อย่างน้อยก็รู้แน่ๆ ว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ (ไอ้ที่โดนไปนี่ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าโดนไปเท่าไหร่) แถมได้คำแนะนำคุณภาพและป้องกันไม่ให้โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยค่ะ
เจ็บบ่อยๆ ค่อยๆ ชิน...
หลังจากเซ็งโดนหลอก เราก็เลยไปย้อมใจด้วยการกินค่ะ เราไปที่ the Lebanese House เพราะเห็นรีวิวดี แล้วมันก็ดีมากกกกกกกกกกกกกกจริงๆ อร่อยทุกอย่างเด้อ เสียดายมีแค่รูปนี้นะคะ เพราะหิวจัดแร้งลง ถ่ายไม่ทัน รูปอาหารตามเข้าไปดูในลิงค์เด้อ
https://www.tripadvisor.com/Restaurant_Review-g293988-d1644556-Reviews-Lebanese_House_Um_Khalil_Restaurant-Jerash_Jerash_Governorate.html
อีกอย่าง อาหารไม่แพงค่ะ คือที่นี่ถ้าเรากินธรรมดา ร้านอาหารที่ไม่ได้อยู่ในโรงแรม ราคาโอมากค่ะ ตั้งแต่ 5-20 JD ต่อคน (คือเราสั่งโหดมากบอกเลย)
ฟินแล้วก็ไปต่อที่เมือง Aljoun ค่ะ
Aljoun เป็นเมืองเล็กๆ ที่มี Aljoun Castle เป็นแหล่งดึงดูดค่ะ เนื่องจากกว่าเราจะอิ่มจนมานี่ก็เกือบ 4 โมงแล้ว เลยต้องทำเวลาสุดๆ เพราะพระอาทิตย์จะตกประมาณ 4 โมงครึ่ง และดูจากทางมาแล้ว การขับรถมืดๆ ไม่น่าจะสนุกเท่าไหร่
ปราสาทแห่งนี้มีที่มาตั้งกะสมัย Crusade ซึ่งชาวมุสลิมสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานของชาวคริสต์ ปราสาทอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก ชัยภูมิ (ไม่ใช่จังหวัดไทยที่ตั้งอยู่ในอิสาน) ดีงาม สูงที่สุดมองเห็นรอบข้างค่ะ คือถ้ามีเวลาก็แวะมา แต่ถ้าไม่ได้มาก็ไม่ได้พลาดอะไรค่ะ
คนขายชาริมถนนค่ะ ชามิ้นท์นางดีงามราคา 1 JD ค่ะ
ทำเวลากลับจาก Aljoun เราก็เข้าเมือง Amman ค่ะ โดยเรานอนที่ Naylover Hotel Suite Amman บอกเลยว่าราคาดีมาก ห้องดีมากกกกกกกกกก แนะนำคร่า
หลังจากพักผ่อนเล็กน้อย เราก็ไปแรดกันต่อค่ะ โดยเราจะไปถนนสายที่ Happening ที่สุดใน Amman (เค้าว่ากันว่านะ) คือ Rainbow Street ค่ะ เป็นแหล่งเที่ยวกินของคนที่นี่ คาดว่าที่จอดไม่มี ตอนแรกจะนั่งแท็กซี่ แต่นะที่นี่มี Uber จร้า จัดไป
ถนนที่นี่จะงงๆ นึดนึงนะคะ เนื่องจากที่นี่เป็นเมืองในหุบ ที่ก็จะไม่เรียบ การตัดถนนคดเคี้ยวไม่มีกฎ ที่สำคัญ ไม่มีชื่อถนน/ซอยด้วยครัช
เรามากินกันที่ Sufra Restaurants อันเป็นร้านแนะนำต้นๆ ใน TripAdvisor และไม่ผิดหวังค่ะ คือดีมากกกกกก ร้านดี อาหารดี บรรยากาศดี เสียอย่างเดียว NO ALCOHOL นะคะ (หมวยแทบลงแดง...)
อิ่มละ เดินออกมาจากร้าน กะว่าจะเดินชิลๆ ในถนนสายแฮปเปนนิ่ง (happening) แล้วหาร้านนั่งกินเบียร์ สูบชิชา แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่รู้เพราะวันนั้นเป็นวันจันทร์รึป่าว เลยเงียบกริบ (เอ่อ ไม่ใช่เมืองไทยก็ไม่น่าจะเกี่ยวมะ ที่นี่เค้าหยุดศุกร์กะเสาร์ แปลกมาก) ถนนไม่เห็นจะ Happening เลย แถมเงียบอีกต่างหาก อ่ะไม่ไร เดินหาร้าน.... ไม่มี!! คือไม่มีร้านไหนบน Rainbow street ที่ขายทั้งเหล้าและชิชา TwT เกิดไรขึ้น!!!! ระหว่างทางมีการพยายามถามทางคนแถวนั้น แต่นะดูวี่แววว่าจะถูกหลอกอีกชัวเลยบ๊ายยยยดีกว่า
เท่าที่เข้าใจนะคะ การขายเหล้าเนี่ยต้องได้ใบอนุญาตพิเศษ (ที่นี่เมืองมุสลิม) ส่วนชิชาเนี่ย จะขายในร้านอาหารค่ะ แต่ความพยายามที่ไม่สิ้นสุดของเรา ก็พาเรามาจบที่ร้านอาหารจิ้งหรีดๆ ในซอยแถวนั้นค่ะ มั่นใจว่า underground ชัวร์
กลับบ้านนอนละ พรุ่งนี้เราจะออกตะลุยทะเลทรายกันค่า
XoXo
นีหมวย
https://www.facebook.com/chaneerangers/
[CR] Jordan & Israel: ทริปอัลไลหัวใจวายได้ทุกวัน [Part 2 - Jordan]
https://pantip.com/topic/37325706
ส่วนใครมีคำถามหรืออยากเม้ามอย มาเม้ากันได้ที่เพจของเราเด้อ
https://www.facebook.com/chaneerangers/
Day 3 – Amman – Jerash – Aljoan
กลับมาจอร์แดนแล้ว นี่คือแผนของวันนี้ค่ะ
ตื่นเช้ามาด้วยความโทรม ลงมากินอาหารเช้า เหยยย เป็นบุฟเฟ่ที่แย่มากกกกกกกก (คิดว่าเป็นทางเลือกของคนไม่มีทางเลือก โดนตีหัวโป๊กๆ... ดอกที่ 4) สุดท้ายจบด้วยการจัดสิ่งนี้ค่ะ
ขอบอกเลยว่าเป็นมื้อ (และโรงแรม) ที่ไม่ประทับใจที่สุดในทริปค่ะ แต่จากนี้...อร่อยทุกมื้อเลยค่า ใครว่าอาหารอาหรับไม่อร่อย บอกเลยว่าไม่จริง ทริปนี้กินกันตัวแตก จากหน้าเรียวเป็นหน้ากลมเลยฮะ
อ่ะเริ่มค่ะ เก็บกระเป๋าออกเดินทาง ลิงขับชะนีเม้า เราใช้เส้นเลี่ยงเมืองค่ะ ทริปนี้เราใช้ทั้ง Google Map และ Garmin GPS ค่ะ เพื่อความชัวร์ ถนนหนทางที่นี่ไม่แย่นะคะ แค่ฝุ่นและหลังเต่าเยอะมาก ขับประมาณชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงค่ะ
Jeresh เป็นเมืองโรมันโบราณ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่สภาพสมบูรณ์ที่สุดค่ะ เรียกได้ว่าเป็นที่เรียกแขก (แขก หมายถึงนักท่องเที่ยวทั้งแขกและไม่แขกนะคะ) อันดับสองของ Jordan รองจากเพตราค่ะ
สภาพสมบูรณ์มากจริง และร้อนมากเช่นกัน วันที่เราไปคือฟ้าใสไร้เมฆ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก Instragramable สุดๆ ถ้าใครมีกล้องโปร GoPro หรือเลนส์ไวด์จะยิ่งฟินมากค่ะ
ประตูทางเข้าก็อลังละ
อันนี้เหมือนเป็นลานกลางเมืองค่ะ แยกซ้ายขวาไปที่ต่างๆ
มุมสูงเด้อ ประทับใจในคนสร้างมากๆ
Roman Theater อันนี้แบบถ้าเรายืนที่เวที แค่พูดเบาๆ ก็ได้ยินเสียงไปถึงแถวหลังเลย
ทางเดินไปวิหาร
ขอให้ไปถ่ายรูปค่ะ มุมสวยๆ เยอะมาก
ระหว่างทางเดินเข้าเนี่ย จะมี Local Guide booth คิด 20JD แต่ตอนนั้นเราเชิดเพราะคิดว่าไม่จำเป็นค่ะ แต่หารู้ไม่ว่าความซวยกำลังจะมาเยือนในไม่ช้า
เดินๆชมเมืองไป จะมีแขกพยายามมาฮิตเราเรื่อยๆค่ะ มาถ่ายรูปให้บ้าง แนะนำมุมโน่นนี่บ้าง เรากทำหน้ามึนๆเดินหนีมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ไม่รอดค่ะ เจอลูกตื้อของแขกหนุ่มคนนึงเข้าไป (โดนแต่สองคนนะคะ หมวยกะน้องบี) คือนางมาถ่ายรูปให้บีค่ะ แล้วก็แบบนี่ยู ใต้วิหารนี้มีห้องใต้ดินด้วยนะตามไอมา อันนี้ปกติปิดไว้เข้าไม่ได้นะ หมวยก็แบบหูผึ่ง จริงหรา นางบอกตามมาๆพิเศษเดี๋ยวนางเปิดให้ดู
หมวยก็นะ ดันตามเค้าไป (คือตอนนั้นน้อง B หาทางหนีแล้ว แต่เจ๊หมวยดันเดินตาม เลยตามเลยมาด้วยกัน) แขกหนุ่มก็เอากุญแจมาเปิดห้องใต้ดินให้ดูค่ะ นางเล่าว่าที่ใต้ดินเป็นที่เก็บอาหารและของเซ่นไหว้เทพเจ้าค่ะ ข้างใต้จะเย็น ผนังถูกทาด้วยน้ำมันมะกอกเพื่อเป็นการบูชา และทำให้ของเก็บได้นานค่ะ ไม่มีรูปนะคะเพราะข้างในมันมืด
อ่ะมีความรู้ที่หาใน google ตอนนั้นไม่เจอ นางก็เดินพาไปดูโน่นนี่ บลาๆ เช่นเครื่องตัดหินโบราณ การดูว่าเสาไหนของจริง อันไหนซ่อมขึ้นมาใหม่ ก็ดีนะแต่ตอนนั้นก็คิดในใจว่า กรูโดนชัว.... นางก็หันมาบอก “Hey, this is not free, I do guide tour for living” นั่นง่ะ เอาละ ตอนแรกคิดว่าคนละ 10JD คงพอ ที่ไหนได้นาง
แยกกันแป็บเดียวนางเดินวนกลับมาทวงหนี้อ้างว่าเราจ่ายนางไม่ครบ!!! เนี่ยยูเป็นลูกค้าคนแรกของไอ แต่เนี่ยดูสิยูให้ไอมาแค่ 24JD เองขาดไปสิบ... เอ่อ....เราก็งงๆ คือที่นี่มันมีแบง 10 20 50 และสีก็สลับๆกัน งงๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็เลยหยิบให้นางไปอีก 10JD ใช้เงินแก้ปัญหา
เดินๆ ไป.... เหยกรูว่าให้ถูกนะ
Chanee’s tip – แนะนำว่าจ่ายค่าจ้างไกด์เป็นเรื่องเป็นราวไปเถอะค่ะ อย่างน้อยก็รู้แน่ๆ ว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ (ไอ้ที่โดนไปนี่ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าโดนไปเท่าไหร่) แถมได้คำแนะนำคุณภาพและป้องกันไม่ให้โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยค่ะ
เจ็บบ่อยๆ ค่อยๆ ชิน...
หลังจากเซ็งโดนหลอก เราก็เลยไปย้อมใจด้วยการกินค่ะ เราไปที่ the Lebanese House เพราะเห็นรีวิวดี แล้วมันก็ดีมากกกกกกกกกกกกกกจริงๆ อร่อยทุกอย่างเด้อ เสียดายมีแค่รูปนี้นะคะ เพราะหิวจัดแร้งลง ถ่ายไม่ทัน รูปอาหารตามเข้าไปดูในลิงค์เด้อ
อีกอย่าง อาหารไม่แพงค่ะ คือที่นี่ถ้าเรากินธรรมดา ร้านอาหารที่ไม่ได้อยู่ในโรงแรม ราคาโอมากค่ะ ตั้งแต่ 5-20 JD ต่อคน (คือเราสั่งโหดมากบอกเลย)
ฟินแล้วก็ไปต่อที่เมือง Aljoun ค่ะ
Aljoun เป็นเมืองเล็กๆ ที่มี Aljoun Castle เป็นแหล่งดึงดูดค่ะ เนื่องจากกว่าเราจะอิ่มจนมานี่ก็เกือบ 4 โมงแล้ว เลยต้องทำเวลาสุดๆ เพราะพระอาทิตย์จะตกประมาณ 4 โมงครึ่ง และดูจากทางมาแล้ว การขับรถมืดๆ ไม่น่าจะสนุกเท่าไหร่
ปราสาทแห่งนี้มีที่มาตั้งกะสมัย Crusade ซึ่งชาวมุสลิมสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานของชาวคริสต์ ปราสาทอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก ชัยภูมิ (ไม่ใช่จังหวัดไทยที่ตั้งอยู่ในอิสาน) ดีงาม สูงที่สุดมองเห็นรอบข้างค่ะ คือถ้ามีเวลาก็แวะมา แต่ถ้าไม่ได้มาก็ไม่ได้พลาดอะไรค่ะ
คนขายชาริมถนนค่ะ ชามิ้นท์นางดีงามราคา 1 JD ค่ะ
ทำเวลากลับจาก Aljoun เราก็เข้าเมือง Amman ค่ะ โดยเรานอนที่ Naylover Hotel Suite Amman บอกเลยว่าราคาดีมาก ห้องดีมากกกกกกกกกก แนะนำคร่า
หลังจากพักผ่อนเล็กน้อย เราก็ไปแรดกันต่อค่ะ โดยเราจะไปถนนสายที่ Happening ที่สุดใน Amman (เค้าว่ากันว่านะ) คือ Rainbow Street ค่ะ เป็นแหล่งเที่ยวกินของคนที่นี่ คาดว่าที่จอดไม่มี ตอนแรกจะนั่งแท็กซี่ แต่นะที่นี่มี Uber จร้า จัดไป
ถนนที่นี่จะงงๆ นึดนึงนะคะ เนื่องจากที่นี่เป็นเมืองในหุบ ที่ก็จะไม่เรียบ การตัดถนนคดเคี้ยวไม่มีกฎ ที่สำคัญ ไม่มีชื่อถนน/ซอยด้วยครัช
เรามากินกันที่ Sufra Restaurants อันเป็นร้านแนะนำต้นๆ ใน TripAdvisor และไม่ผิดหวังค่ะ คือดีมากกกกกก ร้านดี อาหารดี บรรยากาศดี เสียอย่างเดียว NO ALCOHOL นะคะ (หมวยแทบลงแดง...)
อิ่มละ เดินออกมาจากร้าน กะว่าจะเดินชิลๆ ในถนนสายแฮปเปนนิ่ง (happening) แล้วหาร้านนั่งกินเบียร์ สูบชิชา แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่รู้เพราะวันนั้นเป็นวันจันทร์รึป่าว เลยเงียบกริบ (เอ่อ ไม่ใช่เมืองไทยก็ไม่น่าจะเกี่ยวมะ ที่นี่เค้าหยุดศุกร์กะเสาร์ แปลกมาก) ถนนไม่เห็นจะ Happening เลย แถมเงียบอีกต่างหาก อ่ะไม่ไร เดินหาร้าน.... ไม่มี!! คือไม่มีร้านไหนบน Rainbow street ที่ขายทั้งเหล้าและชิชา TwT เกิดไรขึ้น!!!! ระหว่างทางมีการพยายามถามทางคนแถวนั้น แต่นะดูวี่แววว่าจะถูกหลอกอีกชัวเลยบ๊ายยยยดีกว่า
เท่าที่เข้าใจนะคะ การขายเหล้าเนี่ยต้องได้ใบอนุญาตพิเศษ (ที่นี่เมืองมุสลิม) ส่วนชิชาเนี่ย จะขายในร้านอาหารค่ะ แต่ความพยายามที่ไม่สิ้นสุดของเรา ก็พาเรามาจบที่ร้านอาหารจิ้งหรีดๆ ในซอยแถวนั้นค่ะ มั่นใจว่า underground ชัวร์
กลับบ้านนอนละ พรุ่งนี้เราจะออกตะลุยทะเลทรายกันค่า
XoXo
นีหมวย
https://www.facebook.com/chaneerangers/