ต้องขอท้าวความก่อน ผมเป็น Freelance ปกติก็รับงานจากบริษัทที่เคยทำงานด้วยมาทำงานอยู่ประจำ
กระทั่งวันหนึ่งมีเพื่อนสนิทผมได้ไปทำงานกับ Production แห่งหนึ่งซึ่งกำลังจะมีคิวถ่ายหนังเรื่องต่อไป
ซึ่งกำลังหาคนทำด้านงานพิมพ์สติกเกอร์และออกแบบสิ่งประกอบฉาก จึงได้มาทาบทามผม
ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงท้ายปีงานน้อยมากจึงว่างรับปากเข้าไปทำ
จากนั้นเมื่อมาทำ ก็ได้พบกับเพื่อนร่วมงานหลายคนซึ่งผมถูกใจอยู่คนหนึ่งเธอชื่อว่า Rose (นามแฝ่ง)
เธอก็เป็น Freelance เหมือนกับผมและพูดภาษาอังกฤตเก่ง เธอเป็นคนหุ่นดี
หน้าตาข่อนข้างดี ผิวขาว ตัวสูงโปล่ง นิสัยดีมาก มีน้ำใจ เธอเป็นคนขยันและมีความตั่งใจในด้านการงานสูง
แต่ทว่าก็มีปัญหาอยู่บางจุด...
ต่อมาผมได้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกเป็นกังวลกับตัวเธอและความรู้สึกของผมเองด้วย
1 คือมาทราบว่า Rose เป็นโรคเลือดจางและเป็นภาหะธาลัสซีเมีย เธอจึงป่วยง่ายและไม่ค่อยมีแรงในบางครั้ง
ยิ่งเธอทำงานกับกองถ่ายยิ่งสมบุกสมบันมาก ผมก็เป็นห่วงเธอมาก แต่เนื่องด้วยเธอทำงานนี้มาก่อนผมถึง 6 เดือน
จึงคิดว่าเธอน่าจะดูแลตนเองบ้าง ผมเป็นห่วงเธอจึงได้ทักไปคุยและคุยเรื่องสุขภาพของเธอ
ซึ่ง Rose เป็นคนชอบนอนดึกมากแบบว่าตี3 ตี4 ก็ยังไม่นอน เธอบอกว่าเธอสมองแล่นช่วงกลางคืน
และเธอก็ไม่กินวิตามินเสริมสุขภาพเพราะเธอไม่กินยาเม็ดติดคอ(ไม่ได้ฝึกกินแต่เด็กก็เลยไม่กินเพราะตอนเด็กแข็งแรง)
ตอนนี้งานเธอยังทำได้อยู่ เลยยังไม่น่าห่วงมากแต่ในระยะยาวผมกลัวเธอจะไม่ไหว
2 คือเธอมีเพื่อน ผช. มากับเธออยู่ตลอด ซึ่งตรงนี้ขอท้าวความก่อนนะครับ
คือว่าตัว Rose เองเขารู้จักกับเพื่อนคนนี้มานานมากซึ่งทำให้ทั้งสองสนิทกันแต่ทว่าเพื่อนคนนี้อาศัยอยู่บ้านเธอตั่งแต่สมัยเรียน
ถึงจะไม่ได้อยู่ห้องนอนเดียวกันแต่ก็อยู่บ้านหลังเดียวกันและเคยเป็นแฟนกันถึงจะไม่ได้หวานฟรุ่งฟริงหรือหวานซึงแต่คนที่อยู่ด้วยกันมานาน
ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ มันก็น่าจะมีอะไรลึกซึงอยู่บ้าง(หรืออาจจะไม่ก็ได้)
ผมเคยคุยกับเธอและเธอก็บอกมาตามนั้น แต่ถึงปากเธอจะบอกว่าเป็นเพื่อนกันแล้วแต่การที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดแบบนี้
ผมเองก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่งกับเธอมาก แต่ตัวเพื่อนเธอก็ไม่ได้มาขัดขวางอะไรกับผมเพราะก็ยังดูเป็นเพื่อนกันจริงๆ
แต่แค่อยู่บ้านเดียวกันและไปไหนด้วยกันบ่อยๆ แต่จากการมองผมรู้สึกว่า ถ้ามี Rose ก็ต้องมีเพื่อนเธอไปด้วย
ซึ่งรู้สึกว่ามันเป็นส่วนเกิน ถึงจริงๆอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องงานอีกที่ลำบากกับผมมากเพราะว่าถึงจะกล่าวว่าผมเป็น PA (Production Assistance)
แต่งานที่ผมได้ทำจริงนอกจากออกแบบของและสติกเกอร์สิ่งพิมพ์ในฉากแล้ว ผมยังต้องไปทำสิ่งอื่นด้วย
ซึ่งงานตรงนี้มันนอกเหนือหน้าที่และหนักกว่ามาก แถมยังโดนให้มารับผิดชอบแทนด้วยในบางครั้ง แทนที่จะเป็นขอแรงให้ช่วยหน่อย
แต่จุดนี้ถือว่าดีเพราะได้ทำสิ่งอื่นเพิ่มเป็นประสบการณ์ ยังไม่แย่เท่าอันต่อไป
คือ มีทีมงานบางคนปากเสียชอบหาเรื่องชาวบ้านป่วนเปี่ยนอยู่ในนั้นเสมอ ดูทูกทำร้ายกันด้วยคำพูดด่าและว่าแบบไม่มีเหตุผล
ทำให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปด้วยความรู้สึกแย่ๆ (ผมไม่ได้โดนคนเดียว โดนกันเกิบหมด) ซึ่งไอ้คนนี้ก็ไม่ใช้หัวหน้างานด้วย
แต่ก็ไม่มีใครอยากจะมีปัญหากับเขาเลย...
*****ในทางกลับกัน*****
หัวหน้าใหญ่เองก็เหมือนจะไม่รู้สึกอะไรจึงไม่ได้จัดการเรื่องนี้ซักที สำหรับผมในตอนนั้นรู้สึกว่าผมควรเลิกและออกมา
เงินแค่ 15K ต่อเดือน มันจิบจอยมากกับงานที่เคยทำเมือเทียบกับสิ่งแบบนี้ เพราะที่เคยทำมันได้มากกว่านี้สามสี่เท่า
แต่ปัญหามันไม่ใช่เรื่องเงิน มันคือเรื่องน้ำใจ มารยาท และสังคมในการทำงาน ที่ยังมีคนดีๆอยู่ รวมถึงเรื่องของ Rose ด้วย
ผมจึงพยายามทำต่อจนหนังปิดกล้อง และก็จบกันไป แต่ทว่าความรู้สึกของผมที่มีต่อ Rose ยังอยู่และรู้สึกอยากจะรวมงานกับเธอต่อ
แต่ก็ไม่รู้ว่าการไปต่อในครั้งนี้จะดีหรือร้ายกับตัวผม เพราะการที่ทำงานนี้ต่อมีเหตุผลเดียวเลย
คือผมชอบ Rose และอยากจะพัฒนาความสัมพันธ์


แอบรักเพื่อนร่วมงาน แต่ไม่รู้จะไปต่อยังไงดี...
กระทั่งวันหนึ่งมีเพื่อนสนิทผมได้ไปทำงานกับ Production แห่งหนึ่งซึ่งกำลังจะมีคิวถ่ายหนังเรื่องต่อไป
ซึ่งกำลังหาคนทำด้านงานพิมพ์สติกเกอร์และออกแบบสิ่งประกอบฉาก จึงได้มาทาบทามผม
ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงท้ายปีงานน้อยมากจึงว่างรับปากเข้าไปทำ
จากนั้นเมื่อมาทำ ก็ได้พบกับเพื่อนร่วมงานหลายคนซึ่งผมถูกใจอยู่คนหนึ่งเธอชื่อว่า Rose (นามแฝ่ง)
เธอก็เป็น Freelance เหมือนกับผมและพูดภาษาอังกฤตเก่ง เธอเป็นคนหุ่นดี
หน้าตาข่อนข้างดี ผิวขาว ตัวสูงโปล่ง นิสัยดีมาก มีน้ำใจ เธอเป็นคนขยันและมีความตั่งใจในด้านการงานสูง
แต่ทว่าก็มีปัญหาอยู่บางจุด...
ต่อมาผมได้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกเป็นกังวลกับตัวเธอและความรู้สึกของผมเองด้วย
1 คือมาทราบว่า Rose เป็นโรคเลือดจางและเป็นภาหะธาลัสซีเมีย เธอจึงป่วยง่ายและไม่ค่อยมีแรงในบางครั้ง
ยิ่งเธอทำงานกับกองถ่ายยิ่งสมบุกสมบันมาก ผมก็เป็นห่วงเธอมาก แต่เนื่องด้วยเธอทำงานนี้มาก่อนผมถึง 6 เดือน
จึงคิดว่าเธอน่าจะดูแลตนเองบ้าง ผมเป็นห่วงเธอจึงได้ทักไปคุยและคุยเรื่องสุขภาพของเธอ
ซึ่ง Rose เป็นคนชอบนอนดึกมากแบบว่าตี3 ตี4 ก็ยังไม่นอน เธอบอกว่าเธอสมองแล่นช่วงกลางคืน
และเธอก็ไม่กินวิตามินเสริมสุขภาพเพราะเธอไม่กินยาเม็ดติดคอ(ไม่ได้ฝึกกินแต่เด็กก็เลยไม่กินเพราะตอนเด็กแข็งแรง)
ตอนนี้งานเธอยังทำได้อยู่ เลยยังไม่น่าห่วงมากแต่ในระยะยาวผมกลัวเธอจะไม่ไหว
2 คือเธอมีเพื่อน ผช. มากับเธออยู่ตลอด ซึ่งตรงนี้ขอท้าวความก่อนนะครับ
คือว่าตัว Rose เองเขารู้จักกับเพื่อนคนนี้มานานมากซึ่งทำให้ทั้งสองสนิทกันแต่ทว่าเพื่อนคนนี้อาศัยอยู่บ้านเธอตั่งแต่สมัยเรียน
ถึงจะไม่ได้อยู่ห้องนอนเดียวกันแต่ก็อยู่บ้านหลังเดียวกันและเคยเป็นแฟนกันถึงจะไม่ได้หวานฟรุ่งฟริงหรือหวานซึงแต่คนที่อยู่ด้วยกันมานาน
ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ มันก็น่าจะมีอะไรลึกซึงอยู่บ้าง(หรืออาจจะไม่ก็ได้)
ผมเคยคุยกับเธอและเธอก็บอกมาตามนั้น แต่ถึงปากเธอจะบอกว่าเป็นเพื่อนกันแล้วแต่การที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดแบบนี้
ผมเองก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่งกับเธอมาก แต่ตัวเพื่อนเธอก็ไม่ได้มาขัดขวางอะไรกับผมเพราะก็ยังดูเป็นเพื่อนกันจริงๆ
แต่แค่อยู่บ้านเดียวกันและไปไหนด้วยกันบ่อยๆ แต่จากการมองผมรู้สึกว่า ถ้ามี Rose ก็ต้องมีเพื่อนเธอไปด้วย
ซึ่งรู้สึกว่ามันเป็นส่วนเกิน ถึงจริงๆอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องงานอีกที่ลำบากกับผมมากเพราะว่าถึงจะกล่าวว่าผมเป็น PA (Production Assistance)
แต่งานที่ผมได้ทำจริงนอกจากออกแบบของและสติกเกอร์สิ่งพิมพ์ในฉากแล้ว ผมยังต้องไปทำสิ่งอื่นด้วย
ซึ่งงานตรงนี้มันนอกเหนือหน้าที่และหนักกว่ามาก แถมยังโดนให้มารับผิดชอบแทนด้วยในบางครั้ง แทนที่จะเป็นขอแรงให้ช่วยหน่อย
แต่จุดนี้ถือว่าดีเพราะได้ทำสิ่งอื่นเพิ่มเป็นประสบการณ์ ยังไม่แย่เท่าอันต่อไป
คือ มีทีมงานบางคนปากเสียชอบหาเรื่องชาวบ้านป่วนเปี่ยนอยู่ในนั้นเสมอ ดูทูกทำร้ายกันด้วยคำพูดด่าและว่าแบบไม่มีเหตุผล
ทำให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปด้วยความรู้สึกแย่ๆ (ผมไม่ได้โดนคนเดียว โดนกันเกิบหมด) ซึ่งไอ้คนนี้ก็ไม่ใช้หัวหน้างานด้วย
แต่ก็ไม่มีใครอยากจะมีปัญหากับเขาเลย...
*****ในทางกลับกัน*****
หัวหน้าใหญ่เองก็เหมือนจะไม่รู้สึกอะไรจึงไม่ได้จัดการเรื่องนี้ซักที สำหรับผมในตอนนั้นรู้สึกว่าผมควรเลิกและออกมา
เงินแค่ 15K ต่อเดือน มันจิบจอยมากกับงานที่เคยทำเมือเทียบกับสิ่งแบบนี้ เพราะที่เคยทำมันได้มากกว่านี้สามสี่เท่า
แต่ปัญหามันไม่ใช่เรื่องเงิน มันคือเรื่องน้ำใจ มารยาท และสังคมในการทำงาน ที่ยังมีคนดีๆอยู่ รวมถึงเรื่องของ Rose ด้วย
ผมจึงพยายามทำต่อจนหนังปิดกล้อง และก็จบกันไป แต่ทว่าความรู้สึกของผมที่มีต่อ Rose ยังอยู่และรู้สึกอยากจะรวมงานกับเธอต่อ
แต่ก็ไม่รู้ว่าการไปต่อในครั้งนี้จะดีหรือร้ายกับตัวผม เพราะการที่ทำงานนี้ต่อมีเหตุผลเดียวเลย
คือผมชอบ Rose และอยากจะพัฒนาความสัมพันธ์