สวัสดีค่ะ จะมาแชร์ประสบการณ์ผ่าตัดส่องกล้อง "นิ่วในถุงน้ำดี" ค่ะ คือการที่รู้ว่าเป็นนะคะคือมีอาการปวดท้องมากๆ ปวดเสียดๆที่ใต้ชายโครงด้านขวา ปวดร้าวไปจนถึงหลังเลยค่ะ ท้องอืดและมีอาการคลื่นไส้มากค่ะ คุณหมอเลยอัลตร้าซาวน์ค่ะ พบว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีมีขนาด1.5/1.2ซม. จำนวน2ก้อนค่ะ
คุณหมอเลยให้ผ่าออก เพราะเป็นโรคประจำตัวด้วยคือมีเบาหวานค่ะ
เมื่อถึงวันผ่า
20 มค. 2561
คุณหมอสั่งงดน้ำงดอาหารตั้งแต่ช่วงเย็นของวันก่อนผ่าค่ะ มาถึงโรงพยาบาล 6.15 น. คุณหมอนัด6.30น. มาถึงก็ยื่นใบนัดกับเวชระเบียนค่ะ รอตรงจุดซักประวัติก็วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก แอบจำได้ว่า 70กก.ค่ะ 55555 สักพักใหญ่ๆ คุณพยาบาลก็เรียกชื่อเข้าห้องฉุกเฉินค่ะ ให้เราไปx-ray ที่แผนกรังสีค่ะ เสร็จแล้วก็ขึ้นเตียงนอน เจาะเลือด และเจาะสายน้ำเกลือเสียบไว้ค่ะตอน 7.10น. สักพักจะมีพยาบาลมาถามค่ะ ว่าวันนี้เรามาทำอะไร ชื่อ-สกุล และนำใบมาให้เซ็นต์ค่ะ สักพักพี่จนท. มาถามว่าจะเลือกห้องพักแบบไหน ก็เลยเลือกห้องพิเศษเดี่ยวค่ะ เป็นสิทธิ์ประกันสังคม คนไข้ต้องมีจ่ายส่วนต่างนะครับ เราก็ตกลงค่ะ เลือกห้องพัก เซ็นต์ยินยอมเรียบร้อย สักพักมี จนท. เวรเปล เข็นรถนั่งมารับเราพาไปส่งที่ห้องพักค่ะ ชั้น3

ห้องพักค่ะ
8.15น. พอถึงห้องพัก พยาบาลที่วอร์ดก็เข้ามาซักประวัติ พร้อมนำชุดคนไข้มาเปลี่ยนให้ค่ะ พี่พยาบาลสังเกตุเราทั้งตัวเลยค่ะ ผ่านี่คะ ต้องสังเกตุกันหน่อย เจอว่าเราไม่ได้ล้างเล็บเท้าค่ะ แหะๆ พี่พยาบาลบอกเดี๋ยวต้องล้างนะคะ เราก็อายจัง เลยถามว่าเล็บเท้าก็ต้องล้างหรอคะ พี่พยาบาลก็ยิ้มๆมา บอกว่าต้องล้างค่ะสำคัญมาก คุณหมอจะสังเกตุเล็บเราด้วย แล้วพี่พยาบาลก็เข้ามาล้างเล็บให้ค่ะ พร้อมกับนำป้าย งดอาหารงดน้ำ มาเเขวนไว้ หันไปมองตาปริบๆโอ้โห กว่าจะได้กินข้าววันไหนกันนะ5555 ก็นอนรอเวลา ดูทีวีเพลินๆแก้จิตตกค่ะ จน 8.40 คุณพยาบาลเคาะห้องเข้ามาบอกว่า คุณหมอ(ผ่าตัด) โทรมาตามแล้วค่ะ แล้วก็ถามว่าอยากจะฉี่ก่อนมั้ย เราก็ ตกลงค่ะ ก็ได้จะได้เรียบร้อย พอเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็เจอเวรเปลเข็นเตียงมารับแล้วค่ะ หันหน้าไปหาพี่สาว เค้าไปละนะ พี่บอกเดี๋ยวตามไปส่ง แล้วก็ตามมากับพยาบาลค่ะ เดี๋ยวแม่คงมา แม่ติดไปงานบวชเพื่อนบ้าน
09.00 ลงลิฟต์จากชั้น3 มาห้องผ่าตัดชั้น2 ค่ะ เปิดประตูมาได้แค่2เมตรก็ มีพี่ข้างในห้องผ่าตัดเข็นเตียงมารับค่ะ เหมือนแบ่งกั้นอาณาเขตมาก แม้กระทั่งพยาบาลที่ลงมาส่งเราก็ไม่สามารถเข้าไปยังเขตห้องผ่าตัดได้ค่ะ พอเข็นเตียงจากหน้าห้องมา ก็เปลี่ยนเตียงอีกทีค่ะ ทีนี้เป็นเขตปลอดเชื้อจริงๆเเล้ว ชุดที่เราใส่มา ดังนั้นนน.... ถอดดดค่ะ!!! โอ้โห อายสิคะ พี่บอกว่าขอถอดกางเกงนะคะ พร้อมนำมาสีเขียวเข้มมาคลุมที่ตัวให้ จากนั้นกางเกงที่ใส่มาก็หมดความหมายแล้วค่ะ เสื้อที่ใส่มาก็ด้วย ถอดด้วยค่ะ ที่นี้ก็มีแค่ร่างเปลือยๆกับผ้าคลุมบางๆค่ะ ฮ่าๆๆๆ กลิ่นยาฆ่าเชื้อปะทะจมูกอย่างแรงง พอพี่เข็นมาถึงห้องผ่าตัด 3 เปิดประตูปุ๊บ คุณพี่พูดด้วยน้ำเสียง ตื่นเต้นมากกก หมอมาแล้วววว ค่ะ ยิ่งตื่นเต้นไปอีก5555 พอเข็นถึงห้องผ่าตัด ใช่ค่ะ ต้องขยับก้นมาที่เตียงผ่าตัดจริงๆแล้วค่ะ พอนอนบนเตียง ก็เจอพี่พยาบาลผู้ชาย อ่านประวัติผลตรวจเลือดของเราอยู่ พร้อมกับกางแขนเราสองข้าง ข้างนึงเป็นเครื่องวัดความดัน ข้างนึงวัดชีพจร และมาอะไรๆมาแปะบนหน้าอก ไม่รู้คืออะไรค่ะ 555 เห็นมนุษย์ชุดเขียวเดินเข้ามา4-5คน โห นี่ผ่าตัดใช้บุคลากรเยอะเพียงนี้เชียวรึนี่ คิดในใจ สงสัยคิดดังไป เครื่องวัดความดันถึงกับร้อง สักพักค่ะ เทพบุตรของหนูก็เดินเข้ามา ใส่แว่นมาน่ารักเชียวค่ะ 5555 คุณหมอชัยพร ค่ะ คุณหมอที่ทำการผ่าตัดให้เรา เดินมามองหน้าเรา แล้วถามว่า ตื่นเต้นหรอ เราก็พยักหน้าบอกว่า มากค่ะ แล้วคุณหมอก็ส่งยิ้มมาให้ แล้วเดินออกไปไหน ไม่รู้ค่ะ อิอิ
สักพักคุณหมอดมยาก็เข้ามาค่ะ สวยมาก ถามเราเกี่ยวกับโรคประจำตัว ถามว่าเคยผ่าตัดไหม แพ้อะไรไหม ผ่าตัดใช้วิธีวางยาสลบนะคะ พี่พยาบาลผู้ชายก็ชวนเราคุยลดอาการกังวล และแล้วคุณหมอดมยาก็บอกว่า จะฉีดยา ชาหรือสลบ ไม่แน่ใจค่ะจำไม่ได้ จะรู้สึกแสบๆที่แขนนิดนึงนะคะ และผ่าตัดเสร็จอาจจะมีอาการปวดม้อง เพราะคุณหมอจะ อัดแก๊สเข้าไปค่ะ
แล้วก็มีคนเอาหน้ากากอ๊อกซิเจนให้เราดม บอกว่า ดมอ๊อกซิเจนนะคะ
สูดดดดแรกของความรู้สึกคืออ.... สูดไปลึกๆรู้สึกมันค่ะ รู้สึกท่อนล่างชาๆ มึนๆหัว
สูดที่สอง.... เอ้ะเริ่มคุมความมึนไม่อยู่. อ๊ะไม่แสบแขนเเฮะ แล้วก็.....ความรู้สึกดับวูบค่ะ ดับไปตอนไหนไม่รู้
พอรู้สึกตัวอีกที ลืมตามามันขาวๆมัวๆไปหมด อู้ยยยย ปวดแขนปวดไหล่ด้านขวามาก ใครมานั่งทับกันนะ โอ้ยเจ็บหน้าท้องมาก เจ็บแผล เจ็บคอแสบคอมากๆ เริ่มจะดิ้นค่ะ ตอนนี้ ดิ้นจนหน้ากากอ๊อกซิเจนหลุด แล้วพี่พยาบาลผู้ชายก็เดินเข้ามาหา พร้อมกับถามว่า เป็นยังไงครับ ไม่ดมแล้วหรออ๊อกซิเจน เลยส่ายหัวไป ได้ยินพี่บอก ผ่าตัดเสร็จแล้วนะ เลยบอกพี่เค้าไปว่าปวดไหล่มาก ลืมตาไม่ขึ้น ตามัวมาก พี่เลยบอกเป็นฤทธิ์ยาสลบน้า เดี๋ยวก็หาย พอมีสติก็ถามเฃยว่า ผ่าแบบไหน พี่ตอบส่องกล้องจ๊ะ หูยยยย ส่องกล้องยังเจ็บแผลขนาดนี้ ปล.ที่ถาม เพราะคุณหมอแจ้งไว้ก่อนว่า ถ้าผ่าแบบส่องกล้องแล้วติดอะไรข้างในหมอจะผ่าแบบเปิดหน้าท้อง แต่คนไข้ไม่รู้สึกหรอกเพราะอยู่ในยาสลบ พี่ยื่นถุงที่มีนิ่วให่เราดู และบอกว่าใส่ไว้ใต้เตียงนะ พยักหน้ารับ พอพี่เค้าบอกส่องกล้องเราก็ดีใจ
นอนอึดอัดเพราะหน้ากากอ๊อกซิเจน เบลอยา ได้ยินพี่ผู้ชายโทรหาพยาบาลบนวอร์ดให้มารับ พร้อมกับชื่อยา จำได้คล้ายๆว่ามอร์ฟีน สักพักก็มีเตียงที่ใช้ในห้องผ่าตัดมารับ ใช้แผ่นสไลด์ผู้ป่วยในการย้ายเตียง คลำๆดูตัวเรา หือออ มีกระปุกอะไรมาต่อข้างๆพุงเราด้านขวา ก็ไม่สนใจเพราะเบลอมาก ก็ถูกเข็นไปหน้าห้องผ่า พี่เวรเปลเข้ามารับกับพยาบาล ใช้แผ่นสไลด์อีกครั้ง ออกมาจากห้องผ่า หันมองนาฬิกาแขวนผนัง 11.00 ตาเริ่มสว่างขึ้น เปิดประตูมา เจอหน้าแม่คนแรก ดีใจมากกกก แม่ดูเหมือนจะดีใจปนร้องไห้ นี่พี่สาวเรารอตลอดเลยหรอเนี้ย ซึ้งมาก ไม่ใช่พี่สาวแท้ๆ เราเป็นลูกคนเดียว เป็นญาติมีศักดิ์เป็นพี่
11.05 ขึ่นลิฟต์มาชั้น3ที่พักฟื้น. 11.30 รู้สึกปวดฉี่ พอดีพยาบาลเข้ามาวัดความดัน เลยบอกพี่ขาปวดฉี่ ขอเดินเข้าห้องน้ำนะคะ พี่ก็ชมว่าเก่งจัง เดินไหวไหมคะ ลองเดินดูค่ะ เดินได้ท้องจะไม่อืด ทนเจ็บหน่อบนะ จะมึนๆยาด้วย ค่อยๆลุกจากที่นอน ตะแคงตัวขึ้นมา มีพี่สาวและกี่พยาบาลประคองตลอด จนพี่พยาบาลบอกว่า ตอนนี้ฤทธิ์ยาชายังไม่หมดเงยพอเดินได้ อบากให่เดินก่อน เราก็ค่ะ เออแฮ้ะ เจ็บแผลแต่เดินได้ ก็เดินไปเข้าห้องน้ำ พอฉี่เท่านั้นแล่ะค่ะ แม่เจ้าาา เจ็บถึงลูกถึงคน เจ็บสายเดรนที่เป็นท่อสายยางต่อออกมาเพื่อระบายเลือดข้างในอ่ะค่ะ จะมีสายต่อมีขวดรับรองเลือด เราเดินไปไหนไอ้กระปุกนี้จะอยุ่กับเราตลอดเวลาค่ะ ก็กลั้นใจฉี่แบบเเผ่วๆ

ต่อท่อระบายเลือดออกมาค่ะ
ออกมาจากห้องน้ำสักพักก็หลับค่ะ แต่ก็หลับไม่สนิทค่ะ เพราะมาเริ่มปวดแผลตอนบ่ายโมง กดเรียกพยาบาลสิคะรอให้ปวดทำไม55555 พี่เข้ามาถามว่าต้องการอะไรคะ เลยตอบไปว่า ปวดแผลค่ะ ปวดตรงที่ต่อท่อมากๆๆๆ ปวดไหล่ด้วย สักพักพยาบาลเข้ามาฉีดมอร์ฟีนให้ที่ท่อต่อน้ำเกลือ เราบอกว่าปวดไหล่มากๆ ยกแทบไม่ขึ้น พี่ก็อธิบายว่า จะไม่สบายตัวหลังจากผ่าตัดใน24ชม. หลังจากนั้นอาการจะดีค่อยๆดีขึ้น
16.00 ลุงมาเยี่ยมพน้อมกับเสบียงของกินมากมาย. ที่สำคัญเป็นห้องพิเศษก็มีความส่วนตัวมากสิคะ โหคุยกันเสียงดังมาก ยิ่งเมากรึ่มๆมาจากงานบวชด้วย โห คุยกันสนุกสนานพาเราขำไปด้วย ทีนี้ ขำปุ๊บ สะเทือนแผลสินะคุณผู้โชมมมม โห แบบขำไป เสร็จพอปวดแผลก็ร้องไห้ ขำๆสลับกับร้องไห้ก็ทนไม่ไหว ไล่ลุงกลับบ้านค่ะ555 บอกพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ วันนั้นก็งดน้ำงดอาหารกันไปค่ะ เที่ยงคืนเริ่มปวดแผลมาก ปวดไหล่ด้วย นอนหงายก็ปวดหลัง หายใจแรงก็ปวดแผล นอนตะแครงก็เจ็บสายที่ท่อ โอโห เป็นค่ำคืนที่ทรมานมากๆ มอร์ฟีนที่ได้ไปก็ทำให้หลับได้เต็มที่1ชม.ค่ะ พอตื่นมาก็หลับๆตื่นๆถึงเช้าา
21 มค.
เช้านี้ตื่นมาด้วยอาการเวียนหัว ปวดแผลแต่ไม่มากเท่าเมื่อคืน คุณหมออุดร(ดูแลเคส) มาเยี่ยมตอน11โมง ไม่ได้เปิดแผลค่ะ แต่มาถามว่าหิวไหม ท้องอืดไหม เราก็ตอบเต็มที่ค่ะ หิวมากกกก "จ้า เดี๋ยวหมอสั่งโอวัลติลให้2แก้วนะ" ค่ะโอ้ยยยย โอวัลตินสองแก้วดีใจลิงโลด หันไปบอกแม่ แม่ๆหนูกินได้เเล้ววว พยาบาลที่เข้ามาด้วยพากันขำใหญ่ แม่ยกมือไหว้คุณหมอ หมอรับไหว้แล้วยิ้มให้ แล้วออกไปเลย5555 คนไข้แกเยอะมากค่ะ สักพักฝ่ายห้องครัว เอาโอวังติลขึ้นมาให้2แก้วค่ะ มีแค่สองแก้วจริงๆ5555

ช่วงเย็นเพื่อนมาเยี่ยมค่ะ โหซื้อขนมมาเพียบ นางบอกซื้อมาให้คนเฝ้าเอ้าฉันอดอีกละ ชิๆๆ 5โมงเย็นฝ่ายครัวนำน้ำซุปมาให้ถ้วยนึงค่ะและนมจืดพน่องมันเนย1กล่อง เออแฮะน้ำซุปที่นี่อร่อยมากกก ป่าว ฉันหิวจ้ะ อะไรก็อร่อยแล่ะตอนนี้ พร้อมนมอีก1กล่อง เรียบบ...
พยาลาลมาวัดความดันก็บอกให้ออกไปเดินค่ะ จะได้ไม่ท้องอืดจะได้ทานข้าวไวๆ โห ได้ยินแบบนี้มีสปิริตเลยค่ะ รีบลากขวดน้ำเกลือไปเดินอย่างไว แต่ก็เดินช้าๆค่ะ เจ็บแผล...มากกกก
22 มค. ตื่นมาไม่ค่อยปวดแผลเหมือนวันแรก คุณหมอมาหาตอน10โมง มาถามว่าทานได้มั้ย รีบตอบค่ะ กินได้ค่ะ55555 ท้องอืดไหม ไม่ค่ะ
โอเค กดท้องตรวจอย่างเบามือ โอเคพรุ่งนี้น่าจะกลับบ้านได้ 11โมง อาหารมา ดีใจสุดขั้วเลยค่ะ มีถ้วยเมลามีนมีฝาปิดหลายใบ มาเป็นถาดเชียว ลุ้นๆ เปิดมา เย้ ข้าวต้มค่ะ พี่ฝ่ายครัวบอกว่าคุณหมอโทรเปลี่ยนอาหารให้ค่ะ ขนาดอาหารคนเป็นเบาหวานนะคะ จะบอกว่าอาหารอร่อยมาก (หรือหิว555) แต่อร่อยค่ะไม่จืดเหมือนที่เคยชิมของแม่ตอนป่วย ลืมบอกว่ามื้อเช้า มือนมชงสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ชื่อนม เจ็นดีเอ็มค่ะ ส่วนตัวคือชอบค่ะ หอม ข้นๆอร่อยมากก พอทานเสร็จก็ออกไปเดินลากเสาน้ำเกลือค่ะ. มื้อเย็นก็เป็นข้าวต้มค่ะ

23 มค. 6.00โมง พยาบาลมาวัดไข้ มีไข้ค่ะ กรี๊ดดดมีอีกละหรอ พี่พยาบาลบอกให้โอกาสอีกที วัดไข้37.4ค่ะ กลัวไม่ได้กลับบ้าน. ตอนเช้ามีข้าวต้มหมูสับกับนมจืดให้มาค่ะ สายๆฝ่ายครัวโทรมา ถามว่ามื้อเที่ยงจะรับอะไรดีคะ ข้าวต้มเนื้อปูหรือโจ๊ก คุณแม่รับสายค่ะ ตอนเย็นมีข้าวต้มกับโจ๊กค่ะ เเม่เลยบอกว่า คุณหมอว่าจะให้กลับวันนี้ ทางครัวเลยบอกว่าสอบถามไว้ค่ะ (น่ารักจัง) ช่วงสายๆมีฝ่ายโภชนาการเข้าสอบถามการทานอาหารของเรา ก็เลยบอกว่านมชงที่ให้มาอร่อยมากค่ะ พี่เค้าดูดีใจมากเพราะไม่เคยมีใครบอกว่าอร่อยเลย คุณหมอมา9.45 เปิดแผลดู ด้วยความที่เราเกร็งคุณหมอเลยดุมา "หนูจะกลัวอะไร หมอก็เคย ผ่าใหญ่กว่าหนูอีก ผ่าก็เจ็บแบบนี้แล่ะ" แอบขำอ่ะ555 หนูจะเกร็งทำไม มันเจ็บนี่คะลุงหมอ หมอบอกวันนี้กลับบ้านได้ รอเคลียร์เอกสาร ช่วงบ่ายพยาบาลมาทำแผลให้ พร้อมกับถอดสายท่อระบายเลือดออกคือจะบอกว่า ตอนถอดสายออกนี่แบบ อื้อหือหน้าแม่นิลอยมาเลย ร้องอื้ออออสุดตัว ร้องไห้เลยแล่ะ เจ็บมากกกกกก แต่ถอดออกแล้ว นอนนิ่งๆน้ำตาร่วงพักใหญ่ๆเลย แต่พอสักพักรู้สึกโล่งมาก ไม่เจ็บข้างในเท่าไหร่

รูปนี้ทำแผลเสร็จแล้วถอดสายระบายเลือดออกแล้ว นอนเล่นโทรศัพท์รอพยาบาลมาถอดสายน้ำเกลือ
เกือบๆบ่าย3พยาบาลเข้ามาถอดสายน้ำเกลือ สรุปว่าได้น้ำเกลือไปเกือบ5ขวด ยาฆ่าเชื้อ4กระปุก
อยากขอบคุณ คุณหมอชัยพร และลุงหมออุดร มากๆค่ะ ที่ดูแลหนูเป็นอย่างดี ขอบคุณคนในครอบครัวที่คอยดูแลเราทุกอย่างจริงๆ คนในครอบสำคัญที่สุด เวลาเราเจ็บ พ่อแม่รักเรามากที่สุด ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตหนู จะดูแลร่างกายเป็นอย่างดี ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ หวังว่าจะเป็นแนวทางให้กับใครๆอีกหลายคนนะคะ ขอบคุณค่ะ

นี่ค่ะ เจ้าหนูนิ่ว เอามาให้ดูเป็นสิ่งเตือนใจให้รักษาสุขภาพกันมากๆนะคะ มีอะไรเกิดขึ้นอย่าคิดไปเองค่ะ ควรพบ
[CR] แชร์ประสบการณ์ผ่าตัดส่องกล้อง "นิ่วในถุงน้ำดี"
คุณหมอเลยให้ผ่าออก เพราะเป็นโรคประจำตัวด้วยคือมีเบาหวานค่ะ
เมื่อถึงวันผ่า
20 มค. 2561
คุณหมอสั่งงดน้ำงดอาหารตั้งแต่ช่วงเย็นของวันก่อนผ่าค่ะ มาถึงโรงพยาบาล 6.15 น. คุณหมอนัด6.30น. มาถึงก็ยื่นใบนัดกับเวชระเบียนค่ะ รอตรงจุดซักประวัติก็วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก แอบจำได้ว่า 70กก.ค่ะ 55555 สักพักใหญ่ๆ คุณพยาบาลก็เรียกชื่อเข้าห้องฉุกเฉินค่ะ ให้เราไปx-ray ที่แผนกรังสีค่ะ เสร็จแล้วก็ขึ้นเตียงนอน เจาะเลือด และเจาะสายน้ำเกลือเสียบไว้ค่ะตอน 7.10น. สักพักจะมีพยาบาลมาถามค่ะ ว่าวันนี้เรามาทำอะไร ชื่อ-สกุล และนำใบมาให้เซ็นต์ค่ะ สักพักพี่จนท. มาถามว่าจะเลือกห้องพักแบบไหน ก็เลยเลือกห้องพิเศษเดี่ยวค่ะ เป็นสิทธิ์ประกันสังคม คนไข้ต้องมีจ่ายส่วนต่างนะครับ เราก็ตกลงค่ะ เลือกห้องพัก เซ็นต์ยินยอมเรียบร้อย สักพักมี จนท. เวรเปล เข็นรถนั่งมารับเราพาไปส่งที่ห้องพักค่ะ ชั้น3
8.15น. พอถึงห้องพัก พยาบาลที่วอร์ดก็เข้ามาซักประวัติ พร้อมนำชุดคนไข้มาเปลี่ยนให้ค่ะ พี่พยาบาลสังเกตุเราทั้งตัวเลยค่ะ ผ่านี่คะ ต้องสังเกตุกันหน่อย เจอว่าเราไม่ได้ล้างเล็บเท้าค่ะ แหะๆ พี่พยาบาลบอกเดี๋ยวต้องล้างนะคะ เราก็อายจัง เลยถามว่าเล็บเท้าก็ต้องล้างหรอคะ พี่พยาบาลก็ยิ้มๆมา บอกว่าต้องล้างค่ะสำคัญมาก คุณหมอจะสังเกตุเล็บเราด้วย แล้วพี่พยาบาลก็เข้ามาล้างเล็บให้ค่ะ พร้อมกับนำป้าย งดอาหารงดน้ำ มาเเขวนไว้ หันไปมองตาปริบๆโอ้โห กว่าจะได้กินข้าววันไหนกันนะ5555 ก็นอนรอเวลา ดูทีวีเพลินๆแก้จิตตกค่ะ จน 8.40 คุณพยาบาลเคาะห้องเข้ามาบอกว่า คุณหมอ(ผ่าตัด) โทรมาตามแล้วค่ะ แล้วก็ถามว่าอยากจะฉี่ก่อนมั้ย เราก็ ตกลงค่ะ ก็ได้จะได้เรียบร้อย พอเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็เจอเวรเปลเข็นเตียงมารับแล้วค่ะ หันหน้าไปหาพี่สาว เค้าไปละนะ พี่บอกเดี๋ยวตามไปส่ง แล้วก็ตามมากับพยาบาลค่ะ เดี๋ยวแม่คงมา แม่ติดไปงานบวชเพื่อนบ้าน
09.00 ลงลิฟต์จากชั้น3 มาห้องผ่าตัดชั้น2 ค่ะ เปิดประตูมาได้แค่2เมตรก็ มีพี่ข้างในห้องผ่าตัดเข็นเตียงมารับค่ะ เหมือนแบ่งกั้นอาณาเขตมาก แม้กระทั่งพยาบาลที่ลงมาส่งเราก็ไม่สามารถเข้าไปยังเขตห้องผ่าตัดได้ค่ะ พอเข็นเตียงจากหน้าห้องมา ก็เปลี่ยนเตียงอีกทีค่ะ ทีนี้เป็นเขตปลอดเชื้อจริงๆเเล้ว ชุดที่เราใส่มา ดังนั้นนน.... ถอดดดค่ะ!!! โอ้โห อายสิคะ พี่บอกว่าขอถอดกางเกงนะคะ พร้อมนำมาสีเขียวเข้มมาคลุมที่ตัวให้ จากนั้นกางเกงที่ใส่มาก็หมดความหมายแล้วค่ะ เสื้อที่ใส่มาก็ด้วย ถอดด้วยค่ะ ที่นี้ก็มีแค่ร่างเปลือยๆกับผ้าคลุมบางๆค่ะ ฮ่าๆๆๆ กลิ่นยาฆ่าเชื้อปะทะจมูกอย่างแรงง พอพี่เข็นมาถึงห้องผ่าตัด 3 เปิดประตูปุ๊บ คุณพี่พูดด้วยน้ำเสียง ตื่นเต้นมากกก หมอมาแล้วววว ค่ะ ยิ่งตื่นเต้นไปอีก5555 พอเข็นถึงห้องผ่าตัด ใช่ค่ะ ต้องขยับก้นมาที่เตียงผ่าตัดจริงๆแล้วค่ะ พอนอนบนเตียง ก็เจอพี่พยาบาลผู้ชาย อ่านประวัติผลตรวจเลือดของเราอยู่ พร้อมกับกางแขนเราสองข้าง ข้างนึงเป็นเครื่องวัดความดัน ข้างนึงวัดชีพจร และมาอะไรๆมาแปะบนหน้าอก ไม่รู้คืออะไรค่ะ 555 เห็นมนุษย์ชุดเขียวเดินเข้ามา4-5คน โห นี่ผ่าตัดใช้บุคลากรเยอะเพียงนี้เชียวรึนี่ คิดในใจ สงสัยคิดดังไป เครื่องวัดความดันถึงกับร้อง สักพักค่ะ เทพบุตรของหนูก็เดินเข้ามา ใส่แว่นมาน่ารักเชียวค่ะ 5555 คุณหมอชัยพร ค่ะ คุณหมอที่ทำการผ่าตัดให้เรา เดินมามองหน้าเรา แล้วถามว่า ตื่นเต้นหรอ เราก็พยักหน้าบอกว่า มากค่ะ แล้วคุณหมอก็ส่งยิ้มมาให้ แล้วเดินออกไปไหน ไม่รู้ค่ะ อิอิ
สักพักคุณหมอดมยาก็เข้ามาค่ะ สวยมาก ถามเราเกี่ยวกับโรคประจำตัว ถามว่าเคยผ่าตัดไหม แพ้อะไรไหม ผ่าตัดใช้วิธีวางยาสลบนะคะ พี่พยาบาลผู้ชายก็ชวนเราคุยลดอาการกังวล และแล้วคุณหมอดมยาก็บอกว่า จะฉีดยา ชาหรือสลบ ไม่แน่ใจค่ะจำไม่ได้ จะรู้สึกแสบๆที่แขนนิดนึงนะคะ และผ่าตัดเสร็จอาจจะมีอาการปวดม้อง เพราะคุณหมอจะ อัดแก๊สเข้าไปค่ะ
แล้วก็มีคนเอาหน้ากากอ๊อกซิเจนให้เราดม บอกว่า ดมอ๊อกซิเจนนะคะ
สูดดดดแรกของความรู้สึกคืออ.... สูดไปลึกๆรู้สึกมันค่ะ รู้สึกท่อนล่างชาๆ มึนๆหัว
สูดที่สอง.... เอ้ะเริ่มคุมความมึนไม่อยู่. อ๊ะไม่แสบแขนเเฮะ แล้วก็.....ความรู้สึกดับวูบค่ะ ดับไปตอนไหนไม่รู้
พอรู้สึกตัวอีกที ลืมตามามันขาวๆมัวๆไปหมด อู้ยยยย ปวดแขนปวดไหล่ด้านขวามาก ใครมานั่งทับกันนะ โอ้ยเจ็บหน้าท้องมาก เจ็บแผล เจ็บคอแสบคอมากๆ เริ่มจะดิ้นค่ะ ตอนนี้ ดิ้นจนหน้ากากอ๊อกซิเจนหลุด แล้วพี่พยาบาลผู้ชายก็เดินเข้ามาหา พร้อมกับถามว่า เป็นยังไงครับ ไม่ดมแล้วหรออ๊อกซิเจน เลยส่ายหัวไป ได้ยินพี่บอก ผ่าตัดเสร็จแล้วนะ เลยบอกพี่เค้าไปว่าปวดไหล่มาก ลืมตาไม่ขึ้น ตามัวมาก พี่เลยบอกเป็นฤทธิ์ยาสลบน้า เดี๋ยวก็หาย พอมีสติก็ถามเฃยว่า ผ่าแบบไหน พี่ตอบส่องกล้องจ๊ะ หูยยยย ส่องกล้องยังเจ็บแผลขนาดนี้ ปล.ที่ถาม เพราะคุณหมอแจ้งไว้ก่อนว่า ถ้าผ่าแบบส่องกล้องแล้วติดอะไรข้างในหมอจะผ่าแบบเปิดหน้าท้อง แต่คนไข้ไม่รู้สึกหรอกเพราะอยู่ในยาสลบ พี่ยื่นถุงที่มีนิ่วให่เราดู และบอกว่าใส่ไว้ใต้เตียงนะ พยักหน้ารับ พอพี่เค้าบอกส่องกล้องเราก็ดีใจ
นอนอึดอัดเพราะหน้ากากอ๊อกซิเจน เบลอยา ได้ยินพี่ผู้ชายโทรหาพยาบาลบนวอร์ดให้มารับ พร้อมกับชื่อยา จำได้คล้ายๆว่ามอร์ฟีน สักพักก็มีเตียงที่ใช้ในห้องผ่าตัดมารับ ใช้แผ่นสไลด์ผู้ป่วยในการย้ายเตียง คลำๆดูตัวเรา หือออ มีกระปุกอะไรมาต่อข้างๆพุงเราด้านขวา ก็ไม่สนใจเพราะเบลอมาก ก็ถูกเข็นไปหน้าห้องผ่า พี่เวรเปลเข้ามารับกับพยาบาล ใช้แผ่นสไลด์อีกครั้ง ออกมาจากห้องผ่า หันมองนาฬิกาแขวนผนัง 11.00 ตาเริ่มสว่างขึ้น เปิดประตูมา เจอหน้าแม่คนแรก ดีใจมากกกก แม่ดูเหมือนจะดีใจปนร้องไห้ นี่พี่สาวเรารอตลอดเลยหรอเนี้ย ซึ้งมาก ไม่ใช่พี่สาวแท้ๆ เราเป็นลูกคนเดียว เป็นญาติมีศักดิ์เป็นพี่
11.05 ขึ่นลิฟต์มาชั้น3ที่พักฟื้น. 11.30 รู้สึกปวดฉี่ พอดีพยาบาลเข้ามาวัดความดัน เลยบอกพี่ขาปวดฉี่ ขอเดินเข้าห้องน้ำนะคะ พี่ก็ชมว่าเก่งจัง เดินไหวไหมคะ ลองเดินดูค่ะ เดินได้ท้องจะไม่อืด ทนเจ็บหน่อบนะ จะมึนๆยาด้วย ค่อยๆลุกจากที่นอน ตะแคงตัวขึ้นมา มีพี่สาวและกี่พยาบาลประคองตลอด จนพี่พยาบาลบอกว่า ตอนนี้ฤทธิ์ยาชายังไม่หมดเงยพอเดินได้ อบากให่เดินก่อน เราก็ค่ะ เออแฮ้ะ เจ็บแผลแต่เดินได้ ก็เดินไปเข้าห้องน้ำ พอฉี่เท่านั้นแล่ะค่ะ แม่เจ้าาา เจ็บถึงลูกถึงคน เจ็บสายเดรนที่เป็นท่อสายยางต่อออกมาเพื่อระบายเลือดข้างในอ่ะค่ะ จะมีสายต่อมีขวดรับรองเลือด เราเดินไปไหนไอ้กระปุกนี้จะอยุ่กับเราตลอดเวลาค่ะ ก็กลั้นใจฉี่แบบเเผ่วๆ
ออกมาจากห้องน้ำสักพักก็หลับค่ะ แต่ก็หลับไม่สนิทค่ะ เพราะมาเริ่มปวดแผลตอนบ่ายโมง กดเรียกพยาบาลสิคะรอให้ปวดทำไม55555 พี่เข้ามาถามว่าต้องการอะไรคะ เลยตอบไปว่า ปวดแผลค่ะ ปวดตรงที่ต่อท่อมากๆๆๆ ปวดไหล่ด้วย สักพักพยาบาลเข้ามาฉีดมอร์ฟีนให้ที่ท่อต่อน้ำเกลือ เราบอกว่าปวดไหล่มากๆ ยกแทบไม่ขึ้น พี่ก็อธิบายว่า จะไม่สบายตัวหลังจากผ่าตัดใน24ชม. หลังจากนั้นอาการจะดีค่อยๆดีขึ้น
16.00 ลุงมาเยี่ยมพน้อมกับเสบียงของกินมากมาย. ที่สำคัญเป็นห้องพิเศษก็มีความส่วนตัวมากสิคะ โหคุยกันเสียงดังมาก ยิ่งเมากรึ่มๆมาจากงานบวชด้วย โห คุยกันสนุกสนานพาเราขำไปด้วย ทีนี้ ขำปุ๊บ สะเทือนแผลสินะคุณผู้โชมมมม โห แบบขำไป เสร็จพอปวดแผลก็ร้องไห้ ขำๆสลับกับร้องไห้ก็ทนไม่ไหว ไล่ลุงกลับบ้านค่ะ555 บอกพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ วันนั้นก็งดน้ำงดอาหารกันไปค่ะ เที่ยงคืนเริ่มปวดแผลมาก ปวดไหล่ด้วย นอนหงายก็ปวดหลัง หายใจแรงก็ปวดแผล นอนตะแครงก็เจ็บสายที่ท่อ โอโห เป็นค่ำคืนที่ทรมานมากๆ มอร์ฟีนที่ได้ไปก็ทำให้หลับได้เต็มที่1ชม.ค่ะ พอตื่นมาก็หลับๆตื่นๆถึงเช้าา
21 มค.
เช้านี้ตื่นมาด้วยอาการเวียนหัว ปวดแผลแต่ไม่มากเท่าเมื่อคืน คุณหมออุดร(ดูแลเคส) มาเยี่ยมตอน11โมง ไม่ได้เปิดแผลค่ะ แต่มาถามว่าหิวไหม ท้องอืดไหม เราก็ตอบเต็มที่ค่ะ หิวมากกกก "จ้า เดี๋ยวหมอสั่งโอวัลติลให้2แก้วนะ" ค่ะโอ้ยยยย โอวัลตินสองแก้วดีใจลิงโลด หันไปบอกแม่ แม่ๆหนูกินได้เเล้ววว พยาบาลที่เข้ามาด้วยพากันขำใหญ่ แม่ยกมือไหว้คุณหมอ หมอรับไหว้แล้วยิ้มให้ แล้วออกไปเลย5555 คนไข้แกเยอะมากค่ะ สักพักฝ่ายห้องครัว เอาโอวังติลขึ้นมาให้2แก้วค่ะ มีแค่สองแก้วจริงๆ5555
พยาลาลมาวัดความดันก็บอกให้ออกไปเดินค่ะ จะได้ไม่ท้องอืดจะได้ทานข้าวไวๆ โห ได้ยินแบบนี้มีสปิริตเลยค่ะ รีบลากขวดน้ำเกลือไปเดินอย่างไว แต่ก็เดินช้าๆค่ะ เจ็บแผล...มากกกก
22 มค. ตื่นมาไม่ค่อยปวดแผลเหมือนวันแรก คุณหมอมาหาตอน10โมง มาถามว่าทานได้มั้ย รีบตอบค่ะ กินได้ค่ะ55555 ท้องอืดไหม ไม่ค่ะ
โอเค กดท้องตรวจอย่างเบามือ โอเคพรุ่งนี้น่าจะกลับบ้านได้ 11โมง อาหารมา ดีใจสุดขั้วเลยค่ะ มีถ้วยเมลามีนมีฝาปิดหลายใบ มาเป็นถาดเชียว ลุ้นๆ เปิดมา เย้ ข้าวต้มค่ะ พี่ฝ่ายครัวบอกว่าคุณหมอโทรเปลี่ยนอาหารให้ค่ะ ขนาดอาหารคนเป็นเบาหวานนะคะ จะบอกว่าอาหารอร่อยมาก (หรือหิว555) แต่อร่อยค่ะไม่จืดเหมือนที่เคยชิมของแม่ตอนป่วย ลืมบอกว่ามื้อเช้า มือนมชงสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ชื่อนม เจ็นดีเอ็มค่ะ ส่วนตัวคือชอบค่ะ หอม ข้นๆอร่อยมากก พอทานเสร็จก็ออกไปเดินลากเสาน้ำเกลือค่ะ. มื้อเย็นก็เป็นข้าวต้มค่ะ
23 มค. 6.00โมง พยาบาลมาวัดไข้ มีไข้ค่ะ กรี๊ดดดมีอีกละหรอ พี่พยาบาลบอกให้โอกาสอีกที วัดไข้37.4ค่ะ กลัวไม่ได้กลับบ้าน. ตอนเช้ามีข้าวต้มหมูสับกับนมจืดให้มาค่ะ สายๆฝ่ายครัวโทรมา ถามว่ามื้อเที่ยงจะรับอะไรดีคะ ข้าวต้มเนื้อปูหรือโจ๊ก คุณแม่รับสายค่ะ ตอนเย็นมีข้าวต้มกับโจ๊กค่ะ เเม่เลยบอกว่า คุณหมอว่าจะให้กลับวันนี้ ทางครัวเลยบอกว่าสอบถามไว้ค่ะ (น่ารักจัง) ช่วงสายๆมีฝ่ายโภชนาการเข้าสอบถามการทานอาหารของเรา ก็เลยบอกว่านมชงที่ให้มาอร่อยมากค่ะ พี่เค้าดูดีใจมากเพราะไม่เคยมีใครบอกว่าอร่อยเลย คุณหมอมา9.45 เปิดแผลดู ด้วยความที่เราเกร็งคุณหมอเลยดุมา "หนูจะกลัวอะไร หมอก็เคย ผ่าใหญ่กว่าหนูอีก ผ่าก็เจ็บแบบนี้แล่ะ" แอบขำอ่ะ555 หนูจะเกร็งทำไม มันเจ็บนี่คะลุงหมอ หมอบอกวันนี้กลับบ้านได้ รอเคลียร์เอกสาร ช่วงบ่ายพยาบาลมาทำแผลให้ พร้อมกับถอดสายท่อระบายเลือดออกคือจะบอกว่า ตอนถอดสายออกนี่แบบ อื้อหือหน้าแม่นิลอยมาเลย ร้องอื้ออออสุดตัว ร้องไห้เลยแล่ะ เจ็บมากกกกกก แต่ถอดออกแล้ว นอนนิ่งๆน้ำตาร่วงพักใหญ่ๆเลย แต่พอสักพักรู้สึกโล่งมาก ไม่เจ็บข้างในเท่าไหร่
เกือบๆบ่าย3พยาบาลเข้ามาถอดสายน้ำเกลือ สรุปว่าได้น้ำเกลือไปเกือบ5ขวด ยาฆ่าเชื้อ4กระปุก
อยากขอบคุณ คุณหมอชัยพร และลุงหมออุดร มากๆค่ะ ที่ดูแลหนูเป็นอย่างดี ขอบคุณคนในครอบครัวที่คอยดูแลเราทุกอย่างจริงๆ คนในครอบสำคัญที่สุด เวลาเราเจ็บ พ่อแม่รักเรามากที่สุด ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตหนู จะดูแลร่างกายเป็นอย่างดี ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ หวังว่าจะเป็นแนวทางให้กับใครๆอีกหลายคนนะคะ ขอบคุณค่ะ