สวัสดีค่ะ เราจะมาเล่าประสบการณ์เข้ามหาลัยของตัวเราเอง ขอเกริ่นก่อนนะคะ ว่าเราเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในคณะสายสังคม กำลังเรียนชั้นปีที่ 1 เรามั่นใจว่าเราเรียนค่อนข้างดี ตั้งเเต่เด็กจนโตเราเป็นคนร่าเริงมาก เพื่อนเยอะ ครอบครัวเราค่อนข้างอบอุ่นแต่เราเเอบมีปัญหาสุขภาพ เราชอบป่วยบ่อยๆ
ตอนเราเข้ามหาวิทยาลัยครั้งแรก พ่อเราถามรุ่นพี่ว่ามีการรับน้องแรงๆไหม? รุ่นพี่ตอบว่าไม่เเน่นอนค่ะ เเต่ความจริงเเล้วเราไม่รู้ว่าที่เราเจอเรียกว่าแรงๆได้ไหม
รุ่นพี่บอกเสมอว่าไม่มีโซตัส เเล้วการที่มารุมด่า มาทำโทษหนักๆ ปิดห้อง ห้ามเอาเรื่องออกไปพูดข้างนอก คืออะไร? การไซโคให้น้องเกลียดกันเองคืออะไร? กิจกรรมอะไรก็หวังชนะตลอดคืออะไร?
เราโดนรุ่นพี่กดดันให้เข้าเชียร์ ถ้าไม่เข้าจะโดนเพื่อนกดดันในเเชทกลุ่ม หลังจบเชียร์ ก็มีกิจกรรมอื่นๆซึ่งพี่ก็เข้ามาช่วยทำ เเละเเน่นอนว่าก็หาโอกาส 'ลง' ปี1 ตลอด ใครไม่มาทำกิจกรรม (ที่ไม่สนุกเลยเพราะโดนกดดันตลอดว่าต้องชนะ) หรือว่าไม่มาตอนพี่เรียกประชุม เรียกลง เพื่อนก็จะโดนทำโทษต่างๆนานา เหมือนยุยงให้เกลียดกันเอง ซึ่งเราก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง เพราะเราไม่ค่อยสบาย
จุดเริ่มต้นเกิดจากการที่เราไม่ค่อยสบาย เราเลยไปบ้างไม่ไปบ้าง เเเละเราดันเป็นคนอ่อนไหวง่าย เรากลัวมากว่าเพื่อนจะคิดยังไงกับเรา จะเกลียดเราไหม จะโทษเราไหมที่ทำให้โดนลงโทษ
เราเริ่มมีอาการนอนไม่หลับ กินอะไรไม่ค่อยได้ เราหงุดหงิดง่ายขึ้น ขี้โมโห หวาดระเเวง ชอบคิดว่าคนอื่นด่าเราตลอดเวลา เรามีอาการตั้งเเต่ช่วงเดือนกันยายน เเต่เราเพิ่งหาหมอเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หมอบอกว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าที่หนักมาก เรามีโอกาสเสี่ยงฆ่าตัวตายตลอดเวลา หมอบอกว่าเป็นเพราะเราคิดมาก เครียด ในหลายๆเรื่อง
เราเคยเกริ่นไว้ตั้งเเต่เเรกเเล้วว่าเรามีปัญหาสุขภาพ ถ้าใครไม่สบายบ่อยๆหรือว่าอาจจะเคยผ่าตัดบ้างจะรู้ว่าหมอเจ้าของไข้สามารถส่งเรามาพบจิตเเพทย์ได้ตลอดเวลาที่รักษาอยู่ เเน่นอนว่าเราพบจิตเเพทย์ล่าสุดคือตอนจบม.6 ก่อนเข้ามหาลัย ตอนนั้นผลสุขภาพจิตเราปกติดี เราเพิ่งมาเป็นตอนขึ้นมหาลัยด้วยเวลาเพียงเทอมเดียว
เราไม่ได้จะโทษรุ่นพี่ว่าผิดทั้งหมด เพราะเราก็ผิดเองด้วยที่หวั่นไหวง่ายเกินไป เเต่ถึงยังไงเราก็มองว่ารุ่นพี่ผิดอยู่ดี การว๊ากน้องไม่ได้ทำให้น้องรักกันหลอกนะคะ เผลอๆเกลียดเสียด้วยซ้ำ เรานึกมาตลอดว่าปัญญาชนจะมีสมองมากกว่านี้ เเต่เราคิดผิด หมอบอกว่าเราต้องรักษาสุขภาพจิตอีกนานรวมทั้งสุขภาพร่างกายที่เเย่ขึ้น เพราะผลกระทบจากสุขภาพจิต
ถ้าถามเราว่าทำไมเราไม่บอกอาจารย์ ก็เป็นเพราะกิจกรรมนี้จะอยู่ไม่ได้นานจากรุ่นสู้รุ่นหลอกถ้าอาจารย์ไม่เห็นด้วย
ถ้าถามว่าทำไมเราไม่บอกผู้ปกครองเรา ถ้าเราบอกครอบครัวเราคงอยากให้เราซิ่วออก เเต่เรา กำลังจะจบปี1 เเล้วไง คือเราไม่รู้ว่าถ้าเราซิ่วเเล้วไปเริ่มใหม่เราจะต้องโดนเเบบนี้อีกไหม? เราคิดว่าถ้าเราจบปี1 เราจะไม่โดนอีก เราเลยพยายามอดทน เเต่เราก็อยากมาเเลกเปลี่ยนเผื่อจะมีใครคิดเเบบเรา เเละสำคัญที่สุดคือเราเองก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราเป็นใครเเละอยู่ม.ไหน
ปล.เราคิดว่าเราเขียนดีนะ เเต่อ่านเองเเล้วดูวกวนยังไงก็ไม่รู้ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ
ปล.สุดท้าย ยังไงเราขอร้องให้ระวังคำพูดให้เราหน่อยนะคะ ถือว่าเราขอร้อง
โรคซึมเศร้าจากการรับน้อง
ตอนเราเข้ามหาวิทยาลัยครั้งแรก พ่อเราถามรุ่นพี่ว่ามีการรับน้องแรงๆไหม? รุ่นพี่ตอบว่าไม่เเน่นอนค่ะ เเต่ความจริงเเล้วเราไม่รู้ว่าที่เราเจอเรียกว่าแรงๆได้ไหม
รุ่นพี่บอกเสมอว่าไม่มีโซตัส เเล้วการที่มารุมด่า มาทำโทษหนักๆ ปิดห้อง ห้ามเอาเรื่องออกไปพูดข้างนอก คืออะไร? การไซโคให้น้องเกลียดกันเองคืออะไร? กิจกรรมอะไรก็หวังชนะตลอดคืออะไร?
เราโดนรุ่นพี่กดดันให้เข้าเชียร์ ถ้าไม่เข้าจะโดนเพื่อนกดดันในเเชทกลุ่ม หลังจบเชียร์ ก็มีกิจกรรมอื่นๆซึ่งพี่ก็เข้ามาช่วยทำ เเละเเน่นอนว่าก็หาโอกาส 'ลง' ปี1 ตลอด ใครไม่มาทำกิจกรรม (ที่ไม่สนุกเลยเพราะโดนกดดันตลอดว่าต้องชนะ) หรือว่าไม่มาตอนพี่เรียกประชุม เรียกลง เพื่อนก็จะโดนทำโทษต่างๆนานา เหมือนยุยงให้เกลียดกันเอง ซึ่งเราก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง เพราะเราไม่ค่อยสบาย
จุดเริ่มต้นเกิดจากการที่เราไม่ค่อยสบาย เราเลยไปบ้างไม่ไปบ้าง เเเละเราดันเป็นคนอ่อนไหวง่าย เรากลัวมากว่าเพื่อนจะคิดยังไงกับเรา จะเกลียดเราไหม จะโทษเราไหมที่ทำให้โดนลงโทษ
เราเริ่มมีอาการนอนไม่หลับ กินอะไรไม่ค่อยได้ เราหงุดหงิดง่ายขึ้น ขี้โมโห หวาดระเเวง ชอบคิดว่าคนอื่นด่าเราตลอดเวลา เรามีอาการตั้งเเต่ช่วงเดือนกันยายน เเต่เราเพิ่งหาหมอเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หมอบอกว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าที่หนักมาก เรามีโอกาสเสี่ยงฆ่าตัวตายตลอดเวลา หมอบอกว่าเป็นเพราะเราคิดมาก เครียด ในหลายๆเรื่อง
เราเคยเกริ่นไว้ตั้งเเต่เเรกเเล้วว่าเรามีปัญหาสุขภาพ ถ้าใครไม่สบายบ่อยๆหรือว่าอาจจะเคยผ่าตัดบ้างจะรู้ว่าหมอเจ้าของไข้สามารถส่งเรามาพบจิตเเพทย์ได้ตลอดเวลาที่รักษาอยู่ เเน่นอนว่าเราพบจิตเเพทย์ล่าสุดคือตอนจบม.6 ก่อนเข้ามหาลัย ตอนนั้นผลสุขภาพจิตเราปกติดี เราเพิ่งมาเป็นตอนขึ้นมหาลัยด้วยเวลาเพียงเทอมเดียว
เราไม่ได้จะโทษรุ่นพี่ว่าผิดทั้งหมด เพราะเราก็ผิดเองด้วยที่หวั่นไหวง่ายเกินไป เเต่ถึงยังไงเราก็มองว่ารุ่นพี่ผิดอยู่ดี การว๊ากน้องไม่ได้ทำให้น้องรักกันหลอกนะคะ เผลอๆเกลียดเสียด้วยซ้ำ เรานึกมาตลอดว่าปัญญาชนจะมีสมองมากกว่านี้ เเต่เราคิดผิด หมอบอกว่าเราต้องรักษาสุขภาพจิตอีกนานรวมทั้งสุขภาพร่างกายที่เเย่ขึ้น เพราะผลกระทบจากสุขภาพจิต
ถ้าถามเราว่าทำไมเราไม่บอกอาจารย์ ก็เป็นเพราะกิจกรรมนี้จะอยู่ไม่ได้นานจากรุ่นสู้รุ่นหลอกถ้าอาจารย์ไม่เห็นด้วย
ถ้าถามว่าทำไมเราไม่บอกผู้ปกครองเรา ถ้าเราบอกครอบครัวเราคงอยากให้เราซิ่วออก เเต่เรา กำลังจะจบปี1 เเล้วไง คือเราไม่รู้ว่าถ้าเราซิ่วเเล้วไปเริ่มใหม่เราจะต้องโดนเเบบนี้อีกไหม? เราคิดว่าถ้าเราจบปี1 เราจะไม่โดนอีก เราเลยพยายามอดทน เเต่เราก็อยากมาเเลกเปลี่ยนเผื่อจะมีใครคิดเเบบเรา เเละสำคัญที่สุดคือเราเองก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราเป็นใครเเละอยู่ม.ไหน
ปล.เราคิดว่าเราเขียนดีนะ เเต่อ่านเองเเล้วดูวกวนยังไงก็ไม่รู้ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ
ปล.สุดท้าย ยังไงเราขอร้องให้ระวังคำพูดให้เราหน่อยนะคะ ถือว่าเราขอร้อง