สวัสดีค่ะ กลับมากันอีกแล้ว หลังจากกลับมาจากยุโรปไปหยกๆ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไปตามหารัก ไม่เจอซะงั้น เจอแต่ผู้ชายหล่อๆ ไปส่องกันได้ที่ กระทู้นี้ >>[CR]ยุโรปไม่ไกลเกินฝันภาคต่อ : เบื่อแล้วเอเชียไปแอ่วหนุ่มที่ ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรีย สวิส 10 วัน 9 คืน 43K ละเอียด
https://pantip.com/topic/37316135
>> แอ่วผู้ชายที่รัสเซียกันมาเดือนพฤศจิกายน 2017 และเห็นแสงเหนือจนเบื่อ (พูดซะ น่าหมั่นไส้เชียว อิอิ) เผื่อใครจะอยากตามไปชมความแรดของเจ้าของกระทู้ ที่รัสเซีย เชิญ Link นี้ได้เลยคะ
https://pantip.com/topic/37124254
แพลนอันนี้บินติดกันเลย เป็นช่วงวันเกิดของเจ้าของกระทู้เอง ตอนแรกกลัวร่างกายจะไม่ไหวมาก หนาวจัด กลับมาร้อน ไปหนาวอีก กลัวนอคร่างพังไม่สบาย พยายามกินยาดักไว้ตลอดกลัวป่วยจริงละไปไม่ไหว สำหรับใครที่กลัว jetlag แนะนำให้ถ่างตาเอาไว้ 5555+ ( ไม่น่าใช่ )
กว่าจะเกิดทริปนี้ได้ขอเกริ่นหน่อย เริ่มต้นมาจาก ตอนแรกคุยกันกับพ่อแม่ ว่าปีนี้เรายังไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันเลยนะ อยากไปเที่ยวไหนไหม เดียวลูกพาไป ตอนแรกพ่อแม่เสนอเกาหลี แต่เห็นระเบิดอะไรนิละ ไม่ไปละ ไปญี่ปุ่นแทนได้ไหม แพงกว่าเยอะหรือเปล่า ให้เป็นการบ้านลูกไปดูละกัน อย่างแรกที่ทำ คือ มองหาตั๋วเครื่องบิน ตัวเราเองเป็น Members AirAsia มีแต้มพอได้ ตอนนั้นมีโปรโมรชัน แลกแต้ม AirAsia 1,000 แต้ม ราคาตกคนละ 6,800 บาท คุ้มมมมมม ส่วนกระเป๋ากับที่นั่ง ขาไป ได้ฟรีทั้งสามคน เพราะสมัครบัตรเครดิต Bangkok AirAsia ไว้ จะให้บัตรโหลดกระเป๋า เลือกที่นั่งฟรี 3 ครั้งมา ระบุชื่อเราเรียบร้อย เอาไปให้คนอื่นไม่ได้ โหลดแค่ขากลับ 1 ใบเท่านั้นเอง ราคา 1,100 บาท คุ้มจริงๆ
หลังจากนั้น มาวางแพลนการเดินทาง ไปไหนยังไง ครั้งแรกของพ่อแม่ที่ไปเที่ยวโซนคันไซ เลยต้องพาไปโซนดังดัง ส่วนตัวไม่ได้อยากไปโซนนี้ ไปมาบ่อย แต่ต้องคิดว่ารอบนี้ เราไม่ได้ไปเที่ยวคนเดียว หรือกับเพื่อน ต้องไป Landmark บ้าง หลังจากนั้นก็ทิ้งแพลนเอาไว้นานเลย จนมารื้อแพลนอีกรอบ ตอนที่ป้าลุง อีก 8 คน ที่ชอบไปเที่ยวมาขอแจมทริป ถามพ่อแม่โอเคไหม ถ้ามีลุงป้ามาด้วย พ่อแม่บอกได้ จะได้มีเพื่อนคุย เลยหาตั๋วให้ทุกท่าน กลายเป็นทริปสว ไปโดยปริยาย ให้ป้ากับลุงบิน Full services มาถึงตอนเช้า แล้วเที่ยวเลย (คิดในใจ จะไหวไหมวะเนี่ย 555+) ของเราไฟท์ประหยัดไง มาถึงกลางคืน ต้องมานอนคืนนึงก่อน เริ่มเที่ยว คิดในแง่ดีพ่อแม่จะได้พักผ่อนเต็มที่มีแรงเที่ยว ปรับแพลนอีกครั้งให้เบาลงอีกกกกกกกกก สรุปทำแพลนวันต่อวันแทน ไม่ได้คิดไปล่วงหน้า แค่ดูไว้ว่าอยากไปไหนบ้าง ดูท่าทีของผู้ใหญ่แทน
ก่อนเดินทางอาทิตย์นึง คุณพ่อติดงาน มาไม่ได้จ้า ทุกอย่างที่จองไว้ Non Rerund เสียใจมาก TT อุส่าห์จะได้มาเที่ยวด้วยกันแล้ว ต้องเข้าใจว่าท่านมีธุระจริงๆ พี่ที่เป็นลูกของลุงป้า เลยมาแทน ดีเลยมาช่วยกันดูแล ^^ และน้าเราอีกสองคน สรุปรวมทริปนี้ 13 คน เพียงพอสำหรับการเพิ่มคนที่เยอะแยะ 555+ เราพอเถอะนะ ออกเดินทางกันดีกว่า
วันที่ 1 26 มกราคม 2018
[center ]วันนี้เราบินพร้อมกัน 5 คน อีก 8 คนตามมาอีกไฟท์ ก่อนมาสนามบิน คนพาเที่ยวไม่สบาย ไปหาหมอ โดนให้พัก บอกว่าอย่าหักโหม เอายามา เรียบร้อย ร่างกายมันจะอ่อนแอไปไหน ป่วยง่ายมาก รำคาญตัวเอง 55555+ คิดในใจ วันนี้คงรอด ไม่ได้ทำอะไรมาก แค่เดินทางออกจากกรุงเทพ ถึง kansai ดึกๆ เข้าที่พัก เดินเล่นแถวดงกี้ตรงที่พัก พอละ มันจะง่ายอย่างที่คิดไหมไปดูกัน
ออกเดินทางจากบ้าน เอารถมาจอดที่สนามบินดอนเมือง คนเยอะมากกกก ก ล้านตัว ขนาดเผื่อเวลาแล้ว ยังไม่มีที่จอด ต้องเอาไปจอด ดาดฟ้า ตากแดดไป 5 วัน สงสารรถมาก แต่ทำไงได้ เต็มหมดเลย เราเดินมา terminal หลังสุด ระหว่างทาง รู้สึกไกลสุดโพ้น เลย terminal ภายในประเทศไปอีก เดินมารู้สึกเลย 15 นาทีเลย มาถึง counter Bangkok Credit Card ของ Airasia เอาการ์ดแลกที่นั่งและโหลดกระเป๋าฟรี อย่างละสองใบ บัตรคนละบัตร ของแม่และตัวเอง ยื่นให้พนักงาน พนักงานบอกว่า ริมหน้าต่างเต็มแล้วนะ เราเลยถามถึง Long Leg มีว่างไหมคะ พนักงานบอกว่ามี เราเลยที่นั่งตรงนั่นแทน ได้ที่นั่ง 16D 16F หลังได้ตั๋วเรียบร้อยแล้ว
เราผ่านตม เดินเล่นใน Duty Free ยังมีเวลาเหลือชิวๆ เดินไปแลกของกินตาม STEP ใช้พวกบัตร CITYBank และ TRUE Blackcard ได้มาเพียบ อิอิ ประหยัด อิ่มท้อง ได้ข่าวว่า บนเครื่อง แกก็สั่งอาหารไว้นะ 5555+ จ้าาา เอาที่สบายใจ
เราเดินมาที่ Gate 14 เกือบในสุดดดเลย พอถึงหน้า Gate เราก็เดินขึ้นเครื่องได้เลย เพราะที่นั่ง Hot Seat โซนนี้ดียังไง ที่นั่งก็ปกติแหละ แต่ยืดขาได้
เราเดินขึ้นเครื่องมา เข้ามาก็เจอที่นั่งเลย ขึ้นมานั่งรอ สรุปอีกที่นั่งไม่มีคนนั่ง ได้ 3 เก้าอี้เลย ที่นั่งก็จะกว้างประมาณนี้ Airasia Xใช้เครื่องบิน แบบ Airbus A330- 300 จัดที่นั่งแบบ 3-3-3โซนด้านหลัง จะเหลือ 2-3-2 ตรงที่นั่ง เรามีที่ชาร์จตั้ง 4 อัน สบายไปอีก 555
ระยะเวลาในการบินไฟท์นี้ใช้เวลาบินเพียง 4 ชั่วโมง 55 นาที สบายมาก ปกตินั่งนาน 13 ชั่วโมงต่อเนื่อง ขึ้นมานั่งบนเครื่องกินยาก่อนเลย ไข้ขึ้น ปวดหัว หลังจากเครื่องขึ้นเรียบร้อย สัญญาณรัดเข็มขัดดับลง พนักงานเดินขายเครื่องดื่ม เรายื่นบัตร Airasia Bangkok เพื่อรับเครื่องดื่มฟรี 1 ชุด เรากับแม่แลกคนละชุด อยากลองกิน นมมอคค่าเฮอชี่ เอามา ไม่รู้จะอร่อยหรือเปล่า
นั่งไปไม่นาน ได้เวลากินอาหารเย็น เราสั่งข้าวไก่เทริยากิ กับกาแฟมาตั้งแต่ในเว็บ ตกชุดละ 150 บาท แต่ถ้ามาสั่งหน้างานจะชุดละ 250 บาทพร้อมน้ำ แพงกว่ากัน 100 บาท รสชาติมัน pay safe สุดแหละจากทั้งหมด บอกตรงๆว่าไม่อิ่มเลย 5555+ จะสั่งอีกชุดก็เกรงใจ
นั่งไปสักพักเครื่องบินหมุนติววววว รีบเดินไปเอาของเก่าออกในห้องน้ำ กินยาไปอีกชุด ตอนนั้นไม่มีอารมณ์ขยับ นอนเลยละกัน เจอกันใหม่ อีก 3 ชั่วโมงเท่านั้น
ณ สนามบิน Kansai Airport ตอน 21.00 น. มาถึงไวกว่ากำหนด 30 นาที ท่าทางลมจะแรง ไม่ใช่ละ 5555+ จากจุดที่ลงต้องนั่งรถไฟมาต่อตัวอาคาร ตม. โชคดี ลงมากลุ่มแรก เลยผ่าน ตม.ไว (เขียนใบตม ให้ละเอียด พวก เบอร์โทร ชื่อโรงแรม ที่อยู่ ถ้าเป็น Airbnb ต้องระบุ ชื่อเจ้าของห้องด้วย ข้อมูลเยอะดีกว่าขาด) ไปหยิบกระเป๋าเดินทางรอให้ทุกคน จุดตม ตอนกลางคืน เปิดอยู่ไม่กี่ช่องเอง ไม่นานทุกคนก็ตามมาสมทบ เดินจากช่อง Arrival มาขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ช่องเชื่อมอาคาร แบ่งทีมเป็นสองทีม
ทีมแรกหาจุดเปลี่ยนตรง JR Counter เราจะใช้ตั๋ว JR Kansai Area Pass แบบ 1 วัน ใช้สำหรับเดินทางพรุ่งนี้ เช็คสภาพอากาศละ ว่า ที่ Shiga จะมีหิมะตก ใน IG มีรูปหิมะเน้นๆเมื่อ2ชมที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะยังไม่ละลาย เอาที่นี่ละกัน เปลี่ยนแพลนกันเมื่อวานก่อนบิน จัดการจองออนไลน์มา แล้วจ่ายเงินที่ counter เหลือวันละ 2,200 เยน ถ้าไม่ได้ซื้อมาล่วงหน้าจะตก 2,300 เยน บัตรเบ่งของแท้ ทีมสองไปซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมือง
เดินเข้าไปที่ตรง Nankai สีส้มๆๆ เอาตั๋วที่ซื้อมา 920 เยน เสียบเข้าไปในตู้ แล้วขึ้นไปรถไฟได้เลย นั่งประมาณ 48 นาที มาลงสถานี shinimaimiya
ที่พักของเราตลอดทั้งสองคืนอยู่ที่ shinimaimiya เดินเท้า 200 เมตร ประมาณ 4 นาที ที่พักติดถนนใหญ่ เราข้ามถนนมาจากสถานี ถึงหน้าที่พักเลย เสร่ออยู่นานเปิดประตูไม่ได้ 5555+ ยืนงมกันอยู่ 20 นาที ในที่สุดก็เข้าได้ซะที โดยรวมแล้วที่พักสะดวกมากๆ เนื่องจากติด สถานี JR , Nankai และ รถไฟใต้ดิน Dobutsaemae มีร้านดงกี้ ขนาดใหญ่มาก เดินไปอีก 400 เมตร super tameda และ family mart ทั้งสองร้านเปิด 24 ชม อยู่ปากซอยตรงข้ามที่พักเลย ชอบที่พักมากๆ ที่พักเราจองสำหรับ 4 คน แต่อยู่จริงได้ 7 คน มีห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องครัว และห้องรับแขก ตอนที่เข้ามายืนอยู่ในห้อง เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ถามทุกคนเอาไงต่อ จะออกไปหาอะไรกินตรง super ตรงข้ามที่พักไหม ทุกคนพยักหน้าบอกว่าไป ท่าทางจะหิวกันแน่นอน
เดินเข้าไปสำรวจร้าน super tameda มองอาหารที่จะกินเรียบร้อย หยิบมาแพ็คสองแพ็ค น้าถามว่าไม่ไปดงกี้หรอ บอกไปก็ได้ เอาของไปคืน เดียวกลับมาใหม่
เดินไปดงกี้ ไม่ไกล ใหญ่สมชื่อมากกกกก คิดในใจถ้าเดินวันนี้จะได้นอนไหม 5555+ ไปก็ไป สรุปยังไม่ได้ซื้ออะไร แต่พี่จัดไปซะแล้ว ตั้งแต่วันแรก เสร็จตอน ตี 1 พอดี ดีคะ ^^
กลับไป กดตู้น้ำเล่น ซื้ออาหารต่อ super tameda อีกรอบ โกยๆของที่อยากกินลงตระกร้า
กลับมาที่พักถึง ตี 2 กินอาหารรอบดึก น้ำไม่มีการอาบใดใด กินเสร็จ กระโดดขึ้นเตียงนอนเลย ก่อนนอนนัดแนะเวลาไปรับสว พรุ่งนี้ตอน 6 โมงเช้า =____= ให้แม่กับน้ารออยู่ห้อง วันแรกคิดว่าเบา เบาตรงไหนนน 555 เจอกันพรุ่งนี้ค่าาาาาาา มีเวลานอนตั้ง 3 ชมครึ่งแหนะ ร้องไห้
[CR] JAPAN : KANSAI THU LOVE พาครอบครัววัยรุ่น (เหลือน้อย) 60++ 13 คน ตะลุยแดนอุทัย ครั้งแรก มันก็จะตื่นเต้นนิดหน่อย 15K พอ
สวัสดีค่ะ กลับมากันอีกแล้ว หลังจากกลับมาจากยุโรปไปหยกๆ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไปตามหารัก ไม่เจอซะงั้น เจอแต่ผู้ชายหล่อๆ ไปส่องกันได้ที่ กระทู้นี้ >>[CR]ยุโรปไม่ไกลเกินฝันภาคต่อ : เบื่อแล้วเอเชียไปแอ่วหนุ่มที่ ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรีย สวิส 10 วัน 9 คืน 43K ละเอียด https://pantip.com/topic/37316135
>> แอ่วผู้ชายที่รัสเซียกันมาเดือนพฤศจิกายน 2017 และเห็นแสงเหนือจนเบื่อ (พูดซะ น่าหมั่นไส้เชียว อิอิ) เผื่อใครจะอยากตามไปชมความแรดของเจ้าของกระทู้ ที่รัสเซีย เชิญ Link นี้ได้เลยคะ https://pantip.com/topic/37124254
แพลนอันนี้บินติดกันเลย เป็นช่วงวันเกิดของเจ้าของกระทู้เอง ตอนแรกกลัวร่างกายจะไม่ไหวมาก หนาวจัด กลับมาร้อน ไปหนาวอีก กลัวนอคร่างพังไม่สบาย พยายามกินยาดักไว้ตลอดกลัวป่วยจริงละไปไม่ไหว สำหรับใครที่กลัว jetlag แนะนำให้ถ่างตาเอาไว้ 5555+ ( ไม่น่าใช่ )
กว่าจะเกิดทริปนี้ได้ขอเกริ่นหน่อย เริ่มต้นมาจาก ตอนแรกคุยกันกับพ่อแม่ ว่าปีนี้เรายังไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันเลยนะ อยากไปเที่ยวไหนไหม เดียวลูกพาไป ตอนแรกพ่อแม่เสนอเกาหลี แต่เห็นระเบิดอะไรนิละ ไม่ไปละ ไปญี่ปุ่นแทนได้ไหม แพงกว่าเยอะหรือเปล่า ให้เป็นการบ้านลูกไปดูละกัน อย่างแรกที่ทำ คือ มองหาตั๋วเครื่องบิน ตัวเราเองเป็น Members AirAsia มีแต้มพอได้ ตอนนั้นมีโปรโมรชัน แลกแต้ม AirAsia 1,000 แต้ม ราคาตกคนละ 6,800 บาท คุ้มมมมมม ส่วนกระเป๋ากับที่นั่ง ขาไป ได้ฟรีทั้งสามคน เพราะสมัครบัตรเครดิต Bangkok AirAsia ไว้ จะให้บัตรโหลดกระเป๋า เลือกที่นั่งฟรี 3 ครั้งมา ระบุชื่อเราเรียบร้อย เอาไปให้คนอื่นไม่ได้ โหลดแค่ขากลับ 1 ใบเท่านั้นเอง ราคา 1,100 บาท คุ้มจริงๆ
หลังจากนั้น มาวางแพลนการเดินทาง ไปไหนยังไง ครั้งแรกของพ่อแม่ที่ไปเที่ยวโซนคันไซ เลยต้องพาไปโซนดังดัง ส่วนตัวไม่ได้อยากไปโซนนี้ ไปมาบ่อย แต่ต้องคิดว่ารอบนี้ เราไม่ได้ไปเที่ยวคนเดียว หรือกับเพื่อน ต้องไป Landmark บ้าง หลังจากนั้นก็ทิ้งแพลนเอาไว้นานเลย จนมารื้อแพลนอีกรอบ ตอนที่ป้าลุง อีก 8 คน ที่ชอบไปเที่ยวมาขอแจมทริป ถามพ่อแม่โอเคไหม ถ้ามีลุงป้ามาด้วย พ่อแม่บอกได้ จะได้มีเพื่อนคุย เลยหาตั๋วให้ทุกท่าน กลายเป็นทริปสว ไปโดยปริยาย ให้ป้ากับลุงบิน Full services มาถึงตอนเช้า แล้วเที่ยวเลย (คิดในใจ จะไหวไหมวะเนี่ย 555+) ของเราไฟท์ประหยัดไง มาถึงกลางคืน ต้องมานอนคืนนึงก่อน เริ่มเที่ยว คิดในแง่ดีพ่อแม่จะได้พักผ่อนเต็มที่มีแรงเที่ยว ปรับแพลนอีกครั้งให้เบาลงอีกกกกกกกกก สรุปทำแพลนวันต่อวันแทน ไม่ได้คิดไปล่วงหน้า แค่ดูไว้ว่าอยากไปไหนบ้าง ดูท่าทีของผู้ใหญ่แทน
ก่อนเดินทางอาทิตย์นึง คุณพ่อติดงาน มาไม่ได้จ้า ทุกอย่างที่จองไว้ Non Rerund เสียใจมาก TT อุส่าห์จะได้มาเที่ยวด้วยกันแล้ว ต้องเข้าใจว่าท่านมีธุระจริงๆ พี่ที่เป็นลูกของลุงป้า เลยมาแทน ดีเลยมาช่วยกันดูแล ^^ และน้าเราอีกสองคน สรุปรวมทริปนี้ 13 คน เพียงพอสำหรับการเพิ่มคนที่เยอะแยะ 555+ เราพอเถอะนะ ออกเดินทางกันดีกว่า
วันที่ 1 26 มกราคม 2018
[center ]วันนี้เราบินพร้อมกัน 5 คน อีก 8 คนตามมาอีกไฟท์ ก่อนมาสนามบิน คนพาเที่ยวไม่สบาย ไปหาหมอ โดนให้พัก บอกว่าอย่าหักโหม เอายามา เรียบร้อย ร่างกายมันจะอ่อนแอไปไหน ป่วยง่ายมาก รำคาญตัวเอง 55555+ คิดในใจ วันนี้คงรอด ไม่ได้ทำอะไรมาก แค่เดินทางออกจากกรุงเทพ ถึง kansai ดึกๆ เข้าที่พัก เดินเล่นแถวดงกี้ตรงที่พัก พอละ มันจะง่ายอย่างที่คิดไหมไปดูกัน
ออกเดินทางจากบ้าน เอารถมาจอดที่สนามบินดอนเมือง คนเยอะมากกกก ก ล้านตัว ขนาดเผื่อเวลาแล้ว ยังไม่มีที่จอด ต้องเอาไปจอด ดาดฟ้า ตากแดดไป 5 วัน สงสารรถมาก แต่ทำไงได้ เต็มหมดเลย เราเดินมา terminal หลังสุด ระหว่างทาง รู้สึกไกลสุดโพ้น เลย terminal ภายในประเทศไปอีก เดินมารู้สึกเลย 15 นาทีเลย มาถึง counter Bangkok Credit Card ของ Airasia เอาการ์ดแลกที่นั่งและโหลดกระเป๋าฟรี อย่างละสองใบ บัตรคนละบัตร ของแม่และตัวเอง ยื่นให้พนักงาน พนักงานบอกว่า ริมหน้าต่างเต็มแล้วนะ เราเลยถามถึง Long Leg มีว่างไหมคะ พนักงานบอกว่ามี เราเลยที่นั่งตรงนั่นแทน ได้ที่นั่ง 16D 16F หลังได้ตั๋วเรียบร้อยแล้ว
เราผ่านตม เดินเล่นใน Duty Free ยังมีเวลาเหลือชิวๆ เดินไปแลกของกินตาม STEP ใช้พวกบัตร CITYBank และ TRUE Blackcard ได้มาเพียบ อิอิ ประหยัด อิ่มท้อง ได้ข่าวว่า บนเครื่อง แกก็สั่งอาหารไว้นะ 5555+ จ้าาา เอาที่สบายใจ
เราเดินมาที่ Gate 14 เกือบในสุดดดเลย พอถึงหน้า Gate เราก็เดินขึ้นเครื่องได้เลย เพราะที่นั่ง Hot Seat โซนนี้ดียังไง ที่นั่งก็ปกติแหละ แต่ยืดขาได้
เราเดินขึ้นเครื่องมา เข้ามาก็เจอที่นั่งเลย ขึ้นมานั่งรอ สรุปอีกที่นั่งไม่มีคนนั่ง ได้ 3 เก้าอี้เลย ที่นั่งก็จะกว้างประมาณนี้ Airasia Xใช้เครื่องบิน แบบ Airbus A330- 300 จัดที่นั่งแบบ 3-3-3โซนด้านหลัง จะเหลือ 2-3-2 ตรงที่นั่ง เรามีที่ชาร์จตั้ง 4 อัน สบายไปอีก 555
ระยะเวลาในการบินไฟท์นี้ใช้เวลาบินเพียง 4 ชั่วโมง 55 นาที สบายมาก ปกตินั่งนาน 13 ชั่วโมงต่อเนื่อง ขึ้นมานั่งบนเครื่องกินยาก่อนเลย ไข้ขึ้น ปวดหัว หลังจากเครื่องขึ้นเรียบร้อย สัญญาณรัดเข็มขัดดับลง พนักงานเดินขายเครื่องดื่ม เรายื่นบัตร Airasia Bangkok เพื่อรับเครื่องดื่มฟรี 1 ชุด เรากับแม่แลกคนละชุด อยากลองกิน นมมอคค่าเฮอชี่ เอามา ไม่รู้จะอร่อยหรือเปล่า
นั่งไปไม่นาน ได้เวลากินอาหารเย็น เราสั่งข้าวไก่เทริยากิ กับกาแฟมาตั้งแต่ในเว็บ ตกชุดละ 150 บาท แต่ถ้ามาสั่งหน้างานจะชุดละ 250 บาทพร้อมน้ำ แพงกว่ากัน 100 บาท รสชาติมัน pay safe สุดแหละจากทั้งหมด บอกตรงๆว่าไม่อิ่มเลย 5555+ จะสั่งอีกชุดก็เกรงใจ
นั่งไปสักพักเครื่องบินหมุนติววววว รีบเดินไปเอาของเก่าออกในห้องน้ำ กินยาไปอีกชุด ตอนนั้นไม่มีอารมณ์ขยับ นอนเลยละกัน เจอกันใหม่ อีก 3 ชั่วโมงเท่านั้น
ณ สนามบิน Kansai Airport ตอน 21.00 น. มาถึงไวกว่ากำหนด 30 นาที ท่าทางลมจะแรง ไม่ใช่ละ 5555+ จากจุดที่ลงต้องนั่งรถไฟมาต่อตัวอาคาร ตม. โชคดี ลงมากลุ่มแรก เลยผ่าน ตม.ไว (เขียนใบตม ให้ละเอียด พวก เบอร์โทร ชื่อโรงแรม ที่อยู่ ถ้าเป็น Airbnb ต้องระบุ ชื่อเจ้าของห้องด้วย ข้อมูลเยอะดีกว่าขาด) ไปหยิบกระเป๋าเดินทางรอให้ทุกคน จุดตม ตอนกลางคืน เปิดอยู่ไม่กี่ช่องเอง ไม่นานทุกคนก็ตามมาสมทบ เดินจากช่อง Arrival มาขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ช่องเชื่อมอาคาร แบ่งทีมเป็นสองทีม
ทีมแรกหาจุดเปลี่ยนตรง JR Counter เราจะใช้ตั๋ว JR Kansai Area Pass แบบ 1 วัน ใช้สำหรับเดินทางพรุ่งนี้ เช็คสภาพอากาศละ ว่า ที่ Shiga จะมีหิมะตก ใน IG มีรูปหิมะเน้นๆเมื่อ2ชมที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะยังไม่ละลาย เอาที่นี่ละกัน เปลี่ยนแพลนกันเมื่อวานก่อนบิน จัดการจองออนไลน์มา แล้วจ่ายเงินที่ counter เหลือวันละ 2,200 เยน ถ้าไม่ได้ซื้อมาล่วงหน้าจะตก 2,300 เยน บัตรเบ่งของแท้ ทีมสองไปซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมือง
เดินเข้าไปที่ตรง Nankai สีส้มๆๆ เอาตั๋วที่ซื้อมา 920 เยน เสียบเข้าไปในตู้ แล้วขึ้นไปรถไฟได้เลย นั่งประมาณ 48 นาที มาลงสถานี shinimaimiya
ที่พักของเราตลอดทั้งสองคืนอยู่ที่ shinimaimiya เดินเท้า 200 เมตร ประมาณ 4 นาที ที่พักติดถนนใหญ่ เราข้ามถนนมาจากสถานี ถึงหน้าที่พักเลย เสร่ออยู่นานเปิดประตูไม่ได้ 5555+ ยืนงมกันอยู่ 20 นาที ในที่สุดก็เข้าได้ซะที โดยรวมแล้วที่พักสะดวกมากๆ เนื่องจากติด สถานี JR , Nankai และ รถไฟใต้ดิน Dobutsaemae มีร้านดงกี้ ขนาดใหญ่มาก เดินไปอีก 400 เมตร super tameda และ family mart ทั้งสองร้านเปิด 24 ชม อยู่ปากซอยตรงข้ามที่พักเลย ชอบที่พักมากๆ ที่พักเราจองสำหรับ 4 คน แต่อยู่จริงได้ 7 คน มีห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องครัว และห้องรับแขก ตอนที่เข้ามายืนอยู่ในห้อง เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ถามทุกคนเอาไงต่อ จะออกไปหาอะไรกินตรง super ตรงข้ามที่พักไหม ทุกคนพยักหน้าบอกว่าไป ท่าทางจะหิวกันแน่นอน
เดินเข้าไปสำรวจร้าน super tameda มองอาหารที่จะกินเรียบร้อย หยิบมาแพ็คสองแพ็ค น้าถามว่าไม่ไปดงกี้หรอ บอกไปก็ได้ เอาของไปคืน เดียวกลับมาใหม่
เดินไปดงกี้ ไม่ไกล ใหญ่สมชื่อมากกกกก คิดในใจถ้าเดินวันนี้จะได้นอนไหม 5555+ ไปก็ไป สรุปยังไม่ได้ซื้ออะไร แต่พี่จัดไปซะแล้ว ตั้งแต่วันแรก เสร็จตอน ตี 1 พอดี ดีคะ ^^
กลับไป กดตู้น้ำเล่น ซื้ออาหารต่อ super tameda อีกรอบ โกยๆของที่อยากกินลงตระกร้า
กลับมาที่พักถึง ตี 2 กินอาหารรอบดึก น้ำไม่มีการอาบใดใด กินเสร็จ กระโดดขึ้นเตียงนอนเลย ก่อนนอนนัดแนะเวลาไปรับสว พรุ่งนี้ตอน 6 โมงเช้า =____= ให้แม่กับน้ารออยู่ห้อง วันแรกคิดว่าเบา เบาตรงไหนนน 555 เจอกันพรุ่งนี้ค่าาาาาาา มีเวลานอนตั้ง 3 ชมครึ่งแหนะ ร้องไห้