
Apple ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2018 โดยมีรายได้ทั้งสิ้น 88,200 ล้านดอลลาร์ ขาย iPhone ได้ทั้งสิ้น 77.3 ล้านเครื่อง
Apple ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2018
Apple ปิดไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2018 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2017 และประกาศผลประกอบการของไตรมาสดังกล่าวเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2018 มีรายได้ทั้งสิ้น 88,200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วถึง 13%

สำหรับยอดขายสินค้าในไตรมาสที่ 1 ปี 2018 นั้น Apple สามารถขาย iPhone ไปได้ทั้งหมด 77.3 ล้านเครื่อง ขาย iPad ได้ 13.1 ล้านเครื่องและขาย Mac ไปได้ 5.1 ล้านเครื่อง
จากข้อมูลชี้ให้เห็นว่ายอดขาย iPhone ในไตรมาสที่ 1 ปี 2018 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเพียง 1% กล่าวคือ iPhone 8, 8 Plus, iPhone X ได้รับความนิยมน้อยกว่า iPhone 7, 7 Plus เพียง 1% เมื่อเทียบจากรายงานก่อนหน้านี้ที่เผยว่า iPhone 8, 8 Plus, iPhone X ได้รับความนิยมน้อยมากในช่วงเวลาดังกล่าว
รายได้และรายได้ต่อหุ้นทำสถิติใหม่
Apple เองได้ประกาศว่าในช่วงเดือน ม.ค. 2018 ที่ผ่านมา Apple มีรายได้และรายได้ต่อหุ้นทำสถิติใหม่ และมียอดจำนวนอุปกรณ์ที่กำลังถูกใช้งานใกล้ 1,300 ล้านเครื่องแล้ว
Tim Cook CEO ของ Apple กล่าวว่า
เรารู้สึกยินดีที่จะรายงานผลประกอบการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple ด้วยการเติบโตในทุกด้านรวมถึง รายได้สูงสุดเท่าที่เคยมีมาจากผลิตภัณฑ์ iPhone ใหม่ iPhone X ทำผลงานได้เหนือความคาดหมายและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดทุกสัปดาห์นับตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้เรายังประสบความสำเร็จกับก้าวสำคัญด้วยจำนวนอุปกรณ์ที่กำลังถูกใช้งานแตะ 1,300 ล้านเครื่องในเดือนมกราคม ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% ในเวลาเพียงสองปี เป็นข้อพิสูจน์ถึงความนิยมในผลิตภัณฑ์ของเรา ความภักดีและความพึงพอใจในการใช้งานของลูกค้า
Luca Maestri CFO ของ Apple กล่าวว่า
ขอบคุณสำหรับการดำเนินงานและผลประกอบการที่ยอดเยี่ยม เราสร้างสถิติใหม่ของผลกำไรประจำไตรมาส ด้วยรายได้ต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซนต์
นอกจากนี้เรายังมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งที่ 28.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ และได้จ่ายคืนเงินลงทุนให้แก่นักลงทุน 14.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้โครงการคืนเงินลงทุน
Apple มีรายได้เติบโตขึ้นสูงกว่าที่คาดไว้
โดยรวมแล้ว Apple มีรายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 4 ปี 2017 ถึง 68% และมีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 13% โดยผลิตภันฑ์กลุ่ม iPhone ยังเป็นรายได้หลักของ Apple ถึงแม้ว่ายอดจำหน่าย iPhone จะลดลงในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ในแง่ของรายได้ที่เป็นตัวเงินถือว่าทำได้ดีขึ้น
ผลิตภันฑ์กลุ่มบริการและสินค้าอื่นๆ ของ Apple ก็ถือว่าเติบโตขึ้นมาก และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ช่วงไตรมาสดังกล่าว Apple มีรายได้มากถึง 88,200 ล้านดอลลาร์

สหรัฐเป็นแหล่งรายได้หลักของ Apple โดยในไตรมาสดังกล่าวเติบโตขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 10% และที่น่าสนใจ คือ ประเทศญี่ปุ่นที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 26% ซึ่งมากกว่าเอเชียเสียอีก

ประมาณการผลประกอบการไตรมาสถัดไป
Apple ได้ประเมินผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2018 ไว้ดังนี้
รายได้อยู่ระหว่าง 60 พันล้านดอลลาร์ ถึง 62 พันล้านดอลลาร์
กำไรขั้นต้นอยู่ระหว่าง 38 เปอร์เซนต์ ถึง 38.5 เปอร์เซนต์
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ระหว่าง 7.65 พันล้านดอลลาร์ ถึง 7.7 พันล้านดอลลาร์
รายได้ / (รายจ่ายอื่นๆ) 300 ล้านดอลลาร์
อัตราภาษี 15 เปอร์เซนต์
:: มันขายได้น้อยกว่าเดิมในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ไม่ได้หมายความว่ามันขาดทุน มันยังได้กำไรอยู่ ผมยังมองไม่เห็นว่ามันจะล่มจมเหมือนโน้กียหรือบีบีเลยครับ
ที่มา: iPhonemod , iclarified, newsroom
ผลประกอบการ Apple ไตรมาสที่ 1 ปี 2018 มีรายได้ 88,200 ล้านดอลลาร์ ขาย iPhone ได้ 77.3 ล้านเครื่อง
Apple ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2018 โดยมีรายได้ทั้งสิ้น 88,200 ล้านดอลลาร์ ขาย iPhone ได้ทั้งสิ้น 77.3 ล้านเครื่อง
Apple ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2018
Apple ปิดไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2018 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2017 และประกาศผลประกอบการของไตรมาสดังกล่าวเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2018 มีรายได้ทั้งสิ้น 88,200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วถึง 13%
จากข้อมูลชี้ให้เห็นว่ายอดขาย iPhone ในไตรมาสที่ 1 ปี 2018 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเพียง 1% กล่าวคือ iPhone 8, 8 Plus, iPhone X ได้รับความนิยมน้อยกว่า iPhone 7, 7 Plus เพียง 1% เมื่อเทียบจากรายงานก่อนหน้านี้ที่เผยว่า iPhone 8, 8 Plus, iPhone X ได้รับความนิยมน้อยมากในช่วงเวลาดังกล่าว
รายได้และรายได้ต่อหุ้นทำสถิติใหม่
Apple เองได้ประกาศว่าในช่วงเดือน ม.ค. 2018 ที่ผ่านมา Apple มีรายได้และรายได้ต่อหุ้นทำสถิติใหม่ และมียอดจำนวนอุปกรณ์ที่กำลังถูกใช้งานใกล้ 1,300 ล้านเครื่องแล้ว
Tim Cook CEO ของ Apple กล่าวว่า
เรารู้สึกยินดีที่จะรายงานผลประกอบการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple ด้วยการเติบโตในทุกด้านรวมถึง รายได้สูงสุดเท่าที่เคยมีมาจากผลิตภัณฑ์ iPhone ใหม่ iPhone X ทำผลงานได้เหนือความคาดหมายและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดทุกสัปดาห์นับตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้เรายังประสบความสำเร็จกับก้าวสำคัญด้วยจำนวนอุปกรณ์ที่กำลังถูกใช้งานแตะ 1,300 ล้านเครื่องในเดือนมกราคม ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% ในเวลาเพียงสองปี เป็นข้อพิสูจน์ถึงความนิยมในผลิตภัณฑ์ของเรา ความภักดีและความพึงพอใจในการใช้งานของลูกค้า
Luca Maestri CFO ของ Apple กล่าวว่า
ขอบคุณสำหรับการดำเนินงานและผลประกอบการที่ยอดเยี่ยม เราสร้างสถิติใหม่ของผลกำไรประจำไตรมาส ด้วยรายได้ต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซนต์
นอกจากนี้เรายังมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งที่ 28.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ และได้จ่ายคืนเงินลงทุนให้แก่นักลงทุน 14.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้โครงการคืนเงินลงทุน
Apple มีรายได้เติบโตขึ้นสูงกว่าที่คาดไว้
โดยรวมแล้ว Apple มีรายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 4 ปี 2017 ถึง 68% และมีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 13% โดยผลิตภันฑ์กลุ่ม iPhone ยังเป็นรายได้หลักของ Apple ถึงแม้ว่ายอดจำหน่าย iPhone จะลดลงในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ในแง่ของรายได้ที่เป็นตัวเงินถือว่าทำได้ดีขึ้น
ผลิตภันฑ์กลุ่มบริการและสินค้าอื่นๆ ของ Apple ก็ถือว่าเติบโตขึ้นมาก และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ช่วงไตรมาสดังกล่าว Apple มีรายได้มากถึง 88,200 ล้านดอลลาร์
สหรัฐเป็นแหล่งรายได้หลักของ Apple โดยในไตรมาสดังกล่าวเติบโตขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 10% และที่น่าสนใจ คือ ประเทศญี่ปุ่นที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 26% ซึ่งมากกว่าเอเชียเสียอีก
ประมาณการผลประกอบการไตรมาสถัดไป
Apple ได้ประเมินผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2018 ไว้ดังนี้
รายได้อยู่ระหว่าง 60 พันล้านดอลลาร์ ถึง 62 พันล้านดอลลาร์
กำไรขั้นต้นอยู่ระหว่าง 38 เปอร์เซนต์ ถึง 38.5 เปอร์เซนต์
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ระหว่าง 7.65 พันล้านดอลลาร์ ถึง 7.7 พันล้านดอลลาร์
รายได้ / (รายจ่ายอื่นๆ) 300 ล้านดอลลาร์
อัตราภาษี 15 เปอร์เซนต์
:: มันขายได้น้อยกว่าเดิมในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ไม่ได้หมายความว่ามันขาดทุน มันยังได้กำไรอยู่ ผมยังมองไม่เห็นว่ามันจะล่มจมเหมือนโน้กียหรือบีบีเลยครับ
ที่มา: iPhonemod , iclarified, newsroom