อยากให้ทุกธนาคาร ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มาช่วยแก้ปัญหาของดิฉันด้วยคะสำหรับมหากาพย์การขอสินเชื่อ ที่ยาวนานเข้า 4 เดือน

ดิฉันเป็นพนักงานบริษัท แห่งนึงทำงานมาได้ 10 กว่าปี ณ ตอนนั้นลองสมัครบัตรเครดิต 1 ที่(อิออน) HAPPY มากๆ มันช่างง่ายอะไรเช่นนี้ ทุกปีจะมีการปรับวงเงินเพิ่มตลอด จนตอนนี้เป็นบัตรโกลด์ไปแล้ว(ปัจจุบันก็ยังเป็นลูกค้าอยู่) ณ ตอนนั้น บริษัทนั่น นี้ ธนาคารนั้น ธนาคารนี้ แย่งกันจะทำบัตรเครดิตให้ดิฉัน ทั้งบัตรหลัก บัตรเสริม ...จุดเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงชีวิต... 5 มี.ค. 2557 แม่ดิฉันล้มป่วย ดิฉันต้องลาออกจากงานที่รัก มาดูแลแม่ ซึ่งผลออกมาเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย อยู่กับแม่ ปรนนิบัติ 3 เดือนเต็ม จนแม่เสีย คุณพ่อก็มาตรอมใจ ความดัน เบาหวาน มาทุกอย่าง ณ ตอนนั้น เงินเก็บทั้งหมดถูกนำมาใช้ในการทำ คีโม
ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำศพ คือทุกอย่างจริงๆ
ต่อมาดิฉันได้มาดูแลร้านค้า(โชห่วย) ของแม่ และดูแลห้องเช่า 2 ตึก ซึ่งแต่ก่อน คนแก่ 2 คนที่จบแค่ ป.4 สร้างกันขึ้นมา ดูแลกันขึ้นมา มีการทำสมุดบัญชีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า แบบง่ายๆ เดิมๆ
ในส่วนของร้านค้า แต่ก่อนแม่ขายข้าวแกง แต่ตอนนี้เลิกขายแล้ว แต่ก็ยังขายของทุกชนิดเหมือนเดิม ซึ่งดิฉันต้องดูแลทั้งหมด ทั้งกิจการ ห้องเช่า ดูแลคุณพ่อที่ป่วย ต้องไปหาหมอใช้เงินสดรักษาเพราะมีโรคประจำตัวเดือนละ 5 พันบาทขึ้น มีลูกเล็กๆที่ต้องดูแล

ดิฉันและสามีจึงปรึกษากันว่า เราจะพัฒนาธุรกิจแม่ให้มันก้าวหน้า จากประสบการณ์การเรียน(บัญชี) + การทำงาน 10 กว่าปี (การตลาด)
ส่วนสามีเป็นช่างยนต์ มีความรู้เรื่องเครื่องปรับอากาศ ปัจจุบันรับติดตั้งแอร์ ตามบ้าน ดิฉันจึงได้คิดว่าเราต้องไปขอสินเชื่อแล้วนำเงินมาปรับปรุงทั้งหมดเริ่มด้วย
1.  ธนาคารกสิกรไทย วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 ดิฉันได้นำโฉนดห้องเช่า จำนวน 14 ห้อง ไปปรึกษากับธนาคารกสิกรไทยฝ่ายสินเชื่อว่าดิฉันต้องการนำโฉนดมาเข้าแบงค์ช่วยแนะนำด้วยว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งในหัวดิฉันคิดว่า ดิฉันเป็นลูกค้ากสิกรมานาน มีทั้งบัญชี บัตรเครดิตทุกอย่าง และไม่เคยมีประวัติเสีย
14 พฤศจิกายน 2560 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่สินเชื่อได้มาดูตึก และมาเอาเอกสาร เพื่อไปทำเรื่องขอสินเชื่อ ซึ่งในตอนนั้นดิฉันยื่นขอสินเชื่อไป 7แสนบาท...... ณ ปัจจุบัน 12 มกราคม 2561 ดิฉันโทรไปขอเอกสารคืน เพราะยื่นไปตั้งนานทุกอย่างเงียบ ไม่มีการติดต่อกลับ ติดต่อไปก็บอกเดี่ยวดูให้บ้างแระ ไปต่างประเทศบ้างแระ คืออะไร
2.  12 ธันวาคม 2560 ดิฉันเริ่มหาข้อมูลในอินเตอร์เนต ไปเจอธนาคาร ไทยเครดิต ซึ่งดิฉันได้ติดต่อผ่านแอดมินเพจของธนาคาร เจ้าหน้าที่ประสานงานฝ่ายสินเชื่อให้ วันรุ่งขึ้นมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมา และเข้ามารับเอกสาร..ยอมรับเลยว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารนี้ดีมาก ดูแล แนะนำ ทุกอย่าง สรุปเบื้องต้นผ่าน ส่งประเมิน 22 ธันวาคม 2560 เจ้าหน้าที่มาประเมินอยู่ที่ 4.5 ล้านบาท สำหรับหลักทรัพย์..แต่เรื่องก็ยืดเยื้อ เสียเงินไปแล้ว 10,700 บาท 15 มกราคม 2561
ฝ่ายสินเชื่อโทรมาคุยกับแฟนเรา ประมาณว่าเคสเราไม่ผ่าน บอกว่าเอกสารไม่น่าเชื่อถือ (ก็เราก็ให้เท่าที่เรามีทั้งหมด บางส่วนเราก็แจ้งว่าอยู่กับกสิกรเพราะบอกแล้วว่าทำครั้งแรกเราไม่รู้ เราเลยให้ตัวจริงไปหมด)
3.  20 มกราคม 2561 ติดต่อธนาคารไทยพาณิชย์ เจ้าหน้าที่มารับเอกสาร ขาดอะไรเราส่งตามหมด สรุปเอกสารครบทุกอย่าง 31 มกราคม 2561 ได้โทรไปคอลเซนเตอร์สอบถามเรื่องเพราะมันเงียบ ไม่มีการติดต่อเลย เขาบอกว่าไม่มีชื่อเราอยู่ในระบบการขอสินเชื่อ...เหว้อซิคะ แล้วเอกสารล่ะ ตอนนั้นในหัวมีคำถามมากมาย แต่ก่อนหน้าโทรหาคอลเซนเตอร์ ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่แล้วทั้งโทร ทั้งไลน์ ไม่รับ ไม่อ่าน ไม่โทรกลับ ติดประชุมตลอด
4.  27 มกราคม 2561 ลองยื่นขอสินเชื่อกับทาง CIMB เพราะดูตามเวปพันทิปบอกของ่ายๆๆๆ 29 มกราคม 2561 โทรมาแจ้งเลยว่าสเตจเม้นท์คุณเดินดีเกินไป เดินทุกวัน ไม่นำมานับเป็นรายได้ โอ้ยๆๆเจ็บอีกแล้ว

ณ ตอนนี้ บอกเลย ความหวัง ความฝัน พังหมด เพราะซีไอเอ็มบี บอกว่า พี่ยื่นครบ 4 ธนาคาร ห้ามยื่นที่ไหนอีกเดี๋ยวประวัติเสีย และบอกว่า พี่ต้องหาบัญชีพี่เล่มอื่น แล้วเดินบัญชีให้เงินนิ่งๆ เดือนละ 3 หมื่นบาทขึ้น ไปประมาณ 6 เดือนขึ้นไป เป็นนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนด

แล้วถามหน่อยว่าใครก็ได้ช่วยมาตอบข้อสงสัยที
1. ถ้าฉันมีเงินเย็น มาก พอ ใครอยากจะเป็นหนี้บ้างคะ
2. รัฐบาล ส่งเสริมให้ประชาชน ไม่เป็นหนี้นอกระบบ แต่ทุกธนาคารแทบไม่เปิด โอกาส เลย ดิฉันควรทำอย่างไร
3. ถ้าอย่างนั้นโฉลดพร้อมสิ่งปลูกสร้าง มูลค่า 4.5 ล้านบาท(เบื้องต้น) กับการขอสินเชื่อที่ไม่มีความหมาย จะมีประโยชน์อะไรคะ
4.  ปัญหาของดิฉัน จะเข้า 4 เดิอนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้า ดิฉันไม่ได้ไปไหน ทำอะไร เพราะดิฉันต้องเก็บเงินส่วนนึงไว้สำหรับค่าใช้จ่ายในการขอสินเชื่อ

ก่อนหน้านั้น ดิฉันโทรปรึกษา 1213 เลยนะคะว่าเคสดิฉันควรทำอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็ให้ดิฉันเขียนจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรชี้แจงกรรมการผจก.ธนาคารไทยเครดิตเลย เพราะว่าเราเสียค่าประเมินไปแล้ว แต่ทุกอย่างก็เงียบ
และในบ่ายของวันที่ 31 มกราคม 2561 เจ้าหน้าที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ที่มาเก็บเอกสารของดิฉันก็โทรมาแจ้งว่า จะไม่ทำสินเชื่อให้ดิฉันแล้ว เพราะป่วยกระทันหัน จะ ส่งต่อให้ท่านอื่น ทำแทน (ดิฉันคิดในใจว่า เขาคงไม่พอใจที่ดิฉันโทรเข้าร้องเรียนคอลเซนเตอร์) สรุป ไทยพาณิชย์ก็ลอยแพ

ไม่รู้ว่าเรื่องมหากาพย์ การขอสินเชื่อขอดิฉันจะจบที่ตรงไหน จะมีธนาคารไหนให้โอกาส หรือพวกคุณ ต้องการผลักภาระให้ประชาชนไปเป็นหนี้นอกระบบคะ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
จขกท ต้องเข้าใจว่าตอนนี้หนี้ NPL สูง โดยเฉพาะกลุ่ม SME ธนาคารคงปล่อยกู้ยากถ้าไม่มีเงินเดือนประจำ
การไปขอกู้ แล้วเจ้าหนี้ไม่ให้กู้ คงต้องยอมรับแหละครับ เพราะเป็นเงินของเจ้าหนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่