ผมใช้ชีวิตใน กทม มา 6 ปีเเล้ว เป็นเเค่เด็กต่างจังหวัดคนนึงที่มาตามหาความฝัน
เรียนจบ ปตรีที่เอกชนค่าเทอมเเพงมากใจกลางเมือง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเจออะไรมากมาย ทั้งคนดีเเละไม่ดี ความขัดเเย้งที่เกิดจากเพื่อนสนิท
ชีวิตผมเวลาอยู่กับเพื่อนๆสนุกมาก ครั้งใหนที่กลับมานั่งอยู่ในห้องคนเดียวชีวิตเงียบเหงา มีเพียงมือถือที่คอยเปิดเพลงเบาเป็นเพื่อนเรา
จนตอนนี้ผมจบมาได้เข้าปีที่ 2 เเล้ว ตกงานมาเเล้ว 5 ครั้งได้ ทำได้นานที่สุดก็ 3 เดือน (เยอะมั้ย) ผมทำฟรีเเลนซ์มาก่อนได้ประมาณ 6 เดือนจนกระทั่งงานหายไป (พระเจ้าอยู่หัว) จึงคิดหางานประจำ
- งานเเรก ทำพาร์ทไทม์ 3 เดือนก็ไม่ได้บรรจุ เพราะเจอหัวหน้าโกงเงิน ปัจจุบันเค้าโดนเด่งไปละ เเต่เข้าก็ยกเลิกฝ่ายออกไป
- งานสอง อีเว้นท์ออเเกไนซ์ งานประจำทำได้ 2 เดือนครึ่ง ก็ไม่ผ่าน เพราะเหมือนว่าคนที่รับผมมาชิงลาออกไปก่อน 2 อาทิตย์รุ่นพี่ผมเอง ซึ้งไม่มีใครชอบ เเต่เค้าเป็นหัวหน้าฝ่าย (คงคิดว่าใช้เส้น)
-งานสามเป็น Callcenter ทำได้นาน 3 เดือน อันนี้สังคมดีมากครับ เเต่ผิดที่ผมอยากได้เงินเดือนเยอะๆเลยออก
-งานที่สี่ก็มีรุ่นพี่ทักมาสมัยเรียนมหาลัยเเนะนำงาน(อสังหา) ทำได้ 1 เดือนครึ่งก็ออกเพราะหัวหน้าไม่ดี( ญ )อาจเป็นเพราะเคมีไม่เข้ากันด้วย สุดท้ายเค้าก็โดนเด่งเพราะมีปัญหาเรื่องเงินๆทอง (หัวหน้า)
- ล่าสุดงานที่คลีนิคใจกลางเมืองใกล้ Bts เเละ MRT สุขุมวิท ตอนสมัครเเละสัมบอกตำเเหน่ง Call พอทำจริง Tele ผมก็ไม่ติดอะไรเพราะให้เงินเดือนโอเค (ไม่มีสวัสดิ์ ไม่มีประกัน ไม่โบนัส ไม่เพิ่มเงิน ทำงาน 10 ชม ) เเต่พอเงินเดือนออกไม่เป็นอย่างที่หวังไว้(โดนหักตลอด) ไม่มีชี้เเจง โดนทุกคน เเต่อาจเพราะมีค่าคอมทุกคนเลยไม่ติดอะ พออยู่สักพักก็รู้เลยว่าเป็นห่วงเงินมากกว่าความรู้สึกของพนักงาน บางคนทำงานหนักเงินเดือนเท่ามด บางคนสบายมากได้เต็ม ทำงานไม่มีระบบคิดจะให้ทำอะไรก็ทำ เดือนล่าสุดยอดตกมาก (งานเข้า) ไม่ผ่านการประเมิณ คนประเมิณไม่เคยอยู่หน้างาน เจ้าของคลีนิคก็ไม่เคยมาการทำงาน มาประชุมอาทิตย์ละวัน ดูเเค่ยอดอย่างเดียว (อายุเยอะเเล้ว) ผมก็คงต้องยอมรับเเหละ ทั้งที่ในใจคิดนะว่าที่ผ่านมาก่อนหน้าพาร้านทำยอดทะลุเพดานมากกว่า 2 ปีที่ผ่านมาไม่เคยถึง พอเริ่มต้นปีคนเงียบเพราะเที่ยวปีใหม่ ไม่ค่อยมีใครว่างมา ยอดตกกว่า 50 % จากเดือนก่อน สุดท้ายก็กลับมาจุดเดิม (ตกงาน) เเต่มีคนออกพร้อมผมกว่า 3 คนเพราะไม่พอใจในระบบด้วย
ผมเหนื่อยเเละท้อมาก...คิดในใจว่าเราอาจจะไม่เหมาะกับงานประจำรึเปล่า หรือความสามารถเรามันด่อยเกินไป จนบางครั้งก็เเอบน้ำตาซึมคนเดียว
ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง วิ่งหางาน
เริ่มท้อกับชีวิตใน กทม เเล้วครับ
เรียนจบ ปตรีที่เอกชนค่าเทอมเเพงมากใจกลางเมือง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเจออะไรมากมาย ทั้งคนดีเเละไม่ดี ความขัดเเย้งที่เกิดจากเพื่อนสนิท
ชีวิตผมเวลาอยู่กับเพื่อนๆสนุกมาก ครั้งใหนที่กลับมานั่งอยู่ในห้องคนเดียวชีวิตเงียบเหงา มีเพียงมือถือที่คอยเปิดเพลงเบาเป็นเพื่อนเรา
จนตอนนี้ผมจบมาได้เข้าปีที่ 2 เเล้ว ตกงานมาเเล้ว 5 ครั้งได้ ทำได้นานที่สุดก็ 3 เดือน (เยอะมั้ย) ผมทำฟรีเเลนซ์มาก่อนได้ประมาณ 6 เดือนจนกระทั่งงานหายไป (พระเจ้าอยู่หัว) จึงคิดหางานประจำ
- งานเเรก ทำพาร์ทไทม์ 3 เดือนก็ไม่ได้บรรจุ เพราะเจอหัวหน้าโกงเงิน ปัจจุบันเค้าโดนเด่งไปละ เเต่เข้าก็ยกเลิกฝ่ายออกไป
- งานสอง อีเว้นท์ออเเกไนซ์ งานประจำทำได้ 2 เดือนครึ่ง ก็ไม่ผ่าน เพราะเหมือนว่าคนที่รับผมมาชิงลาออกไปก่อน 2 อาทิตย์รุ่นพี่ผมเอง ซึ้งไม่มีใครชอบ เเต่เค้าเป็นหัวหน้าฝ่าย (คงคิดว่าใช้เส้น)
-งานสามเป็น Callcenter ทำได้นาน 3 เดือน อันนี้สังคมดีมากครับ เเต่ผิดที่ผมอยากได้เงินเดือนเยอะๆเลยออก
-งานที่สี่ก็มีรุ่นพี่ทักมาสมัยเรียนมหาลัยเเนะนำงาน(อสังหา) ทำได้ 1 เดือนครึ่งก็ออกเพราะหัวหน้าไม่ดี( ญ )อาจเป็นเพราะเคมีไม่เข้ากันด้วย สุดท้ายเค้าก็โดนเด่งเพราะมีปัญหาเรื่องเงินๆทอง (หัวหน้า)
- ล่าสุดงานที่คลีนิคใจกลางเมืองใกล้ Bts เเละ MRT สุขุมวิท ตอนสมัครเเละสัมบอกตำเเหน่ง Call พอทำจริง Tele ผมก็ไม่ติดอะไรเพราะให้เงินเดือนโอเค (ไม่มีสวัสดิ์ ไม่มีประกัน ไม่โบนัส ไม่เพิ่มเงิน ทำงาน 10 ชม ) เเต่พอเงินเดือนออกไม่เป็นอย่างที่หวังไว้(โดนหักตลอด) ไม่มีชี้เเจง โดนทุกคน เเต่อาจเพราะมีค่าคอมทุกคนเลยไม่ติดอะ พออยู่สักพักก็รู้เลยว่าเป็นห่วงเงินมากกว่าความรู้สึกของพนักงาน บางคนทำงานหนักเงินเดือนเท่ามด บางคนสบายมากได้เต็ม ทำงานไม่มีระบบคิดจะให้ทำอะไรก็ทำ เดือนล่าสุดยอดตกมาก (งานเข้า) ไม่ผ่านการประเมิณ คนประเมิณไม่เคยอยู่หน้างาน เจ้าของคลีนิคก็ไม่เคยมาการทำงาน มาประชุมอาทิตย์ละวัน ดูเเค่ยอดอย่างเดียว (อายุเยอะเเล้ว) ผมก็คงต้องยอมรับเเหละ ทั้งที่ในใจคิดนะว่าที่ผ่านมาก่อนหน้าพาร้านทำยอดทะลุเพดานมากกว่า 2 ปีที่ผ่านมาไม่เคยถึง พอเริ่มต้นปีคนเงียบเพราะเที่ยวปีใหม่ ไม่ค่อยมีใครว่างมา ยอดตกกว่า 50 % จากเดือนก่อน สุดท้ายก็กลับมาจุดเดิม (ตกงาน) เเต่มีคนออกพร้อมผมกว่า 3 คนเพราะไม่พอใจในระบบด้วย
ผมเหนื่อยเเละท้อมาก...คิดในใจว่าเราอาจจะไม่เหมาะกับงานประจำรึเปล่า หรือความสามารถเรามันด่อยเกินไป จนบางครั้งก็เเอบน้ำตาซึมคนเดียว
ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง วิ่งหางาน