กอ.รมน.กาฬสินธุ์เยียวยาชาวบ้านแจกพันธุ์ปลา9101หลังผิดสเปกตายยกกะชัง

30 ม.ค.61 จากกรณีชาวบ้านพบความผิดปกติการซื้อปัจจัยการผลิตโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดในหลายพื้นที่ของ จ.กาฬสินธุ์ ราคาสูงกว่าท้องตลาด โดยเฉพาะ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด และ อ.นาคู อ.กุฉินารายณ์ อ.ห้วยผึ้ง เขาวง และ อ.สมเด็จ เนื่องจากมีการจัดซื้อปัจจัยการผลิตราคาแพงกว่าท้องตลาด จนชาวบ้านต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าร้องทุกข์กับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์ดำรงธรรมเรียกร้องให้ตรวจสอบ กระทั่งนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และหากพบการทุจริตจริงก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที
ล่าสุด พ.อ.มานพ ไขขุนทด รองผอ.รมน. กาฬสินธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบโครงการ 9101 จ.กาฬสินธุ์ นายพิชัย ส่งสุขเลิศสันติ นายอำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานเกษตรอำเภอ ประมงอำเภอ และผู้รับจ้างลงพื้นที่ประสานงานนำพันธุ์ปลาดุก ปลาหมอเทศ และหัวอาหาร เข้าเยียวยาให้กับชาวบ้านมะนาว ต.เหล่าใหญ่ และบ้านบุ่งคล้า ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ หลังจากชาวบ้านประสบปัญหาความเดือดร้อน เนื่องจากได้รับพันธุ์ปลาผิดสเปก มีขนาดเล็กและได้รับหัวอาหารผิดประเภทในการแจกจ่ายครั้งแรกตามโครงการ 9101 และขาดความรู้ในการเลี้ยงปลาทำให้ปลาที่ ได้รับแจกจ่ายและนำมาเลี้ยงไว้ในกระชังตายลงไปจำนวนมาก และมีหลายรายปลาตายยกกระชัง รวมทั้งการร้องเรียนว่าปัจจัยที่นำมาแจกจ่ายไม่คุ้มค่ากับเงินช่วยเหลือรายละ 5,000 บาท
โดยชาวบ้านมะนาว ที่ประสบปัญหาปลาตายหมดทั้งกระชังจะได้รับการเยียวยาเป็นพันธุ์ปลาดุก รายละ 500 ตัว ส่วนชาวบ้านที่ปลาตายบางส่วนได้รับการเยียวยารายละ 200 ตัว รวมทั้งหมด 115 ราย และทุกคนจะได้รับอาหารของปลาเล็กเพิ่มอีกคนละ 1 กระสอบ สำหรับเกษตรกรกลุ่มเลี้ยงปลาบ้านบุ่งคล้าที่ก่อนหน้านี้ ต้องการพันธุ์ปลาหมอเทศมาเลี้ยงแต่กลับได้รับพันธ์ปลาตะเพียนจะได้รับการเยียวยาเป็นพันธุ์ปลาหมอเทศรวมทั้งหมด 19 ราย ตามที่ขอ และอีก 157 ราย จะได้รับหัวอาหารปลาขนาดเล็กเพิ่มอีกคนละ 1 กระสอบ ซึ่งทำให้ชาวบ้านที่ได้รับการเยียวยาดีใจเป็นอย่างมาก และขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้

นางอารี สำโรงแสง อายุ 57 ปี ชาวบ้านมะนาว ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การรับพันธุ์ปลาดุกกับหัวอาหารในครั้งแรกแล้วนำมาเลี้ยงในกระชังนั้นของตนตายลงไปจำนวนมาก เพราะเป็นปลาตัวเล็กกินอาหารยังไม่เป็น หัวอาหารก็เม็ดใหญ่ผิดประเภทประกอบกับอากาศหนาว และที่สำคัญชาวบ้านขาดความรู้ในการเลี้ยงจึงทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้ตาย บางรายตายทั้งกระชัง แต่ในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาเยียวยา โดยนำพันธุ์ปลาและหัวอาหารมาเพิ่ม รวมทั้งแนะนำวิธีการเลี้ยง จึงทำให้ชาวบ้านดีใจเป็นอย่างมาก เพราะจะได้เลี้ยงปลาไว้อุปโภคและขาย ซึ่งจะสามารถลดรายจ่ายในครัวเรือน จึงขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะทหารกอ.รมน.กาฬสินธุ์ และอำเภอกุฉินารายณ์ ที่เห็นความลำบากและเร่งแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านในครั้งนี้
ด้านพ.อ.มานพ ไขขุนทด รองผอ.รมน. กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่เยียวยาครั้งนี้เป็นการเร่งให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน จากภัยน้ำท่วมและได้รับพันธุ์ปลามาเลี้ยงแต่กลับประสบปัญหาปลาตาย ตามนโยบายรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนโยบายของนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบและเร่งให้การช่วยเหลือ เนื่องจากที่ผ่านมาชาวบ้านได้รับการแจกจ่ายพันธุ์ปลาขนาดเล็ก หัวอาหารผิดประเภทอีกทั้งยังขาดความรู้ในการเลี้ยงปลาจึงทำให้ปลาตาย ซึ่งการเยียวยาถือเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ควบคู่ไปกับการตรวจสอบการดำเนินโครงการที่มีความผิดปกติไปด้วย เนื่องจากคณะกรรมการได้มีการตรวจสอบในเบื้องต้นมีข้อพิรุธ และได้ตั้งข้อสังเกตความผิดปกติอยู่หลายกรณี โดยเฉพาะการจัดส่งปัจจัยการผลิตที่ไม่ได้ตามขนาดหรือผิดสเปก ผิดประเภท การจัดซื้อในราคาที่สูง ความผิดปกติที่มีผู้รับจ้างจัดส่งปัจจัยการผลิตทั้ง 39 โครงการ งบประมาณกว่า 23 ล้านบาทรายเดียวและร้านเสนอราคาแข่งขันแต่แพ้ทั้งหมดทุกโครงการรายเดียวเช่นกัน

พ.อ.มานพ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญจากการตรวจสอบพบว่า ในพื้นที่อำเภอกุฉินารายณ์มีการดำเนินโครงการทั้งหมดรวม 39 โครงการ รวมพื้นที่ 12 ตำบล 18 ชุมชน โดยแต่ละตำบลมีการจัดตั้งคณะกรรมการชุมชนขึ้นมาทำหน้าที่กำกับดูแลกลุ่มเกษตรกร แต่ประเด็นที่น่าตั้งข้อสังเกตและมีความผิดปกติคือการนำเกษตรกรที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากอุทกภัยแต่ละหมู่บ้าน ในตำบลนั้นๆมารวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มใหญ่ทั้งตำบล บางพื้นที่มีการรวมกลุ่มกันประมาณ 200 คน และบางพื้นที่มีมากถึง 300-360 คน โดยมีการจัดตั้งประธาน คณะกรรมการ เลขานุการ เหรัญญิกขึ้นมาบริหารจัดการ โดยเฉพาะการจัดซื้อปัจจัยการผลิตซึ่งไม่ได้ให้เกษตรกรที่รวมกลุ่มกันตามหมู่บ้านตั้งกลุ่มกันเองหรือบริหารการซื้อปัจจัยการผลิตเอง ซึ่งลักษณะการดำเนินงานดังกล่าวปัญหาคือค่อนข้างที่จะดูแลเกษตรกรไม่ทั่วถึง ทำให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่าการรวมเกษตรกรให้เป็นกลุ่มใหญ่มีคนมากหลายร้อยคนนั้น จะเป็นการรวมงบประมาณให้มากที่สุดและ อาจจะเป็นช่องทางให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ และง่ายต่อการทุจริตหรือไม่ โดยคณะกรรมการจะเข้าตรวจสอบเอกสารทุกโครงการ รวมทั้งการเข้าสอบคณะกรรมการที่จัดซื้อ ปัจจัยการผลิตว่าได้มีการ ใช้หลักเกณฑ์ใดสืบราคา และเหตุใดจึงต้องเป็นร้านค้าร้านเดียว มีการทำประชาคมสอบถามความต้องการของชาวบ้านที่ประสบภัยหรือไม่ และสาเหตุใดจึงต้องตั้งรวมเกษตรกรกรไว้หลายร้อยคนในกลุ่มเดียว
http://www.naewna.com/local/317473
ทุจริตระดับท้องถิ่น ต้องจัดการให้เด็ดขาดค่ะ
เพราะอยู่กับชาวบ้านตลอดเวลา
ต้องซื่อสัตย์ไว้วางใจได้
🐟🐠~มาลาริน~ไม่ละเลยทุจริตระดับท้องถิ่น..กอ.รมน.กาฬสินธุ์เยียวยาชาวบ้านแจกพันธุ์ปลา9101หลังผิดสเปกตายยกกะชัง
30 ม.ค.61 จากกรณีชาวบ้านพบความผิดปกติการซื้อปัจจัยการผลิตโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดในหลายพื้นที่ของ จ.กาฬสินธุ์ ราคาสูงกว่าท้องตลาด โดยเฉพาะ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด และ อ.นาคู อ.กุฉินารายณ์ อ.ห้วยผึ้ง เขาวง และ อ.สมเด็จ เนื่องจากมีการจัดซื้อปัจจัยการผลิตราคาแพงกว่าท้องตลาด จนชาวบ้านต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าร้องทุกข์กับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์ดำรงธรรมเรียกร้องให้ตรวจสอบ กระทั่งนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และหากพบการทุจริตจริงก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที
ล่าสุด พ.อ.มานพ ไขขุนทด รองผอ.รมน. กาฬสินธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบโครงการ 9101 จ.กาฬสินธุ์ นายพิชัย ส่งสุขเลิศสันติ นายอำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานเกษตรอำเภอ ประมงอำเภอ และผู้รับจ้างลงพื้นที่ประสานงานนำพันธุ์ปลาดุก ปลาหมอเทศ และหัวอาหาร เข้าเยียวยาให้กับชาวบ้านมะนาว ต.เหล่าใหญ่ และบ้านบุ่งคล้า ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ หลังจากชาวบ้านประสบปัญหาความเดือดร้อน เนื่องจากได้รับพันธุ์ปลาผิดสเปก มีขนาดเล็กและได้รับหัวอาหารผิดประเภทในการแจกจ่ายครั้งแรกตามโครงการ 9101 และขาดความรู้ในการเลี้ยงปลาทำให้ปลาที่ ได้รับแจกจ่ายและนำมาเลี้ยงไว้ในกระชังตายลงไปจำนวนมาก และมีหลายรายปลาตายยกกระชัง รวมทั้งการร้องเรียนว่าปัจจัยที่นำมาแจกจ่ายไม่คุ้มค่ากับเงินช่วยเหลือรายละ 5,000 บาท
โดยชาวบ้านมะนาว ที่ประสบปัญหาปลาตายหมดทั้งกระชังจะได้รับการเยียวยาเป็นพันธุ์ปลาดุก รายละ 500 ตัว ส่วนชาวบ้านที่ปลาตายบางส่วนได้รับการเยียวยารายละ 200 ตัว รวมทั้งหมด 115 ราย และทุกคนจะได้รับอาหารของปลาเล็กเพิ่มอีกคนละ 1 กระสอบ สำหรับเกษตรกรกลุ่มเลี้ยงปลาบ้านบุ่งคล้าที่ก่อนหน้านี้ ต้องการพันธุ์ปลาหมอเทศมาเลี้ยงแต่กลับได้รับพันธ์ปลาตะเพียนจะได้รับการเยียวยาเป็นพันธุ์ปลาหมอเทศรวมทั้งหมด 19 ราย ตามที่ขอ และอีก 157 ราย จะได้รับหัวอาหารปลาขนาดเล็กเพิ่มอีกคนละ 1 กระสอบ ซึ่งทำให้ชาวบ้านที่ได้รับการเยียวยาดีใจเป็นอย่างมาก และขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้
นางอารี สำโรงแสง อายุ 57 ปี ชาวบ้านมะนาว ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การรับพันธุ์ปลาดุกกับหัวอาหารในครั้งแรกแล้วนำมาเลี้ยงในกระชังนั้นของตนตายลงไปจำนวนมาก เพราะเป็นปลาตัวเล็กกินอาหารยังไม่เป็น หัวอาหารก็เม็ดใหญ่ผิดประเภทประกอบกับอากาศหนาว และที่สำคัญชาวบ้านขาดความรู้ในการเลี้ยงจึงทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้ตาย บางรายตายทั้งกระชัง แต่ในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาเยียวยา โดยนำพันธุ์ปลาและหัวอาหารมาเพิ่ม รวมทั้งแนะนำวิธีการเลี้ยง จึงทำให้ชาวบ้านดีใจเป็นอย่างมาก เพราะจะได้เลี้ยงปลาไว้อุปโภคและขาย ซึ่งจะสามารถลดรายจ่ายในครัวเรือน จึงขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะทหารกอ.รมน.กาฬสินธุ์ และอำเภอกุฉินารายณ์ ที่เห็นความลำบากและเร่งแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านในครั้งนี้
ด้านพ.อ.มานพ ไขขุนทด รองผอ.รมน. กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่เยียวยาครั้งนี้เป็นการเร่งให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน จากภัยน้ำท่วมและได้รับพันธุ์ปลามาเลี้ยงแต่กลับประสบปัญหาปลาตาย ตามนโยบายรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนโยบายของนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบและเร่งให้การช่วยเหลือ เนื่องจากที่ผ่านมาชาวบ้านได้รับการแจกจ่ายพันธุ์ปลาขนาดเล็ก หัวอาหารผิดประเภทอีกทั้งยังขาดความรู้ในการเลี้ยงปลาจึงทำให้ปลาตาย ซึ่งการเยียวยาถือเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ควบคู่ไปกับการตรวจสอบการดำเนินโครงการที่มีความผิดปกติไปด้วย เนื่องจากคณะกรรมการได้มีการตรวจสอบในเบื้องต้นมีข้อพิรุธ และได้ตั้งข้อสังเกตความผิดปกติอยู่หลายกรณี โดยเฉพาะการจัดส่งปัจจัยการผลิตที่ไม่ได้ตามขนาดหรือผิดสเปก ผิดประเภท การจัดซื้อในราคาที่สูง ความผิดปกติที่มีผู้รับจ้างจัดส่งปัจจัยการผลิตทั้ง 39 โครงการ งบประมาณกว่า 23 ล้านบาทรายเดียวและร้านเสนอราคาแข่งขันแต่แพ้ทั้งหมดทุกโครงการรายเดียวเช่นกัน
พ.อ.มานพ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญจากการตรวจสอบพบว่า ในพื้นที่อำเภอกุฉินารายณ์มีการดำเนินโครงการทั้งหมดรวม 39 โครงการ รวมพื้นที่ 12 ตำบล 18 ชุมชน โดยแต่ละตำบลมีการจัดตั้งคณะกรรมการชุมชนขึ้นมาทำหน้าที่กำกับดูแลกลุ่มเกษตรกร แต่ประเด็นที่น่าตั้งข้อสังเกตและมีความผิดปกติคือการนำเกษตรกรที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากอุทกภัยแต่ละหมู่บ้าน ในตำบลนั้นๆมารวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มใหญ่ทั้งตำบล บางพื้นที่มีการรวมกลุ่มกันประมาณ 200 คน และบางพื้นที่มีมากถึง 300-360 คน โดยมีการจัดตั้งประธาน คณะกรรมการ เลขานุการ เหรัญญิกขึ้นมาบริหารจัดการ โดยเฉพาะการจัดซื้อปัจจัยการผลิตซึ่งไม่ได้ให้เกษตรกรที่รวมกลุ่มกันตามหมู่บ้านตั้งกลุ่มกันเองหรือบริหารการซื้อปัจจัยการผลิตเอง ซึ่งลักษณะการดำเนินงานดังกล่าวปัญหาคือค่อนข้างที่จะดูแลเกษตรกรไม่ทั่วถึง ทำให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่าการรวมเกษตรกรให้เป็นกลุ่มใหญ่มีคนมากหลายร้อยคนนั้น จะเป็นการรวมงบประมาณให้มากที่สุดและ อาจจะเป็นช่องทางให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ และง่ายต่อการทุจริตหรือไม่ โดยคณะกรรมการจะเข้าตรวจสอบเอกสารทุกโครงการ รวมทั้งการเข้าสอบคณะกรรมการที่จัดซื้อ ปัจจัยการผลิตว่าได้มีการ ใช้หลักเกณฑ์ใดสืบราคา และเหตุใดจึงต้องเป็นร้านค้าร้านเดียว มีการทำประชาคมสอบถามความต้องการของชาวบ้านที่ประสบภัยหรือไม่ และสาเหตุใดจึงต้องตั้งรวมเกษตรกรกรไว้หลายร้อยคนในกลุ่มเดียว
http://www.naewna.com/local/317473
ทุจริตระดับท้องถิ่น ต้องจัดการให้เด็ดขาดค่ะ
เพราะอยู่กับชาวบ้านตลอดเวลา
ต้องซื่อสัตย์ไว้วางใจได้