เร่งโซนนิ่งพืชเศรษฐกิจ ปศุสัตว์ ประมง พร้อมสร้างความเข้าใจเกษตรกรในพื้นที่

กระทู้ข่าว
......................จากการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศเขตความเหมาะสมในการปลูกพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด ได้แก่ ข้าว อ้อยโรงงาน มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ล่าสุดได้ประกาศเขตเหมาะสมในการเลี้ยงปศุสัตว์ เช่น โคเนื้อ โคนม ไก่ไข่ ไก่เนื้อ และสุกร อีกทั้งกำลังจะมีการประกาศด้านประมงเพิ่มอีก 3 ชนิด คือ กุ้งขาว ปลานิล กุ้งก้ามกราม นอกจากนี้ ในเดือนเมษายนจะประกาศด้านพืชเพิ่ม 2 ชนิด คือ ลำไย และสับปะรด ส่วนในเดือนพฤษภาคม จะประกาศเพิ่มอีก 5 ชนิด ได้แก่ มังคุด ทุเรียน เงาะ มะพร้าว กาแฟ

                      นายฉลอง เทพวิทักษ์กิจ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การประกาศเขตความเหมาะสมหรือโซนนิ่งนั้นเจตนารมณ์สูงสุดของรัฐบาลคือการปรับความสมดุลระหว่างความต้องการ (อุปสงค์) ให้สมดุลกับปริมาณผลผลิต (อุปทาน) ของผลผลิตพืชชนิดนั้น เพื่อเกษตรกรจะขายสินค้าได้ราคาดีไม่มีผลผลิตส่วนเกิน

                      โดยขณะนี้ได้แจ้งข้อมูลดังกล่าวผ่านกระทรวงมหาดไทยไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดแล้ว โดยแต่ละจังหวัดจะต้องจัดทำแผนการผลิตระดับจังหวัดให้สอดคล้องกับเขตความเหมาะสมทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ ซึ่งแต่ละจังหวัดจะต้องมีคณะกรรมการในการพิจารณาเขตความเหมาะสมที่กระทรวงเกษตรฯประกาศ รวมทั้งคิดโครงการขึ้นมา 2 ส่วน คือ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในเขตที่เหมาะสม และการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตที่ไม่เหมาะสมมาผลิตสินค้าชนิดอื่นที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในจังหวัดนั้น ๆ ทั้งนี้หลังจากทุกจังหวัดทำโครงการเสร็จแล้ว ข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งกลับมายังกระทรวงเกษตรฯภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 นี้

                      นายฉลอง กล่าวอีกว่า การประกาศเขตความเหมาะสมนั้น นอกจากต้องการลดพื้นที่ปลูกพืชที่มีปริมาณมากลง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการตลาดแล้ว ยังต้องการชี้ให้เห็นว่า ถ้าเกษตรกรปลูกพืชในพื้นที่เหมาะสมจะมีผลผลิตที่ดี ต้นทุนต่ำ แต่หากปลูกในพื้นที่ที่เหมาะสมน้อยหรือไม่เหมาะสมจะมีผลผลิตต่ำ และต้นทุนสูง ดังนั้น เราจึงจะมีโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ในการทำความเข้าใจกับเกษตรกรในเรื่องของการปรับเปลี่ยนอาชีพ เช่น การให้ความรู้ด้านการตลาด การลงทุน ปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดให้เกษตรกร เพื่อจูงใจให้เกิดการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เหมาะสมตามที่กำหนดไว้ รวมทั้งเข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น หรือเปลี่ยนไปทำปศุสัตว์ หรือประมงแทน นอกจากนี้ หากเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เหมาะสมอยู่แล้ว ต้องการลดพื้นที่ปลูก หรือต้องการเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น ที่มีรายได้ดีกว่าเดิม เช่น เขตที่เหมาะสมในการปลูกข้าวในพื้นที่ลุ่ม ถ้าต้องการทำประมงที่รายได้ดีกว่า ก็สามารถดำเนินการได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเกษตรกรเองทั้งนี้ เราไม่ได้ปิดกั้นสิทธิเสรี

                      ภาพของเกษตรกรในการเลือกปลูกพืชแต่ละชนิด ช่วงแรกอาจจะมีปัญหาบ้าง แต่หลังจากดำเนินการไปได้ระยะหนึ่งแล้ว เกษตรกรจะเริ่มเห็นตัวอย่างการปรับเปลี่ยนของเกษตรกรรายอื่น ที่มีรายได้ดีกว่าเดิม เชื่อว่าจะมีเกษตรกรเข้ามาร่วมโครงการกับเรามากขึ้นในอนาคต

                     “อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการประกาศโซนนิ่งการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และทำประมงออกมา ขอยืนยันว่าเกษตรกรที่อยู่นอกเขตจะยังคงได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนเดิมอย่างที่เคยได้รับ เช่น หากเกษตรกรที่อยู่นอกเขตประกาศประสบภัยพิบัติต่าง ๆ รัฐบาลจะยังคงช่วยเหลือเช่นเดิม ส่วนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่อยู่นอกเขตประกาศก็ยังจำนำข้าวได้เหมือนเดิมเช่นกัน” นายฉลอง กล่าว.

ที่มา  http://www.dailynews.co.th/agriculture/197361
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่