5 เหตุผลที่ ‘9 ศาสตรา’ ชนะเลิศด้านคะแนนวิจารณ์ แต่พลาดหวังเรื่องรายได้

เรียกได้ว่าเป็นอนิเมชั่นที่เขย่าวงการภาพยนตร์ไทยได้ตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว สำหรับ 9 ศาสตรา อนิเมชั่นไทยฟอร์มยักษ์ที่ใช้เวลาสร้างกว่า 4 ปี และรวมทุนสร้างกว่า 230 ล้านบาท ทั้งยังได้ทีมงานที่ฝากผลงานไว้ในระดับสากลมาแล้วนับไม่ถ้วน จนกลายเป็นความหวังใหม่ของวงการอนิเมชั่นไทย ว่าจะสามารถกู้ชื่อและกลายเป็นมาตรฐานของการสร้างอนิเมชั่นในอนาคตได้ เพราะทั้งคะแนนวิจารณ์และความเห็นจากผู้ชมนั้น ต้องยอมรับว่า ‘ชนะเลิศ’ ในทุกสังเวียน แต่ท่ามความยินดีของคอหนัง และผู้ชมจำนวนมากที่มีโอกาสได้เข้าชมในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ยังมีเรื่องชวนหดหู่ที่ไม่ว่าทีมงาน และแฟนๆ 9 ศาสตรา ต่างก็ต้องกุมขมับไปตามๆ กัน เพราะดูเหมือนรายได้จากการฉายภายในประเทศ จนค่อนข้างสวนกับทิศทางคะแนนวิจารณ์ในโลกออนไลน์ จนเทียบไม่น่าเชื่อว่า…เรากำลังคุยถึงภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน

มาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนคงนึกหาเหตุผล ว่าทำไมภาพยนตร์ไทยหลายๆ เรื่อง มีรายได้ค่อนข้างสวนทางคะแนนวิจารณ์ใจน่าใจหาย โดยเฉพาะกับ 9 ศาสตรา ที่กำลังจะกลายประวัติศาสตร์ซ้ำรอยของวงการภาพยนตร์ไทยอีกครั้ง ซึ่งถ้ามองจากสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้น ก็พอจะมองสาเหตุได้ดังนี้…

1. คนบางกลุ่มรอดูออนไลน์ : แม้หลายคนจะมองว่าเป็นสิทธิ์ของผู้บริโภค (ที่ไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่) ในการเลือกหาความบันเทิงในรูปแบบที่สร้างความสะดวกสบายให้ตัวเอง จนลืมมองไปว่าการสร้างหนังไม่ว่าจะฟอร์มเล็กหรือฟอร์มยักษ์ ล้วนแต่มีงบประมาณทั้งสิ้น และต่อให้คะแนนวิจารณ์ดีแค่ไหน แต่ถ้าเป็นการรับชมผ่านช่องทางที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้กับผู้ผลิต สุดท้ายหนังดีๆ ก็จะจบลงด้วยคำขอบคุณของผู้ชมที่เข้าไปคอมเมนท์เท่านั้น และนั่นก็ไม่เพียงพอจะให้หนังไปถึงดวงดาวได้

2. คนบางกลุ่มยังอคติกับอนิเมชั่น : แม้จะก้าวเข้าสู่ปี 2018 แล้ว แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากมองว่า ‘อนิเมชั่น’ เป็นการ์ตูนหลอกเด็ก ที่มีไว้เพื่อความบันเทิง และไม่ได้มอบอะไรให้คนดู จนทำให้เกิดการปิดกั้นตัวเองที่จะเปิดรับมุมมองใหม่ๆ ที่ทำให้ยืนยันอนิเมชั่นไม่ได้สร้างมาเพื่อเด็ก แต่เป็นภาพยนตร์ที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย และมีโอกาสประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลกได้ อย่างเช่นเรื่อ Coco อนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของค่าย Pixar ที่ใช้ทุนสร้างกว่า 200 ล้านเหรียญ กวาดรายได้จากทั่วโลกกว่า 454.8 ล้านเหรียญพร้อมกับเสียงวิจารณ์ในแดนบวกอย่างล้นหลาม จนสามารถคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ สาขาอนิเมชั่นยอดเยี่ยม และ New York Film Critics Circle Award for Best Animated Film

3. คนบางกลุ่มยังผิดหวังอนิเมชั่นไทย : ปฎิเสธไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้มีอนิเมชั่นไทยหลายต่อหลายเรื่องที่สร้างความผิดหวังให้กับผู้ชมจำนวนมาก จนกลายเป็นแผลฝังใจให้คนกลุ่มหนึ่งที่อาจจะเคยตั้งความหวังกับวงการอนิเมชั่น ตัดสินใจหันหลังให้โดยสิ้นเชิง

4. คนบางกลุ่มชอบติก่อนดู : เมื่ออยู่หน้าคีย์บอร์ด หลายคนมักได้รับองค์ประทับเป็นนักวิจารณ์โดยไม่รู้ตัว ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่ว่า…หากการตัดสินอาหารสักจานโดยไม่ทันชิม ถือเป็นการดูถูกพ่อครัว การตัดสินและวิเคราะห์หนังสักเรื่องโดยไม่ทันได้ดู ซึ่งนั่นอาจทำให้คุณดูแตกต่างและสวนกระแสจากคนวิจารณ์หมู่มาก แต่ก็ถือเป็นการถูกดูผลงานของผู้ผลิตเช่นกัน เพราะคุณยังไม่ได้เห็นของที่เขาขายแม้แต่นิดเดียว

5. คนบางกลุ่มชอบเดาไปเอง : ด้วยพล็อตเรื่องแนวแฟนตาซีผจญภัย ที่ฝ่ายธรรมะต้องปะทะและเอาชนะฝ่ายอธรรม ที่มักถูกมองว่า ‘ไม่มีความแปลกใหม่’ แถมสามารถจินตนาการเหตุการณ์ต่างๆ ได้เป็นฉากๆ จนลืมคิดไปว่า…มีภาพยนตร์ การ์ตูน และอนิเมชั่นอีกมากมาย ที่ใช้พล็อตเรื่องแบบเดียวกัน แต่เพิ่มเติมสีสัน เนื้อหา และรายละเอียดต่างๆ จนสามารถประสบความสำเร็จได้ทั้งในแง่คำวิจารณ์และรายได้ที่ตอบกลับมา ซึ่งนั่นก็เป็นผลจากการกล้าของผู้ชมล้วนๆ ที่ยินดีเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ที่ตัวเองยังไม่รู้จัก มากกว่าจะคิดหรือจินตนาการไปก่อนที่จะได้เห็นมัน

ยังมีเหตุผลอีกมากมายที่อยู่นอกเหนือจากที่ได้ยกตัวอย่างมา ซึ่งมีผลให้ ‘9 ศาสตรา’ ชนะเลิศด้านคะแนนวิจารณ์ แต่พลาดหวังเรื่องรายได้ และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนที่จะทำให้รายได้ของอนิเมชั่นไทยฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ ได้ผงาดในฐานะภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่คำวิจารณ์และรายได้ แต่เป็นคนไทยเราด้วยกันนี่เอง ที่จะช่วยให้เวลาสร้างกว่า 4 ปี และรวมทุนสร้างกว่า 230 ล้านบาท ต้องหายไปพร้อมกับคำชมอันล้นหลาม…ที่ไร้แรงสนับสนุน

ที่มา : http://www.amarintv.com/lifestyle-update/news-6338/142166/

++++++++++++ คหสต +++++++++++++++++

9 ศาสตรา มีบทวิจารณ์เยอะ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ก็ตาม แต่ก็ไร้แรงสนับสนุน อันนี้น่าจะจริง เพราะ เราแทบไม่เห็นสื่อประโคมข่าวเท่าไหร่ อย่างมากก็สัมภาษณ์ทีมผู้สร้าง ไม่เหมือนพี่มากพระโขนง ที่ประโคมแทบจะรายวัน ไม่ว่าจะในสื่อทีวี สิ่งพิมพ์ แถมติดตามในข่าวบันเทิงมันเกือบทั้งสัปดาห์ แต่พี่มากก็ยอมรับว่าสนุก ตลกจริง ๆ ชอบมากค่ะ ฮาแขกตี้ ปกติไม่ดูหนังไทยในโรงยังไปดูเลย

เราไม่ได้เปรียบเทียบระหว่างการ์ตูนกับหนังนะคะ เพราะ มันคงเทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว เพียงแต่เห็นว่ามันก็เป็นผลงานของคนไทยสร้างเหมือนกัน แต่ปัจจัยที่ต่างกันมันคืออะไร อนิเมชั่นคือขายเด็กรึ หรือไม่มั่นใจว่าเป็นไทยสร้าง ส่วนตัวบทไม่เถียงว่า บทมันดำเนินราบเรียบ รู้ว่าตอนจบเป็นยังไงด้วยซ้ำ แต่เข้าใจว่าหนังมันขาย Action แต่ยังไงให้กำลังใจทีมงานนะคะ ก็ต้องดูต่อไปว่าจะลุ้นให้ทะลุ 200 ล้านที่จีนได้หรือไม่ เราอยากเห็นอนิเมชั่นน้ำดีเกิดขึ้นด้วยฝีมือคนไทยอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่