สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้พิกุลจะมารีวิวแผ่นกำจัดขนค่ะ มีใครเคยใช้แผ่นกำจัดคนบ้างเอ่ย?
พิกุลเพิ่งใช้ครั้งแรกเลยค่ะ อยากจะบอกว่าตื่นเต้นมากๆ ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับแผ่นกำจัดขนที่พิกุลจะรีวิวในวันนี้กันก่อนเนอะ แบรนด์นี้ชื่อว่า Nabu Pad Plus เป็นแผ่นกำจัดขนที่มาในกล่องสีชมพู กล่องดูน่ารักน่าใช้มากๆ เลยค่ะ

ด้านหลังกล่องจะเขียนรายละเอียดไว้ว่าเป็นแผ่นกำจัดขนที่สามารถทำได้โดยไม่เจ็บไม่ต้องไปทำเลเซอร์ แถมแผ่นหนึ่งยังสามารถทำได้ถึงสามครั้ง ในกล่องนี้จะมี ซิลิโคนอันใหญ่หนึ่งอันและอันเล็กหนึ่งอันค่ะ พิกุลแอบสงสัยเรื่อง ซิลิโคนนะคะ อยากเห็นว่าหน้าตาจะเป็นยังไง ลองมาเปิดกล่องไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

ด้านในกล่องจะมีซองพลาสติกสีชมพู ให้เพื่อนๆ กางซองนี้ออกได้เลยค่ะ ด้านในจะมีแผ่นกำจัดขนและซิลิโคนอยู่ในซองนี้ค่ะ เก็บมาเรียบร้อยจริงๆ เลย เราสามารถใช้เก็บแผ่นกำจัดขนและซิลิโคนไว้ใช้ครั้งต่อๆ ไปได้ค่ะ

ด้านในบรรจุแผ่นกำจัดขน แผ่นเล็กห้าอันและแผ่นใหญ่ห้าอันค่ะ สำหรับแผ่นใหญ่จะใช้กำจัดขนที่แขนและขาค่ะ ส่วนอันเล็กจะใช้กำจัดขนต้องนิ้วมือ นิ้วเท้าหรือบริเวณที่เป็นพื้นที่เล็กๆค่ะ ตัวซิลิโคนอันเล็กจะให้คล้ายๆรองเท้าบาร์บี้เลยค่ะ ตอนแรกที่พิกุลเปิดออกมายอมรับว่าตกใจนิดนึง แต่ก็รู้สึกว่าน่ารักน่าใช้ดีค่ะ


วิธีใช้งานให้เพื่อนๆ แกะสติ๊กเกอร์ด้านหลังของแผ่นกำจัดขนที่เป็นสีดำนะคะ แกะออกมาแล้วให้แปะแผ่นสติ๊กเกอร์ลงบนตัวแผ่นซิลิโคน หลังจากนั้นให้นำแผ่นซิลิโคนด้านที่ติดสติ๊กเกอร์เรียบร้อยแล้ว ไปวางบนผิวบริเวณที่เราต้องการกำจัดขนค่ะ พิกุลแนะนำให้เพื่อนๆ แนบแผ่นกำจัดขนให้ติดกับผิวนะคะ หลังจากนั้น ก็ถูเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกาเร็วๆ ทำต่อเนื่องจนขนหลุดค่ะ

สงสัยกันใช่ไหมล่ะ ว่าการใช้แผ่นกำจัดขนถูไปที่ผิวของเราโดยตรงจะรู้สึกเจ็บไหม
พิกุลลองใช้มาทั้งแขนและขาเรียบร้อยแล้วนะคะ พิกุลว่าไม่เจ็บเลยค่ะ แต่พิกุลแนะนำให้เพื่อนๆ บำรุงผิวให้ชุ่มชื่นก่อนใช้นะคะ เพราะว่าการที่เรานำสิ่งอื่นๆ มาถูกับผิวก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ แนะนำให้ถูวนๆ ความแรงปานกลาง ไม่ต้องแรงมากนะคะ การใช้แผ่นกำจัดขนนี้เจ็บน้อยกว่าการแว็กซ์แน่นอนค่ะ

ดูรูปก่อนใช้กันนะคะทุกคน
แขนของพิกุลมีขนค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่เคยแว๊กซ์แขนเลย มีแต่การแว็กซ์ที่ขาบ้างค่ะ ที่ไม่กล้าทำเพราะว่ากลัวเจ็บ แต่ตอนนี้มีแผนกำจัดขนแล้วเลยกล้าลองกำจัดขนที่แขนค่ะ

พิกุลใช้แผ่นกำจัดขนติดกับซิลิโคนแล้วถูเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกาด้วยความแรงปานกลางค่ะ การกำจัดขนด้วยแผ่นกำจัดขนนี้แต่ใช้เวลานานกว่าการใช้สเปรย์กำจัดขนนะคะ เพื่อนๆ ไม่ต้องรีบถูเพื่อให้ขนหลุดออกแบบเร็วๆนะคะ ค่อยๆ ทำไป ประมาณ 3 ถึง 5 นาทีขนก็จะหลุดออกจนหมดค่ะ
มาลองเปรียบเทียบกันระหว่างแขนที่กำจัดขนแล้ว กับแขนที่ยังไม่ได้กำจัดขนนะคะ ฝั่งที่กำจัดขนแล้วเห็นได้จัดว่าดูขาวขึ้น ผิวดูเกลี้ยงเกลาและเรียบเนียนกว่าอีกฝั่งอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ รู้แบบนี้กำจัดขนที่แขนไปตั้งนานแล้ว แฮ่ๆ
การกำจัดขนด้วยแผ่นกำจัดขน Nabu Pad Plus นี้ทำง่ายมากๆ ค่ะ ถ้าเปรียบเทียบกับแบบสเปรย์หรือครีม อาจจะใช้เวลานานกว่า แต่สำหรับพิกุลก็มองว่ากำจัดขนด้วยแผ่นกำจัดขนนี้ก็ดีเหมือนกัน ใช้ครีมกำจัดขนเร็วก็จริง แต่ก็กังวลเรื่องสารเคมีอยู่เหมือนกันค่ะ

จบแล้วน้าสำหรับการรีวิวแบบสั้นๆ ของการกำจัดขนด้วยแผ่นกำจัดขนจากแบรนด์ Nabu Pad Plus กล่องนี้ราคา 250 บาท พิกุลว่าอย่างต่ำน่าจะใช้ได้ 3–4 เดือนเลย เพราะแผ่นนึงสามารถทำได้ถึง 3 ครั้งแน่ะ
ถ้าใครสงสัยเรื่องการใช้งาน สามารถดูวีดีโอรีวิวของพิกุลได้ที่ลิงก์นี้เลยนะคะ

ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านรีวิวกระทู้นี้นะคะ การรีวิวในครั้งนี้พิกุลมารีวิวไว้เป็นแนวทางในการตัดสินใจของทุกคนน้าาา หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย วันนี้ขอลาไปก่อน ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้า สวัสดีค่ะ
[SR] เจอแล้ว! ตัวช่วยกำจัดขนแบบไม่ต้องทนเจ็บ
พิกุลเพิ่งใช้ครั้งแรกเลยค่ะ อยากจะบอกว่าตื่นเต้นมากๆ ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับแผ่นกำจัดขนที่พิกุลจะรีวิวในวันนี้กันก่อนเนอะ แบรนด์นี้ชื่อว่า Nabu Pad Plus เป็นแผ่นกำจัดขนที่มาในกล่องสีชมพู กล่องดูน่ารักน่าใช้มากๆ เลยค่ะ
ด้านหลังกล่องจะเขียนรายละเอียดไว้ว่าเป็นแผ่นกำจัดขนที่สามารถทำได้โดยไม่เจ็บไม่ต้องไปทำเลเซอร์ แถมแผ่นหนึ่งยังสามารถทำได้ถึงสามครั้ง ในกล่องนี้จะมี ซิลิโคนอันใหญ่หนึ่งอันและอันเล็กหนึ่งอันค่ะ พิกุลแอบสงสัยเรื่อง ซิลิโคนนะคะ อยากเห็นว่าหน้าตาจะเป็นยังไง ลองมาเปิดกล่องไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ด้านในกล่องจะมีซองพลาสติกสีชมพู ให้เพื่อนๆ กางซองนี้ออกได้เลยค่ะ ด้านในจะมีแผ่นกำจัดขนและซิลิโคนอยู่ในซองนี้ค่ะ เก็บมาเรียบร้อยจริงๆ เลย เราสามารถใช้เก็บแผ่นกำจัดขนและซิลิโคนไว้ใช้ครั้งต่อๆ ไปได้ค่ะ
ด้านในบรรจุแผ่นกำจัดขน แผ่นเล็กห้าอันและแผ่นใหญ่ห้าอันค่ะ สำหรับแผ่นใหญ่จะใช้กำจัดขนที่แขนและขาค่ะ ส่วนอันเล็กจะใช้กำจัดขนต้องนิ้วมือ นิ้วเท้าหรือบริเวณที่เป็นพื้นที่เล็กๆค่ะ ตัวซิลิโคนอันเล็กจะให้คล้ายๆรองเท้าบาร์บี้เลยค่ะ ตอนแรกที่พิกุลเปิดออกมายอมรับว่าตกใจนิดนึง แต่ก็รู้สึกว่าน่ารักน่าใช้ดีค่ะ
วิธีใช้งานให้เพื่อนๆ แกะสติ๊กเกอร์ด้านหลังของแผ่นกำจัดขนที่เป็นสีดำนะคะ แกะออกมาแล้วให้แปะแผ่นสติ๊กเกอร์ลงบนตัวแผ่นซิลิโคน หลังจากนั้นให้นำแผ่นซิลิโคนด้านที่ติดสติ๊กเกอร์เรียบร้อยแล้ว ไปวางบนผิวบริเวณที่เราต้องการกำจัดขนค่ะ พิกุลแนะนำให้เพื่อนๆ แนบแผ่นกำจัดขนให้ติดกับผิวนะคะ หลังจากนั้น ก็ถูเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกาเร็วๆ ทำต่อเนื่องจนขนหลุดค่ะ
สงสัยกันใช่ไหมล่ะ ว่าการใช้แผ่นกำจัดขนถูไปที่ผิวของเราโดยตรงจะรู้สึกเจ็บไหม
พิกุลลองใช้มาทั้งแขนและขาเรียบร้อยแล้วนะคะ พิกุลว่าไม่เจ็บเลยค่ะ แต่พิกุลแนะนำให้เพื่อนๆ บำรุงผิวให้ชุ่มชื่นก่อนใช้นะคะ เพราะว่าการที่เรานำสิ่งอื่นๆ มาถูกับผิวก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ แนะนำให้ถูวนๆ ความแรงปานกลาง ไม่ต้องแรงมากนะคะ การใช้แผ่นกำจัดขนนี้เจ็บน้อยกว่าการแว็กซ์แน่นอนค่ะ
ดูรูปก่อนใช้กันนะคะทุกคน
แขนของพิกุลมีขนค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่เคยแว๊กซ์แขนเลย มีแต่การแว็กซ์ที่ขาบ้างค่ะ ที่ไม่กล้าทำเพราะว่ากลัวเจ็บ แต่ตอนนี้มีแผนกำจัดขนแล้วเลยกล้าลองกำจัดขนที่แขนค่ะ
พิกุลใช้แผ่นกำจัดขนติดกับซิลิโคนแล้วถูเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกาด้วยความแรงปานกลางค่ะ การกำจัดขนด้วยแผ่นกำจัดขนนี้แต่ใช้เวลานานกว่าการใช้สเปรย์กำจัดขนนะคะ เพื่อนๆ ไม่ต้องรีบถูเพื่อให้ขนหลุดออกแบบเร็วๆนะคะ ค่อยๆ ทำไป ประมาณ 3 ถึง 5 นาทีขนก็จะหลุดออกจนหมดค่ะ
มาลองเปรียบเทียบกันระหว่างแขนที่กำจัดขนแล้ว กับแขนที่ยังไม่ได้กำจัดขนนะคะ ฝั่งที่กำจัดขนแล้วเห็นได้จัดว่าดูขาวขึ้น ผิวดูเกลี้ยงเกลาและเรียบเนียนกว่าอีกฝั่งอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ รู้แบบนี้กำจัดขนที่แขนไปตั้งนานแล้ว แฮ่ๆ
การกำจัดขนด้วยแผ่นกำจัดขน Nabu Pad Plus นี้ทำง่ายมากๆ ค่ะ ถ้าเปรียบเทียบกับแบบสเปรย์หรือครีม อาจจะใช้เวลานานกว่า แต่สำหรับพิกุลก็มองว่ากำจัดขนด้วยแผ่นกำจัดขนนี้ก็ดีเหมือนกัน ใช้ครีมกำจัดขนเร็วก็จริง แต่ก็กังวลเรื่องสารเคมีอยู่เหมือนกันค่ะ
จบแล้วน้าสำหรับการรีวิวแบบสั้นๆ ของการกำจัดขนด้วยแผ่นกำจัดขนจากแบรนด์ Nabu Pad Plus กล่องนี้ราคา 250 บาท พิกุลว่าอย่างต่ำน่าจะใช้ได้ 3–4 เดือนเลย เพราะแผ่นนึงสามารถทำได้ถึง 3 ครั้งแน่ะ
ถ้าใครสงสัยเรื่องการใช้งาน สามารถดูวีดีโอรีวิวของพิกุลได้ที่ลิงก์นี้เลยนะคะ
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านรีวิวกระทู้นี้นะคะ การรีวิวในครั้งนี้พิกุลมารีวิวไว้เป็นแนวทางในการตัดสินใจของทุกคนน้าาา หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย วันนี้ขอลาไปก่อน ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้า สวัสดีค่ะ