(บทความ..นายพระรอง) สิทธิเสียงของคุณ..เพื่อใคร? แค่ยาสีฟันหนึ่งหลอดก็อาจให้คำตอบคุณได้

กระทู้คำถาม
สิทธิเสียงของคุณ..เพื่อใคร?  
       พาดหัวกะทู้แบบนี้ ก็เปิดช่องให้พวกที่ไม่ชอบการเมืองตามกติกา ออกมาเป่านกหวีด ปรี๊ดๆ แล้วชี้หน้าตอบแทนเจ้าของคำถามอย่างผมว่า ยิ่งลักษณ์ๆๆๆ ทักษิณๆๆๆ แล้วก็พากันไปจับกลุ่มนินทาหาว่าคนที่คิดต่าง “ไม่รักชาติ” สนับสนุนคนโกง จนพวกตนต้องออกโรงมาป่วนประเทศเพื่อ “กู้ชาติ” จนระบบบ้านเมืองพังพินาศ และตัวเองก็ยืนประกาศชัยชนะบนซากของระบบยุติธรรมที่พังทลายลงไป เพราะฝักใฝ่ทางการเมือง ซึ่งมันเป็นเรื่องของการทำลายระบบ มากกว่าการประกาศแต่ปากว่ารักชาติ

       ขอนอกประเด็นตั้งแต่ต้นกะทู้สักนิดว่า ผมเคยแอบคิดเล่นๆว่า ไอ้คำว่า ตุลาการภิวัฒน์ มันน่าจะเป็น ตุลาการพิบัติมากกว่า เพราะการกระทำที่เอียงกะเท่เร่ มันทำให้ระบบตาชั่งการตวงถูกผิด ถูกผูกติดกับการเมืองซีกหนึ่งจนสูญเสียความน่าเชื่อถือ ยิ่งออกมายอมรับว่า รัฐาธิปัตย์ ว่าเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ เพราะเคยเกิดขึ้นในอดีต เป็นธรรมเนียมจารีตของสังคมไทยภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ก็ได้แต่ทำให้คนธรรมดาที่ไม่ได้มีความรู้ด้าน รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ หรือหลักนิติธรรมเหนือไปกว่าองค์คณะตุลาการท่านใดที่ออกมาแถลงการณ์ตอนนั้น ได้แต่คิดว่า “เกินเยียวยา”แล้วประเทศนี้

วกกลับมาที่คำถาม สิทธิเสียงของคุณ..เพื่อใคร?  
       แน่นอนว่า ยิ่งลักษณ์ และทักษิณ อาจจะมีส่วนถูกในหลักฐานด้านคำตอบในแง่ของการปฏิบัติที่ผ่านมา เพราะผมก็ยอมรับว่า ผมเลือกยิ่งลักษณ์ และทักษิณจริงๆ แต่ผมไม่ได้เลือกเพราะต้องการให้ยิ่งลักษณ์ และทักษิณ เข้าไปกอบโกยหาผลประโยชน์ให้ร่ำรวยยิ่งขึ้นกว่าที่ โค..ตะ..ระ ร่ำรวยมหาศาลกันอยู่แล้ว ดังนั้นหากคนที่ยัดเยียดคำตอบเช่นนี้ให้ผม เพราะคิดว่าผมสนับสนุนคงโกงอย่างที่ถูก“ครอบ”กันมา จึงผิดในหลักคิด

       เพราะที่จริงแล้วการใช้สิทธิและเสียงของผม ไม่ได้ถูกใช้เพื่อยิ่งลักษณ์และทักษิณ แต่มันถูกใช้เพื่อลูกเพื่อเมีย และตัวของผมเองต่างหาก เพราะสองคนจากตระกูลชินวัตรที่ผมเลือกใช้สิทธิเสียงของผมไปสนับสนุนนี้ ทำให้ผมเชื่อได้ว่าหากได้รับการสนับสนุนจากสิทธิเสียงของผมและคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศ พวกเขาจะบริหารประเทศนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้า และสุดท้ายผลประโยชน์จากการที่ประเทศก้าวหน้า ก็จะตกมาถึงคนธรรมดาอย่างผมเอง ถึงตัวลูกเมียของผม และก็ตกไปถึงมือคนทั่วไปซึ่งเป็นประชาชนคนธรรมดาเช่นเดียวกับผมด้วย

       และในตรรกะเดียวกันหากมีคนอื่นที่ไม่ใช่ยิ่งลักษณ์และทักษิณ ทำให้ผมเชื่อได้ว่า คนอื่นคนนั้นสามารถทำได้ดีกว่าสองพี่น้องจากตระกูลชินวัตร ผมก็พร้อมที่จะใช้สิทธิและเสียงของผมไปสนับสนุนคนอื่นคนนั้น ไม่จำเป็นที่ผมจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อชินวัตรไปตลอดชีวิต

       ซึ่งมันก็เป็นหลักคิดง่ายๆเหมือนการซื้อยาสีฟัน ที่ผู้ซื้อพอใจยี่ห้อไหนก็ซื้อยี่ห้อนั้น แต่ถ้าเชื่อว่ายี่ห้ออื่นดีกว่าของเดิมที่ตนใช้เมื่อไร ก็สามารถเปลี่ยนไปซื้อยี่ห้ออื่นได้ เพราะมันเป็นสิทธิเสรีภาพของตัวผู้ซื้อ แต่ก็นะ...หลักคิดง่ายๆแบบนี้ แต่บางทีคนในประเทศนี้บางจำพวกก็แกล้งมึนไม่เข้าใจ ออกมาดิ้นรนจะเป็นจะตายที่คนอื่นเลือกใช้ยาสีฟันยี่ห้อที่ต่างจากตัวเอง

ตัวผมไม่มีปัญหาเลย ถ้าหากว่า ลูกเมียผมจะเลือกยาสีฟันยี่ห้อต่างจากผมในการเลือกตั้ง

       เพราะหากเมียคู่ชีวิตที่อยู่กินกันมานานของผม จะเลือกสนับสนุนยาสีฟันยี่ห้ออภิสิทธิ์ มาใช้ในครัวเรือน เธอก็คงคิดดีแล้วว่า ยาสีฟันยี่ห้อนี้ใช้แล้วดีต่อลูกผัว และตัวเอง เช่นกันหากลูกสาวคนโตของผมที่อายุครบเกณฑ์และจะได้รับสิทธิการเลือกตั้งครั้งแรกในการเลือกตั้งครั้งหน้า เธอเลือกจะเลือกสนับสนุนยาสีฟันยี่ห้อพลเอกประยุทธ ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่ยาสีฟันเถื่อน เพราะมาตามระบบถูกต้อง ถึงจะเป็นยาสีฟันคนนอกที่ได้รับการรับรองแบบแปลกๆก็ตาม แต่ก็ต้องถือว่ามาตามระบบ มาใช้ในครัวเรือน เธอก็คงคิดแล้วยาสีฟันยี่ห้อนี้ใช้แล้วดีต่อพ่อแม่ และตัวเอง

       สมาชิกในบ้านผมคงไม่มีใครจะเป็นจะตาย หากสุดท้ายแล้วยาสีฟันที่ตัวเองซื้อมาถูกตกลงกันแล้วว่าจะไม่ได้ถูกนำมาใช้กันในครัวเรือน ไม่มีใครต้องเดือดร้อนทุรนทุรายแน่ๆ เที่ยวไปไล่ปิดประตูขังทุกคนในบ้าน แล้วประกาศว่าทุกคนในบ้านต้องใช้ยาสีฟันที่ตัวเองซื้อมาเท่านั้น นั่นคือสิ่งที่คนในครอบครัวผมไม่มีวันทำ เพราะว่ายังมีสติสัมปชัญญะและสำนึกในการเคารพสิทธิเสรีภาพของคนอื่นอยู่

       เพราะทุกคนในครอบครัวของผมก็รู้ ว่าถึงคนอื่นจะเลือกซื้อยาสีฟันยี่ห้อต่างกัน อาจเป็นยี่ห้อที่ใครบางคนไม่ชอบ แต่ก็ยังเต็มใจจะยอมรับและใช้งาน ไม่ว่ายี่ห้อไหนได้รับเลือกในท้ายที่สุด เพราะทุกคนต่างก็รู้ว่าสิ่งที่คนอื่นในครอบครัวทำนั้น ต่างคนต่างก็เชื่อว่าดีที่สุดแล้วสำหรับครอบครัวตัวเอง

       และก็ไม่ผิด หากคนใดในครอบครัวคิดจะแนะนำยาสีฟันที่ตนเองชื่นชอบให้กับคนข้างบ้านฟังเพราะหวังดี แนะนำข้อดีข้อเสียตามที่ตนคิด หรือจะยึดติดกับสรรพคุณอวดอ้างที่ยาสีฟันชนิดนั้นโฆษณาตัวเองไว้ เอาไปโฆษณาต่อ ซึ่งคนข้างบ้านและครอบครัวของเขาจะเห็นด้วยหรือไม่เข้าใจถึงความหวังดีของเราจนเปลี่ยนมาใช้ยาสีฟันยี่ห้อเดียวกันหรือเปล่า ก็เป็นสิทธิเสรีภาพของเขา ไม่จำเป็นต้องไปบังคับขู่เข็นแต่ประการใด การแนะนำอย่างบริสุทธิ์ใจสามารถกระทำได้ด้วยความหวังดี

ดังนั้นหากยาสีฟันธรรมดายี่ห้อหนึ่ง มันยังมีเหตุผลลึกซึ้งถึงเพียงนี้
แล้วการคิดเพื่อใช้สิทธิเสียงตามระบอบประชาธิปไตยล่ะ จะไม่ล้ำลึกยิ่งกว่าเหรอ..?
การคิดหรือทำเพื่อตัวเอง ไม่ใช่สิ่งผิด หากมันไม่ไปกระทบสิทธิของคนอื่น
แต่การคิดถึงและทำเพื่อคนที่อยู่รอบข้าง ก็เป็นสิ่งที่ถูก เพราะทุกคนในครอบครัวล้วนแต่มีความหมายกับเรา
และการคิดถึงและทำเพื่อคนที่อยู่ร่วมสังคมกับทั้งหมด ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ถูกที่สุด เพราะไม่ได้มีแต่เราและเมียกับลูกที่อาศัยอยู่ในสังคมนี้
แล้วคุณที่เข้ามาอ่านบทความชิ้นนี้ของผมล่ะครับ คุณคิดจะใช้สิทธิเสียงของคุณ...เพื่อใคร?


หากสำนึก ใฝ่รู้..............ไฝ่ค้น
ย่อมจักหา เหตุผล...........เองได้
สิ่งไร้ค่า ปะปน................ตรรกะ มีเฮย
ทุกสิ่งเอย รอบไซร้..........ซ่อนไว้ หลักการ

ขอบคุณครับ
นายพระรอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่