สวัสดีคร้าาาาา ทุกคน วันนี้มาชวนเที่ยว Hanoi - Sapa 5 คืน 6 วัน แบบหาสาระไม่ได้ Plan ก็เหมือนไม่ Plan
ขอบอกก่อนว่า รีวิวนี้ไม่ได้บอกแพลนแบบละเอียดใดๆทั้งสิ้น มีแต่เรื่องตามอารมณ์ และความประทับใจในแต่ละวันมาบอกเฉยๆ
และที่บอกว่า No Plan เพราะตามที่แพลนแต่แรก คือ
Day 1: Hanoi - เดินเล่น และไปตามสถานที่ต่างๆ
Day 2 - 3: Sapa
Day 4: กลับมา Hanoi
Day 5: Hanoi เดินเล่น
Day 6: กลับบ้าน
ส่วนที่บอกว่า กลายเป็นความไร้สาระ แล้ว No Plan ยังไง . ตามไปดูกันเลยยยยยยยยยยยยยยยยย
Day1 : 3 Jan18 , in Hanoi
เราบินหางแดงโดยไฟลท์นี้ออกแต่เช้าที่ดอนเมืองจ้าถึงฮานอยตอนประมาณ 9 โมงกว่าจ้า
พอมาถึงขอตอนรับสู่ฮานอยกับ
1. โดนชาร์ทค่าเดินทาง ส่วนใหญ่ก็พอรู้ว่าถ้าเที่ยวเวียดนามเราต้องต่อรองค่ารถกันดีๆก่อนการเดินทาง เพราะมักจะโดนชาร์ทค่ารถเกินจริง ซึ่งเราก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นเพราะว่า ระหว่างเราตัดสินใจว่าจะเข้าเมืองกันยังไง ก็มีผู้ชายเวียดนามเดินมาเสนอราคาค่าเดินทางเข้าเมือง taxi15$ (สำหรับ2คน) เราก็ต่อเหลือ 10$ เค้าไม่เอา เลยต่อ 12$ เค้าก็เรียกอีกคนมา เราก็นึกว่าจะได้ taxi ป่าวเลย ได้ mini van (รู้ตัวตอนโดนพาเดินมาขึ้นรถ)(อ้าวกูโดนละหนึ่ง) แต่เอาวะ ส่งถึงโรงแรม (อันที่จริงก็ใกล้ละ เพราะถนนบางเส้นเค้าไม่ให้รถยนต์เข้า)
2.วันนี้ลองกาแฟ CONG ยอดฮิตในหมู่ชาวเรา (รึเปล่าวะ) เมนูที่สั่งคือ coconut milk with coffee ภาษาเวียดนามคืออะไรจำไม่ได้ แต่เออออออออ amazing มาก มันอร่อยเว้ย
3.ข้ามการเดินเล่นรอบเมืองละกัน รีวิวจากทุกคนในนี้ เป็นข้อมูลให้เราไปเที่ยวกันเยอะแยะมากกกกกกกก
4.ไปกินข้าวเย็นที่ร้านเฝอเนื้อร้านนึง (แนะนำสำหรับคนกินเนื้อเว้ย) มันอร่อยมากกกกกกกกกกกก เค้ามีมะนาวแท้ แบบหั่นเป็นชิ้นให้บีบเลยยยยย อร่อยจริงสุดแบบยอม (เป็นมื้อแรกที่อาหารเวียดนามอร่อยเว้ย ก่อนหน้านี้กินขนมปังกับหมูย่างไป หมูย่างอร่อยแต่อย่างอื่นเฉยๆ)
5.ไปต่อด้วยร้านนั่งดื่ม สำหรับสายดื่มแบบ(พวก)เรา ถูกกว่านั่งไทยแบบครึ่งๆ รับรองว่าถ้าดื่มแบบนี้ที่ไทยมี 4,000 up แต่นี่จ้า 2,000 ถามว่าใครเมา คุณชาย B นี่ละคร้าาาา
ปล. ได้ลอง Mulledwine แบบที่ร้านต้ม มันอร่อยเว้ยยยยยยยย ไม่ต้องไปถึงยุโรปก็ได้กิน
ปล. บาร์เทนเดอร์หน้าดีมากกกกกกกกกกก ก.ไก่ ล้านตัว ควรมา ร้านชื่อ Polite&Co
6.ร้านโจ๊ก หน้าทางเข้าโรงแรม
อร่อย
ๆๆ แบบยอมอ่ะ ควรมากิน
Day 2 : 4 Jan 18, in Sapa
มาจ้ากับซาปา ในวันที่ 2 เมืองที่ทุกๆคนรู้ว่ามันเป็นเมืองในหุบเขา มีนาขั้นบันไดที่เป็นไฮไลท์ เป็นเมืองที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกในด้านสถาปัตยกรรม และเป็นเมืองที่หลายๆคนอยากมาเมื่อพูดถึงเวียดนามเหนือ
มาดูซาปาในแบบของเราบ้าง
1.เราเลือกใช้รถบัสแบบที่เรียกว่า slepper bus แทนการนั่งรถไฟ เหตุเพราะเร็วกว่า ซึ่งเมื่อได้นั่งแล้ว ตามกำหนดเวลารถต้องออกตอน 7 โมงเช้า แต่เลทไป 45 นาที ถึงแม้จะมีการเลทแต่เราก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม. และถึงไม่ได้ต่างจากเวลาที่ควรจจะเป็นมากนัก ส่วนขับรถเร็วรึเปล่า อันนี้ไม่รู้ เพราะ 5 ชม. ที่นั่งมาหลับตลอดทาง ก็มันชื่อ sleeper bus เค้าเป็นที่นั่งให้นอน นอนจริงๆ ก็เลยได้นอนสมชื่อ
(ส่วนรูป Sleeper Bus search อากู๋ ได้เลยนะทุกคน เพราะเราถ่ายไม่ทันจริงๆ)
2.เมื่อมาถึง โอ้โห มีแต่หมอกกกกกกกกก กับอุณหภูมิ 12 c ไหนละนาขั้นบันได ไหนเมืองที่มีความเป็นตะวันตก แต่บ่นไม่ได้ ก็เผือก เลือกมาหน้าหนาว เพราะคิดว่าจะเจอ jackpot หิมะตกไง แต่เอาเหอะความฟินคืออากาศเย็นสบาย ชนิดว่าแอลฯทำอะไรเราไม่ได้ (มันก็จะเป็นแบบในรูปนี่ละ)
3.มื้อกลางวันกับ BBQ มีหลากหลายเนื้อให้เลือกสรร คือ เราเป็นคนกินได้ทุกอย่าง ลองได้หมดไม่เกี่ยง นี่เลยได้จัดเนื้อกวาง กะนก เน้น นกมาทั้งตัวและหัวเลยจ้า ชอบเนื้อกวางเค้าหมักพริกไทยดำ โหยยยย หอมมากอร่อยเวอร์ (ใครทำใจไม่ได้ข้ามข้อนี้ไปเลย แต่ก็อ่านจบละนะ งั้นก็ทำใจแทนกับการกินของเราน่าจะดีกว่า)
4.อาหารเย็น ที่พยายามหารีวิวเยอะแยะ โดยคุณ B จนได้ร้านมาร้านนึงไม่ไกลจากที่พัก ติดรีวิว 5 ดาวใน tripadviser สั่งมาหลากหลายอย่าง ชอบสุด คือ ซุปเผ็ดเนื้อควาย จ๊ะ อ่านไม่ผิด แต่อร่อยเวอวัง เค้าบอกว่า ซุปนี้จะมีเฉพาะหน้าหนาว เห็นมะ นี่คือความโชคดีที่มาในหน้าหนาว
5.แล้วก็มาถึงขาแอลฯ แบบเรา เดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ อยู่ 3-4 ร้าน กินร้านละขวด ไม่มีร้านไหนชอบเลยจากที่ไปนั่ง จนกลับเลยแวะหลายๆร้าน ดูเมนู ดูบรรยากาศ เผื่อพรุ่งนี้จะมานั่ง สรุป ร้านที่แวะดูแต่ไม่ได้นี่ละที่ดี เพลียกับการเลือกทุกอย่างที่พังในวันนี้ 555
Day 3 : 5 Jan 18, in Sapa
ทริปเวียดนามวันที่ 3 วันนี้ก็ยังคงอยู่ซาปา ตื่นมาอากาศดี หมอกไม่ลง แต่ๆๆๆๆ ไม่ลงได้ครึ่งชม.!!!!!
1.อย่างที่บอกว่า จากแพลนไปยอด Fansipan ยกเลิกไป เพราะหมอกหนาแน่นมาก แม้ว่าวันนี้อากาศดีก็ตาม เราเลยไป Cat Cat Village โดยการเดิน!!!! เน้น เดินไปจากตัวเมือง ก็ประมาณ 5 กิโลแกกกกกกก แต่ยังดีที่เดินลงเขา ส่วนขากลับก็อาศัยพี่วินสิจ๊ะ ระดับ AB ขาไปก็ดู abnormal เบาๆอะหละ ขากลับเลยต้องขอ normal กับคนทั่วไปเค้า (หรอวะ เดินไม่ไหวก็บอก)
*AB / abnormal คือ เพจเรากะคุณชาย B ที่อยากจะมีไว้แบ่งปันความไม่ปกติของเราสองคน ตามไปดูได้น้า
www.facebook.com/ABnormalblood/
2.Cat Cat Village ก็จะอารมณ์เหมือนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ แต่อันนี้ศึกษาวิถีชีวิตชาวม้ง ค่าเข้า 70,000 ดอง (ประมาณ 98 บาท) ถ้าจะถ่ายรูปผู้คนในนั้น แนะนำให้ซื้อขนมห่อใหญ่ๆที่เค้าขายอ่ะ เอาไว้แจก ลูก เด็ก เล็กแดง จนอาม่า นี่ต่อราคา จาก 80,000 ดอง จนได้ 50,000 ดอง 555 โคตรขูดรีดม้ง หรือโดนม้งขูดรีดก็ไม่แน่ใจ
ปล. ตอนให้ครั้งแรก หันไปบอกคุณ B ว่า นี่ไม่ได้อยู่สวนสัตว์นี่หว่า คือ แบบไม่รู้จะสงสารยังไง แต่พอมันกลายเป็นการค้า ชาวเขาก็คงได้กินขนมด้วยวิธีนี้มั้ง เด็กๆวิ่งมาขอขนมแบบอยากกินอ่ะ
3.ก็เดินตามทางใน Cat Cat ก็จะผ่านหมูบ้าน ทำเครื่องเงิน เครื่องทอบ้าง อารมณ์เหมือนหมู่บ้านชาวเขาบ้านเราอ่ะ แต่ถ้าเดินตามเส้นทางเดิน มันก็จะมีส่วนผ่านน้ำตกด้วย ก็ดีนะ ถือว่ามาที่เดียวครบ ระยะทางก็น่าจะเกือบ 2 กิโลได้ ก็เดินไป บ่นไป ถ่ายรูป
4.กลับมาในเมือง มาแวะกิน Hot pot เนื้อม้า จะได้ถึงซาปาสักที ก็รวมๆแล้ว เนื้อเหนียว เคี้ยวจนปวดกาม ให้ผักเยอะดี ผักอะไรก็ไม่รู้นะ ต้มๆกินไป น้ำจิ้มอร่อยมากกกกกกก มีแค่พริก เกลือ มะนาว อร่อยจนแบบอยากห้อน้ำจิ้มกลับบ้าน
ณ ร้านHot pot สั่งแซลมอนมาด้วย วิธีกินบ้านเค้า คือ เอาแซลมอนแร่บางแช่น้ำมะนาว แล้วมาวางบนแป้ง ผัก คล้ายๆห่อแหนมเนืองหรือ สลัดโรลอ่ะ จิ้มน้ำจิ้มคล้ายโชยุ แต่มีพริกนิดๆ อร่อยเวอออออออ น่าห่อกลับบ้านอีกเช่นเคย
5.วันนี้ซาปามีถนนคนเดินจากม้งด้วย ถือว่าโชคดี น่าจะมีศุกร์-เสาร์นะคิด เดา เพราะเคยอ่านแต่จำไม่ได้ละว่ามีคนบอกไว้ว่ามีถึงวันไหน ก็ขายของที่ม้งเดินๆขายตอนเราเดินเล่นในซาปาอ่ะหละ ก็มาเดินดูชีวิตเค้า สนุกดี
Day 4 : 6 Jan 18, in Hanoi
กลับมาฮานอยแล้วววววววววว ตามมาดูกันเลย
1.วันนี้เดินทางกลับมาจากซาปา ฝนตกแต่เมื่อคืน ตื่นเช้ามาหนาวมาก เดินตากฝนไปขึ้นรถ ด้วยคิดว่ารถที่มา น่าจะเป็นรถที่กลับด้วย เพราะตั๋วเป็นภาษาเวียดนาม แต่เปล่าเลยไปผิดที่!!!! พีคแต่เช้า เลยได้เสียค่า taxi ไปขึ้นรถแทน
2.เพราะเหตุรถที่นั่งกลับ คนละบริษัทกับรถที่นั่งมา ทำให้ได้สัมผัสความ local ในการเดินทาง มาเปรียบเทียบรถก่อน อย่างที่บอกว่าเรานั่ง Sleeper bus ทั้งไปและกลับ คนจอง คือ โรงแรมที่เราพักที่ซาปา ทีนี้พอมันต่างกัน เรามาดูว่ามันต่างกันยังไง ตอนขามาอารมณ์ที่นั่งคือ กึ่ง first class นครชัยแอร์ แต่ไม่มีทีวีส่วนตัว และ entertainment อื่นๆ รถมีแวะพักเข้าห้องน้ำให้ แต่ไม่มีข้าว มีขนมกรุบกริบกับน้ำให้ ถือว่าก็โอเคประทับใจขับดี
ความพีค คือ ขากลับ ประทับใจตั้งแต่ยังไม่ขึ้นรถเลยจ้า พนักงานเก็บตัวให้เอากระเป๋าไปไว้ใต้ท้อง เราเลยบอกว่าในกระเป๋ามีกล้องจะขอเอาขึ้น เท่านั้นละจ้า โดนชักสีหน้าใส่ ส่ายหัวทันที พีคไป 1 พีคที่ 2 เพราะมันเป็นรถนอน คือ ที่นอนอ่ะติดทางเดินเลย อารมณ์ว่า เปลี่ยนที่นั่งบ้านเราเป็นเบาะนอน เพราะฉะนั้นเวลานอน นางก็จะให้ถอดรองเท้าก่อนขึ้นรถ ทีนี้รถมี 3 ขั้นบันได วางกระดาษรองทุกขั้น คุณ B เค้าก็กำลังจะก้าวขั้นที่ 3 โดยใส่รองเท้า อีพนักงานคนเดิมอะหละ Noooooooo อย่างดัง แล้วก็ร้อง Oh shit คือ บอกสักคำมั้ยว่าให้ถอดรองเท้าขั้นไหน พีคที่ 3 คือ รถขานั่งมาไม่จอดไหนเลยนอกจากจุดพักรถ แต่ๆๆๆๆๆๆๆ คันนี้ อารมณ์เหมือนรถ ป.3 บ้านเรา จอดรับคนข้างทางตลอด ทุกคนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นมา คือ แบบ เอ้อ jackpot จัง
สรุป ถ้าต้องการนั่งรถไปซาปา แนะนำ Sapa Express Bus ทั้งไปและกลับ
3.พอมาถึง Check in อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ รีบกลับมาซ้ำโจ้กหน้าทางเข้า ที่บอกไว้ตั้งแต่ต้น มันอร่อยจนต้องกินอีกจริงๆนะ
4.ตกเย็น ด้วยความเป็น Gin lover ทั้งคู่ เลยเดินตามหา Gin Bar ชื่อ Mad Botanist ที่แนะนำโดย บาร์เทนเดอร์สุดหล่อ ซึ่งแบบร้านนี้โคตร Hidden bar ทางเข้าคือร้านกาแฟ แต่งเก๋มาก ป้ายร้านเลยอยู่แบบลึกสุด ต้องมองดีมาก สำคัญคือ ตะกายขึ้นไป 5 ชั้น พอขึ้นไปเท่านั้นละ การดื่ม Gin เคล้าวิวโบสถ์ แบบ Private View สุดๆ เป็นแบบนี้ไง
Day 5 in Hanoi
คืนสุดท้ายแล้ววววววววววว พรุ่งนี้ต้องกลับละ
วันนี้เลยใส่ชุดเวียดนาม (อ่าวหย๊าย) เดินถ่ายรูปเล่นรอบๆทะเลสาบ
1.วันนี้เหมือนเค้าจะมีงานรับปริญญามั้ง สาวๆใส่ชุดอ่าวหย๊ายสีขาวเดินเต็มเลย เราเลยดูไม่ค่อยแปลกกับคนอื่นเค้า แต่ที่สำคัญ คือ โดนคนเวียดนามพูดภาษาเวียดนามใส่เยอะมากกกกกก 5555
2.วันนี้น่าจะเป็นแบบวันครอบครัวของเค้าด้วย คนออกมาเดินเล่นกันเยอะแยะ ดูอบอุ่นมากกกกกก
3.หมูย่างข้างทาง แบบมีหนังหมูกับวุ้นเส้น เอามาย่าง หูยเด็ดดดดดด กับน้ำมะนาวบ้านเค้า คือแบบมันกลมกล่อมได้รสมะนาว เปรี้ยวหวานพอดี บ้านเราควรมาศึกษาเรื่องของกินนะ
สรุป ทริปฮาน่อย ครั้งนี้ เมืองดี คนน่ารักนะ แบบป้าข้างทาง ขายของเค้าพยายามจะต้อนรับเรามาก ทำให้นึกถึงสมัยกรุงเทพกำลังพัฒนา เมื่อ 10 ปีก่อนอ่ะ มันยังเป็นการผสมผสานระหว่างความเก่าสมัยก่อน กับความใหม่ที่กำลังเข้ามาแล้วมันมีเสน่ห์มากๆเลย
ให้กลับมาอีกมั้ย มาๆๆๆๆๆๆๆ เดินเพลินๆไปนู้นนี่นั่น สนุกดีนะ
ปิดท้ายด้วยภาพเหล่านี้ละกันน้า
CR [Hanoi-Sapa] สาระที่หาไม่เจอมีแต่ความเบลอ กับ no plan
ขอบอกก่อนว่า รีวิวนี้ไม่ได้บอกแพลนแบบละเอียดใดๆทั้งสิ้น มีแต่เรื่องตามอารมณ์ และความประทับใจในแต่ละวันมาบอกเฉยๆ
และที่บอกว่า No Plan เพราะตามที่แพลนแต่แรก คือ
Day 1: Hanoi - เดินเล่น และไปตามสถานที่ต่างๆ
Day 2 - 3: Sapa
Day 4: กลับมา Hanoi
Day 5: Hanoi เดินเล่น
Day 6: กลับบ้าน
ส่วนที่บอกว่า กลายเป็นความไร้สาระ แล้ว No Plan ยังไง . ตามไปดูกันเลยยยยยยยยยยยยยยยยย
Day1 : 3 Jan18 , in Hanoi
เราบินหางแดงโดยไฟลท์นี้ออกแต่เช้าที่ดอนเมืองจ้าถึงฮานอยตอนประมาณ 9 โมงกว่าจ้า
พอมาถึงขอตอนรับสู่ฮานอยกับ
1. โดนชาร์ทค่าเดินทาง ส่วนใหญ่ก็พอรู้ว่าถ้าเที่ยวเวียดนามเราต้องต่อรองค่ารถกันดีๆก่อนการเดินทาง เพราะมักจะโดนชาร์ทค่ารถเกินจริง ซึ่งเราก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นเพราะว่า ระหว่างเราตัดสินใจว่าจะเข้าเมืองกันยังไง ก็มีผู้ชายเวียดนามเดินมาเสนอราคาค่าเดินทางเข้าเมือง taxi15$ (สำหรับ2คน) เราก็ต่อเหลือ 10$ เค้าไม่เอา เลยต่อ 12$ เค้าก็เรียกอีกคนมา เราก็นึกว่าจะได้ taxi ป่าวเลย ได้ mini van (รู้ตัวตอนโดนพาเดินมาขึ้นรถ)(อ้าวกูโดนละหนึ่ง) แต่เอาวะ ส่งถึงโรงแรม (อันที่จริงก็ใกล้ละ เพราะถนนบางเส้นเค้าไม่ให้รถยนต์เข้า)
2.วันนี้ลองกาแฟ CONG ยอดฮิตในหมู่ชาวเรา (รึเปล่าวะ) เมนูที่สั่งคือ coconut milk with coffee ภาษาเวียดนามคืออะไรจำไม่ได้ แต่เออออออออ amazing มาก มันอร่อยเว้ย
3.ข้ามการเดินเล่นรอบเมืองละกัน รีวิวจากทุกคนในนี้ เป็นข้อมูลให้เราไปเที่ยวกันเยอะแยะมากกกกกกกก
4.ไปกินข้าวเย็นที่ร้านเฝอเนื้อร้านนึง (แนะนำสำหรับคนกินเนื้อเว้ย) มันอร่อยมากกกกกกกกกกกก เค้ามีมะนาวแท้ แบบหั่นเป็นชิ้นให้บีบเลยยยยย อร่อยจริงสุดแบบยอม (เป็นมื้อแรกที่อาหารเวียดนามอร่อยเว้ย ก่อนหน้านี้กินขนมปังกับหมูย่างไป หมูย่างอร่อยแต่อย่างอื่นเฉยๆ)
5.ไปต่อด้วยร้านนั่งดื่ม สำหรับสายดื่มแบบ(พวก)เรา ถูกกว่านั่งไทยแบบครึ่งๆ รับรองว่าถ้าดื่มแบบนี้ที่ไทยมี 4,000 up แต่นี่จ้า 2,000 ถามว่าใครเมา คุณชาย B นี่ละคร้าาาา
ปล. ได้ลอง Mulledwine แบบที่ร้านต้ม มันอร่อยเว้ยยยยยยยย ไม่ต้องไปถึงยุโรปก็ได้กิน
ปล. บาร์เทนเดอร์หน้าดีมากกกกกกกกกกก ก.ไก่ ล้านตัว ควรมา ร้านชื่อ Polite&Co
6.ร้านโจ๊ก หน้าทางเข้าโรงแรม
Day 2 : 4 Jan 18, in Sapa
มาจ้ากับซาปา ในวันที่ 2 เมืองที่ทุกๆคนรู้ว่ามันเป็นเมืองในหุบเขา มีนาขั้นบันไดที่เป็นไฮไลท์ เป็นเมืองที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกในด้านสถาปัตยกรรม และเป็นเมืองที่หลายๆคนอยากมาเมื่อพูดถึงเวียดนามเหนือ
มาดูซาปาในแบบของเราบ้าง
1.เราเลือกใช้รถบัสแบบที่เรียกว่า slepper bus แทนการนั่งรถไฟ เหตุเพราะเร็วกว่า ซึ่งเมื่อได้นั่งแล้ว ตามกำหนดเวลารถต้องออกตอน 7 โมงเช้า แต่เลทไป 45 นาที ถึงแม้จะมีการเลทแต่เราก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม. และถึงไม่ได้ต่างจากเวลาที่ควรจจะเป็นมากนัก ส่วนขับรถเร็วรึเปล่า อันนี้ไม่รู้ เพราะ 5 ชม. ที่นั่งมาหลับตลอดทาง ก็มันชื่อ sleeper bus เค้าเป็นที่นั่งให้นอน นอนจริงๆ ก็เลยได้นอนสมชื่อ
(ส่วนรูป Sleeper Bus search อากู๋ ได้เลยนะทุกคน เพราะเราถ่ายไม่ทันจริงๆ)
2.เมื่อมาถึง โอ้โห มีแต่หมอกกกกกกกกก กับอุณหภูมิ 12 c ไหนละนาขั้นบันได ไหนเมืองที่มีความเป็นตะวันตก แต่บ่นไม่ได้ ก็เผือก เลือกมาหน้าหนาว เพราะคิดว่าจะเจอ jackpot หิมะตกไง แต่เอาเหอะความฟินคืออากาศเย็นสบาย ชนิดว่าแอลฯทำอะไรเราไม่ได้ (มันก็จะเป็นแบบในรูปนี่ละ)
3.มื้อกลางวันกับ BBQ มีหลากหลายเนื้อให้เลือกสรร คือ เราเป็นคนกินได้ทุกอย่าง ลองได้หมดไม่เกี่ยง นี่เลยได้จัดเนื้อกวาง กะนก เน้น นกมาทั้งตัวและหัวเลยจ้า ชอบเนื้อกวางเค้าหมักพริกไทยดำ โหยยยย หอมมากอร่อยเวอร์ (ใครทำใจไม่ได้ข้ามข้อนี้ไปเลย แต่ก็อ่านจบละนะ งั้นก็ทำใจแทนกับการกินของเราน่าจะดีกว่า)
4.อาหารเย็น ที่พยายามหารีวิวเยอะแยะ โดยคุณ B จนได้ร้านมาร้านนึงไม่ไกลจากที่พัก ติดรีวิว 5 ดาวใน tripadviser สั่งมาหลากหลายอย่าง ชอบสุด คือ ซุปเผ็ดเนื้อควาย จ๊ะ อ่านไม่ผิด แต่อร่อยเวอวัง เค้าบอกว่า ซุปนี้จะมีเฉพาะหน้าหนาว เห็นมะ นี่คือความโชคดีที่มาในหน้าหนาว
5.แล้วก็มาถึงขาแอลฯ แบบเรา เดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ อยู่ 3-4 ร้าน กินร้านละขวด ไม่มีร้านไหนชอบเลยจากที่ไปนั่ง จนกลับเลยแวะหลายๆร้าน ดูเมนู ดูบรรยากาศ เผื่อพรุ่งนี้จะมานั่ง สรุป ร้านที่แวะดูแต่ไม่ได้นี่ละที่ดี เพลียกับการเลือกทุกอย่างที่พังในวันนี้ 555
Day 3 : 5 Jan 18, in Sapa
ทริปเวียดนามวันที่ 3 วันนี้ก็ยังคงอยู่ซาปา ตื่นมาอากาศดี หมอกไม่ลง แต่ๆๆๆๆ ไม่ลงได้ครึ่งชม.!!!!!
1.อย่างที่บอกว่า จากแพลนไปยอด Fansipan ยกเลิกไป เพราะหมอกหนาแน่นมาก แม้ว่าวันนี้อากาศดีก็ตาม เราเลยไป Cat Cat Village โดยการเดิน!!!! เน้น เดินไปจากตัวเมือง ก็ประมาณ 5 กิโลแกกกกกกก แต่ยังดีที่เดินลงเขา ส่วนขากลับก็อาศัยพี่วินสิจ๊ะ ระดับ AB ขาไปก็ดู abnormal เบาๆอะหละ ขากลับเลยต้องขอ normal กับคนทั่วไปเค้า (หรอวะ เดินไม่ไหวก็บอก)
*AB / abnormal คือ เพจเรากะคุณชาย B ที่อยากจะมีไว้แบ่งปันความไม่ปกติของเราสองคน ตามไปดูได้น้า www.facebook.com/ABnormalblood/
2.Cat Cat Village ก็จะอารมณ์เหมือนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ แต่อันนี้ศึกษาวิถีชีวิตชาวม้ง ค่าเข้า 70,000 ดอง (ประมาณ 98 บาท) ถ้าจะถ่ายรูปผู้คนในนั้น แนะนำให้ซื้อขนมห่อใหญ่ๆที่เค้าขายอ่ะ เอาไว้แจก ลูก เด็ก เล็กแดง จนอาม่า นี่ต่อราคา จาก 80,000 ดอง จนได้ 50,000 ดอง 555 โคตรขูดรีดม้ง หรือโดนม้งขูดรีดก็ไม่แน่ใจ
ปล. ตอนให้ครั้งแรก หันไปบอกคุณ B ว่า นี่ไม่ได้อยู่สวนสัตว์นี่หว่า คือ แบบไม่รู้จะสงสารยังไง แต่พอมันกลายเป็นการค้า ชาวเขาก็คงได้กินขนมด้วยวิธีนี้มั้ง เด็กๆวิ่งมาขอขนมแบบอยากกินอ่ะ
3.ก็เดินตามทางใน Cat Cat ก็จะผ่านหมูบ้าน ทำเครื่องเงิน เครื่องทอบ้าง อารมณ์เหมือนหมู่บ้านชาวเขาบ้านเราอ่ะ แต่ถ้าเดินตามเส้นทางเดิน มันก็จะมีส่วนผ่านน้ำตกด้วย ก็ดีนะ ถือว่ามาที่เดียวครบ ระยะทางก็น่าจะเกือบ 2 กิโลได้ ก็เดินไป บ่นไป ถ่ายรูป
4.กลับมาในเมือง มาแวะกิน Hot pot เนื้อม้า จะได้ถึงซาปาสักที ก็รวมๆแล้ว เนื้อเหนียว เคี้ยวจนปวดกาม ให้ผักเยอะดี ผักอะไรก็ไม่รู้นะ ต้มๆกินไป น้ำจิ้มอร่อยมากกกกกกก มีแค่พริก เกลือ มะนาว อร่อยจนแบบอยากห้อน้ำจิ้มกลับบ้าน
ณ ร้านHot pot สั่งแซลมอนมาด้วย วิธีกินบ้านเค้า คือ เอาแซลมอนแร่บางแช่น้ำมะนาว แล้วมาวางบนแป้ง ผัก คล้ายๆห่อแหนมเนืองหรือ สลัดโรลอ่ะ จิ้มน้ำจิ้มคล้ายโชยุ แต่มีพริกนิดๆ อร่อยเวอออออออ น่าห่อกลับบ้านอีกเช่นเคย
5.วันนี้ซาปามีถนนคนเดินจากม้งด้วย ถือว่าโชคดี น่าจะมีศุกร์-เสาร์นะคิด เดา เพราะเคยอ่านแต่จำไม่ได้ละว่ามีคนบอกไว้ว่ามีถึงวันไหน ก็ขายของที่ม้งเดินๆขายตอนเราเดินเล่นในซาปาอ่ะหละ ก็มาเดินดูชีวิตเค้า สนุกดี
Day 4 : 6 Jan 18, in Hanoi
กลับมาฮานอยแล้วววววววววว ตามมาดูกันเลย
1.วันนี้เดินทางกลับมาจากซาปา ฝนตกแต่เมื่อคืน ตื่นเช้ามาหนาวมาก เดินตากฝนไปขึ้นรถ ด้วยคิดว่ารถที่มา น่าจะเป็นรถที่กลับด้วย เพราะตั๋วเป็นภาษาเวียดนาม แต่เปล่าเลยไปผิดที่!!!! พีคแต่เช้า เลยได้เสียค่า taxi ไปขึ้นรถแทน
2.เพราะเหตุรถที่นั่งกลับ คนละบริษัทกับรถที่นั่งมา ทำให้ได้สัมผัสความ local ในการเดินทาง มาเปรียบเทียบรถก่อน อย่างที่บอกว่าเรานั่ง Sleeper bus ทั้งไปและกลับ คนจอง คือ โรงแรมที่เราพักที่ซาปา ทีนี้พอมันต่างกัน เรามาดูว่ามันต่างกันยังไง ตอนขามาอารมณ์ที่นั่งคือ กึ่ง first class นครชัยแอร์ แต่ไม่มีทีวีส่วนตัว และ entertainment อื่นๆ รถมีแวะพักเข้าห้องน้ำให้ แต่ไม่มีข้าว มีขนมกรุบกริบกับน้ำให้ ถือว่าก็โอเคประทับใจขับดี
ความพีค คือ ขากลับ ประทับใจตั้งแต่ยังไม่ขึ้นรถเลยจ้า พนักงานเก็บตัวให้เอากระเป๋าไปไว้ใต้ท้อง เราเลยบอกว่าในกระเป๋ามีกล้องจะขอเอาขึ้น เท่านั้นละจ้า โดนชักสีหน้าใส่ ส่ายหัวทันที พีคไป 1 พีคที่ 2 เพราะมันเป็นรถนอน คือ ที่นอนอ่ะติดทางเดินเลย อารมณ์ว่า เปลี่ยนที่นั่งบ้านเราเป็นเบาะนอน เพราะฉะนั้นเวลานอน นางก็จะให้ถอดรองเท้าก่อนขึ้นรถ ทีนี้รถมี 3 ขั้นบันได วางกระดาษรองทุกขั้น คุณ B เค้าก็กำลังจะก้าวขั้นที่ 3 โดยใส่รองเท้า อีพนักงานคนเดิมอะหละ Noooooooo อย่างดัง แล้วก็ร้อง Oh shit คือ บอกสักคำมั้ยว่าให้ถอดรองเท้าขั้นไหน พีคที่ 3 คือ รถขานั่งมาไม่จอดไหนเลยนอกจากจุดพักรถ แต่ๆๆๆๆๆๆๆ คันนี้ อารมณ์เหมือนรถ ป.3 บ้านเรา จอดรับคนข้างทางตลอด ทุกคนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นมา คือ แบบ เอ้อ jackpot จัง
สรุป ถ้าต้องการนั่งรถไปซาปา แนะนำ Sapa Express Bus ทั้งไปและกลับ
3.พอมาถึง Check in อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ รีบกลับมาซ้ำโจ้กหน้าทางเข้า ที่บอกไว้ตั้งแต่ต้น มันอร่อยจนต้องกินอีกจริงๆนะ
4.ตกเย็น ด้วยความเป็น Gin lover ทั้งคู่ เลยเดินตามหา Gin Bar ชื่อ Mad Botanist ที่แนะนำโดย บาร์เทนเดอร์สุดหล่อ ซึ่งแบบร้านนี้โคตร Hidden bar ทางเข้าคือร้านกาแฟ แต่งเก๋มาก ป้ายร้านเลยอยู่แบบลึกสุด ต้องมองดีมาก สำคัญคือ ตะกายขึ้นไป 5 ชั้น พอขึ้นไปเท่านั้นละ การดื่ม Gin เคล้าวิวโบสถ์ แบบ Private View สุดๆ เป็นแบบนี้ไง
Day 5 in Hanoi
คืนสุดท้ายแล้ววววววววววว พรุ่งนี้ต้องกลับละ
วันนี้เลยใส่ชุดเวียดนาม (อ่าวหย๊าย) เดินถ่ายรูปเล่นรอบๆทะเลสาบ
1.วันนี้เหมือนเค้าจะมีงานรับปริญญามั้ง สาวๆใส่ชุดอ่าวหย๊ายสีขาวเดินเต็มเลย เราเลยดูไม่ค่อยแปลกกับคนอื่นเค้า แต่ที่สำคัญ คือ โดนคนเวียดนามพูดภาษาเวียดนามใส่เยอะมากกกกกก 5555
2.วันนี้น่าจะเป็นแบบวันครอบครัวของเค้าด้วย คนออกมาเดินเล่นกันเยอะแยะ ดูอบอุ่นมากกกกกก
3.หมูย่างข้างทาง แบบมีหนังหมูกับวุ้นเส้น เอามาย่าง หูยเด็ดดดดดด กับน้ำมะนาวบ้านเค้า คือแบบมันกลมกล่อมได้รสมะนาว เปรี้ยวหวานพอดี บ้านเราควรมาศึกษาเรื่องของกินนะ
สรุป ทริปฮาน่อย ครั้งนี้ เมืองดี คนน่ารักนะ แบบป้าข้างทาง ขายของเค้าพยายามจะต้อนรับเรามาก ทำให้นึกถึงสมัยกรุงเทพกำลังพัฒนา เมื่อ 10 ปีก่อนอ่ะ มันยังเป็นการผสมผสานระหว่างความเก่าสมัยก่อน กับความใหม่ที่กำลังเข้ามาแล้วมันมีเสน่ห์มากๆเลย
ให้กลับมาอีกมั้ย มาๆๆๆๆๆๆๆ เดินเพลินๆไปนู้นนี่นั่น สนุกดีนะ
ปิดท้ายด้วยภาพเหล่านี้ละกันน้า