ฝากกระทู้ ทั้งเก่าและใหม่ของเราด้วยค่าา
กระทู้แรก แชร์ประสบการณ์จัดงานหมั้นน่ารัก
ราคาน่าเลิฟแค่ 1 อาทิตย์
https://pantip.com/topic/36616160
กระทู้ที่ สอง
แชร์ประสบการณ์ 1 ปี ของการเป็น "ออแพร์" ในอเมริกา
https://pantip.com/topic/36636576
บันทึกเรื่องราวดีๆ ช่วงที่เรียนภาษาในอเมริกา
https://pantip.com/topic/37278670
[CR] เที่ยว New York ซ้ำๆ อีกกี่ครั้งก็ยังไม่ทั่ว
https://pantip.com/topic/37323766
[CR] พาเที่ยว Cherry Blossom @Washington D.C.
https://pantip.com/topic/37530977
นี่เป็นกระทู้ที่ สาม แล้วนะคะ
เราจะพูดถึง เรื่องเรียนภาษาต่อ
ซึ่งมีคนถามเข้ามาเยอะมากว่าต้องทำยังไงถ้าอยากเรียนต่อในเมกา เราก็จะมาเล่าคร่าวๆให้ฟังนะคะ ก่อนหน้านี้ เราได้เป็นออแพร์มาก่อน
แล้วในช่วงนั้นก็หาลู่ทางทำเรื่องต่อวีซ่า สมัครเรียนภาษาหรือ ESL นั่นเอง เพื่อที่จะได้ เอาคะแนนไปยื่นต่อโท ตามที่ตั้งใจไว้แต่ต้น
ช่วงเวลา หก เดือน มานี้ เราได้ลงเรียนภาษา
กับ Mentora college เป็น คอลเลจนึงที่อยู่ใจกลางเมืองหลวง ใน Washington DC นี่เอง
ไม่ห่างจากที่เก่าที่เราเคยอยู่เมื่อปีที่แล้วมากนัก
แต่ละโรงเรียนก็จะมีให้ยื่นเอกสารแตกต่างกันไป
ถ้าถามว่าต้องเตรียมไรบ้าง ก็มีแค่ ค่าสมัคร
สเตทเม้นคนที่จะสนับสนุนเรา แล้วก็ ใบรับรองจากคนที่จ่ายค่าเรียนให้เราค่ะ หลักๆมีแค่นี้ แต่ พอดีเราสมัครของมหาลัยด้วย ก้ต้องยื่นใบจบ และเกรดทั้งหมด ที่เราจบมา ต้องนำเอาไป eluvate หรือ การเอาไปแปลให้เป็นแบบของสากล นั่นเอง เราใช้เว็บWES ในการแปลค่า
ข้อมูลนี้เฉพาะในสถาบันที่เราเรียนนะคะ พอเราได้ i20 มา ก็ไปกรอก ds 160 จ่ายค่า sevis 200$ ค่าสัมภาษณ์วีซ่า อีก ห้าพันกว่าบาท ( ถ้าจำไม่ผิดนะ ) หรือ 160$ นั่นเอง พอเอกสารครบก็เตรียมตัวกลับไทย ไปสัมภาษณ์วีซ่าต่อเลยค่าา ลุ้น สุดๆ ว่าจะได้มั้ย
ตอนสัมภาษณ์ เราต้องมีข้อมูลต่างๆที่ชัดเจนนะคะ การเดินทาง ไปกลับ ประเทศ วันเวลาไหน มีแพลนคร่าวๆ ที่แน่นอน ว่าในอนาคตเราจะทำอะไรต่อ ทุกอย่างต้องเข้ากันกับสถานการณ์ในอดีตทำงานอะไร ตอนนี้ทำอะไรอยู่ แล้วอนาคตจะกลับมาทำงานอะไรที่ไทยต่อ
โดยรวมเราโดนถามไม่เยอะมาก เพราะ หลักๆคือ เรียนภาษาเสร็จแล้วก็ต่อโท เค้าเลยไม่ถามอะไรมากค่ะ
เรามาพูดถึงเรื่อง โรงเรียน เพื่อนๆ และครู ที่นี่กันดีกว่าค่ะ
ก่อนเรียนเค้าจะให้ทุกคนสอบวัดระดับกันก่อนค่ะ
เราก็ได้ระดับกลางๆ ไม่สูงมากนัก พอรู้ผลก็เตรียมตัวเข้าเรียนได้เลยค่าา
คลาสแรก เราเจอครู ที่น่าประทับใจมากคนหนึ่งค่ะ เค้าจะมีการสอนแบบ ไม่เครียดมาก แต่แทรกสาระเข้าไปด้วย เช่น เกมคำศัพท์ เล่นเป็นทีมแข่งกัน เราไม่ต้องนั่งท่องนะคะ เล่นเกมนี้บ่อยมันเลยจำไปอัตโนมัติ ทุกคำมีในข้อสอบหมดนะ
ครูบางคนก็ให้มีการโต้วาที กิจกรรมนี้ก็ฝึกภาษาได้เยอะมาก โต้ไปมาอย่างเมามันส์
เราชอบ การสอบพูดที่นี่มาก มันมีสองแบบ แบบแรกคือ เค้าจะให้เราเลือกภาพจากการสุ่ม เสร็จแล้วก็ให้เวลา 1 นาที เตรียมพูด แล้วก็บรรยายภาพนั้น โดยใช้แกรมม่าและ ศัพท์ที่เรียนมา ใช้เวลาพูด 3-5 นาที ตื่นเต้นทุกครั้งที่สอบมาก แต่ก็เป็นการฝึกภาษาได้ดีทีเดียว
สอบพูดแบบที่สอง คือ ทำ Presentation นำเสนอ ตามหัวข้อที่ครูมีให้เลือก มีศัพท์และแกรมม่าที่เรียนมา พูดภายใน5-7 นาที
ทุกเลเวลของesl จะทำแบบนี้หมด รวมทั้ง เขียน essay ทุกคลาส ตามหัวข้อที่ครูมีให้เลือก
ฝึกแบบนี้ทุกเดือน ทั้งภาษา และการเขียน
รวมทั้งมีการสอบ มิดเทอมและไฟนอล ในเวลา จำกัดสุดๆ
มันทำให้เราพัฒนาภาษาของตัวเองขึ้นมาได้เยอะมาก ในช่วงเวลาแค่ หกเดือน
ครูบางคนก็มีกิจกรรม potlucks ให้แชร์ อาหารของแต่ละชาติ เราก็ได้ชิมอาหารจากแต่ละที่ แปลกใหม่อร่อยปนกันไป
พอมีวันเกิดก็ซื้อเค้กมาเซอร์ไพรซ์กัน
กิจกรรมต่อไปนี้คือเป็นอาสาสมัครช่วยคนไร้บ้าน
ฝึกภาษาจริงๆกับฝรั่งจริงๆ ถ้าพูดไม่ได้ ก็ช่วยเค้ายากมากค่ะ
เรามีแลกของขวัญปีใหม่กันด้วยนะ อาจจะวุ่นๆหน่อย
Fieldtrip ของโรงเรียนก็น่าสนใจ นอกจากไปพิพิธภัณฑ์ ก้มีไปพายเรือคายัค BB gun ดูหนัง
ไปนั่งคุยกันตามคาเฟ่ ร้านอาหาร บลาๆๆ
ทำให้เรามีเพื่อนที่สนิทมากๆด้วย
เรียนด้วยกันทุกคลาสแล้วก็พากันไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ แกล้งกันในคลาสเรียนตลอด
เราไม่เคยโกรธกันเลย พอต้องห่างกันก็ใจหายเลย
เหมือนสมัยเพื่อนมัธยมไรงี้ แต่แค่พูดคนละภาษาเฉยๆ เพื่อนแก๊งนี้น่ารักสุดๆเลยค่าา
v
v

แต่ที่ประทับใจมากๆคือ ไป Universal ที่ Florida กับโรงเรียน งบรวมๆ ก็ ห้าร้อย ดอลล่าร์ เดินทางโดยรถไฟ นานมาก แต่มีเกมให้เล่นช่วงที่อยู่บนรถไฟก็สนุกดี
มีที่พักหรูใช้ได้
การเรียนภาษาในอเมริกาครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจมากค่ะ เราได้เพื่อนคนไทยและต่างชาติมากมาย รู้สึกผูกพันธ์และสนิทกันมากๆ
ประสบกาณ์การครั้งนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ลืมไม่ลงจริงๆค่ะ
ตอนนี้ จขกท กำลังเรียนต่อโท ไว้เรียนจบเมื่อไหร่จะมาเล่าให้ฟังในกระทู้หน้านะคะ
บันทึกเรื่องราวดีๆ ช่วงที่เรียนภาษาในอเมริกา
กระทู้แรก แชร์ประสบการณ์จัดงานหมั้นน่ารัก
ราคาน่าเลิฟแค่ 1 อาทิตย์
https://pantip.com/topic/36616160
กระทู้ที่ สอง
แชร์ประสบการณ์ 1 ปี ของการเป็น "ออแพร์" ในอเมริกา
https://pantip.com/topic/36636576
บันทึกเรื่องราวดีๆ ช่วงที่เรียนภาษาในอเมริกา https://pantip.com/topic/37278670
[CR] เที่ยว New York ซ้ำๆ อีกกี่ครั้งก็ยังไม่ทั่ว https://pantip.com/topic/37323766
[CR] พาเที่ยว Cherry Blossom @Washington D.C.
https://pantip.com/topic/37530977
นี่เป็นกระทู้ที่ สาม แล้วนะคะ
เราจะพูดถึง เรื่องเรียนภาษาต่อ
ซึ่งมีคนถามเข้ามาเยอะมากว่าต้องทำยังไงถ้าอยากเรียนต่อในเมกา เราก็จะมาเล่าคร่าวๆให้ฟังนะคะ ก่อนหน้านี้ เราได้เป็นออแพร์มาก่อน
แล้วในช่วงนั้นก็หาลู่ทางทำเรื่องต่อวีซ่า สมัครเรียนภาษาหรือ ESL นั่นเอง เพื่อที่จะได้ เอาคะแนนไปยื่นต่อโท ตามที่ตั้งใจไว้แต่ต้น
ช่วงเวลา หก เดือน มานี้ เราได้ลงเรียนภาษา
กับ Mentora college เป็น คอลเลจนึงที่อยู่ใจกลางเมืองหลวง ใน Washington DC นี่เอง
ไม่ห่างจากที่เก่าที่เราเคยอยู่เมื่อปีที่แล้วมากนัก
แต่ละโรงเรียนก็จะมีให้ยื่นเอกสารแตกต่างกันไป
ถ้าถามว่าต้องเตรียมไรบ้าง ก็มีแค่ ค่าสมัคร
สเตทเม้นคนที่จะสนับสนุนเรา แล้วก็ ใบรับรองจากคนที่จ่ายค่าเรียนให้เราค่ะ หลักๆมีแค่นี้ แต่ พอดีเราสมัครของมหาลัยด้วย ก้ต้องยื่นใบจบ และเกรดทั้งหมด ที่เราจบมา ต้องนำเอาไป eluvate หรือ การเอาไปแปลให้เป็นแบบของสากล นั่นเอง เราใช้เว็บWES ในการแปลค่า
ข้อมูลนี้เฉพาะในสถาบันที่เราเรียนนะคะ พอเราได้ i20 มา ก็ไปกรอก ds 160 จ่ายค่า sevis 200$ ค่าสัมภาษณ์วีซ่า อีก ห้าพันกว่าบาท ( ถ้าจำไม่ผิดนะ ) หรือ 160$ นั่นเอง พอเอกสารครบก็เตรียมตัวกลับไทย ไปสัมภาษณ์วีซ่าต่อเลยค่าา ลุ้น สุดๆ ว่าจะได้มั้ย
ตอนสัมภาษณ์ เราต้องมีข้อมูลต่างๆที่ชัดเจนนะคะ การเดินทาง ไปกลับ ประเทศ วันเวลาไหน มีแพลนคร่าวๆ ที่แน่นอน ว่าในอนาคตเราจะทำอะไรต่อ ทุกอย่างต้องเข้ากันกับสถานการณ์ในอดีตทำงานอะไร ตอนนี้ทำอะไรอยู่ แล้วอนาคตจะกลับมาทำงานอะไรที่ไทยต่อ
โดยรวมเราโดนถามไม่เยอะมาก เพราะ หลักๆคือ เรียนภาษาเสร็จแล้วก็ต่อโท เค้าเลยไม่ถามอะไรมากค่ะ
เรามาพูดถึงเรื่อง โรงเรียน เพื่อนๆ และครู ที่นี่กันดีกว่าค่ะ
ก่อนเรียนเค้าจะให้ทุกคนสอบวัดระดับกันก่อนค่ะ
เราก็ได้ระดับกลางๆ ไม่สูงมากนัก พอรู้ผลก็เตรียมตัวเข้าเรียนได้เลยค่าา
คลาสแรก เราเจอครู ที่น่าประทับใจมากคนหนึ่งค่ะ เค้าจะมีการสอนแบบ ไม่เครียดมาก แต่แทรกสาระเข้าไปด้วย เช่น เกมคำศัพท์ เล่นเป็นทีมแข่งกัน เราไม่ต้องนั่งท่องนะคะ เล่นเกมนี้บ่อยมันเลยจำไปอัตโนมัติ ทุกคำมีในข้อสอบหมดนะ
ครูบางคนก็ให้มีการโต้วาที กิจกรรมนี้ก็ฝึกภาษาได้เยอะมาก โต้ไปมาอย่างเมามันส์
เราชอบ การสอบพูดที่นี่มาก มันมีสองแบบ แบบแรกคือ เค้าจะให้เราเลือกภาพจากการสุ่ม เสร็จแล้วก็ให้เวลา 1 นาที เตรียมพูด แล้วก็บรรยายภาพนั้น โดยใช้แกรมม่าและ ศัพท์ที่เรียนมา ใช้เวลาพูด 3-5 นาที ตื่นเต้นทุกครั้งที่สอบมาก แต่ก็เป็นการฝึกภาษาได้ดีทีเดียว
สอบพูดแบบที่สอง คือ ทำ Presentation นำเสนอ ตามหัวข้อที่ครูมีให้เลือก มีศัพท์และแกรมม่าที่เรียนมา พูดภายใน5-7 นาที
ทุกเลเวลของesl จะทำแบบนี้หมด รวมทั้ง เขียน essay ทุกคลาส ตามหัวข้อที่ครูมีให้เลือก
ฝึกแบบนี้ทุกเดือน ทั้งภาษา และการเขียน
รวมทั้งมีการสอบ มิดเทอมและไฟนอล ในเวลา จำกัดสุดๆ
มันทำให้เราพัฒนาภาษาของตัวเองขึ้นมาได้เยอะมาก ในช่วงเวลาแค่ หกเดือน
ครูบางคนก็มีกิจกรรม potlucks ให้แชร์ อาหารของแต่ละชาติ เราก็ได้ชิมอาหารจากแต่ละที่ แปลกใหม่อร่อยปนกันไป
พอมีวันเกิดก็ซื้อเค้กมาเซอร์ไพรซ์กัน
กิจกรรมต่อไปนี้คือเป็นอาสาสมัครช่วยคนไร้บ้าน
ฝึกภาษาจริงๆกับฝรั่งจริงๆ ถ้าพูดไม่ได้ ก็ช่วยเค้ายากมากค่ะ
เรามีแลกของขวัญปีใหม่กันด้วยนะ อาจจะวุ่นๆหน่อย
Fieldtrip ของโรงเรียนก็น่าสนใจ นอกจากไปพิพิธภัณฑ์ ก้มีไปพายเรือคายัค BB gun ดูหนัง
ไปนั่งคุยกันตามคาเฟ่ ร้านอาหาร บลาๆๆ
ทำให้เรามีเพื่อนที่สนิทมากๆด้วย
เรียนด้วยกันทุกคลาสแล้วก็พากันไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ แกล้งกันในคลาสเรียนตลอด
เราไม่เคยโกรธกันเลย พอต้องห่างกันก็ใจหายเลย
เหมือนสมัยเพื่อนมัธยมไรงี้ แต่แค่พูดคนละภาษาเฉยๆ เพื่อนแก๊งนี้น่ารักสุดๆเลยค่าา
v
v
แต่ที่ประทับใจมากๆคือ ไป Universal ที่ Florida กับโรงเรียน งบรวมๆ ก็ ห้าร้อย ดอลล่าร์ เดินทางโดยรถไฟ นานมาก แต่มีเกมให้เล่นช่วงที่อยู่บนรถไฟก็สนุกดี
มีที่พักหรูใช้ได้
การเรียนภาษาในอเมริกาครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจมากค่ะ เราได้เพื่อนคนไทยและต่างชาติมากมาย รู้สึกผูกพันธ์และสนิทกันมากๆ
ประสบกาณ์การครั้งนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ลืมไม่ลงจริงๆค่ะ
ตอนนี้ จขกท กำลังเรียนต่อโท ไว้เรียนจบเมื่อไหร่จะมาเล่าให้ฟังในกระทู้หน้านะคะ